บทที่ 259 ขอโทษ
นายท่านเจียงดวงตาสั่นไหวเต็มไปด้วยความตกตะลึง
ลูกชายของเขา…พูดขอโทษเขาหรือ?
ความจริงแล้วสมควรเป็นเขามากกว่าที่ควรขอโทษบุตรชาย
“เฉิงเป่า มานี่สิ”
เจียงเฉิงเป่ายังยืนนิ่งอยู่ที่เดิม เขาไม่สบายใจรู้สึกไม่พอใจบิดาอยู่ในส่วนลึก บิดาก็รักเขาแต่เหตุใดจึงไม่เคยเชื่อใจเขาเลย? ทำไมท่านพ่อถึงคิดว่าเป็นนความผิดของเฉิงเป่าเพียงคนเดียว?!
ฮูหยินมู่ผลักหลานชายออกไป
“เฉิงเป่า พูดเรื่องที่อยู่ในใจของเจ้าให้บิดาเข้าใจ เขาจะได้รู้และขอโทษเจ้า”
เจียงเฉิงเป่าเดินไปข้างหน้าสองสามก้าว หยุดที่ข้างเตียง นายท่านเจียงยื่นมือมาวางบนศีรษะของลูกชาย
“เฉิงเป่า…พ่อต้องขอโทษเจ้าด้วย…”
เด็กหนุ่มเงยหน้าขึ้นไปมองบิดาอย่างประหลาดใจ
“เรื่องนี้เป็นความผิดของพ่อเอง พ่อไม่ควรบังคับลูกเช่นนั้น หากเจ้ามีความสุขพ่อก็ย่อมมีความสุขด้วยเช่นกัน ถ้าลูกไม่อยากไปสำนักศึกษาแล้วก็ไม่ต้องไป เจ้าไม่จำเป็นต้องเรียนให้เก่ง ทรัพย์สินของบ้านเรามีมากมายข้าสามารถเลี้ยงดูเจ้าให้อยู่ดีกินดีได้ไปตลอดชีวิต
นายท่านเจียงมองเจียงเฉิงเป่าด้วยความรัก เขากอดบุตรชายพร้อมสะอื้นไห้เบา ๆ
เจียงเฉิงเป่าไม่เคยคิดมาก่อนว่าจะได้เห็นบิดาร้องไห้ ในความคิดของเขานั้นท่านพ่อเป็นคนที่เข้มงวดและดุอยู่เสมอ ยามที่เขายังเล็กตอนที่มารดายังมีชีวิตอยู่…
ท่ามกลางเสียงร้องไห้สะอื้น ร่างกายที่แข็งทื่อของเจียงเฉิงเป่าค่อย ๆ อ่อนลง เขาเอื้อมมือไปกอดบิดาของเขาไว้
เมื่อเห็นว่าอารมณ์ซึมเศร้าของเจียงเฉิงเป่าหายไป ถังหลี่ถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก หญิงสาวเดินออกจากห้องพร้อมกับฮูหยินมู่ ปล่อยให้สองพ่อลูกคุยกันเป็นการส่วนตัว
“เป็นพ่อลูกกันแท้ ๆ แต่ไม่ยอมพูดจากันให้ดีจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้”
ฮูหยินมู่พูดไม่ออก แต่ในขณะเดียวกันก็รู้สึกโล่งอก
“ผู้คนย่อมมีปัญหามากน้อยแตกต่างกันไป”
พี่ชายของนางแค่พยายามที่จะดิ้นรนแก้ปัญหา ทำให้เขาคาดหวังในตัวบุตรมากเกินไป ทำให้เจียงเฉิงเป่าเป็นอย่างนั้น ฮูหยินมู่มองไปที่ถังหลี่และกล่าวด้วยความจริงใจ
“เสี่ยวถัง ข้าต้องขอบคุณเจ้ามาก” ฮูหยินมู่ขอบคุณเสี่ยวถังที่ทำให้เจียงเฉิงเป่าเริ่มเปิดใจทำให้เกิดผลลัพธ์ที่ดีขึ้น
“พี่หลานท่านไม่ต้องขอบคุณข้า นายท่านเจียงเองก็เคยช่วยเหลือข้า นี่เป็นเรื่องที่ข้าควรได้ตอบแทนเขา”
ถังหลี่กล่าวด้วยรอยยิ้ม
นายท่านเจียงเคยใช้เส้นสายมากมายของตัวเองเพื่อช่วยเหลือเว่ยฉิง ตอนนี้หากถังหลี่จะตอบแทนเขาบ้างก็เป็นเรื่องสมควรแก่เหตุผลแล้ว
“พี่สะใภ้ข้าจากไปก่อนวัยอันควร พี่ชายข้าจึงเป็นทั้งบิดาและมารดาให้ลูกชาย เขาจึงเข้มงวดกับเฉิงเป่ามาก อีกทั้งยังต้องดูแลกิจการนอกบ้านทั้งวัน เขาไม่รู้วิธีที่จะอบรมสั่งสอนเด็ก ๆ ผลจึงออกมาเป็นเช่นนี้ เฉิงเป่าในยามเยาว์วัยเป็นเด็กที่เชื่อฟังมาก จู่ ๆ ก็กลายเป็นเด็กเก็บตัวเงียบขรึม ตอนนี้เขาดีขึ้น ข้าก็ดีใจ” ฮูหยินมู่ยิ้มออกมาจากก้นบึ้งของหัวใจอย่างยินดี
ภายในห้อง
สองพ่อลูกเปิดใจคุยกัน นายท่านเจียงที่ป่วยเพราะทุกข์ใจเรื่องบุตรชาย ยามนี้เมื่อได้ปรับความเข้าใจ ปมของทั้งคู่จึงได้คลายลง อาการป่วยของเขาจึงดีขึ้น
“ท่านพ่อ ข้าจะกลับไปเรียนที่สำนักศึกษาขอรับ ในที่สุดข้าก็มีโอกาสได้เรียนหนังสือ ข้าจะพยายามให้มากขึ้น..อีกอย่าง ข้าอยากขอโทษจั๋วชูด้วย” เจียงเฉิงเป่าพูดกับบิดา
“หากเจ้าคิดเช่นนั้นก็จงตั้งใจเรียน พ่อจะสนับสนุนเจ้า”
ถังหลี่อยู่ที่จวนสกุลเจียงต่ออีกสักครู่หนึ่งก่อนจะขอตัวกลับ เมื่อนายท่านเจียงตั้งใจจะออกมากล่าวขอบคุณก็พบว่านางได้จากไปเสียแล้ว
“เสี่ยวถังเป็นน้องสาวข้า ตอนนี้ครอบครัวของนางย้ายมาที่เหอตงแล้ว คงตั้งหลักปักฐานอยู่ที่นี่ ท่านพี่ก็ดูแลนางด้วยล่ะ” ฮูหยินมู่กล่าว
นายท่านเจียงพยักหน้ารับ เขารู้สึกขอบคุณถังหลี่อยู่ในใจเช่นกัน
…..
ระหว่างทางกลับบ้านถังหลี่คิดอยากจะซื้อบ่าวรับใช้ให้แก่สวี่เจวี๋ยและต้าเป่า โดยส่วนใหญ่แล้ว บัณฑิตจากตระกูลร่ำรวยมักจะมีบ่าวอยู่ข้างกายเพื่อคอยรับใช้อยู่เสมอ
ถังหลี่จึงไปที่ตลาดค้าทาส
“นายหญิงท่านสนใจทาสแบบไหนหรือ? ผู้ชายหรือผู้หญิง คนหนุ่มหรือสูงวัย?” นายหน้าค้าทาสถามหญิงสาวอย่างกระตือรือร้น
ถังหลี่มองกลุ่มทาสเหล่านั้น ที่นี้ขายผู้คนราวกับผักปลา ถึงจะรู้ว่าการค้าทาสเป็นไปอย่างถูกกฎหมายในยุคสมัยโบราณเช่นนี้ แต่ก็ยังอดไม่สบายใจอยู่ดี ลำพังนางเพียงคนเดียวคงเปลี่ยนแปลงอะไรไม่ได้
พวกทาสเมื่อเห็นถังหลี่ พวกเขาพากันกระตือรือร้นขึ้นมาทันที เป็นเพราะนางดูมีเงินและท่าทางใจดีไม่น้อย
“นายหญิงซื้อข้าเถอะขอรับ ข้าจะทำงานให้หนัก”
“ข้าแข็งแรงมากทำงานแทนคนหลายคนได้ ซื้อข้าเถอะนายหญิง”
ถังหลี่กำลังหาเด็กหนุ่มอายุสักสิบสองถึงสิบห้าปี นางกวาดสายตามองไปจนทั่วในที่สุดก็ไปหยุดที่เด็กหนุ่มร่างผอมบางอายุประมาณสิบห้า เด็กหนุ่มผู้นี้นอนอยู่บนพื้นร่างกายสกปรก ใบหน้ามอมแมม ทว่าท่าทางกลับดูผ่อนคลาย
สายตาในการมองดูผู้คนของถังหลี่มีความแม่นยำมากขึ้น นางรู้สึกดีกับเด็กคนนี้
เมื่อเห็นถังหลี่มองเขา เขาจึงมองนางกลับเช่นกัน
“ท่านอยากซื้อตัวข้าหรือ? ข้าค่าตัวแพงมากนะ” เขาพูดเหมือนไม่อยากให้ใครซื้อเขา
“แพงแค่ไหนหรือ?” ถังหลี่ถาม
“นายหญิงขอรับ เด็กคนนี้ราคาห้าสิบตำลึงขอรับ” นายหน้ารีบบอกทันที
เด็กหนุ่มมองนางอย่างคาดคะเน คิดในใจว่านางคงไม่สู้ราคาอย่างแน่นอน
“ข้าซื้อ!” ถังหลี่ตัดสินใจ
เด็กหนุ่มตกใจแทบกระโดด
“ข้าไม่มีความสามารถอะไร ทำได้แต่เพียงกิน ๆ นอน ๆ เท่านั้น ท่านจะซื้อข้าจริง ๆ หรือ?”
“เจ้ามีแขนมีขาไม่ได้พิการอะไร รูปร่างหน้าตาไม่เลว หากถูกทุบตีก็ยังวิ่งหนีได้เช่นนั้นก็นับว่าคุ้มกับเงินข้าแล้ว”
หากต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยโดนรังแก อย่างน้อยเด็กคนนี้ก็ยังสามารถข่มขู่ฝ่ายตรงข้ามได้ หากวิ่งได้ก็ขอความช่วยเหลือได้ ด้วยสัมผัสที่หกของถังหลี่นางรู้ได้ว่าเด็กหนุ่มผู้นี้ไม่เลวเลย
หญิงสาวจ่ายเงินห้าสิบตำลึงและรับใบสัญญาค้าทาสของเขามาดูชื่อบนนั้น
“เหยี่ยนเสี่ยวตวน ไปกันเถอะ”
นางเดินนำด้านหน้าเด็กชายเดินตามหลัง
“ท่านแน่ใจหรือว่าจะซื้อตัวข้า ข้าขี้เกียจมาก รับใช้ใครก็ไม่เป็น หากซื้อข้าท่านจะต้องเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์นะขอรับ”
“สายเกินกว่าที่ข้าจะเสียใจแล้ว”
“ไม่ต้องห่วง ข้าจะบอกนายหน้าให้คืนเงินท่านเอง”
เหยี่ยนเสี่ยวตวนพูดไปเรื่อยเปื่อยโดยที่ถังหลี่ไม่ได้สนใจเขาแม้แต่น้อย ทำให้เด็กหนุ่มรู้ได้ว่า นางต้องการซื้อเขาเป็นทาสรับใช้จริง ๆ เขากำลังจะเป็นทาส!
นี่คือประสบการณ์ในวันที่เขาถูกขายราวกับสินค้า เป็นครั้งแรกที่เขากำลังจะได้เป็นทาส บิดาของเขาจะคิดอย่างไรนะหากรู้ว่าบุตรชายของตนกลายเป็นทาสคนอื่นไปเสียแล้ว เขาคงจะอารมณ์เสียมากเป็นแน่!
เหยี่ยนเสี่ยวตวนรู้สึกมีความสุข เขาตัดสินใจแล้วว่าจะเป็นทาสรับใช้ของผู้อื่น
ถังหลี่พาเขาไปซื้อเสื้อผ้าชุดใหม่ เมื่อพาเขากลับไปถึงบ้าน นางให้ป้าจ้าวต้มน้ำให้เด็กคนนี้อาบ
เด็กหนุ่มแช่ตัวในน้ำร้อนอย่างสบาย วันนี้เขาได้ลิ้มรสของการเป็นทาสแล้วยังจะทำให้บิดาโกรธอีก
ในตอนเย็น ต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยกลับมาถึงบ้าน
ถังหลี่แนะนำเหยี่ยนเสี่ยวตวนให้เด็กทั้งสองคนรู้จัก
“สวี่เจวี๋ย ต้าเป่า เขามีนามว่าเหยี่ยนเสี่ยวตวน ต่อไปนี้เขาจะเป็นบ่าวรับใช้ของพวกเจ้า”
เด็กทั้งสองมองเด็กหนุ่มที่สูงกว่าพวกเขาราวหนึ่งถึงสองช่วงศีรษะ ท่านแม่ซื้อตัวบ่าวรับใช้ให้พวกเขาหรือ?
คงเพราะเรื่องวิวาทในวันก่อนเป็นแน่ นางเป็นห่วงพวกเขาจึงได้ซื้อตัวบ่าวมาคอยดูแลสวี่เจวี๋ยและต้าเป่า…ท่านแม่ใจดีเหลือเกิน!
แต่เหตุใดเด็กหนุ่มผู้นี้จึงดูราวกับคุณชายเล่า?
“จากนี้ไปเขาจะคอยดูแลพวกเจ้า ตำราและอุปกรณ์การเรียน ก็ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขา ส่วนพวกเจ้าแค่ตั้งใจเรียนเท่านั้นก็พอ”
เหยี่ยนเสี่ยวตวนพยายามที่จะเป็นทาสรับใช้ที่ดี เขาผงกหัวรับคำ
“ใช่แล้วขอรับ ข้าจะทำทุกอย่าง!”
หลังจากแนะนำเหยี่ยนเสี่ยวตวนแล้ว ถังหลี่จึงคุยกับเด็กกับเด็กทั้งสองคน
“ฉีเหยาเหวินเป็นคนสั่งให้เฉิงเป่าคอยรังแกจั๋วชู” ถังหลี่บอก
เรื่องนี้เป็นปัญหาที่ค้างคาอยู่ในใจของเด็กทั้งสองคน ในเมื่อรู้ต้นตอของปัญหาแล้ว นางจึงรีบบอกพวกเขานาง เมื่อได้ยินชื่อที่หลุดออกจากปากมารดา ทั้งสวี่เจวี๋ยและต้าเป่าไม่ค่อยแปลกใจเท่าใดนัก