บทที่ 307 มนุษย์ทดลอง
“ข้าเจ็บ ทรมาน!”
“ใครก็ได้ช่วยข้าด้วย!”
เสียงร้องอย่างเจ็บปวดดังขึ้นเรื่อยๆ ราวกับไม่มีที่สิ้นสุด ในหมู่คนเหล่านี้มีทั้งคนหนุ่มสาวและเด็กๆ วัยแค่หกเจ็ดขวบ คนหนุ่มสาวเหล่านี้ คงถูกจับมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กเล็กและรอดชีวิตมาได้ หลังจากผ่านความเจ็บปวดทรมานมามาก
โหดร้ายมาก! เขากล้าทำเรื่องโหดร้ายเช่นนี้ได้อย่างไร? เจ้าหน้าที่และผู้ที่พบเห็นล้วนมีสีหน้าทนไม่ได้
เมื่อคนที่โดนขังเห็นกลุ่มคนที่มาใหม่ พวกเขารีบวิ่งเข้าไปเกาะลูกกรง เหมือนกับเห็นแสงสว่างท่ามกลางความมืด สายตาของทุกคนเปี่ยมไปด้วยความหวัง
“เจ้าหน้าที่ทางการ! ทางการมาช่วยพวกเราแล้ว!”
“เรารอดแล้ว!”
พวกเขาต้องจมอยู่กับความมืดมนนี้มามากพอแล้ว โดนจับขังและบังคับให้รับยาทุกวัน ทำให้พวกเขาเจ็บปวดและทรมานมาก ทุกคนต่างเฝ้ารอให้มีคนมาช่วย
พวกเขาอยากเจอครอบครัว แต่นับวันความหวังก็ยิ่งหดหาย คนร่วมห้องขังต่างทยอยล้มตายจากไปทีละคน
….
ราวกับสวรรค์มีตา เจ้าหน้าที่พบพวกเขาแล้ว ตอนนี้เขารอดแล้ว!
เจ้าหน้าที่หลายคนกรูกันเข้าไปพยายามเปิดประตูกรง
“ช้าก่อน” ถังหลี่รีบพูดขึ้น เว่ยฉิงรีบสั่ง
“อย่าเพิ่งเปิด”
บรรดาเจ้าหน้าที่ต่างชะงัก
เว่ยฉิงมองภรรยาด้วยแววตาสงสัย เขารู้ว่านางมีเหตุผลเสมอ
หญิงสาวกระซิบกับสามี
“สามี ท่านจำความฝันที่ข้าเล่าให้ฟังได้หรือไม่?”
ในตอนที่ทั้งสองขี่ม้าด้วยกัน ถังหลี่เล่าความฝันของนางให้สามีฟัง เว่ยฉิงพยักหน้ารับ
“ข้าจำได้”
“ท่านได้รับบาดเจ็บในความฝันของข้า… ข้าเดาว่ามันน่าเกี่ยวกับหมอผู้นี้” ถังหลี่กล่าว
“หมอหรือ?” เว่ยฉิงประหลาดใจ
ในความฝันของนางใบหน้าและร่างกายของพวกเขามีแต่รอยกัด ในนิยายต้นฉบับ หมอผู้นั้นใช้ยาพิษที่เปลี่ยนให้คนกลายเป็นผีดิบได้ เขาปล่อยเชื้อให้แพร่กระจายไปทั้งเมือง ถังหลี่จึงประเมินว่า หมอพิษคนนี้ตั้งใจทดสอบยาที่เปลี่ยนคนให้กลายเป็นผีดิบเป็นแน่ เว่ยฉิงและเจ้าหน้าที่จึงถูกไอ้หมอพิษไร้สติทำร้าย
ถังหลี่บอกเว่ยฉิงถึงความคิดของตน เมื่อเขาได้ยินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
“ฮูหยิน แล้วคนเหล่านี้…” เว่ยฉิงถามเสียงเบา
“ขอข้าดูก่อน” ถังหลี่เดินไปที่กรงโดยมีเว่ยฉิงตามไปอย่างใกล้ชิด เขากำดาบในมือกระชับไว้แน่น เผื่อว่าภรรยาจะตกอยู่ในอันตราย
ถังหลี่จ้องที่ดวงตาของพวกเขา เมื่อเห็นว่าดวงตาของคนเหล่านี้ปกติไม่มีอะไรผิดปกติ จึงหันไปพยักหน้าให้
“เปิดกรงได้” เว่ยฉิงสั่ง
เจ้าหน้าที่หลายคนชักดาบเตรียมจะฟันกุญแจเพื่อเปิดกรงขัง ในตอนนั้นเองเด็กสาวผู้เป็นคนนำทางพูดขึ้นว่า
“ข้ามีกุญแจ”
นางหยิบกุญแจพวงใหญ่ออกมามอบให้เจ้าหน้าที่
ถังหลี่มองเด็กสาวอย่างครุ่นคิด เจ้าหน้าที่เปิดกรงให้คนที่อยู่ข้างใน ผู้คนที่ยังเดินได้ถูกเจ้าหน้าที่พาออกไป ส่วนคนที่ป่วยหนักลุกไม่ขึ้นยังคงนอนอยู่ในกรงนั้น
ถังหลี่เดินเข้าไปในกรง มีเด็กผู้หญิงตัวเล็กๆ ท่าทางดูอ่อนแอ นางอายุไล่เลี่ยกับซานเป่า ผมลีบ ใบหน้าซีดเซียวอ่อนแอมาก เด็กหญิงพยายามเบิกตากว้างมองถังหลี่
“ท่านแม่….”
“อย่ากลัวเลย เจ้าจะได้พบแม่ของเจ้าในไม่ช้า” ถังหลี่ปลอบโยน หญิงสาวเอื้อมมือไปลูบหัวนางเบาๆ
“นอนเสีย เจ้าจะได้พบท่านแม่ตอนเจ้าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง” ถังหลี่พูดเบาๆ
เด็กหญิงตัวน้อยหลับตา จมเข้าสู่ห้วงนิทราไปอย่างสงบ ไม่นานนักเจ้าหน้าที่ก็เข้ามาพาตัวนางออกไป
ถังหลี่ปลอบโยนเด็กๆ ที่อ่อนแอทีละคน ก่อนจะค่อยๆ ทยอยนำตัวเขาออกไป
ในที่สุดกรงขังก็ว่างเปล่า ในห้องใต้ดินแห่งนี้มีเพียงถังหลี่ เว่ยฉิงและองครักษ์เงาเท่านั้น เว่ยฉิงมองเด็กสาวผู้เป็นคนนำทาง
“เจ้าชื่ออะไร?”
เด็กสาวค่อนข้างกลัวเขา นางก้มหน้าพูดเสียงเบาว่า
“หลิวหลานเจ้าค่ะ”
“เจ้ามีความสัมพันธ์เช่นไรกับคนแซ่ฟาง?”
“เขาเป็นเจ้านายของข้าเจ้าค่ะ” หลิวหลานพูดอย่างรวดเร็ว
“เจ้ารู้ไหมเขาอยู่ที่ไหน?”
“ข้า…ข้าไม่รู้เจ้าค่ะ” หลิวหลานส่ายหัว
“แม่นางหลิว การที่เจ้าพาพวกข้าลงมาที่ห้องใต้ดินแห่งนี้ นั่นหมายถึงเจ้ายังมีมโนธรรมหลงเหลืออยู่บ้าง เจ้านายของเจ้าเป็นคนชั่วร้าย หากในครั้งนี้เขาหลุดรอดไปได้ ครั้งหน้าจะมีเด็กตกเป็นเหยื่ออีก เจ้าอยากเห็นเด็กโดนทรมานอีกหรือ?” ถังหลี่กล่าว
หลิวหลานเม้มริมฝีปาก หลังจากดิ้นรนกับความคิดของตนเองสักครู่ นางจึงพยักหน้า
“พวกท่านตามข้ามาเจ้าค่ะ”
ถังหลี่และเว่ยฉิงมองหน้ากันก่อนจะเดินตามไป โดยมีองครักษ์เงารีบประกบตามไปเช่นกัน เด็กสาวพาพวกเขาเข้าไปข้างใน มีบันไดลงไปใต้ดินอีกชั้น พวกเขาเดินลงบันไดจึงได้เห็นประตูหิน หลิวหลานกดไปที่ประตูสองครั้ง ประตูจึงเปิดออก
ห้องใต้ดินดูสะอาดมาก ต่างจากชั้นที่แล้วอย่างสิ้นเชิง คบไฟเรียงยาวอยู่บนผนัง มีตู้เสื้อผ้า เตียง โต๊ะ และเครื่องเรือนอำนวยความสะดวกแทบทุกชนิด
ถังหลี่และเว่ยฉิงยืนอยู่ที่ประตู มองเห็นทุกอย่างชัดเจน ในห้องนั้นมีชายวัยกลางคนหน้าตาไม่โดดเด่นนั่งอยู่บนเก้าอี้กำลังดื่มชาอย่างสบายใจ ทันทีที่ประตูเปิด สีหน้าของเขาเปลี่ยน ถ้วยชาในมือหล่นลงแตกกับพื้น
เขาจ้องหลิวหลานด้วยความโกรธ
“นังบ้า! เจ้ากล้าดีอย่างไรหักหลังข้า!”
หลิวหลานถอยหลังอย่างตกใจ นางรีบซ่อนตัวอยู่หลังถังหลี่
ถังหลี่มองคนผู้นั้น ตระหนักได้ว่าเขาคือหมอพิษในนิยายเรื่องนี้ เขาเป็นผู้ชายหน้าตาเรียบๆ ดูธรรมดา จนไม่มีใครคิดว่าเขาจะเป็นคนชั่วไร้มนุษยธรรมเช่นนี้ได้!
เว่ยฉิงตรงเข้าไปหาเขาด้วยใบหน้าเย็นชา ท่าทางเต็มไปความอาฆาตแค้นดูน่ากลัว
นายท่านฟางตกใจมาก เขาตั้งท่าจะหนี แต่เว่ยฉิงก็คว้าตัวไว้ราวกับลูกเจี๊ยบ เขาพาดดาบไว้ที่ลำคอ หมอพิษหวาดกลัวจนแข้งขาอ่อน เขาขอร้องเว่ยฉิง
“ยกโทษให้ข้าด้วยใต้เท้า…ได้โปรด.. ข้ามียามากมาย ถ้าท่านปล่อยข้าไปข้าจะให้มันทั้งหมดแก่ท่าน”
“ข้าไม่อยากได้” เว่ยฉิงตอกกลับ
“ใต้เท้า ท่านยังไม่รู้ว่ามันคือยาอะไร เหตุใดจึงปฏิเสธเช่นนี้ ข้าน้อยมียาอยู่ สาบานได้ว่าท่านจะต้องอยากได้อย่างแน่นอน…” หมอฟางแสยะยิ้ม
ทันใดนั้นเองเขาหยิบของบางอย่างออกจากหน้าอก สะบัดมือครั้งเดียว
ผงสีขาวพุ่งเข้าหาเว่ยฉิงทันที แม้ว่าเขาจะหลบได้ก็ตาม แต่พริบตาต่อมา กลิ่นแปลกๆ ลอยมา จนสัมผัสได้
เว่ยฉิงรู้สึกสังหรณ์ใจ