เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 315 หมอฟางถูกลงโทษ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 315 หมอฟางถูกลงโทษ

ถังหลี่รู้สึกมีความสุขจนไม่อาจบรรยายได้ นางรีบเดินตามฮูหยินซูเข้าไปด้านในทันที

“ทันทีที่ซูไท่หยวนรู้ส่วนผสมของยา เขารีบให้ข้ามาแจ้งข่าวกับเจ้า เขาเชื่อว่าเจ้าต้องมีความสุขอย่างแน่นอน”

พวกนางเดินไปพูดคุยกันไปด้วย นี่เป็นข่าวดีที่ทำให้ถังหลี่มีความสุขมากจริง ๆ ทั้งสองพากันเดินอย่างรวดเร็ว ไม่นานนักก็ถึงโรงยา หมอซูและหลิวหลานยังคงอยู่ที่นั่น ดวงตาของพวกเขาอ่อนล้าแต่กลับเต็มไปด้วยความสุข

“เสี่ยวถัง นี่คือสูตรยาที่เราทำได้แล้ว”

หมอซูยื่นกระดาษให้กับถังหลี่

ถังหลี่รับใบสั่งยาที่เขียนชื่อยาเต็มยาวเหยียด มันคือผลงานจากการทำงานหนักในช่วงเวลาหลายวันที่ผ่านมา หลิวหลานยืนอยู่ข้างเตายานางกำลังมองไปที่หม้อต้มยา

“ขอบคุณกับสำหรับทำงานหนักของพวกท่าน” ถังหลี่มองไปยังคนทั้งคู่

“หน้าที่ของหมอคือการรักษาความเจ็บป่วย ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร” หมอซูพูดพร้อมรอยยิ้ม

“หากว่านี่สามารถทำให้อาหยูฟื้นคืนสติได้ ข้ายินดีทำทุกอย่าง” หลิวหลานพูดออกมาด้วยรอยยิ้มเช่นกัน

หลังจากที่หลิวหลานต้มยาเสร็จทั้งสามคนจึงนำยาไปที่ศาลาว่าการทันที ใต้เท้าเหวินและเว่ยฉิงที่ได้รับข่าวก็รีบเข้าไปที่ห้องนั้นด้วยกัน

“ขอทดลองคนเดียวก่อน” หมอซูกล่าว แม้เขาจะมั่นใจในยาตัวนี้แต่ยังต้องระมัดระวังให้มาก หลิวหลานลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะบอกว่า

“อาหยู…อาหยูมีหน้าที่รับผิดชอบทุกคน ดังนั้นเขาคงเป็นคนแรกที่อยากทำเพื่อช่วยเหลือคนอื่น ๆ”

ยิ่งกว่านั้น…หลิวหลานรู้ว่ายาตัวนี้คือความหวังสุดท้าย และหากมันไม่ได้ผล…

ไม่…มันต้องใช่ได้แน่นอน! นางต้องเชื่อในตัวของหมอซู ไม่อย่างนั้นแล้วนางยินดีที่จะตายไปพร้อมกับอาหยู!

หลิวหลานหยิบถ้วยยาออกมาและป้อนยาให้อาหยูด้วยช้อนทีละคำ ไม่นานนักยาในถ้วยก็หมดลง ตอนนั้นเองทุกคนต่างรออย่างกระวนกระวายใจ หมอซูเปิดเปลือกตาของอาหยูเป็นครั้งคราวเพื่อตรวจสอบผลยาของเขา ยามนี้หัวใจของถังหลี่เต้นถี่

นางคือปลาหลี่นำโชค คนที่นางต้องการที่จะช่วยอย่างไรก็ต้องรอด แต่ถึงกระนั้นแล้วถังหลี่เองก็ยังรู้สึกกระวนกระวาย เว่ยฉิงยืนอยู่ข้างนางก่อนจะจับมือของภรรยามาซุกไว้แขนเสื้อของตน พวกเขาจับมือกันแน่น

ถังหลี่เองก็สังเกตได้ถึงความกังวลใจของเว่ยฉิง เพราะสัมผัสได้ว่าฝ่ามือที่หยาบกร้านของเขามีเหงื่อไหลซึมออกมา

เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว ครึ่งชั่วยามต่อมาก็เริ่มมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น แม้ว่าอาหยูจะยังไม่ตื่นแต่ดวงตาของเขาก็เริ่มกลับมาเป็นปกติแล้ว พวกเขาเริ่มเห็นดวงตาดำเล็ก ๆ ของเขาแล้ว!

หนึ่งวันต่อมาดวงตาอาหยูก็หายเป็นปกติ พวกเขาจึงทยอยให้ยาแก่คนอื่น หลังจากป้อนยาติดต่อกันสองวันอาหยูก็ตื่นขึ้น! ทว่าร่างกายยังคงอ่อนแอมาก ชายหนุ่มทำได้เพียงแค่มองไปรอบ ๆ ด้วยความงุนงง ไม่นานก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง แต่ตราบใดที่ยังตื่นขึ้นมาแสดงว่ายาตัวนี้ได้ผลจริง ๆ

“ใต้เท้าขอรับ เราจะไต่สวนหมอฟางหรือยังขอรับ?” เว่ยฉิงเอ่ยถาม ใต้เท้าเหวินกลั้นหายใจอยู่ชั่วครู่แล้วพยักหน้าอย่างรวดเร็ว

“สอบสวน!”

“ข้าจะเป็นคนไปพาตัวเขามาเองขอรับ”

พูดจบเว่ยฉิงก็เดินออกไปยังห้องที่หมอฟางกำลังพักผ่อนอยู่ทันที เจ้าเมืองชิงเหอมองตามหลังของเขา พยักหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มขึ้นลง ยามปฏิบัติหน้าที่เว่ยฉิงนั้นดูสุขุมจริงจังมีความน่านับถือมาก แต่บางครั้งเขาก็เหมือนเด็กชายตัวใหญ่ที่ตื่นเต้นเวลาได้ขนม

“ข้าเองก็ตื่นเต้นที่จะได้ตัดสินเขา…” ใต้เท้าเหวินกล่าวออกมาเบา ๆ ถังหลี่เดินตามชายวัยกลางคนไปเพื่อดูความสนุก วันนี้เป็นวันที่นางรอคอย

ภายในห้องขัง หมอฟางกำลังนอนอยู่บนเตียงอย่างสบายใจโดยไม่รู้ว่าความตายกำลังใกล้เข้ามาเยือนเขาแล้ว

ปัง!

เสียงดังโครมพร้อมกับกลอนประตูหักออก ร่างสูงของบุรุษผู้หนึ่งก้าวเข้าไปด้านในห้องขังอย่างดุดัน พอเห็นว่าเป็นเว่ยฉิงใบหน้าของเขาเปลี่ยนเป็นซีดเผือดลงทันที

“เจ้าจะทำอะไร?”

“จะทำอะไรหรือ? ก็ฉีกเนื้อเจ้าน่ะสิ!” เว่ยฉิงพูดพร้อมกับกระชากร่างเขาลงมาจากเตียง ถึงอย่างนั้นหมอฟางก็ยังคงเต็มไปด้วยความหยิ่งยโส ส่วนเว่ยฉิงนั้นมีแต่ความโกรธอัดแน่นอยู่ในใจ เขาพยายามระงับอารมณ์โกรธของตัวเอง ก่อนจะยกกำปั้นอัดเข้าที่ใบหน้าของอีกฝ่าย

“เจ็บ เจ็บ!” หมอฟางยกมือปิดหน้ากลิ้งไปกับพื้นอย่างเจ็บปวด เว่ยฉิงเตะเขาอีกสองครั้งแล้วกระชากร่างอีกฝ่ายขึ้นมาก่อนจะลากออกไปราวกับซากสุนัขที่ตายแล้ว

“เจ้าจะพาข้าไปไหน!” หมอฟางตะโกนถาม

“ศาล” เว่ยฉิงเอ่ยออกมาสั้น ๆ

“ศาล? จะสอบสวนข้าหรือ? เจ้ากล้าหรือ? ไม่ต้องการยาถอนพิษแล้วหรือ?!”

“คงไม่ต้องรบกวนเจ้าอีกต่อไปแล้ว ตอนนี้พวกเรามียาถอนพิษเรียบร้อยแล้ว” เว่ยฉิงกล่าว

“อะไรนะ?!” หมอฟางได้ยินเช่นนั้นก็ตกใจมาก ยาถอนพิษ?

ยาพิษชนิดนี้มาจากเทียบยาโบราณมีเพียงไม่กี่คนเท่านั้นที่รู้เรื่องนี้ จะมีคนแก้พิษชนิดนี้ได้อย่างไร? เป็นไปไม่ได้ที่จะมีคนที่เก่งกาจเช่นนี้!

เขาไม่เชื่อ!

ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไร หมอฟางก็ถูกเว่ยฉิงลากตัวไปที่ศาลอยู่ดี เขาโดนชายหนุ่มโยนลงกับพื้นอย่างไม่ปราณี หากไม่นับในตอนที่ถูกจับ หมอฟางไม่เคยถูกปฏิบัติเช่นนี้มาก่อน ชายวัยกลางคนล้มไปกองที่พื้น เขาตะเกียกตะกายลุกขึ้นยืนก่อนจะมองไปยังใต้เท้าเหวินที่นั่งอยู่ด้านบน

“ใต้เท้าเหวิน ความจริงข้าเองก็ต้องการจดเทียบยาให้แต่ข้าถูกทุบตีเช่นนี้จึงลืมเลือนไปหมดแล้ว โธ่…สามสิบห้าชีวิตที่น่าสงสาร…”

ขณะที่พูดนั้นสายตาของหมอฟางจับจ้องไปยังเว่ยฉิง แน่นอนว่าการที่ถูกเว่ยฉิงทำร้ายเช่นนี้ย่อเป็นเพราะต้องการแก้แค้นเขาแน่ ๆ แต่ไม่คาดคิดว่านอกจากใต้เท้าเหวินจะไม่สนใจแล้วเขายังยกค้อนในมือทุบกับโต๊ะอย่างแรง

“ลักพาตัวเด็กบริสุทธิ์ และใช้ยาที่ทำให้ผู้บริสุทธิ์หลายร้อยคนเสียชีวิตอย่างน่าเวทนา วิธีการของเจ้าโหดร้ายเป็นอย่างยิ่ง แม้จะมีคนที่รอดมาได้ก็ยังคงทรมานจากยาของเจ้า ตอนนี้เจ้าสำนึกผิดแล้วหรือยัง?!” ใต้เท้าเหวินพูดเสียงดัง

ที่นอกลานพิจารณาคดีมีผู้คนมากมายมารอดูการไต่สวน หากไม่ใช่เพราะกลัวจะรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ พวกเขาก็อยากจะปาไข่เน่า และ ผักเน่า ๆ ใส่ชายชั่วผู้นี้!

“โหดร้ายมาก! เด็กทุกคนที่โดนลักพาตัวไปมีอายุแค่หกหรือเจ็ดขวบเท่านั้น ไม่มีมนุษยธรรมเลยสักนิด!”

“โชคดีที่เจอตัว คนแบบนี้สมควรถูกฉีกเป็นชิ้น ๆ!”

“เขายังใช้ยาถอนพิษมาเป็นเครื่องมือต่อรองกับทางการอีกด้วย โชคดีที่หมอซูค้นพบยาถอนพิษ! เด็กที่น่าสงสารพวกนั้นจึงฟื้นสติได้”

เมื่อยินบทสนทนาเหล่านั้นหมอฟางกลับมีสีหน้าหงุดหงิดขึ้นทันที หรือพวกเขาค้นพบยาถอนพิษแล้วจริง ๆ

“เจ้ายังไม่ยอมรับผิดอีกหรือไร?” ใต้เท้าเหวินพูด

“โบยห้าสิบไม้!”

ใต้เท้าเหวินเต็มไปด้วยความโกรธ การฆ่าเขาเลยนับว่าง่ายไป เด็ก ๆ เหล่านั้นต้องทุกข์ทรมานเพียงใด อีกทั้งยังหาพวกเขาเจอแค่เพียงบางส่วน ห้าสิบไม้นี้ยังไม่ถึงครึ่งของคนที่คนชั่วผู้นี้คร่าชีวิตไปเลยด้วยซ้ำ

เจ้าหน้าที่ลากหมอฟางขึ้นไปบนม้าโบย ก่อนจะหวดไม้ลงไปเต็มแรง เจ้าหน้าที่คนนี้เกลียดชังหมอฟางเป็นอย่างมาก ดังนั้นทุกไม้ที่โบยลงไปจึงเต็มไปด้วยความหนักหน่วงสร้างความเจ็บปวดให้แก่หมอฟาง

“โอ๊ย!”

เสียงร้องของหมอฟางดังลั่นไปทั่วลานพิจารณาคดี แต่ไม่มีใครเห็นใจเพราะทุกคนรู้ว่าชายผู้นี้สมควรได้รับ สิ่งที่เขาเผชิญอยู่ตอนนี้ยังเทียบได้ไม่ถึงหนึ่งในสิบที่เด็กเหล่านั้นต้องทนทุกข์ทรมานเลยด้วยซ้ำ!

เมื่อการโบยห้าสิบไม้จบลง หมอฟางนอนหมดสภาพอยู่ที่พื้นเหมือนสุนัขที่กำลังรอความตาย

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท