บทที่ 323 ตามหาเด็กๆ
“ใช่แล้ว ข้าต้องรีบบอกท่านพี่”
ฮูหยินเหวินได้สติขึ้นมารีบสั่งการบ่าวรับใช้สองคน คนหนึ่งไปส่งจดหมายที่ศาลาว่าการ ส่วนอีกคนไปเตรียมม้า
ฮูหยินเหวินสูดลมหายใจเข้าลึกๆ ร่างกายของนางสั่นอย่างควบคุมไม่อยู่
“อย่ากังวลฮูหยิน เด็กๆ จะปลอดภัย” ถังหลี่จับมือนางปลอบโยน
ใช่พวกเขาจะสบายดี… ทุกคนจะปลอดภัย
ฮูหยินเหวินมองดวงตาสงบนิ่งของถังหลี่ ถึงเผชิญหน้ากับสถานการณ์เดียวกัน แต่หญิงสาวผู้นี้กลับระงับอารมณ์ได้มากกว่านาง ฮูหยินเหวินค่อยๆ สงบสติอารมณ์ลง ยามนี้จะมาตื่นตระหนกไม่ได้ เพราะความแตกตื่นนั้นไร้ประโยชน์มีแต่ความสงบเท่านั้นที่จะแก้ปัญหาได้
“ใช่ ทุกอย่างจะเรียบร้อย” ฮูหยินเหวินกล่าว
ในไม่ช้าบ่าวรับใช้ก็จูงม้ามาตัวหนึ่ง ถังหลี่จับบังเหียนเอาไว้ ม้าตัวนี้เป็นม้าพันธุ์ดีฝีเท้าเร็ว
“แม่นางถัง เจ้าจะไปไหน?”
ฮูหยินเหวินถามพร้อมกับจับแขนเสื้อของหญิงสาว
“ข้าจะไปหาเด็กๆ” ถังหลี่ตอบ
“คนพวกนั้นโหดร้ายมาก เจ้าไปคนเดียวจะมีอันตราย รอทางการก่อน..” ฮูหยินเหวินเกิดอาการเป็นห่วง
“ฮูหยิน ข้ารอไม่ไหวแล้วแต่ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะปลอดภัยดี ”
“ถ้าเช่นนั้นให้บ่าวรับใช้ไปกับเจ้า..” ฮูหยินเหวินพูดอีกครั้ง
“ฮูหยิน พวกเขาจะทำให้ข้าเดินทางได้ช้า ข้าไม่เป็นไรไม่ต้องห่วง ข้าจะหาเด็กๆ เอง”
หลังจากที่ถังหลี่พูดจบ นางส่งยิ้มอ่อนโยนให้ก่อนจะขึ้นม้า การเคลื่อนไหวเต็มไปด้วยความสง่างามหญิงสาวจับบังเหียนในมือแน่น นางมองฮูหยินเหวินอีกครั้ง
“ฮูหยิน ท่านรอคนจากทางการที่นี่ อย่าลืมแจ้งให้พวกเขาหากระท่อมที่สามารถซ่อนตัวเด็กๆ ได้”
ถังหลี่ควบม้าออกไปทันที โดยมีฮูหยินเหวินมองตามแผ่นหลังของหญิงสาวไปอย่างเป็นห่วง
ความจริงแล้วถังหลี่กังวลเรื่องนี้ไม่น้อยไปกว่าฮูหยินเหวิน แต่ท่าทีของนางเป็นไปอย่างสงบ ทำให้คิดหาทางออกได้ หากกล่าวว่าก่อนหน้านี้ความประทับใจที่มีต่อถังหลี่นั้นมาจากสามี แต่ตอนนี้ฮูหยินเหวินยิ่งทวีความชื่นชมถังหลี่ออกมาจากใจ หวังว่านางจะปลอดภัย
ถังหลี่ขี่ม้าไปด้วยหัวใจกระสับระส่าย ซานเป่าคือดวงใจของนาง เด็กน้อยแสนน่ารัก ถังหลี่ยอมตายหากลูกสาวจะต้องได้รับบาดเจ็บ ถ้าซานเป่า…
ถังหลี่ไม่กล้าคิดเรื่องนี้อีกต่อไป
ไม่เป็นไร นางจะหาเด็กๆ พบ ทุกคนจะปลอดภัย!
สิ่งที่นางรู้ตอนนี้คือเบาะแสที่นางพบในความฝัน ซานเป่ากับเด็กทั้งสองคนถูกจับไว้ที่กระท่อมดังนั้นทิศทางที่ถังหลี่ขี่ม้าไปคือภูเขาที่สูงตระหง่านตรงหน้า
หญิงสาวควบม้าวิ่งไปตามถนนสายหลักเป็นเวลานาน ยิ่งเข้าใกล้มากเท่าไหร่ถนนก็ยิ่งคดเคี้ยวมากขึ้น นางหยุดถามชาวบ้านละแวกนั้นร่วมสิบคน จนในที่สุดก็ได้รับคำตอบ
“มีกระท่อมอยู่ใกล้ๆ ที่นี่ ชื่อว่าชิงหลงไจ้ กระท่อมหลังนี้ถูกสร้างเมื่อสิบปีก่อน เป็นที่ซ่องสุมของโจรภูเขาที่ออกปล้นสะดมชาวบ้าน ยามถึงฤดูเก็บเกี่ยวราษฎรตกทุกข์ได้ยากเนื่องจากโดนปล้นชิงอาหารไปจนหมด เจ้าหน้าที่ทางการมาหลายครั้งก็ไม่สามารถบุกจับกุมได้ จนสุดท้ายพวกเขาหลับหูหลับตาปล่อยไป กระทั่งใต้เท้าเหวินมาประจำที่มณฑลชิงเหอจึงได้กวาดล้างชิงหลงไจ้ ช่วงเวลาที่ยากลำเค็ญจึงได้สิ้นสุดลง”
“ทุกคนคิดว่าไม่มีกระท่อมหลงเหลืออยู่แล้ว แต่ครั้งหนึ่งข้าขึ้นไปล่าสัตว์ บังเอิญเห็นยังมีคนอยู่ในกระท่อมนั้น ข้ากลัวมากจึงรีบวิ่งลงมา”
เมื่อนายพรานคนนั้นพูดถึงท่าทางเขายังหวาดกลัวไม่หาย
“ผู้อาวุโส ท่านช่วยบอกทางไปกระท่อมแห่งนั้นให้ข้าได้ไหมเจ้าคะ?” ถังหลี่ถาม“ใช้เวลานานเท่าไหร่กว่าจะถึง”
“เจ้าเดินไปตามถนนเส้นนี้ ด้านหน้าจะมีทางขึ้นไปยังภูเขาทางหนึ่ง…” นายพรานอธิบาย
“หากจากที่นี่จะใช้เวลาประมาณสองสามชั่วยามเป็นอย่างน้อย” ถังหลี่ฟังอย่างตั้งใจ
ชายชรามองถังหลี่อย่างครุ่นคิด
“แม่นาง เจ้าอย่าไปที่นั่นเลย มีแต่พวกโจรภูเขาอยู่ เจ้าเป็นสตรีตัวเล็กๆ อย่าได้ไปเสี่ยงชีวิตเลย”
ถังหลี่รู้ว่าเขาเตือนด้วยความเป็นห่วง นางขอบคุณเขา ขี่ม้าต่อไปยังภูเขา ไม่ต้องพูดถึงรังโจรหรอก ต่อให้มันเป็นบึงมังกรหรือถ้ำเสือนางก็จะบุกเข้าไปให้ได้!
…..
ในเวลาเดียวกัน
ใต้เท้าเหวินได้รับจดหมายจากภรรยา
“รั่วเสวี่ยกับไคเฉิงหรือ? แล้วก็บุตรสาวของแม่นางถัง?” ใต้เท้าเหวินตื่นตระหนก ใบหน้าตึงเครียด โจรพวกนั้นต้องการอะไร จึงได้ลักพาตัวเด็กๆ?
จะเกิดอะไรขึ้นกับพวกเขาบ้าง?
เมื่อระงับความตื่นตระหนกของตัวเองลงได้แล้ว ใต้เท้าเหวินสั่งให้กองกำลังออกเดินทางทันที เมื่อเขาออกจากประตูศาลาว่าการ เว่ยฉิงยืนรออยู่แล้ว แม้ท่าทีของเขาจะดูเป็นปกติแต่เส้นเลือดที่ปูดโปนบริเวณหลังมือของเขานั้นแสดงให้เห็นถึงความกังวลใจของชายหนุ่ม
“ใต้เท้า” เว่ยฉิงทำความเคารพเจ้าคณะมณฑลเหวิน
“ไปกันเถอะ” ใต้เท้าเหวินตบไหล่เขา
ทั้งสองขึ้นม้านำกำลังคนหลายร้อยคนออกเดินทางไป
ในห้องใต้หลังคาที่อยู่ใกล้กับประตูเมือง
ร่างหนึ่งยืนอยู่ตรงนั้นมองกลุ่มคนที่เคลื่อนกำลังผ่านประตูเมืองไป ชายผู้นี้ชื่อจ้าวชู รอยยิ้มปรากฏขึ้นบนใบหน้าของชายหนุ่ม
“มีการแสดงงิ้วดีๆ ให้ดูแล้ว”
รุ่ยอ๋องกำลังสั่งสอนบทเรียนเล็กๆ ให้กับใต้เท้าเหวิน เรื่องที่เขาตัดสินลงโทษหมอฟาง
……
ม้าตัวหนึ่งกำลังควบผ่านเส้นทางภูเขา ทันใดนั้นฝนก็กระหน่ำลงมา ถนนบนภูเขากลายเป็นโคลนเลน ทำให้ความเร็วของม้าลดลง ถังหลี่ไม่มีทางเลือกนอกจากลงจากหลังม้า นางมองไปยังภูเขาสูงชันเบื้องหน้า กระท่อมที่นายพรานคนนั้นว่าไว้น่าจะอยู่ในบริเวณนี้
ถังหลี่ทิ้งม้าเดินขึ้นไปในภูเขาลึก โชคดีที่ร่างกายของนางนั้นแข็งแรงมาก ทำให้หญิงสาวเดินไปได้เร็ว
….
ในกระท่อม
ในโรงเก็บฟืนที่ลงกลอนไว้อย่างแน่นหนานั้นมีเด็กสามคนถูกขังไว้ ได้แก่ ซานเป่า เหวินรั่วเสวี่ย เหวินไคเฉิง
พวกเขาโดนลักพาตัวมาที่นี่ ถูกทรมานมาตลอดทาง ผมเผ้าของเด็กๆ ยุ่งเหยิง เสื้อผ้าขาดวิ่น ใบหน้าแขนขามีแต่รอยขีดข่วนของกิ่งไม้ สภาพดูน่าอเนจอนาถ พวกเขาต่างหวาดกลัวมาก
เหวินรั่วเสวี่ยและเหวินไคเฉิงเกิดในครอบครัวชั้นสูง ได้รับการศึกษาที่เข้มงวด เรียนรู้ทุกอย่างมากมายมาตั้งแต่เล็ก แต่เหตุการณ์เช่นนี้พวกเขาไม่เคยเจอมาก่อนเลย
“น้องชาย เจ้าคิดว่าพวกเขาจับเรามาทำไมหรือ?” เสียงของเหวินรั่วเสวี่ยเต็มไปด้วยความกลัว
“อาจจะรีดไถเงิน” เหวินไคเฉิงกล่าว ฟันของเขาสั่นกระทบกันเล็กน้อย
“ถ้าเป็นรีดไถ พวกเขาจะปล่อยเราไปหลังจากได้เงินจากท่านพ่อ”
“แล้วถ้าไม่ใช่การรีดไถล่ะ พวกเราจะตายไหม?”
เหวินไคเฉิงไม่ตอบอะไร ตอนนี้ร่างกายของเหวินรั่วเสวี่นสั่นอย่างควบคุมไม่ได้
“พี่สาวไม่ต้องกลัว ข้าจะปกป้องท่านเอง!”
ซานเป่าพูดไปมาพร้อมกับโบกกำปั้นไปมา ในบรรดาเด็กทั้งสามคนซานเป่าอายุน้อยสุด แต่นางไม่กลัวเลย
“เด็กน้อย อย่าเพิ่งประมาท คนพวกนั้นมีดาบเล่มใหญ่พวกเขาพร้อมจะฆ่าคน เจ้าหลบอยู่หลังข้าดีจะกว่า”
เหวินไคเฉิงไม่อาจแสดงท่าทีหวาดกลัวออกมาได้ เขาเป็นผู้ชายเพียงคนเดียว เขาจะต้องปกป้องพี่สาวและเด็กหญิงตัวเล็กๆ ผู้นี้