เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 324 ซานเป่าดุร้ายมาก

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 324 ซานเป่าดุร้ายมาก

“ฮึ่ม! ข้าไม่กลัว ข้าแข็งแกร่งมาก พี่สาวดูข้านะ!” ซานเป่าพูดด้วยน้ำเสียงเล็กๆ ของนางจนเหวินรั่วเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะหันไปมอง

ซานเป่าออกหมัดไปหนึ่งกระบวนท่าที่ทรงพลังมาก ดูแล้วไม่น่าเชื่อสำหรับเด็กตัวเล็กเช่นนี้ ซานเป่าดูภายนอกนุ่มนวลน่ารักแต่เวลาออกหมัดช่างดูดุดัน หมัดของนางทรงพลังสามารถล้มผู้ใหญ่ได้จริงๆ

เหวินรั่วเสวี่ยและเหวินไคเฉิงต่างไม่คาดคิดว่าน้องสาวตัวเล็กของพวกเขาจะมีความสามารถเช่นนี้

“พี่สาวข้าอยู่นี่แล้ว ท่านไม่ต้องกลัวนะ” ในขณะที่พูดซานเป่าก็ตบไปที่หน้าอกเล็กๆ ของนาง คุณหนูสกุลเหวินมองดวงตาที่สดใสของซานเป่า นางพยักหน้ารับ

“ใช่แล้ว ข้าไม่กลัว!”

เหวินไคเฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก เด็กน้อยตัวจิ๋วช่างมีความสามารถจริงๆ

โครกคราก…เสียงท้องของเหวินรั่วเสวี่ยคำรามออกมา ใบหน้าของนางนั้นเปลี่ยนเป็นสีแดง เด็กสาวก้มหน้าหลบอย่างเขินอาย พวกเขาถูกจับมาในตอนเช้า จนกระทั่งเดินทางมาถึงกระท่อมแห่งนี้ทั้งสามก็ยังไม่ได้กินข้าวเลย ซานเป่าคลำหาของที่อยู่ในแขนเสื้อของตนหยิบขนมออกมาหนึ่งชิ้น ก่อนจะส่งให้เหวินรั่วเสวี่ย

“น้องสาวกินเถอะ ข้าไม่หิว” เหวินรั่วเสวี่ยไม่รับ

พวกเขาต่างหิวโหยเหมือนๆ กันทุกคน น้องสาวอายุน้อยที่สุดเขาควรจะให้เด็กน้อยกินก่อน

“ข้ายังมีอยู่อีก” ซานเป่าหยิบอีกชิ้นออกมาจากหน้าอกของนาง

“ขอบคุณนะน้องสาว” เหวินรั่วเสวี่ยหิวมากจึงรีบรับไป ซานเป่ายื่นอีกชิ้นหนึ่งให้แก่เหวินไคเฉิง

“ข้าไม่เอา” เหวินไคเฉิงปฏิเสธ

ซานเป่าเขย่งเท้าแกว่งขนมไปมาใต้จมูกของเหวินไคเฉิง จนเขาอดกลืนน้ำลายไม่ได้ แต่กลับควบคุมความอยากกินเอาไว้

“เจ้ากินเถอะ ข้าเป็นผู้ชาย ทนไปสักมื้อสองมื้อก็ไม่เป็นไรหรอก”

“เมื่อเช้าข้ากินมาเยอะจนท้องป่องแล้ว” ซานเป่าตบหน้าท้องของนางเบาๆ

เหวินไคเฉิงชำเลืองมองแต่ยังไม่อยากกิน ไม่ว่าตอนเช้าเขาจะกินเยอะเพียงใด ตัวเขายังคงหิวตลอด ซานเป่าอ้วนท้วนเช่นนี้น่าจะหิวเร็วกว่าเขาเป็นแน่

“น้องชาย ของเจ้า” เหวินรั่วเสวี่ยแบ่งขนมครึ่งหนึ่งในกับไคเฉิง ในตอนที่เขากำลังจะปฏิเสธพี่สาวก็ยัดขนมเข้าปากเขา ทำให้เขาไม่มีทางเลือกนอกจากกลืนลงไป

ทั้งสามคนกินขนมสองชิ้นด้วยกัน ทำให้ท้องของพวกเขารู้สึกสบายขึ้นเล็กน้อย

ซานเป่าเดินไปที่ประตูมองลอดออกไปทางช่องว่าง เป็นเพราะพวกโจรเห็นว่าทั้งสามคนเป็นเพียงเด็กน้อย ไม่น่าจะหาทางหนีรอดไปได้ พวกมันจึงชะล่าใจไม่หาใครมาเฝ้าประตูเอาไว้ อีกทั้งคงเห็นว่าประตูลงกลอนไว้อย่างแน่นหนาดีแล้ว

หลังจากที่เฝ้าสังเกตสักพัก ซานเป่าก็เห็นโจรบางคนเข้ามาในระยะสายตา พวกเขามีดาบเล่มใหญ่คาดอยู่ที่เอว ตัวล่ำสันดูท่าทีโหดร้าย ซานเป่าขมวดคิ้ว นางสามารถเอาชนะคนเหล่านี้ได้ แต่ถ้ามีคนมากไปก็ออกจะเกินกำลังนาง

เด็กหญิงเดินไปรอบๆ โรงเก็บฟืน ใช้มือน้อยๆ สัมผัสผนังเป็นครั้งคราวว่ามีส่วนใดผุพังบ้างหรือไม่? มีช่องที่นางสามารถคลานออกไปได้หรือเปล่า? ซานเป่าเดินไปมาในที่สุดดวงตาของนางก็ไปสบเข้ากับหน้าต่างของโรงเก็บฟืน แต่ว่ามันสูงมาก ต่อให้นางยืนเขย่งเท้าก็ยังไม่อาจเอื้อมถึง

“พี่ชายท่านลองยืนขึ้นหน่อยสิ” ซานเป่ากล่าว

เหวินไคเฉิงยืนขึ้น ซานเป่ามองไปยังความสูงระหว่างเด็กหนุ่มกับหน้าต่างด้วยสีหน้าครุ่นคิด

“ยัยหนูเจ้าจะออกไปทางหน้าต่างหรือ!” เหวินไคเฉิงมองไปยังหน้าตาพูดด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น

“ชู่ส์ เงียบ!” ซานเป่าขู่

เหวินไคเฉิงหุบปากอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็มีเสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อยๆ พวกเขาได้ยินเสียงปลดกลอน ชายสองคนเดินเข้ามาด้านในคนหนึ่งตัวสูงอีกคนตัวเตี้ย ในมือของมีของสองสามอย่าง มันโยนของใส่หน้าเด็กๆ

“กินซะจะได้ไม่อดตาย”

ชายร่างสูงสายตาหื่นกระหาย เขากวาดตามองไปยังเด็กทั้งสามก่อนจะไปหยุดที่เหวินรั่วเสวี่ย เด็กสาวมีผิวขาวรูปร่างเจ้าเนื้อ แม้จะยังไม่โตเต็มที่แต่ก็เห็นเค้าลางของความงามบ้างแล้ว

เขาจะไปเคยเห็นเด็กสาวที่สวยงามเช่นนี้ได้ที่ไหนกัน ตอนที่เขาเจอนางครั้งแรกก็รู้สึกถูกใจ ยิ่งได้มาเห็นนางชัดๆ ยิ่งรู้สึกคันยุบยิบมากขึ้น

“เจ้ามองอะไร!”

เหวินไคเฉิงพูดอย่างโกรธๆ ก่อนจะเดินไปขวางหน้าเหวินรั่วเสวี่ย

“คิดว่าตัวเองยังเป็นคุณชายอยู่อีกหรือ?!” ชายร่างสูงเดินเข้าไปตบหน้าเหวินไคเฉิงทันที

“ไอ้เด็กสารเลว!”

ทั้งเหวินรั่วเสวี่ยและซานเป่าตกตะลึง ร่างเล็กๆ ของซานเป่าปาดเข้าไปขวางหน้าเหวินไคเฉิงทันที นางกำมือแน่นแล้วจ้องมองไปยังอีกฝ่ายด้วยสายตาดุร้าย ผู้ชายคนนี้ตัวใหญ่มากจนดูราวกับจะทุบนางตายได้ในหมัดเดียว

เมื่อเห็นว่าซานเป่าอายุพอๆ กับลูกสาวของตน โจรตัวเตี้ยจึงทนดูไม่ได้ เขารีบคว้าตัวโจรตัวสูงเอาไว้พูดอย่างปลอบประโลมว่า

“เหล่าฉี อย่าตีเด็กเลย มันจะตายเอาได้ หัวหน้าก็บอกแล้วว่าให้ไว้ชีวิตเด็กๆ”

ชายร่างสูงหยุดมือ มันกวาดสายตามองเหวินไคเฉิงและเหวินรั่วเสวี่ย จากนั้นจึงได้หันหลังเดินจากไป ชายร่างเตี้ยหยิบซาลาเปาสองลูกออกมาจากอกของตนยัดให้กับซานเป่าก่อนจะออกจากประตูพร้อมลงกลอนไว้เช่นเดิม

ซานเป่ามองซาลาเปาสีขาวสองลูกในอ้อมแขน เด็กหญิงกลืนน้ำลาย อึดใจต่อมาซาลาเปาถูกคว้าไป

“ข้าหิวแทบตายแล้ว ขอกินก่อนล่ะ”

เหวินไคเฉิงหยิบซาลาเป่าบิออกมาครึ่งชิ้น เขากินจนหมด

ส่วนที่เหลือก็ยังไม่ให้กับซานเป่ากับรั่วเสวี่ยกิน จนกระทั่งผ่านไปครึ่งชั่วยามจึงได้ยื่นให้กับเด็กหญิงทั้งสองคน

ซานเป่าคิดว่าเหวินไคเฉิงคงอยากทดสอบว่าในนั้นมียาพิษหรือไม่ แม้ว่าซานเป่าจะยังไม่มีประสบการณ์บนโลกนี้มากนักแต่พี่รองของนางมักจะเล่าเรื่องต่างๆ ให้ฟังเสมอ เด็กหญิงเข้าใจว่าคนเลวมักจะวางยาพิษในอาหาร … เมื่อนึกถึงพี่ชายคนรองของนาง ซานเป่าก็อดไม่ได้ที่จะเบะปาก

นางคิดถึงพี่รอง คิดถึงท่านพ่อท่านแม่ พี่ใหญ่ พี่สวี่เจวี๋ย…นางอยากกลับบ้าน เมื่อคิดเช่นนี้ซานเป่ารู้สึกเศร้าเล็กน้อยจนอยากจะร้องไห้ ทว่า นางต้องเข้มแข็ง!

ท่านแม่กล่าวว่าเด็กที่กล้าหาญจะต้องสงบสติอารมณ์ได้เมื่อเจอเหตุการณ์อันตราย!

ซานเป่ามองไปที่หน้าต่าง หากมืดลงพวกเขาจะหนีออกไปทางนั้น แต่ยังไม่ทันที่ฟ้าจะมืดผู้ชายร่างสูงสายตาลามกกลับมาอีกครั้ง เขาเดินตรงไปหาเหวินรั่วเสวี่ยพยายามจะพานางออกไปด้านนอก

เหวินไคเฉิงและซานเป่ายืนบังเหวินรั่วเสวี่ยเอาไว้ เด็กหญิงกำหมัดแน่นแววตาของนางดุร้ายมาก ชายคนนั้นดึงดาบเล่มใหญ่ออกมา เงาสะท้อนของใบหน้าเขาบนดาบเต็มไปด้วยความเย็นชา

เหวินรั่วเสวี่ยมองไปที่ดาบเล่มใหญ่ก่อนจะมองไปยังน้องชายน้องสาวที่อยู่ตรงหน้า… ดาบเล่มใหญ่ขนาดนั้น คงปลิดชีวิตน้องๆของนางแน่นอน

ไม่! นางจะปล่อยให้เด็กทั้งสองตายเพราะนางไม่ได้! เด็กสาวกัดริมฝีปากก่อนจะเดินไปหาชายคนนั้น

“ข้าจะไปกับเจ้า อย่าทำร้ายพวกเขาเลย”

“ท่านพี่!”

“พี่สาว!”

เหวินรั่วเสวี่ยมองไปยังเด็กทั้งสอง

“ข้าไม่เป็นอะไร พวกเจ้ารอที่นี่จนกว่าข้าจะกลับมา”

เหวินรั่วเสวี่ยถูกพาตัวออกไป จากนั้นเขาก็ลงกลอนประตุอีกครั้ง

“ไอ้สารเลว! เดรัจฉานตัวนั้นมันคิดจะทำอะไร?!” ตอนนี้เหวินไคเฉิงเหมือนสัตว์ร้ายตัวจิ๋วที่พยายามเตะประตูอย่างบ้าคลั่ง

ไคเฉิงกำลังจะเป็นบ้า!

ซานเป่าหมอบอยู่ที่ระหว่างรอยแตกของประตูเฝ้ามองอยู่ครู่หนึ่ง นางพยายามจำว่าเหวินรั่วเสวี่ยถูกพาตัวไปในทิศทางไหน

“พี่เหวิน ออกทางหน้าต่างไปช่วยพี่สาวกันเถอะ!” ซานเป่าพูดอย่างหนักแน่น

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท