เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 333 ย้ายเข้าเมืองหลวง

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 333 ย้ายเข้าเมืองหลวง

หลังจากเอกสารการโอนย้ายตำแหน่งของเว่ยฉิงออกมาแล้ว ถังหลี่และเว่ยฉิงจึงย้ายเข้าเมืองหลวง การสอบหน้าพระที่นั่งถูกจัดขึ้นทุกๆสามปี ในตอนนี้ยังเหลือเวลาอีกหนึ่งปีก่อนที่จะมีการสอบในครั้งต่อไป ถึงแม้ว่าต้าเป่าและสวี่เจวี๋ยยังเรียนไม่ครบตามหลักสูตรของโรงเรียน แต่พวกเขาได้รับการสั่งสอนจากตู้ชิงหยู นางยินดีที่จะตามถังหลี่ไปทุกที่อยู่แล้ว ดังนั้นการไปเมืองหลวงจึงไม่ได้เป็นเรื่องที่กระทบต่อการเรียนของเด็กทั้งสองคน ถังหลี่และเว่ยฉิงจึงไม่มีเรื่องอะไรให้ต้องวิตกกังวล

ส่วนทางครอบครัวของเถ้าแก่เนี้ยฮวา เนื่องจากจั๋วชูยังเรียนไม่จบประกอบกับลูกชายของนางยังมีอายุน้อยเกินกว่าจะเดินทางไกลได้ นางจึงตัดสินใจอยู่ที่มณฑลชิงเหอไปก่อนชั่วคราว เมื่อจั๋วชูเรียนจบแล้วจึงจะเดินทางไปสอบที่เมืองหลวง พวกเขาจึงรอที่จะย้ายครอบครัวไปเมืองหลวงอีกครั้ง

หมอซูและฮูหยินซู รู้ว่าถังหลี่จะไปเมืองหลวง สามีภรรยาทั้งคู่รู้ดีถึงเรื่องยากลำบากที่นางจะต้องประสบในภายหน้า ทั้งคู่จึงยืนยันที่จะไปกับพวกเขา

เช่นนั้นแล้วการเดินทางไปเมืองหลวงจึงเป็นไปอย่างเอิกเกริก ตั้งแต่ที่ถังหลี่ก้าวเท้าเข้าเมืองหลวงนางย่อมรู้ดีว่าการต่อสู้เผชิญหน้าของนางกับกู้อิ๋นกำลังจะเริ่มขึ้นแล้ว

ขบวนรถม้าหลายคันจึงได้แล่นไปตามถนนสู่เมืองหลวงอย่างคึกคัก มณฑลชิงเหอตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของแคว้นต้าโจว ในขณะที่เมืองหลวงตั้งอยู่ทางทิศเหนือ ในช่วงฤดูเดียวกันอากาศทางเมืองหลวงจะหนาวเย็นกว่าทางมณฑลชิงเหอมาก

มณฑลชิงเหอแม้ว่าจะมีขนาดใหญ่มากแต่ความเจริญกลับเป็นไปแค่หนึ่งส่วนเมื่อเทียบกับเมืองหลวง

เมืองหลวงเต็มไปด้วยผู้คนใส่เสื้อผ้าสวยงามเดินไปตามท้องถนนอย่างคึกคัก รถม้าวิ่งสวนผ่านไปมาจอแจ เทียบกับเมืองชิงเหอแล้วเห็นได้ว่าเมืองหลวงแห่งนี้มั่งคั่งมากแค่ไหน อาจจะกล่าวได้ว่าหากแผ่นป้ายตกลงมาโดนคนเดินถนนก็ไม่แน่ว่าอาจจะเป็นราชนิกูลหรือเชื้อพระวงศ์คนใดคนหนึ่งก็เป็นได้

เด็กๆ ต่างพากันตื่นตาตื่นใจอยากรู้อยากเห็นเกี่ยวกับเมืองหลวงมาก จึงเปิดม่านหน้าต่างรถม้าออกดู

เมื่อเห็นสิ่งน่าสนใจ ซานเป่าจะเข้ามากระซิบข้างหูมารดาอธิบายให้นางฟังอย่างตื่นเต้น ถังหลี่เห็นใบหน้าเล็กๆ ของลูกสาวก็อดไม่ได้ที่จะยื่นมือไปบีบเล่นอย่างหยอกเย้า

ปีนี้ซานเป่าอายุแปดขวบแล้ว ใบหน้าสวยงามมากขึ้นเรื่อยๆ แม้ว่ายังมีรูปร่างสมบูรณ์อ้วนกลมไปบ้างแต่อีกไม่กี่ปีนางจะเติบโตเป็นสาวงามผอมเพรียวอย่างแน่นอน

ถังหลี่รอคอยวันนั้น ในขณะเดียวกันก็รู้สึกกระวนกระวายใจไม่น้อย อารมณ์เต็มไปด้วยความรู้สึกหลากหลาย

บางครั้งการเฝ้าดูเด็กๆ เติบโตขึ้นก็เต็มไปด้วยความรู้สึกราวกับตนเองประสบความสำเร็จในการเลี้ยงดูบุตรมาเป็นอย่างดี ทว่าอีกใจหนึ่งก็ไม่อยากให้พวกเขาเติบโต อยากให้ตัวเล็กๆ เหมือนนางฟ้าตัวน้อยๆ ที่นางจะคอยเฝ้าดูอยู่ได้ตลอดเวลา หากเด็กๆ โตขึ้นย่อมแยกย้ายไปสร้างครอบครัวใหม่ของตน อีกไม่นานก็ลืมบิดามารดาของตนไป

ถังหลี่ย่อมตระหนักในข้อนี้ดี นางจึงได้หวงแหนช่วงเวลาที่จะได้อยู่กับลูกๆ ของนาง

เมื่อขบวนรถม้าใหญ่โตได้มาถึงจวนของท่านอู่โหว ซึ่งเดิมทีก่อนจากไปมณฑลชิงเหอมีแค่สามคนเท่านั้น แต่ยามกลับมายังเมืองหลวงกลับกลายเป็นครอบครัวใหญ่ไปเสียได้

ฮูหยินอู่ มองเว่ยฉิงและถังหลี่ที่ยืนอยู่ข้างกัน จากนั้นจึงมองไปที่บุตรชาย อาหยูและเด็กๆ ทั้งสี่คนไล่เรียงกัน เว่ยจื่ออั๋ง สวี่เจวี๋ย เว่ยจื๋ออี้และซานเป่า นางรู้สึกพึงพอใจกับชีวิตที่สมบูรณ์เช่นนี้ของตนเองเหลือเกิน

อาหยูเงยหน้าขึ้นมองประตูจวน เขายิ้ม ในที่สุดเขาก็ได้กลับบ้านแล้ว นี่เป็นสถานที่เขามีความสุขในชีวิตวัยเยาว์ เป็นที่ที่เขาฝันถึงมาตลอดทุกค่ำคืนที่หมู่บ้านนรกแห่งนั้น เดิมทีเขาไม่คิดว่าตนเองจะได้กลับมาที่นี่อีกแล้ว เขาช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้กลับมาแสดงความกตัญญูต่อบิดามารดาของเขา

“อาหยูถึงบ้านเราแล้ว” ฮูหยินอู่จับมือเขาเอาไว้

เขาหันไปมองมารดาก่อนพยักหน้า

“ข้ากลับบ้านแล้ว” หลิวหลานที่ยืนอยู่ข้างๆ เขายิ้มออกมาเช่นกันเมื่อเห็นฉากอันอบอุ่นของสองแม่ลูก

เมื่อครอบครัวทั้งหมดย้ายมา จวนอู่โหวที่ทิ้งร้างมานานก็มีชีวิตชีวาเพิ่มขึ้น

จวนอู่โหวมีขนาดใหญ่มาก เว่ยฉิงและถังหลี่อยู่ในลานบ้านเดียวกัน อาหยูและหลิวหลานต่างมีลานเป็นของตนเอง เด็กๆ อยู่ด้วยกันกับตู้ชิงหยู หมอซูและภรรยาก็อยู่ลานแยกไปต่างหาก ถึงกระนั้นก็ยังมีลานว่างเหลืออยู่อีกมาก

ถังหลี่นั่งรถม้ามาเกือบเดือนแล้ว ไม่ว่าร่างกายจะแข็งแรงขนาดไหน นางย่อมเหน็ดเหนื่อยเป็นธรรมดาจนไม่มีเรี่ยวแรงที่จะไปซื้อของอีก หลังจากอาบน้ำแล้วถังหลี่จึงได้ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างอย่างสบายใจ

เว่ยฉิงอาบน้ำเสร็จแล้ว เขาเอนกายนอนช้างภรรยาเช่นกัน ถึงจะแปลกสถานที่ไม่คุ้นชิน แต่ยังมีลมหายใจของเว่ยฉิงที่ทำให้ถังหลี่สบายใจ เว่ยฉิงเปลือยกายท่อนบนเห็นหน้าอกเป็นแผงแข็งแรงของเขา เขากางแขนโอบกอดภรรยาเอาไว้ในวงแขน

“นอนเถอะ”

“อืม” ถังหลี่รับคำด้วยน้ำเสียงขึ้นจมูก นางผล็อยหลับไปอย่างรวดเร็ว เมื่อถังหลี่ตื่นขึ้นมา นางสบตากับเว่ยฉิง ทั้งคู่มองหน้าอดที่จะยิ้มให้กันไม่ได้ แม้ว่าจะมีการต่อสู้ที่หนักหน่วงรออยู่ข้างหน้า ต้องฝ่าฟันภูเขาดาบและทะเลเพลิงตราบใดที่เขาทั้งสองคนยังอยู่เคียงคู่จับมือเผชิญหน้าอุปสรรคทั้งปวงด้วยกันย่อมไม่มีสิ่งใดต้องกลัว

เว่ยฉิงจูบนางที่แก้ม จากนั้นจึงได้ลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัวเปลี่ยนเสื้อผ้า ถังหลี่ก็ลุกขึ้นเช่นกัน หลังจากอาบน้ำเสร็จคนรับใช้จึงได้นำอาหารเช้ามาให้

วันนี้เป็นวันแรกที่เว่ยฉิงเพิ่งเข้ามารับตำแหน่ง เขาจึงไม่ได้ไปกระทรวงยุติธรรมเพื่อรายงานตัว แต่พาลูกๆ ทั้งห้าคน เว่ยจื่ออั๋ง สวี่เจวี๋ย เว่ยจื่ออี้ ซานเป่าและตู้เสี่ยวไป๋ไปเดินเล่นรอบๆ เมืองหลวง

เมืองหลวงดูมีชีวิตชีวาแตกต่างจากมณฑลชิงเหอ เว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี่๋ยเคยเดินทางไปต่างเมืองกับตู้ชิงหยู พวกเขาเคยเห็นของแปลกๆ มากมาย จึงไม่ได้แปลกใจหรือตื่นเต้นมากนัก ส่วนตู้เสี่ยวไป๋เคยอยู่เมืองหลวงมานานหลายปี เขาย่อมคุ้นชินเป็นอย่างดี เหลือเพียงเว่ยจื่ออี้และซานเป่าเท่านั้นที่ตื่นตาตื่นใจเพราะไม่เคยเห็นเมืองหลวงมาก่อนในชีวิต

ตู้เสี่ยวไป๋ชี้โน้นชี้นี่ให้ซานเป่าดูตลอดทาง ดวงตาของนางเบิกกว้าง มองตู้เสี่ยวไป๋ด้วยสายตานับถือ เยินยอ จนตู้เสี่ยวไป๋แทบจะตัวลอยขึ้นไปในท้องฟ้า ทั้งครอบครัวพากันเดินเล่นรอบๆ เมืองอยู่นานก่อนจะกลับบ้าน

เมืองหลวงใหญ่โตมาก พวกเขาแค่ชมดูเพียงส่วนเดียวชองเมืองหลวงเท่านั้น ทั้งเว่ยจื่ออี้และซานเป่ายังชมดูไม่พอ พวกเขาจึงพากันนัดหมายตู้เสี่ยวไป๋เพื่อไปซื้อของอีกในวันรุ่งขึ้น

วันถัดมา เว่ยฉิงไปรายงานตัวที่กระทรวงยุติธรรม ส่วนถังหลี่เดินทางไปที่จวนสกุลกู้ซึ่งตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือของเมืองหลวง อยู่ใกล้กับพระราชวังมาก ทางเข้าคือถนนจูเชวี่ยอันกว้างขวาง ที่หน้าประตูจวนสกุลกู้มีสิงโตหินตั้งตระหง่านอยู่สองตัว มีแผ่นป้ายเขียนตัวหนังสือเอาไว้ว่า

“จวนแม่ทัพสกุลกู้”

ถังหลี่ยืนมองจวนใหญ่โตโออ่าสง่างาม เมื่อร่างเดิมหายไปตอนที่อายุได้สองขวบ เด็กน้อยได้รับการเลี้ยงดูในชนบทเป็นอย่างดีจากพ่อแม่บุญธรรมของนางจนเติบโตเข้าวัยสาว เรียกได้ว่ามีความเป็นอยู่ที่ดี แต่หายนะในชีวิตกลับมาจากผู้ที่นางคบหาเป็นเพื่อนสนิท ขโมยจี้หยกของนาง ขโมยสถานะตัวตนของนางไป ขายนางให้กับซ่องแห่งหนึ่ง หากถังหลี่ไม่ได้ทะลุเข้ามาในร่างเดิม นางคงจะได้ตายอย่างน่าเวทนาในซ่องแห่งนั้น ส่วนกู้อิ๋นที่มาแทนที่นั้นได้กลายเป็นบุตรสาวที่ท่านแม่ทัพโปรดปรานที่สุด นางได้แต่งงาน และสุดท้ายก็กลายเป็นมารดาของแผ่นดิน

คนดีจบชีวิตอย่างไร้ชื่อ คนเลวกลับรุ่งโรจน์

ไม่ยุติธรรมเลยสักนิด!

ในเมื่อถังหลี่ได้เข้ามาอาศัยร่างเดิมแล้ว นางจึงต้องการที่จะต่อสู้เอาชนะกู้อิ๋นผู้ครอบครองรังนกกางเขนมานานเพื่อกลับคืนสู่สถานะเดิม

ก่อนหน้านี้นางต้องรอสองสามปีเพื่อหลีกเลี่ยงความเสียเปรียบ ตอนนี้กู้อิ๋นเป็นคุณหนูในจวนสกุลกู้แล้ว นางยังมีรัศมีนางเอกเต็มตัว ส่วนถังหลี่และสามียังเป็นเพียงคนธรรมดาเท่านั้น พวกเขายังไม่มีกำลังที่จะต่อสู้

ตอนที่ร่างเดิมได้หลงหายไปนั้นนางยังอายุน้อย มีหลักฐานติดตัวเพียงชิ้นเดียวคือจี้หยกที่ถูกขโมยไปแล้วเท่านั้น ไม่มีทางใดเลยที่จะพิสูจน์ตัวตนของนางได้ ยิ่งไปกว่านั้นกู้อิ๋นยังมีคนปกป้องเป็นจำนวนมาก ทันทีที่เข้าใกล้จวนสกุลกู้นางอาจโดนบดขยี้แหลกก่อนที่จะเข้าถึงตัวกู้อิ๋นก็เป็นได้ ถังหลี่จึงจำเป็นต้องหลีกเลี่ยงคมดาบไปก่อน

ตอนนี้สามปีผ่านไปแล้ว พลังปีศาจของนางกลับคืนมามากพอที่จะปกป้องตนเองและครอบครัวของนางได้ ทั้งสามีของนางยังมีตัวตนได้รับการสนับสนุนเป็นอย่างดีจากใต้เท้าเหวิน เขามีความสามารถ เป็นขุนนางที่โดดเด่นมีอนาคต ทั้งคู่เติบโตขึ้นมากจากสามปีที่ผ่านมา

ตอนนี้ถึงเวลาแล้ว ดวงตาของถังหลี่หรี่ลง ส่องประกายเย็นชา

กู้อิ๋น…ข้าจะเป็นคนลงโทษสำหรับความชั่วร้ายที่เจ้าได้กระทำลงไปเอง

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท