บทที่ 337 กู้หวนจิ่น
“เจ้าเป็นใคร ข้าไม่รู้จักเจ้า” ชายผู้นั้นสะบัดตัวพยายามหนีทันที
“กู้หลาง ข้าหลู่เหนียงอย่างไรเล่า ท่านพูดว่าจะแต่งงานกับข้า ข้าจึงพลีกายของข้าให้กับท่าน เหตุใดท่านจึงไม่รู้จักข้าเสียแล้ว?” หญิงสาวมองเขาด้วยแววตาประหลาดใจ
“จุ๊ๆ มีเรื่องสนุกให้ชมดูแล้ว” ฮั่วจีว์ยิ้มกริ่ม
“คนผู้นี้เป็นบุตรชายคนที่สามของตระกูลกู้ ชื่อกู้หวนจิ่น” ไป๋มู่หยางกระซิบอธิบายข้างหูถังหลี่…เขาคือพี่สามของนาง
ชายหนุ่มเจ้าสำอางผู้นี้เป็นพี่ชายนางหรือ? ทั้งกู้หวนจิ่นและฮั่วจีว์ ต่างเป็นหนุ่มเจ้าสำราญที่มีชื่อเสียงในเมืองหลวง ทั้งสองไม่ชอบขี้หน้ากันเป็นอย่างมาก พวกเขามักจะไม่ไว้หน้ากันเมื่อได้เห็นอีกฝ่าย ดังนั้นเมื่อเห็นเรื่องตลกของกู้หวนจิ่น ฮั่วจีว์ย่อมรู้สึกพอใจ เขาจัดแจงย้ายตัวเองไปที่ม้านั่งตัวเล็กๆ พร้อมกับเมล็ดแตงโมอีกหนึ่งถุง
“เขาเอาเปรียบสาวน้อยเช่นนี้ได้อย่างไร? ช่างน่าไม่อาย” ฮั่วจีว์ก่นด่าในขณะที่ถังหลี่เฝ้าสังเกตดูกู้หวนจิ่นและหญิงผู้นั้นที่ยังพล่ามไม่หยุด
“ข้าไม่รู้จักเจ้าเลยด้วยซ้ำ นี่เจ้าพูดอะไรเหลวไหล ปล่อยข้า!” กู้หวนจิ่นขมวดคิ้ว
“กู้หลาง ข้าตั้งท้องบุตรของท่าน แต่ท่านพูดเช่นนี้กับข้าได้อย่างไร? สัญญาของท่านล้วนเป็นเรื่องโกหกหรือ?” นางต่อว่าเขา
ในขณะที่นางตัดพ้อต่อว่าเขา น้ำตาก็ไหลออกมา ไม่ช้าผู้คนแถวนั้นก็เริ่มพากันมามุงดู
“เขาคือคุณชายสามของสกุลกู้ไม่ใช่หรือ? เขาจะไม่รับผิดชอบการกระทำของตัวเองหรือ?”
“ใช่ สตรีผู้นี้น่าสงสาร ทำไมนางต้องมาเจอบุรุษไร้ยางอายแบบนี้ด้วย!”
“แม่ทัพกู้ต่อสู้เพื่อแผ่นดินจนชื่อเสียงโด่งดัง แต่เขากลับเลี้ยงบุตรชายเติบโตมาเป็นเช่นนี้ได้อย่างไร”
ผู้คนที่สัญจรไปมาเริ่มวิพากษ์วิจารณ์
“เป็นไปไม่ได้! ข้าไม่เคยรู้จักเจ้า เจ้าจะมาท้องบุตรของข้าได้อย่างไร!”
“หยุดใส่ร้ายข้าเสียทีเถอะ บอกพวกเขาว่าเราไม่รู้จักกัน!” กู้หวนจิ่นเถียง
กู้หวนจิ่นเป็นบุรุษมากรักที่มีชื่อเสียงไม่ดีอยู่แล้ว นอกจากนี้ผู้หญิงดีๆ ที่ไหนจะจงใจทำลายชื่อเสียงตัวเองเพื่อใส่ร้ายคนอื่น? ดังนั้นไม่ว่ากู้หวนจิ่นจะปฏิเสธเช่นไรก็ไม่มีใครเชื่อเขา คนที่ผ่านไปผ่านมาเห็นเช่นนั้นก็เอาแต่คิดว่าเขาอยากปัดความรับผิดชอบ ไร้มนุษยธรรม! มีบางคนที่ทนไม่ได้อยากจะเข้ามาจัดการเขา!
“กู้หลาง ข้าเป็นคนของท่านแล้ว แม้ยามตายเป็นผีก็ย่อมเป็นคนของท่านเช่นกัน หากท่านไม่รับผิดชอบก็ให้แม่ทัพกู้เป็นคนตัดสิน!”
เมื่อได้ยินว่าอีกฝ่ายจะไปที่จวนสกุลกู้ ขาของกู้หวนจิ่นถึงกับอ่อนแรง บิดาไม่ค่อยชอบเขานัก หากชื่อเสียงของจวนแม่ทัพมีมลทินเพราะเขา บิดาย่อมต้องหักขาเขาเป็นแน่
“เหตุใดเจ้าจึงใส่ร้ายข้า! การใส่ร้ายป้ายสีเป็นการผิดกฎหมายของต้าโจว! และข้าสามารถฟ้องร้องเอาเรื่องเจ้าได้!”
กู้หวนจิ่นพูดสะบัดตัวหนี หญิงสาวล้มลงไปที่พื้น นางกรีดร้องออกมา ผู้คนที่เดินผ่านไปมาเห็นเช่นนั้นจึงรีบคว้าตัวกู้หวนจิ่น พยายามจะส่งเขากลับไปยังจวนแม่ทัพเพื่อขอความยุติธรรมให้แม่นางผู้นี้
ใบหน้าของชายหนุ่มแดงก่ำด้วยความโกรธ เขาถูกใส่ร้ายเหตุใดจึงไม่มีคนเชื่อเขา! ไม่ว่าเขาจะไร้เหตุผลเพียงใดแต่เขาไม่เคยทำร้ายผู้หญิง!
หญิงสาวที่ล้มลงได้รับความช่วยเหลือจากถังหลี่
“ขอบคุณแม่นาง” มือของนางถูกถังหลี่คว้าไว้ นางต้องการจะดึงมือกลับ หากถังหลี่กลับจับไว้ไม่ปล่อย
“แม่นางตั้งครรภ์หรือ?” ถังหลี่ถาม
นางหันไปมองเห็นดวงตาสีดำตัดขาวอย่างชัดเจนของถังหลี่ อดเผลอมองอย่างไม่รู้ตัว
“ใช่ สามเดือนแล้ว” นางลูบท้องตัวเอง
“กู้หลางไร้ความรับผิดชอบ ลูกของข้าคงไร้พ่อตั้งแต่เกิด เหตุใดเราสองแม่ลูกถึงอาภัพเช่นนี้”
ในขณะที่พูด นางสะอื้นร่ำไห้อีกครั้ง ทำให้คนที่สัญจรไปมาโกรธกู้หวนจิ่น พยายามลากเขาไปที่จวนแม่ทัพให้ได้ ทว่าก่อนพวกเขาจะพากันเดินไปก็ถูกถังหลี่หยุดเอาไว้
“ทุกท่านได้โปรดฟังข้าก่อน” ถังหลี่พูดเสียงดัง
สายตาของผู้คนจ้องมาที่นาง
“ข้าไม่รู้ว่าทั้งสองฝ่ายเกี่ยวข้องกันเช่นไร แต่ข้ามีข้อสงสัยบางอย่าง ข้าคิดว่ามันแปลกมากเพราะแม่นางผู้นี้ไม่ได้ตั้งครรภ์”
“ข้าเพิ่งจับชีพจรของนาง ไม่มีวี่แววว่านางตั้งครรภ์แม้แต่น้อย”
แม้ถังหลี่จะไม่มีทักษะทางการแพทย์ แต่นางรู้จักกับหมอซูมาหลายปีแล้ว ทำให้ถังหลี่มีความสามารถที่จะจับชีพจรได้
หญิงสาวผู้นั้นหน้าเสีย
“ไม่ได้ท้อง?” ผู้คนเหล่านั้นต่างจับจ้องมองนางเป็นตาเดียวกัน
ดวงตาของนางลุกลี้ลุกลนขึ้นมาทันที
“ข้า…ข้าไม่ได้ท้อง ข้าแค่ไม่อยากให้เขาไปจากข้า แต่ข้าตกเป็นของเขาแล้วจริงๆ ข้าเป็นผู้หญิง เหตุใดข้าต้องโกหกเรื่องนี้ด้วย”
“ไม่ได้โกหกจริงๆ หรือ?” ถังหลี่จ้องมอง เมื่อนางสบตากับถังหลี่ หญิงสาวรู้สึกเวียนหัว นางไม่สามารถควบคุมปากของตนเองได้
“ข้า… ข้าโกหก ข้าไม่รู้จักคุณชายสามของสกุลกู้ แต่มีคนจ้างวานข้าด้วยเงินจำนวนมากขอให้ข้าใส่ร้ายเขา…” หญิงสาวพูดสารภาพออกมาโดยไม่รู้ตัว
หากเรื่องที่นางพูดเป็นเรื่องจริง นายน้อยกู้ก็ไม่ได้รู้จักผู้หญิงคนนี้ พวกเขาโดนนางหลอกหรือ?
พวกชาวบ้านเริ่มรับรู้พวกเขาปล่อยกู้หวนจิ่นไป
ชายหนุ่มจัดแจงเสื้อผ้าของตัวเอง เมื่อเขาหันไปอีกครั้ง หญิงสาวที่เข้ามาใส่ร้ายเขาเมื่อครู่ก็ได้อันตรธานหายตัวไปแล้ว ทุกอย่างเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว
นี่ไม่ใช่แค่การใส่ร้ายเขาเท่านั้น แต่เป็นการทำลายชื่อเสียงของสกุลกู้อีกด้วย แม้ว่าเขาจะดูเสเพลแต่ตัวเขาเองก็มีกฎของตัวเองเช่นกัน เรื่องเลวทรามเช่นนี้กู้หวนจิ่นย่อมไม่ทำอย่างแน่นอน โชคดีที่แม่นางผู้นี้ช่วยเขาไว้ ชายหนุ่มหันไปขอบคุณถังหลี่
“ขอบคุณแม่นาง”
กู้หวนจิ่นต้องขอบคุณนางจริงๆ ที่คืนความบริสุทธิ์แก่เขา มิฉะนั้นแล้วเขาคงจะต้องโดนหักขาเป็นแน่หากถูกจับตัวกลับไปที่จวนสกุลกู้ ถังหลี่มองกู้หวนจิ่น
“ข้าแค่พูดความจริงเท่านั้น”
เมื่อเห็นถังหลี่กู้หวนจิ่นรู้สึกผูกพันกับนางอย่างอธิบายไม่ถูก
“แม่นางมาจากตระกูลไหนหรือ? เหตุใดข้าไม่เคยเห็นมาก่อน”
“เฮ้ กู้หวนจิ่น อย่ายุ่งกับน้องสาวข้าไม่งั้นข้าจะฆ่าเจ้าเสีย”
ฮั่วจีว์ยืนขวางหน้าถังหลี่และขู่ทันที
“น้องสาวเจ้า? ข้าไม่เชื่อ”
“ทำไมไม่เชื่อ? นางเป็นน้องสาวร่วมสาบานของข้า”
กู้หวนจิ่นทำสีหน้าเยาะเย้ยเขา ฮั่วจีว์จึงง้างหมัดคนทั้งสองทำท่าจะต่อสู้กัน
“พี่รองหยุดก่อน” ถังหลี่รีบห้ามทันที
กู้หวนจิ่นรู้สึกว่าหัวใจของเขาสั่นไหวอย่างอธิบายไม่ได้เมื่อได้ยินเสียงนั้น เสียงของนางช่างไพเราะสะกิดไปที่ก้นบึ้งของหัวใจ เมื่อเห็นว่าฮั่วจีว์สนิทสนมกับนางมากเขารู้สึกอิจฉาขึ้นมาอย่างน่าแปลกประหลาด คงจะดีไม่น้อยหากนางเป็นน้องสาวของเขาด้วย
ฮั่วจีว์จ้องไปที่กู้หวนจิ่นด้วยท่าทีดุร้ายเหมือนหมาป่า ทำให้ชายหนุ่มไม่มีโอกาสได้เข้าใกล้ถังหลี่ เขาทำได้แต่เพียงทราบชื่อของนางเท่านั้น และกล่าวว่าหากนางต้องการความช่วยเหลือให้ไปที่จวนแม่ทัพกู้และถามหาเขา ก่อนจะหันหลังจากไป
ฮั่วจีว์ง้างหมัดขู่
“เจ้าจะลักพาตัวน้องสาวข้าหรือ? ข้าทุบเจ้าให้เละแน่!”
ถังหลี่ยิ้มไม่พูดอะไร นับเป็นโชคชะตาจริงๆ ที่นางได้พบกับพี่ชายคนโตและพี่ชายคนที่สามของนางภายในวันเดียวกัน หลังจากที่ถังหลี่ได้พบกับไป๋มู่หยางและฮั่วจีว์แล้ว
เนื่องจากตอนนี้เฉาเช่าได้นำทัพออกไปจากเมืองหลวงนางจึงไม่มีธุระต่อ ดังนั้นหญิงสาวจึงกลับไปที่จวนสกุลอู่
ทันทีที่หน้าไปถึงหน้าจวน องครักษ์เงาที่ซ่อนตัวอยู่ก็ปรากฏตัวขึ้นต่อหน้านางและยื่นจดหมายให้หนึ่งฉบับ เมื่อหญิงสาวเปิดจดหมายอ่านพบว่ามันคือที่อยู่ของฮูหยินกู้ นางให้พวกเขาสืบข่าวที่อยู่ของมารดา ว่ากันว่าแม่ลูกนั้นจะมีความสัมพันธ์บางอย่าง นางเองก็อยากจะรู้ว่าเมื่อได้เจอกันแล้วท่านแม่ของนางนั้นจะเป็นอย่างไร ถังหลี่จึงวางแผนหาโอกาสไปพบอีกฝ่าย
ตามจดหมายแล้วห้าวันหลังจากนี้ฮูหยินกู้จะเดินทางไปที่วัดกานเฉวียนเพื่อสักการะ
“อีกห้าวัน…” ถังหลี่มีท่าทีครุ่นคิด