บทที่ 343 นางเป็นปีศาจจริงๆ
ณ จวนตระกูลอู่
ถังหลี่ได้รับหยกเลือดจากฮูหยินกู้ นางไม่รู้ที่มาที่ไปว่าเป็นหยกที่ท่านแม่ทัพกู้มอบให้กับฮูหยินกู้ สำหรับถังหลี่แล้วนางไม่ได้คิดถึงราคาค่างวดหรือมูลค่าของมัน เพียงแต่เป็นเพราะหยกประดับชิ้นนี้เป็นของขวัญชิ้นแรกที่มารดามอบให้กับนาง จึงถือได้ว่าเป็นของล้ำค่าอย่างหาที่เปรียบไม่ได้ ถังหลี่ลูบไล้หยกสีเลือดด้วยรอยยิ้มที่มุมปาก นางซ่อนหยกเอาไว้อย่างระมัดระวัง
“นายท่าน!” องครักษ์ในเงามืดปรากฏกายออกมาต่อหน้าถังหลี่
หลังจากผ่านไปสามปีเครือข่ายข่าวกรองของถังหลี่ก็เติบโตขยายสาขาออกไปอย่างเต็มที่ทั้งในมณฑลชิงเหอและฉินโจว
แต่สำหรับเมืองหลวงซึ่งเป็นที่อยู่ของบรรดาขุนนางรวมไปถึงกองกำลังต่างๆ นั้น มีเบื้องลึกเบื้องหลังที่ซับซ้อนจนทำให้ถังหลี่ไม่อาจขยายสาขาออกไปได้มากนัก นางไม่อยากสร้างปัญหาจึงได้ละเลยเมืองหลวงไป โชคดีที่มีองครักษ์เงาของเว่ยฉิงทำให้ชดเชยในข้อบกพร่องตรงนี้ไปได้
องครักษ์เงาของเว่ยฉิงถูกแบ่งให้ถังหลี่ใช้งานได้สองคน คนหนึ่งรับผิดชอบติดต่อกับข่าวกรองของถังหลี่ ส่วนอีกคนรับผิดชอบข่าวคราวการเคลื่อนไหวต่างๆ ในเมืองหลวง ทั้งสองคนทำหน้าที่เป็นหูเป็นตาให้ถังหลี่
องครักษ์เงาผู้ที่ยืนอยู่ตรงหน้าถังหลี่ผู้นี้คือ ยามหนุ่มที่นางได้ช่วยชีวิตเอาไว้ เมื่อครั้งที่ถูกองค์กรนักฆ่าเข้าบุกรุกและโจมตีเพื่อจะลักพาตัวซานเป่าไปในมณฑลชิงเหอครั้งนั้น เด็กหนุ่มผู้นี้ได้เติบโตสูงใหญ่ขึ้นมาก รวมไปถึงมีสายตาที่เฉียบคมมากขึ้นอีกด้วย นางไว้ใจให้เขาไปตรวจสอบเรื่องราวต่างๆ
“กู้อิ๋นส่งสาวใช้ไปตรวจสอบและซื้อข้อมูลข่าวสารจาก ‘เงา’ ขอรับ” อันเว่ยรายงาน ถังหลี่พยักหน้า นางไม่แปลกใจแม้แต่น้อยเป็นเพราะนางตั้งใจเผยโฉมหน้าที่แท้จริงของนางให้กู้อิ๋นคาดเดาได้
สามปีที่ผ่านมา นางอ่อนแอไร้กำลังที่จะสู้รบตบมือกับคนผู้นี้ ไม่กล้าแม้แต่จะเผชิญหน้ากับนางตัวต่อตัว ปกป้องแม้กระทั่งหมอซูไม่ได้ด้วยซ้ำ สามปีต่อมาไม่มีอะไรเหมือนเดิมอีกต่อไป
‘เงา’ เป็นชื่อเครือข่ายข่าวกรองของถังหลี่ กู้อิ๋นไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางได้ข้อมูลมาจากถังหลี่เอง ข้อมูลที่นางได้นับจึงมีแต่ทำให้กู้อิ๋นไม่สบายใจ
…..
ในช่วงเวลาเพียงไม่กี่วัน ถังหลี่ไปเยือนจวนแม่ทัพสกุลกู้เกือบทุกวัน ทุกครั้งที่ไปหญิงสาวจะนวดศีรษะให้ฮูหยินกู้พร้อมกับมอบถุงหอมให้นางซึ่งเป็นตำรับยาของหมอซูนั่นเอง ก่อนหน้านี้นางให้ถุงหอมซึ่งนางขายในเมือเหอตง แต่ถุงหอมใหม่นี้เป็นตำรับที่พิเศษสำหรับอาการป่วยของฮูหยินกู้โดยเฉพาะ ทำให้นางนอนหลับได้สนิทมากยิ่งขึ้น
ฮูหยินกู้สนิทกับถังหลี่มากขึ้น ในสายตาของนางแล้วเด็กคนนี้มีความห่วงใยนางและมีน้ำใจกับนางมากจริงๆ ฮูหยินกู้ถึงกับคิดดำริจะรับนางเป็นบุตรสาวบุญธรรมด้วยซ้ำ
ไม่รู้ว่าบิดามารดาของนางเป็นใครช่างโชคดีเหลือเกินที่ได้ให้กำเนิดบุตรสาวที่มีความกตัญญูรู้คุณเช่นนี้
“ฮูหยินหากท่านรับแม่นางถังเป็นบุตรบุญธรรมแล้ว คุณหนูอาจไม่พอใจนะเจ้าคะ”
แม่นมเฉินพยายามหว่านล้อม กู้อิ๋นเป็นบุตรสาวที่หายสาบสูญไปและเพิ่งได้พบตัว เป็นสมบัติที่ล้ำค่าของนาง ฮูหยินกู้รู้สึกผิดและละอายใจไม่น้อย นางอยากให้ของที่ดีที่สุดล้ำค่าที่สุดแก่นาง นางจึงไม่อยากทำร้ายความรู้สึกของกู้อิ๋น ฮูหยินกู้จึงได้ล้มเลิกความคิดนี้ไป แต่กู้อิ๋นก็ยังรู้เรื่องนี้จนได้
ตั้งแต่วันที่นางได้พบถังหลี่นางนอนไม่หลับเลยแม้แต่วันเดียว ใบหน้าของนางหมองคล้ำ ไม่มีสง่าราศี แม้แต่แป้งชาดก็ไม่อาจกลบปกปิดเอาไว้ได้ นางมีลางสังหรณ์ว่าถังหลี่จะเป็นคนมาฉกฉวยแย่งชิงเอาทุกอย่างพรากไปจากนาง
กู้อิ๋นหายใจแทบไม่ออก!
………….
ในเรือนหลัง หลังจากที่ถังหลี่ได้นวดศีรษะให้ฮูหยินกู้เสร็จแล้ว นางได้จับมือถังหลี่เอาไว้พลางถามว่า
“เจ้าเมื่อยหรือไม่?”
“ไม่เลยเจ้าค่ะ ข้ามีความสุขที่ได้ทำให้ท่านสบายขึ้น” ฮูหยินกู้ได้ยินคำตอบของถังหลี่ จู่ๆ นางรู้สึกอบอุ่นขึ้นมาในใจ ช่างเป็นเด็กดีเหลือเกิน
“ท่านแม่” ฮูหยินกู้เหลียวมาเห็นกู้อิ๋น นางยิ้มกว้างอย่างอารมณ์ดี
“อาอิ๋น” ฮูหยินกู้คิดถึงคำพูดของแม่นมเฉิน นางเอื้อมไปจับมือของกู้อิ๋นไว้อย่างรักใคร่
“น้องสาว ข้าปักชุดแต่งงานมาหลายวันแล้วจึงไม่มีเวลาได้พูดคุยกับเจ้าเลย วันนี้ข้าว่างพอดี พวกเราไปเดินกันดีไหม?” กู้อิ๋นหยิบยื่นไมตรีให้นาง
ถังหลี่พยักหน้าอย่างนึกสนุก
“ดีเลยเจ้าค่ะ” ทั้งสองคนเดินจับมือออกจากห้องไปยังเรือนกู้อิ๋นอย่างสนิทสนม ระหว่างทางนางตะล่อมถามคำถามกับถังหลี่เพื่อค้นหาตัวตนของนางว่าเป็นเด็กโง่จากหมู่บ้านลี่เจียผู้นั้นหรือไม่?
ถังหลี่ตอบอย่างรู้ทัน ยิ่งกู้อิ๋นถาม ในใจของนางปั่นป่วนมากยิ่งขึ้นจนกระทั่งนางไม่อาจจะถามต่อไปได้อีก ใบหน้าของนางเปลี่ยนเป็นบึ้งตึง แม้กระทั่งรอยยิ้มก็แทบไม่มีหลงเหลืออีกต่อไป ถังหลี่ชื่นชมการแสดงของคนผู้นี้ จนอยากจะเล่นกับนางต่อ แต่จู่ๆ นางพูดขึ้นว่า
“จูชุนเจียว”ถังหลี่เรียกนาง
จูชุนเจียวเป็นชื่อเดิมของกู้อิ๋น นางถึงกับหน้าถอดสีไปทันที หันไปจ้องถังหลี่ราวกับโดนผีหลอก
“เจ้า!” เสียงในหัวของกู้อิ๋นดังก้องขึ้น ผู้หญิงคนนี้เป็นเด็กโง่ผู้นั้น? ไม่ใช่ว่านางโดนจับตัวไปขายซ่องแล้วหรือ? นางมาถึงเมืองหลวงได้อย่างไร? เด็กสาวคนนั้นโง่ขนาดนั้น นางรู้เรื่องที่ตนเองเป็นบุตรสาวของแม่ทัพมาจากไหน?
ในหัวของกู้อิ๋นอึงอลไปด้วยคำถามมากมาย นางไม่คิดว่าเด็กโง่คนนั้นจะมีความสามารถพาตัวมายืนอยู่ข้างหน้านางได้อีก!
“เป็นข้าเอง!” ถังหลี่ตอบรับด้วยรอยยิ้มประสงค์ร้าย
“พี่จู ท่านดีใจที่ได้พบข้าหรือ?” กู้อิ๋นยิ้มเจื่อน
“ข้าไม่รู้ว่าเจ้าพูดถึงเรื่องอะไร?” ถังหลี่ทำหน้าเศร้า
“ดูเหมือนพี่จะไม่ดีใจที่ได้พบข้าสินะ!”
“ข้าไม่ใช่คนสกุลจู ข้าเป็นคนสกุลกู้ ข้าไม่รู้ว่าเจ้าหมายถึงอะไร!”
“พี่สาว ท่านขโมยจี้หยกของข้าไป ข้ารู้ว่าท่านเป็นคนแย่งชิงทุกอย่างไปจากข้า ทั้งจี้หยกทั้งสถานะตัวตนของข้า ตอนนี้ของทุกอย่างที่เจ้ามี จะกลายเป็นของข้า” ถังหลี่ขยับเข้าไปใกล้พูดกระซิบที่ข้างหูของกู้อิ๋น ดวงตาของนางเบิกกว้าง
“ไม่ มันเป็นของข้า!”
“พี่สาว สิ่งใดที่ไม่ใช่ของของท่าน อย่างไรเสียก็ไม่มีวันเป็นของของท่านอยู่วันยังค่ำ ข้าจะเอาของของข้าคืน ท่านไม่รู้สึกละอายแก่ใจบ้างหรือ?” ดวงตาของถังหลี่เต็มไปด้วยความพยาบาทมาดร้าย
“โอ้! ข้าลืมไป พี่สาวเป็นคนเห็นแก่ตัวเช่นนี้ ท่านจะรู้สึกละอายแก่ใจได้อย่างไร ? ทุกวันนี้ท่านนั่งเสวยสุขเอาแต่ยิ้มเยาะว่าข้าเป็นคนโง่เขลาละสิ”
กู้อิ๋นผลักถังหลี่ “เจ้าพูดเรื่องไร้สาระ?”
ถังหลี่ล้มลงไปนอนกับพื้น นางร้องออกมาราวกับเจ็บปวดมาก กู้อิ๋นมองไปที่มือของตน ทันใดนั้นนางบังเกิดเจตนาฆ่าขึ้นมาทันที ‘ฆ่านาง!’
กู้อิ๋นคว้าคอถังหลี่บีบอย่างแรง ในตอนนั้นเองมีเสียงร้องเรียกดังขึ้น
“อาอิ๋น ! เจ้าจะทำอะไร?” กู้อิ๋นได้สติ นางปล่อยมือจากคอของถังหลี่ หันไปมองต้นเสียงจึงพบว่าเป็นมารดาของนางและมามาทั้งสองคนยืนมองนางอยู่จากที่ไกล กู้อิ๋นรู้ทันทีว่าเป็นแผนของถังหลี่ นางเป็นปีศาจ!
…………………………………