บทที่ 353 กู้อิ๋นจอมเจ้าเล่ห์
เหตุใดพวกเขาจึงมาอยู่ที่นี่!
ต้องเป็นเพราะถังหลี่บอกพวกเขาแน่!
ไม่เช่นนั้นแล้วพวกเขาจะมาหานางได้อย่างไร ทั้งที่เหอตงที่อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวงหลายแสนลี้เช่นนี้ อีกทั้งพวกเขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางอยู่ที่นี่?
เป็นเพราะนางคิดว่าบ้านเกิดของนางนั้นห่างไกลจากเมืองหลวงมากนักกู้อิ๋นไม่ได้ให้ความสนใจกับบิดามารดาผู้ให้กำเนิดของนาง
แต่นี่คือหายนะที่นางคาดไม่ถึง!
เมื่อแรกที่นางเห็นถังหลี่ก็รับรู้ถึงปัญหาที่จะตามมาอยู่แล้ว นางสั่งให้คนไปจัดการที่หมู่บ้านจูเจียทันที ไม่คาดคิดว่าถังหลี่เดินหน้านำนางไปหนึ่งก้าว
ตัวตนของนางจะถูกเปิดเผยไม่ได้!
บิดามารดาของนางต้องเป็นท่านแม่ทัพและฮูหยินกู้เท่านั้น! คนพวกนี้เป็นจะเป็นคนที่จะฉุดรั้งนางเอาไว้ เป็นความผิดของนางเองที่ก่อนหน้านี้ใจอ่อนและไม่เด็ดขาด…
กู้อิ๋นเจ็บใจมาก นางมองไปที่ชายหญิงที่กำลังดึงแขนนางด้วยแววตามาดร้าย
“ท่านแม่ ไปคุยที่อื่นกันเถิด” กู้อิ๋นกระซิบเบาๆ กับสตรีที่กำลังดึงนาง
“ตรงนี้ไม่เหมาะที่จะคุยกัน” แม้จูเฉิน มารดาผู้ให้กำเนิดของกู้อิ๋นจะโง่เขลา แต่เมื่อได้ยินเช่นนั้นก็พอจะเข้าใจอะไรได้บ้าง
“เอาล่ะไปที่อื่นกันก่อน” จูเฉินพูดพลางตีสามีที่กำลังโวยวาย
“ตาแก่หยุดโวยวายได้แล้ว”
จากนั้นนางจึงมองไปที่ลูกชายและลูกสะใภ้ของพวกเขา
“พวกเจ้ามานี่เร็วเข้า”
พวกเขาพากันมองจวนแม่ทัพอย่างประหลาดใจ เมื่อได้ยินเสียงมารดาเรียกจึงได้ก็เดินไปหานางอย่างว่าง่าย
คนเหล่านี้จ้องเครื่องแต่งกายของกู้อิ๋น ทั้งเสื้อผ้าและเครื่องประดับของนางดูมีราคามาก นั่นหมายถึงน้องสาวของพวกเขาได้ดิบได้ดีจริงๆ หากพวกเขาได้ติดตามนางก็น่าจะมีชีวิตดีขึ้นเช่นกัน
“มากับข้า” กู้อิ๋นกำลังจะพาเขาไปแต่ก็แล้วกลับต้องหยุดกระทันหัน
“อาอิ๋น จะไปไหนหรือ? พวกเขาเป็นใครกัน?”
กู้หวนจิ่นทักขึ้น เขาเดินมากับผู้คุ้มกันสองคนไม่ได้มาเพื่อปกป้องกู้หวนจิ่นแต่มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้กู้หวนจิ่นทำร้ายคนอื่น ดูเหมือนฝันร้ายที่ได้ตามหลอกหลอนเมื่อก่อนหน้านี้จะได้หายไปแล้ว แต่กระนั้นเมื่อเขาถูกปล่อยตัวออกจากการกักบริเวณ ก็ยังต้องมีผู้คุ้มกันคอยดูแลเขาอยู่
กู้อิ๋นสูดลมหายใจเข้าลึกๆ เมื่อคนเหล่านั้นกำลังถูกพาตัวไป กู้หวนจิ่นก็เดินเข้ามาหานางพร้อมรอยยิ้ม
“ท่านพี่ ข้าไม่รู้จักพวกเขา”
“แล้วเหตุใดข้าจึงได้ยินพวกเขาบอกว่าเป็นบิดามารดาของเจ้าเล่า” กู้หวนจิ่นพูด
จิตใจของกู้อิ๋นสั่นไหวทันที
“พี่สามพวกเขามาหาญาติ แค่ทักคนผิดเท่านั้น”
นางกังวลที่กู้หวนจิ่นไม่ปล่อยนาง หากพี่ใหญ่กลับมาในตอนนี้และพบเข้าล่ะก็… ถึงแม้นางอยากจะหนีออกจากสถานการณ์นี้มากเพียงใดแต่กู้หวนจิ่นยังคงพูดกับนางต่อจนไม่อาจตัดบทสนทนาได้ สุดท้ายกู้หวนเนี่ยนก็กลับมาจริงๆ
“พี่ใหญ่” กู้หวนจิ่นเรียก
กู้หวนเนี่ยนหงุดหงิด เขายังรู้สึกไม่ดีกับน้องชายเพราะจำได้ว่าอีกฝ่ายอยากจะฆ่าน้องสาว เขามองกู้อิ๋นด้วยสายตาอ่อนโยนก่อนจะเหลือบเห็นคนที่แต่งกายเหมือนชาวนาที่อยู่รอบตัวกู้อิ๋น
“อาอิ๋น คนพวกนี้เป็นใครหรือ?”
ก่อนที่กู้อิ๋นจะพูดอะไรออกมากู้หวนจิ่นก็ชิงพูดก่อน
“พี่ใหญ่ พวกเขามาหาญาติที่นี่ ท่านเป็นเจ้าหน้าที่ในศาลต้าหลี่ การหาคนคงไม่ใช่เรื่องยากพี่จะไม่ช่วยเหลือเขาหน่อยหรือ?”
กู้อิ๋นกำมือแน่นอย่างไม่รู้ตัว พี่ชายของนางเป็นคนฉลาด หากปล่อยให้เขาติดต่อกับครอบครัวเดิมของนางอาจจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาแน่
“พี่ใหญ่ท่านเป็นเจ้าหน้าของศาลต้าหลี่แค่งานประจำก็ล้นมือท่านแล้ว ข้าไม่อยากรบกวนท่านด้วยเรื่องแค่นี้”
กู้อิ๋นพูดขึ้นอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นเหตุการณ์ตรงหน้า มีหรือจูเฉินจะไม่เข้าใจว่าบุตรสาวของนางกำลังปกปิดเรื่องราวบางอย่างอยู่ นางจึงรีบพูดขึ้นว่า
“ใช่แล้ว ข้ามาหาญาติ แต่วันนี้คงจะมาผิดที่แล้ว”
“พวกท่านมาจากไหนหรือ?” กู้อิ๋นมองพวกเขา
“ข้า…พวกข้ามาจากมณฑลชิงเหอ”
“ชิงเหอ? ห่างไกลจากเมืองหลวงมาก คงไม่สะดวกหากจะเดินทางต่อ ข้าจะให้คนพาพวกท่านไปพักที่โรงเตี๊ยมดีไหม?” กู้อิ๋นรีบเสนอออกมา
“เช่นนั้นก็ขอบใจแม่นางมากเจ้าค่ะ” จูเฉินขอบคุณนาง
“อาอิ๋นนี่ใจดีเสียจริง” กู้หวนจิ่นพูดขึ้นอีกครั้ง แต่เมื่อมันออกมาจากปากของกู้หวนจิ่น กู้อิ๋นรู้สึกว่าเขากำลังเย้ยหยันนางอย่างน่าแปลกใจ ทว่าหญิงสาวยังคงมีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้า
“จุ้ยอวิ๋น มีโรงเตี๊ยมเล็กๆ อยู่ทางทิศตะวันออกของเมือง บรรยากาศค่อนข้างเงียบสงบดี เจ้าพาพวกเขาไปพักที่นั่นเถอะ”
“เจ้าค่ะคุณหนู”
จุ้ยอวิ๋นเดินไปหาคนตระกูลจูกล่าวว่า
“ทุกคนตามข้ามา”
บิดาของกู้อิ๋นรวมถึงลูกชายและลูกสะใภ้ต่างจ้องกู้อิ๋นอย่างกระตือรือร้น ทว่าพวกเขาก็ถูกจูเฉินตีที่แขนทันที กู้หวนเนี่ยนสังเกตอย่างละเอียด เขารู้สึกว่ากู้อิ๋นดูประหม่าไม่สบายใจ ในเมื่อคนเหล่านี้เข้าใจผิด นางจะประหม่าทำไม? กู้หวนเนี่ยนอดแปลกใจไม่ได้
“พี่ชาย ท่านคงเหนื่อยมาทั้งวันแล้วเข้าไปด้านในก่อนเถอะ” หลังจากพูดจบนางก็คว้าแขนกู้หวนเนี่ยนเดินเข้าไปด้านในทันที โดยมีกู้หวนจิ่นเดินตามหลังไป
มื้อเย็นของวันนั้นพวกเขาก็พูดคุยถึงเรื่องนี้กันอีกครั้ง
“ท่านแม่ วันนี้มีเรื่องตลกด้วย มีครอบครัวหนึ่งเดินทางมาเมืองหลวงเพื่อหาญาติ แต่พวกเขาคิดว่าอาอิ๋นเป็นบุตรสาวของพวกเขา” กู้หวนจิ่นพูดพลางหัวเราะ
“อาอิ๋นของเรางดงามเช่นนี้ คงเข้าใจผิดกันได้ไม่ใช่เรื่องแปลก” ฮูหยินกู้ยิ้มปล่อยเรื่องผ่านไป
แต่เมื่อฮูหยินกู้ครุ่นคิดบางอย่าง นางก็จำได้ว่าถังหลี่พูดว่าตัวเองนั้นคุ้นเคยกับลวดลายบนหยก
….
ตระกูลจูถูกพาไปยังโรงเตี๊ยมแห่งหนึ่ง
โรงเตี๊ยมแห่งนี้เป็นทรัพย์สินลับๆ ของกู้อิ๋น ตอนนี้มีเพียงพวกเขาเท่านั้นที่อาศัยอยู่ที่นั่น จุ้ยอวิ๋นพาสาวใช้สองคนมาด้วย คนหนึ่งคืออวี้หลาน อีกคนคือไห่ถัง เพื่อมารับใช้พวกเขา แต่ความจริงแล้วพวกนางมาจับตาดูคนเหล่านี้มากกว่า แต่คนสกุลจูนั้นไม่รู้เรื่องอะไรเลย
ลูกสะใภ้ของสกุลจูพูดขึ้นด้วยความรังเกียจ
“โรงเตี๊ยมนี้เรียบง่ายเกินไป ไม่ดีเท่าจวนแม่ทัพ ทำไมเจียวเจียวถึงไม่ให้พวกเราอาศัยอยู่ที่นั่นกัน”
บุตรชายคนที่สองของตระกุลจูก็ไม่พอใจเช่นกัน
“ใช่ ทำไมข้ารู้สึกว่าเจียวเจียวไม่อยากรู้จักพวกเราล่ะ? ท่านพ่อท่านแม่ เจียวเจียวคงจะไม่ดูถูกเราที่เป็นพี่น้องของนางใช่ไหม? แต่ไม่ว่าอย่างไรตอนนี้นางก็มีชีวิตความเป็นอยู่ที่ดี ถ้านางหมางเมินจำพวกเราไม่ได้เช่นนี้ ข้าไม่ยอมจริงๆ ด้วย”
พ่อเฒ่าจูกับภรรยามีนิสัยซื่อๆ เมื่อได้ยินที่บุตรชายพูดพวกเขาก็รีบพูดออกมาว่า
“เป็นไปไม่ได้”
“ใช่แล้วมันไม่มีเหตุผล”
“ข้าเป็นบิดาของนาง หากนางกล้าปฏิเสธข้าล่ะก็ นางจะต้องถูกฟ้าผ่าตาย!” หัวหน้าตระกูลจูพูดด้วยน้ำเสียงบูดบึ้ง
“ตอนนี้เจียวเจียวเป็นบุตรสาวของท่านแม่ทัพ ข้าคิดว่าพวกเขาคงรับนางเป็นบุตรบุญธรรม แต่ตอนนี้พวกเรายังไม่รู้เหตุผลที่แท้จริง” จูเฉินกล่าว
“ใช่แล้ว ตอนนี้ท่านแม่ทัพและฮูหยินคิดว่าคุณหนูเป็นบุตรสาวของตนเอง ถ้าพวกเจ้าทำเป็นรู้จักคุณหนูในวันนี้ คุณหนูก็จะไม่ใช่บุตรสาวจวนแม่ทัพอีกต่อไป หากคุณหนูไม่เหลืออะไร พวกท่านก็ไม่เหลืออะไรเช่นกัน” สาวใช้ที่ยืนข้างๆ พูดขึ้น
“ลูกสาวหรือ? แต่เจียวเจียวเป็นบุตรสาวของพวกข้า” ผู้เฒ่าจูตัวแข็งทื่อ
“เจ้าโง่หรือ?! เป็นเพราะเจียวเจียวกำลังแสร้งเป็นคนอื่นอยู่นะสิ!” จูเฉินบิดหูของสามีอย่างแรง นางเกลียดเหล็กที่ไม่อาจกลายเป็นเหล็กได้จริงๆ