เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 375 หายป่วย

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 375 หายป่วย

อาการของเซียวซานหลางแย่มาก แต่เขายังฝืนยิ้มเพื่อให้ทุกคนสบายใจ

ถังหลี่และเว่ยฉิงจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าเขาฝืนทำ แต่ตอนนี้มียาแล้ว ท่านลุงจะต้องมีอาการดีขึ้นอย่างแน่นอน

“ท่านลุง ยาพร้อมแล้ว ท่านไปอาบน้ำแล้วกินข้าวเถิดจะได้ดื่มยาทีหลัง” เว่ยฉิงพูดกับเซียวซานหลาง เขาพยักหน้ารับ

“ช่วยพยุงข้าที” เว่ยฉิงสวมเสื้อคลุมให้เขา ข่วยเขานั่งบนรถเข็น ถังหลี่เตรียมน้ำไว้ให้เขาแล้ว หลังจากเซียวซานหลางอาบน้ำ และรับประทานอาหารเช้าเรียบร้อยดีแล้ว ลุงเฮยจึงได้นำยามาให้เขาดื่ม

เซียวซานหลางเอื้อมมือทำท่าจะรับยา หากแต่แล้วกลับชะงัก พูดขึ้นว่า

“หลานชาย เจ้าไม่อยากเป็นเด็กกตัญญูหรือ ตอนนี้มีโอกาสแล้วนะ”

“…..” เว่ยฉิงหยิบชามยามาป้อนให้ลุงของเขา ถังหลี่ผู้ยืนอยู่ด้านข้างเห็นได้ว่าเห็นได้อย่างชัดเจนว่า เซียวซานหลางไม่มีเรี่ยวแรงเหลืออยู่แล้วในตอนนี้ นางรู้สึกเศร้าใจแต่หวังว่าท่านลุงจะอาการดีขึ้นในเร็วๆ นี้ หลังจากเว่ยฉิงป้อนยาเรียบร้อยแล้ว เซียวซานหลางรู้สึกง่วงนอนมาก แต่เขาไม่ยอมนอน เดิมทีเขาคิดว่าตนเองจะต้องตายอย่างโดดเดี่ยวแล้ว แต่ตอนนี้เขากลับมีหลานชายและหลานสะใภ้อยู่เคียงข้างเช่นนี้ เขาไม่เสียใจอีกต่อไป ตอนนี้เขาจึงพยายามใช้เวลาที่เหลืออยู่กับคนที่รักเขา

เซียวซานหลางนั่งบนรถเข็นคุยกับเว่ยฉิงและถังหลี่

“นายท่าน น้ำยาสำหรับแช่ตัวพร้อมแล้วขอรับ” ลุงเฮยเดินเข้ามาบอกเขาอย่างตื่นเต้น เซียวซานหลางมองลุงเฮยที่คอยรับใช้เขามานานหลายสิบปีแล้ว เมื่อได้ยินว่ามียาที่จะรักษาอาการของเซียวซานหลางได้ ลุงเฮยจึงดูมีความสุขราวกับเป็นเด็กอีกครั้ง

“ช่วยผลักรถเข็นข้าไปที” เซียวซานหลางให้เขาผลักรถเข็นเข้าไปข้างใน ที่เรือนพักแห่งนี้มีการสร้างโรงอาบน้ำเอาไว้ น้ำที่ใช้ในการแช่ตัวเป็นน้ำพุร้อนและใส่สมุนไพรที่เป็นตัวยาผสมลงไป เมื่อเดินเข้าไปใกล้ก็ได้กลิ่นหอมจากสมุนไพรโชยมา

“โอ้! อาบน้ำกันอยู่หรือ?” ทันใดนั้นมีเสียงคนผู้หนึ่งพูดขึ้น เป็นผู้เฒ่าจ้านนั่นเอง

เขาเดินวนรอบๆ เซียวซานหลาง เห็นใบหน้าเขาซีดเซียว ท่านผู้เฒ่าจ้านจึงขมวดคิ้ว

“อาจารย์” เซียวซานหลางเรียกเขา ท่านผู้เฒ่าจ้านทำเสียงในลำคอก่อนจะพูดอย่างกระด้างว่า

“ข้าไม่ได้มาหาเจ้า ข้ามาหาเสี่ยวถังหลี่ลูกศิษย์คนโปรดของข้าต่างหาก” ว่าแล้วท่านผู้เฒ่าจ้านก็หันไปยิ้มให้ถังหลี่อย่างสดใส

ถังหลี่”…………….”

เซียวซานหลางจะไม่รู้ได้อย่างไรว่าอาจารย์เป็นห่วงเขามากเพียงไหน ในอดีตเขาเรียนรู้ศิลปะการต่อสู้จากอาจารย์ผู้นี้ อาจารย์เป็นคนเข้มงวดมาก เขามีสีหน้าเคร่งขรึมตลอดทั้งวัน หากเซียวซานหลางทำผิดเขาจะลงโทษโดยไม่มีข้อยกเว้น แต่หลังจากที่ลงโทษแล้วท่านผู้เฒ่าจ้านจะแอบเอายามาใส่ให้เขาเสมอ อาจารย์เขาเป็นคนหยิ่งยโส ปากร้ายแต่ใจดี เซียวซานหลางหรี่ตาลง มีผู้คนมากมายคาดหวังให้เขามีชีวิตอยู่ต่อไป คงจะดีไม่น้อยถ้าความปรารถนาจะเป็นจริงขึ้นมาได้

เซียวซานหลางกวาดตาดูผู้คนในห้องด้วยรอยยิ้ม

“พวกเจ้าจะมายืนดูข้าอาบน้ำอย่างนี้หรือ?”

จากนั้นทุกคนจึงได้ออกจากห้องไป ท่านผู้เฒ่าจ้านถูกเว่ยฉิงและถังหลี่ลากตัวออกไปด้วย เหลือแต่เพียงลุงเฮยที่คอยอยู่ดูแลการแช่ตัวในสมุนไพรให้เซียวซานหลาง

เขานั่งในอ่างน้ำแช่ตัว รู้สึกถึงความร้อนที่ผสมกับตัวยา ทำให้รูขุมขนของร่างกายเปิดออก เซียวซานหลางผ่อนคลายในที่สุดเขาก็หลับไป เหมือนเวลาจะผ่านไปนานมาก ลุงเฮยปลุกเขา

“ข้าหลับไปนานมาก” เซียวซานหลางพูดออกมาเมื่อลืมตาเห็นลุงเฮย นี่เป็นการนอนหลับไม่ใช่อาการง่วงนอนอ่อนเพลียแต่อย่างใด ร่างกายของเซียวซานหลางอ่อนแอเกินไป เขาจึงหมดสติเป็นบางครั้งอย่างไม่รู้ตัว ลุงเฮยดีใจเมื่อได้ยินเช่นนั้น เขารู้ว่ายาเริ่มได้ผล

“ช่วยข้าหน่อยเถอะ” ลุงเฮยรีบเข้าไปช่วยเซียวซานหลางลุกขึ้น

หลังจากแช่น้ำยาและดื่มยาไปสองวัน ร่างกายและจิตวิญญาณของเซียวซานหลางก็ดีขึ้นมาก เขาตื่นได้นานขึ้นทุกๆ วัน เดิมทีเซียวซานหลางคิดว่าเขาจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานนัก แต่เขากลับไม่คาดคิดว่าจะมีหมอที่สามารถรักษาอาการของเขาได้ แน่นอนว่าเขาต้องการที่จะอยู่ไปจนได้เห็นวันที่ตระกูลเซียวได้รับความยุติธรรมและแก้แค้น!

ตอนนี้อาการเขาดีขึ้นแล้ว เซียวซานหลางเกิดความหวังใหม่ขึ้นในจิตใจของเขา เขามองไปที่อาฉิงที่มารับใช้ดูแลเขาทุกวัน

“อาฉิง ร่างกายของลุงดีขึ้นมากแล้ว เจ้าอย่าได้มาเสียเวลาอยู่ที่นี่กับข้าอีกเลย จงกลับเมืองหลวงไปเสียเถอะ”

เว่ยฉิงทำงานในกรมอาญา เขาขอหยุดพักเพื่อมาดูแลท่านลุงเป็นเวลาหนึ่งเดือน แต่ถ้าหากเขาอยู่ต่อเพิ่มอีกหนึ่งวันสถานการณ์ในเมืองหลวงอาจพลิกผันได้ เขาควรกลับไปก่อนจะดีกว่า ทั้งนี้ท่านลุงสามก็มีอาการดีขึ้นมาก จนเว่ยฉิงรู้สึกโล่งใจ เขาพยักหน้ารับ

“ถ้าเช่นนั้นข้ากับถังหลี่จะออกเดินทางแต่เช้า” เว่ยฉิงและถังหลี่ตัดสินใจที่จะเดินทางกลับเมืองหลวง และให้หมอซูและฮูหยินช่วยอยู่ดูแลท่านลุงของเขาต่อไป ตอนนี้เซียวซานหลางดีขึ้นมากก็จริง แต่ร่างกายเขาอ่อนแอทรุดโทรมมานานเต็มที การรักษาจึงจำเป็นต้องใช้เวลาอีกนาน หมอซูและภรรยาจึงได้อยู่ดูแลเขาต่อไปอีกสักพัก เพื่อที่จะได้ปรับยาและดูอาการต่อเนื่อง สำหรับหมอซูแล้ว เขาอยู่ที่ไหนก็ได้ตราบเท่าที่มีภรรยาของเขาอยู่ด้วย

วันรุ่งขึ้น ทุกคนมาพากันมาส่งเว่ยฉิงและถังหลี่ขึ้นรถม้า

“หมอซู ฮูหยิน ขอบคุณท่านทั้งสองคนที่ได้ทำงานหนักเพื่อช่วยเหลือท่านลุง” ถังหลี่พูดกับสามีภรรยา

“การทำงานหนักเพื่อดูแลคนไข้เป็นหัวใจของคนเป็นหมอ” หมอซูตอบถังหลี่

ฮูหยินซูพยักหน้าอย่างเห็นด้วย ถ้านางช่วยเหลือถังหลี่ได้ไม่ว่าจะเป็นทางไหน นางย่อมยินดี

เว่ยฉิงมองลุงเฮย

“ท่านลุงเฮย ข้าขอฝากท่านลุงสามกับท่านด้วยนะ เขียนจดหมายมาหาข้าบ่อยๆ ด้วย”

“ขอรับ นายน้อยไม่ต้องห่วง ขอให้เดินทางโดยสวัสดิภาพขอรับ” ทั้งสามคนเฝ้าดูเว่ยฉิงและถังหลี่ขึ้นรถม้า

เว่ยฉิงไม่ได้ปิดม่าน เขามองไปที่ประตูแล้วพูดว่า

“ท่านลุง ข้าไปก่อนนะ เจอกันครั้งหน้าข้าหวังว่าท่านลุงจะสบายดี”

รถม้าออกเดินทาง เว่ยฉิงมองไปยังท่านลุงสามซึ่งตอนนี้นั่งอยู่บนรถเข็น มีขนสุนัขจิ้งจอกคลุมไว้ ใบหน้าที่ซีดเซียวของเขามีรอยยิ้มในขณะที่มองดูรถม้าเคลื่อนตัวไป

เขายังมีชีวิตอยู่ นี่ไม่ใช่ฤดูหนาวปีสุดท้ายของเขา เขากับอาฉิงจะได้พบกันอีกครั้ง

ท่านผู้เฒ่าจ้านที่อยู่ข้างๆ ลูบเคราสีเงินของเขาพูดขึ้นว่า

“เจ้าหายป่วยเร็วๆ เถอะ จะได้ไปเยี่ยมหลายชายหลานสะใภ้เจ้าที่เมืองหลวงด้วยกัน” เซียวซานหลางมองเขายิ้มๆ

“อาจารย์ ปลาย่างของหลานสะใภ้อร่อยหรือไม่?”

“อร่อยสิ อร่อยกว่าที่เจ้าทำมากมากนัก”

“แล้วทำไมอาจารย์ไม่ตามพวกเขาไปเมืองหลวงเล่า?”

“หืม…ที่เมืองหลวงผู้คนมากมายเสียงดังอึกทึก ไปเที่ยวเล่นชมดูบางครั้งก็พอได้ แต่ถ้าหากอยู่นานนักข้าไม่ชอบ”

“ท่านอาจารย์ไม่เต็มใจที่จะแยกจากข้าหรือ?”

“เหลวไหล! เจ้านี้ยิ่งแก่ยิ่งหน้าหนา!” ท่านผู้เฒ่าจ้านทำสีหน้ารังเกียจเขา

“เป็นเพราะได้ท่านอาจารย์สอนสั่งนะขอรับ”

แม้น้ำเสียงของผู้เฒ่าจ้านจะเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด หากมุมปากเขากับยกขึ้นยิ้ม

เว่ยฉิงและถังหลี่เดินทางไปยังเมืองหลวงแทบจะไม่ได้หยุดพักเลย แต่เมื่อเทียบกับขามาแล้วพวกเขากลับผ่อนคลายมากกว่า

ตอนนี้สามารถรักษาอาการเจ็บป่วยของท่านลุงสามหายขาดได้แล้ว หินก้อนใหญ่ในหัวใจของพวกเขาจึงได้วางลงได้ รถม้าแล่นไปเรื่อยๆ ตามถนนบนภูเขา ในที่สุดความเร็วก็เริ่มช้าลง

ถังหลี่เปิดม่านหน้าต่างออกดู ข้างหน้ามีขบวนพ่อค้าอยู่เต็มถนน รถม้าของพวกเขาจึงได้แต่เคลื่อนช้าๆ ตามขบวนพ่อค้าเร่ไปเรื่อยๆ ถังหลี่มองไปที่ธงของขบวนจึงเห็นว่ามีคำว่า ‘ไป๋’ นี่น่าจะเป็นขบวนสินค้าของตระกูล ‘ไป๋’สินะ!

………………..

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท