บทที่ 386 การแทรกแซงของเว่ยฉิง
จ้าวถิงส่งมอบแร่เหล็กไปที่กรมโยธา หลังจากนั้น เขาจึงไปยังไปยังจวนสกุลไป๋เพื่อรายงานกับไป๋มูหยาง
บ่าวรับใช้พาจ้าวถิงไปยังที่ห้องโถงรับรองแขกไม่ช้าไป๋มูหยางจึงได้เดินเข้ามาตบบ่าเขา
“ขอบคุณมาก” ไป๋มู่หยางกล่าวอย่างจริงใจมองเสื้อผ้าที่เต็มไปด้วยฝุ่นของเขา
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร มันเป็นงานของข้าอยู่แล้ว หากไม่ได้คุณหนูช่วยเอาไว้ เรื่องในครั้งนี้คงเสียหายจนยากที่จะประเมินได้” จ้าวถิงกล่าวตอบ
ถ้าไม่ใช่เพราะคุณหนู แร่เหล็กคงส่งมอบไม่ได้ ตัวเขาเองคงไม่มายืนที่ตรงนี้ พอคิดขึ้นมาก็ยังอดหวาดวิตกกลัวไม่ได้
เมื่อคิดถึงถังหลี่แล้ว ไป๋มู่หยางเองก็ยิ้มออกมาเช่นกัน ใช่แล้ว ถังหลี่คือดวงดาวนำโชคของเขา
“นักฆ่าที่เหลืออยู่ที่ไหนกัน? ส่งพวกเขาไปที่ศาลต้าหลี่แล้วหรือ?” ไป๋มู่หยางถาม
“นายท่าน คนเหล่านั้นถูกส่งตัวให้กรมอาญาแล้วขอรับ”
“กรมอาญา? เหตุใดเจ้าจึงส่งเขาไปที่กรมอาญาเล่า?” ไป๋มู่หยางประหลาดใจ
“พอพวกเราเข้ามาในเมืองหลวง เราก็พบคนจากกรมอาญามารออยู่แล้วขอรับ” จ้าวถิงกล่าว
ไป๋มู่หยางขมวดคิ้วเขารู้สึกถึงบางอย่างที่ผิดปกติ เป็นเรื่องบังเอิญหรือ?
“เจ้าแน่ใจว่าเป็นเจ้าหน้าที่จากกรมอาญาหรือ?” ไป๋มู่หยางถามอย่างจริงจัง
“ขอรับ พวกเขามีป้ายแสดงตน” จ้าวถิงมองไป๋มู่หยางที่ขมวดคิ้ว เขารู้สึกไม่สบายใจขึ้นมาเช่นกัน
“นายท่าน ที่เมืองหลวงแห่งนี้จะมีใครกล้าปลอมแปลงตนเป็นเจ้าหน้าที่ระดับสูงหรือ?”
หากไม่ใช่เจ้าหน้าที่จะมีป้ายแสดงตนได้อย่างไร?
ด้วยเหตุนี้จ้าวถิงจึงวางใจที่จะมอบนักโทษทั้งห้าคนให้ไป แต่ไป๋มู่หยางยังรู้สึกว่าเรื่องนี้มีพิรุธ เขาลุกขึ้นยืนเอ่ยออกมาว่า
“ไปกรมอาญากับข้า”
“ขอรับ” จ้าวถิงรับคำ
ทั้งสองคนรีบไปกรมอาญาในส่วนของกองพิจารณาคดี เขาไปหาคนรู้จักก่อนจะเล่าว่า
“ขบวนสินค้าสกุลไป๋ถูกดักปล้นระหว่างทาง นักโทษถูกควบคุมตัวมาที่กรมอาญา ไม่ทราบว่าตอนนี้พวกเขาอยู่ในห้องขังของกรมอาญาหรือไม่?”
คนรู้จักของไป๋มู่หยางรีบไปตรวจสอบก่อนจะตอบว่า
“นายท่านไป๋ ไม่มีนักโทษที่ท่านพูดถึงในกรมอาญาขอรับ”
ใบหน้าของจ้าวถิงซีดลงทันที เป็นไปได้ไหมว่าเขาจะถูกหลอกเข้าให้แล้ว แต่ป้ายหยกที่เอวนั่นเป็นป้ายของกรมอาญาอย่างแน่นอนเขาไม่มีทางจำผิดไปได้
ในตอนนั้นเองจ้าวถิงก็เห็นคนผู้หนึ่งเดินลงมาหน้าตาดูคุ้นเคย
“ท่าน!” จ้าวถิงรู้สึกมีแสงสว่างวาบขึ้นมา เขารีบคว้าตัวชายผู้นั้นไว้ มองไปที่ไป๋มู่หยาง
“นายท่านขอรับ ชายผู้นี้เจ้าหน้าที่ที่มารับตัวนักโทษขอรับ”
“ท่านเจ้าหน้าที่ นักโทษทั้งห้าคนที่ท่านพาตัวไปอยู่ที่ไหน? ท่านพูดว่าจะพาพวกเขากลับมาที่กรมอาญาเพื่อพิจารณาคดีไม่ใช่หรือ?” คนผู้นั้นสะบัดมือจ้าวถิงออก
“เจ้าพูดเรื่องไร้สาระอะไร? นักโทษคนไหน? พิจารณาคดีอะไร?”
“พวกเราเป็นคนของขบวนสินค้าสกุลไป๋ เราได้มอบตัวโจรทั้งห้าคนให้ท่าน” จ้าวถิงกล่าว
“ข้าไม่เคยเห็นหน้าเจ้ามาก่อน และไม่เคยเห็นโจรที่เจ้าพูดถึงด้วย เจ้าพูดเรื่องเหลวไหลอะไรกัน?” ชายคนนั้นพูดอย่างร้อนรน จ้าวถิงมองไป๋มู่หยางอย่างกระวนกระวายใจ
“นายท่าน ข้าฝากพวกนักโทษไว้กับพวกเขาแล้ว”
ไป๋มู่หยางเชื่อจ้าวถิงอย่างไม่มีข้อแม้
“ข้าต้องการพบกับหัวหน้าของท่าน” ไป๋มู่หยางพูดขึ้นมา
“นายท่านกำลังสร้างปัญหาใส่ร้ายข้าหรือ? ที่นี่คือกรมอาญาไม่ใช่สถานที่ที่พวกท่านจะมาสร้างความวุ่นวายได้” เจ้าหน้าที่ผู้นั้นพูดอย่างโกรธเคือง จากนั้นจึงได้ตะโกนเสียงดังเรียกเจ้าหน้าที่คนอื่นมาพาตัวเขาไป
“มีคนมาสร้างความวุ่นวายที่นี่พาตัวพวกเขาไป”
คนรู้จักของไป๋มู่หยางรีบพูดกล่อมเขาทันที
“อย่าให้เป็นเรื่องเลย ใต้เท้าเฉิน คนผู้นี้คือนายน้อยสกุลไป๋ ต้องมีการเข้าใจผิดอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแน่ เห็นแก่ข้าเถอะอย่าทำเป็นเรื่องใหญ่เลย” ชายคนนั้นมองไป๋มู่หยางอีกครั้ง
“นายน้อยไป๋ ขอเวลาสอบถามเรื่องนี้สักครู่ ท่านกลับไปก่อนเถอะ”
ไป๋มู่หยางรู้ดีว่าการท้าทายคนของกรมอาญานั้นจะไม่ทำให้เขาได้รับการช่วยเหลือใดๆ
ไป๋มู่หยางโกรธ แต่เดิมทีคนเหล่านั้นต้องถูกส่งไปพิจารณาคดียังศาลต้าหลี่ เมื่อค้นพบว่าเป็นเรื่องจริง นางติงมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ นางจะถูกตัดสินประหารชีวิตทันที
เขาไม่คิดเลยว่านางติงจะมีความสามารถและมีอำนาจถึงขนาดสั่งคนในกรมอาญาได้ ไป๋มู่หยางหายใจเข้าลึกๆ เอ่ยขอโทษใต้เฉิน เขากำลังจะเดินจากไป ทันใดนั้นเองมีเสียงร้องทักขึ้นมา
“เหล่าไป๋”
ไป๋มู่หยางเงยหน้าขึ้นและพบว่าเป็นเว่ยฉิง น้องเขยของเขาทำงานในกรมอาญา เขาน่าจะรับรู้เรื่องนี้ ไป๋มู่หยางทำความเคารพเขา
“เหล่าอู่”
“มีเรื่องขัดแย้งอะไรกันหรือ?” เว่ยฉิงถาม
ใต้เท้าเฉินหน้าซีดลง แม้จะมีคนเรียกเขาว่าใต้เท้า แต่ตำแหน่งการงานของเขาเป็นแค่หัวหน้าผู้จับกุมเท่านั้น ไม่สามารถเทียบกับเว่ยฉิงที่เป็นขุนนางระดับสูงได้ เมื่อเว่ยฉิงถามไถ่ เขาจึงไม่กล้าตอบอะไรออกมา ได้แต่ส่งสายตาเตือนไป๋มู่หยาง แต่ไป๋มู่หยางไม่สนใจเขาเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นทันที
ดวงตาที่เฉียบคมของเว่ยฉิงกวาดไปทั่วตัวเจ้าหน้าที่เฉิน
“ใต้เท้า ข้าไม่ได้พาตัวใครมาจริงๆ ขอรับ หรือว่าจะมีคนแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ของกรมอาญา เขาอาจจะหน้าตาคล้ายข้าอยู่บ้าง?”
เว่ยฉิงไม่ตอบแต่มองไป๋มู่หยางแล้วพูดว่า
“เหล่าไป๋ ขอข้าตรวจสอบก่อนแล้วจะแจ้งผลเรื่องนี้ให้ท่านทราบ”
ไป๋มู่หยางประสานมือไปทางเว่ยฉิง
“ข้าขอรบกวนอู่เสี่ยวโหวด้วย” ไป๋มู่หยางพาจ้าวถิงออกไป
จ้าวถิงรู้สึกผิดและโทษตัวเอง
“นายท่าน ข้าขอโทษ ข้าสะเพร่า…”
“ไม่เป็นไร ปล่อยให้อู่เสี่ยวโหวจัดการ” ไป๋มู่หยางพูด
เขาเองก็อยากจะรู้ว่าน้องเขยของเขาคนนี้มีความสามารถเพียงไหน
“เจ้าเดินทางมาอย่างเหน็ดเหนื่อย กลับไปพักผ่อนนอนหลับที่บ้านให้สบายก่อนเถอะ” ไป๋มู่หยางพูดกับเขา
จ้าวถิงรู้สึกว่าตัวเองทำผิดพลาดอย่างใหญ่หลวง ทั้งเจ้านายยังไม่ตำหนิในการกระทำของเขา ทำให้เขารู้สึกสะเทือนใจและตั้งใจที่จะทำงานให้หนักมากขึ้นกว่าเดิม
….
จวนสกุลไป๋
นางติงถือจดหมายไว้ในมือ หลังจากอ่านจบรอยยิ้มก็ปรากฏขึ้นที่มุมปากของนาง นักฆ่าที่รอดชีวิตทั้งห้าคนถูกจัดการจนหมด พวกเขาไม่มีพยานเหลืออยู่ในมืออีกแล้ว
แม้จะถูกไป๋มู่หยางรู้ทัน แต่น้ำหน้าอย่างเขาจะทำอะไรนางได้?
ไม่ช้าก็เร็ว สกุลไป๋จะตกเป็นของนาง!
….
กรมอาญา ห้องเก็บคดี
ในขณะที่ดูรายงาน เว่ยฉิงก็ฟังรายงานของผู้ใต้บังคับบัญชาไปด้วย ตอนนี้เขาเข้ามาในกรมอาญาได้หนึ่งเดือนแล้ว เว่ยฉิงคัดคนสองสามคนมาเป็นมือไม้ช่วยเขา
“ใต้เท้า เหล่าเฉินและคนอื่นๆ ออกไปแล้วพวกเขาพากันไปห้าหกคนเมื่อครึ่งชั่วยามที่ผ่านมาขอรับ”
“พวกเขาระมัดระวังตัวมาก ป้องกันไม่ให้คนอื่นติดตามไป”
“ข้าตามไปได้แค่ระยะหนึ่งแต่กลัวว่าจะถูกจับได้ คนเหล่านั้นมุ่งหน้าไปที่ประตูเมืองขอรับ”
เว่ยฉิงครุ่นคิด เจ้าหน้าที่กรมอาญาจับพยานปากสำคัญของคดีแล้วแสร้งว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น นี่ถือเป็นการบิดเบือนกฎหมายเพื่อผลประโยชน์ส่วนตัวไม่ใช่หรือ?
กรมอาญามีหน้าที่รับผิดชอบลงโทษคนที่มีกระทำความผิด ทั้งที่รู้กฎหมายแต่ทำเรื่องผิดกฎหมายเสียเอง! ช่างเลวร้ายจริงๆ!
“นายท่านขอรับ เราปล่อยเรื่องนี้ไปจะดีกว่า เหล่าเฉินผู้นั้นเป็นคนของนายท่านเจิ้ง” ผู้ใต้บังคับบัญชาเตือนเขา
เขาคือเจ้าหน้าที่ของกรมอาญาที่เกือบจะสูญเสียตำแหน่งเพราะไปทำให้ใครบางคนขุ่นเคืองใจ ต้องขอบคุณความช่วยเหลือของเว่ยฉิง เขาจึงยังรักษาตำแหน่งเอาไว้ได้ หลังจากนั้นเขาจึงทำงานให้กับเว่ยฉิง และพยายามเตือนเว่ยฉิงเท่าที่เขาจะทำได้
ในดวงตาของเว่ยฉิงซับซ้อน ใต้เท้าเจิ้นหรือ? เขาจำเป็นต้องจัดการ…
เป็นเพราะเรื่องของไป๋มู่หยางส่วนหนึ่งและนี่จะเป็นโอกาสที่เขาจะได้จัดการเจิ้งจู่เหวิน!