เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 394 อดีตของไป๋มู่หยางและไป๋ซวี่หยาง

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 394 อดีตของไป๋มู่หยางและไป๋ซวี่หยาง

ที่ด้านนอกลานพิจารณาคดีถังหลี่และไป๋มู่หยางยืนเคียงข้างกัน ไป๋มู่หยางดูผ่อนคลาย

ในที่สุดความตายของมารดาเขาก็เป็นที่ประจักษ์ นางติงคนชั่วได้รับกรรม มารดาของเขาจะได้ตายอย่างสงบ เขาพรูลมหายใจออกมาในที่สุด

“ถังถัง ขอบคุณมาก” ไป๋มู่หยางกล่าว

“พี่ใหญ่ ท่านแม่ของท่านเป็นห่วงท่านมาก วิญญาณของนางบนสวรรค์หวังให้ท่านใช้ชีวิตให้ดีและมีความสุข ความสุขของท่านคือความสบายใจของนาง” ถังหลี่มองไปที่เขาและพูด

เมื่อมองไปที่ใบหน้าจริงจังของถังหลี่ ไป๋มู่หยางรู้ว่านี่คือความปรารถนาของนางเช่นกัน เขาจะมีชีวิตที่ดีเพื่อไม่ให้คนที่ห่วงเขาต้องกังวล

“พระอาทิตย์สวยมาก” ถังหลี่พูดพร้อมเงยหน้าขึ้นมอง

“ใช่” ไป๋มู่หยางกล่าว

“พี่ใหญ่ เราไปอาบแดดกันเถอะ” ถังหลี่กล่าว

ถังหลี่กระโดดลงจากบันได แสงแดดที่ส่องกระทบร่างของนางทำให้หญิงสาวเหมือนถูกอาบไปด้วยสีทอง ไป๋มู๋หยางคลี่ยิ้มอย่างอ่อนโยนเดินตามนางลงไปอยู่ท่ามกลางแสงแดดพวกนั้น

เว่ยฉิงยังมีงานที่ต้องทำ ดังนั้นพวกเขาจึงออกจากกรมอาญาไปก่อน

“ข้าจะพาเจ้าไปส่งที่จวน” ไป๋มู่หยางพูด

ทั้งสองเดินเคียงกันไปยังจวนโหว ไป๋มู่หยางมองดูน้องสาวของเขาจากด้านข้างด้วยความอบอุ่นในหัวใจ

เมื่อคืนชายหนุ่มฝัน เขาฝันว่าตัวเองนั้นเสียชีวิตจากกลุ่มโจรที่สกุลติงส่งมา หลังจากที่เขาตายไปตระกูลไป๋ตกอยู่ในเงื้อมมือของสองแม่ลูก ทรัพย์สินของตระกูลค่อยๆ งอกเงยขึ้นเรื่อยๆ สุดท้ายไป๋ซวี่หยางกลายเป็นคนที่ร่ำรวยที่สุดในต้าโจว และนางติงก็ภูมิใจมาก

ส่วนเขาและมารดาเป็นหลุมศพที่เปลี่ยวร้างสองหลุม ในขณะที่ไป๋ซวี่หยางและนางติงเจริญรุ่งโรจน์ขึ้นเรื่อยๆ

ในความฝันไป๋มู่หยางโกรธมาก คนชั่วแบบนั้นจะคู่ควรได้รับสิ่งดีๆ ได้อย่างไร! ในขณะที่เขาและมารดาทนทุกข์ เหตุใดสวรรค์จึงไม่ยุติธรรม!

หลังจากที่เขาตื่นขึ้นมาจึงพบว่าเป็นเพียงความฝัน

แต่เมื่อลองคิดดูในตอนที่เขาเจอกลุ่มโจรที่เมืองเหยาสุ่ย หากถังหลี่ไม่เตือนล่ะก็เขาคงถูกฆ่าเหมือนฉากในฝันแล้ว!

การปรากฏตัวของถังหลี่ได้เปลี่ยนโชคชะตาของเขาไป เพราะนางความเจ็บป่วยของเขาจึงหายเป็นปกติ นอกจากนี้ความจริงเกี่ยวกับการตายของมารดาเขาถูกเปิดเฟย นางติงได้รับกรรม

ถังหลี่เป็นเหมือนแสงตะวันที่ส่องมาในชีวิตที่มืดสลัวของเขา ไป๋มู่หยางมองไปที่ถังหลี่อย่างอ่อนโยนมากขึ้น

“พี่ใหญ่ถึงแล้ว” ถังหลี่กล่าว เมื่อชายหนุ่มเงยหน้าเบื้องหน้าของเขาคือจวนโหว

“พี่ชายเข้าไปด้านในก่อนสิ”

“ไม่ล่ะ พี่มีเรื่องต้องจัดการ”

ยังมีอีกหลายเรื่องรอให้เขาไปจัดการที่จวนไป๋

ไป๋มู่หยางมองถังหลี่เข้าไปยังจวนโหว ก่อนจะหันหลังกลับไปที่จวนสกุลไป๋ วันนี้แดดดีมาก เขาอยากอาบแดดนานกว่านี้หน่อย เมื่อไป๋มู่หยางไปถึงจวนสกุลไป๋แล้ว เขาเห็นไป๋ซวี่หยางยืนอยู่ แสงแดดตกกระทบไปที่เขา ใบหน้าของชายหนุ่มซีดราวกับกระดาษดวงตาทั้งคู่มืดมน

แม้ว่าทั้งสองจะเป็นพี่น้องกันแต่ความสัมพันธ์ของพวกเขานั้นยากที่จะอธิบาย ไป๋มู่หยางเกลียดสองแม่ลูกมาก เขามองไป๋ซวี่หยาง

“นางติงสารภาพแล้วว่าฆ่ามารดาของข้า นางถูกตัดสินให้ประหารชีวิตโดยการตัดศีรษะ”

“โอ้! งั้นหรือ?” ไป๋ซวี่หยางมองเขาด้วยท่าทางเย็นชา

ไป๋มู่หยางขมวดคิ้ว อย่างไรก็ดีนางติงเป็นมารดาของไป๋ซวี่หยาง การที่มารดากำลังจะถูกตัดหัวแต่เขากลับไม่แยแส ช่างน่าแปลกจริงๆ

ไป๋ซวี่หยางยื่นนิ้วออกมาแล้วชี้ออกไปข้างนอก เมื่อไป๋มู่หยางมองตามเห็นก็คนขายขนมถังหูลู่เดินผ่านไป ชายหนุ่มขมวดคิ้วเขาไม่เข้าใจความหมายของไป๋ซวี่หยางเลยสักนิด เขาเดินเข้าจวนไป ไป๋ซวี่หยางเอียงศีรษะและมองไปยังด้านหลัง ดวงตาของเขาเหม่อลอยเล็กน้อย

แน่นอนว่าไป๋มู่หยางลืมไปแล้ว

ในตอนที่ไป๋ซวี่หยางยังเป็นเด็กเล็กๆ นั้น ติงเสี่ยวเหลียนอยากให้เขาได้รับความสนใจ นางโยนเขาไว้ที่ประตูจวนสกุลไป๋ เขายืนอยู่คนเดียวท่ามกลางคนแปลกหน้า เด็กน้อยร้องไห้อย่างหวาดกลัว จากนั้นมีพี่ชายคนหนึ่งเดินเข้ามาหาปลอบโยนเขาซื้อขนมถังหูลู่ให้เขา ขนมทั้งอร่อยทั้งหวาน พี่ชายก็แสนใจดี

ครั้งต่อไปเมื่อมารดาทำเช่นนั้นอีก เขาจึงไม่หวาดกลัวอีกต่อไป เขานั่งรอพี่ชายอย่างเชื่อฟัง ความสุขที่สุดของเขาในตอนนั้นคือการได้พบกับพี่ชายและกินขนมถังหูลู่ จนกระทั่งติงเสี่ยวเหลียนถามเขาว่า เขาอยากไปอยู่ในจวนสกุลไป๋ไหม? เขาจึงพยักหน้าตอยรับอย่างไม่ลังเล

เขาอยากไปจวนสกุลไป๋จะได้เจอกับพี่ชายใจดีคนนั้น

ไป๋ซวี่หยางไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เด็กชายอายุมากกว่าคนนั้นจะเป็นพี่ชายของเขาจริงๆ เขามีความสุขมาก แต่ไม่มีพี่ชายผู้อ่อนโยนอีกต่อไปแล้ว พี่ชายไป๋ซวี่หยางอย่างเฉยเมย ไม่ว่าเขาจะพูดอะไรพี่ชายก็ไม่สนใจ เขาไม่เข้าใจและผิดหวังมาก ต่อมาเขาจึงได้รู้ว่าการเกิดของเขาเป็นสิ่งผิด พี่ชายไม่เคยชอบเขาเลย

ติงเสี่ยวเหลียนจะถูกประหารชีวิตหรือ? เขาไม่กระวนกระวายใจหรือกลุ้มใจเลย

เขารู้แล้วว่าคู่ต่อสู้ของเขานั้นทรงพลังมากแค่ไหน ต่อให้เขาเป็นนายใหญ่ของตระกูลไป๋ เขาก็ไม่อาจล้างแค้นให้อาอิ๋นได้ เขาได้แต่ปล่อยวาง

ยิ่งไปกว่านั้นท่านแม่ทำให้เขารังเกียจ เมื่อติงเสี่ยวเหลียนตกลงที่จะฆ่าคนตามข้อเสนอของเขา เขาก็คาดเดาผลลัพธ์ของวันนี้เอาไว้ได้อยู่แล้ว

สำหรับสกุลไป๋ คงต้องให้คนผู้นั้นรักษาเอาไว้

ขนมหวานในความทรงจำไม่มีอีกแล้ว ความอบอุ่นในดวงตาของไป๋ซวี่หยางหายไป ร่างของเขาหายไปในความมืดยามราตรี

….

ข่าวที่ติงเสี่ยวเหลียนถูกตัดสินประหารชีวิตแพร่กระจายไปอย่างรวดเร็ว นายท่านไป๋ตกใจมากจนล้มหมดสติไปกับพื้นก่อนจะตื่นขึ้น เขาพยายามพาร่างกายที่ป่วยของตัวเองไปขอความช่วยเหลือจากคนรู้จัก แต่ไม่ได้ผล ความสิ้นหวังทำให้นายท่านไป๋โกรธไป๋มู่หยางมาก

“ข้าเป็นพ่อของเจ้า พ่อที่ให้กำเนิดเจ้าและเลี้ยงดูเจ้า แต่เจ้ากลับปฏิเสธที่จะไปเป็นพยานในศาล ข้าเลี้ยงหมาป่าตาขาวเช่นเจ้าได้อย่างไร!” นายท่านไป๋พูดด้วยความโกรธ

“นางฆ่ามารดาของข้า ท่านกับท่านแม่แต่งงานกันมาหลายปี ชีวิตของนางก็คือท่าน ท่านไม่เคยใส่ใจชีวิตของท่านแม่เลยหรือ?” ไป๋มู่หยางถามอย่างเย็นชา

“แม่ของเจ้าตายไปแล้ว ติงเสี่ยวเหลียนก็กำลังจะตายเช่นกัน!” นายท่านไป๋นิ่งงันไปชั่วขณะก่อนจะพูดขึ้น

“ชีวิตต่อชีวิต” ไป๋มู่หยางพูดพร้อมรอยยิ้มมีเลศนัย “หากท่านไม่ต้องการแยกจากติงเสี่ยวเหลียน ท่านสามารถตามนางไปได้ เมื่อถึงตอนนั้นข้าจะฝังท่านใกล้ๆ กับนางเอง จะได้อยู่ด้วยกันตลอดไป”

นายท่านไป๋หน้ามืดด้วยความโกรธ บ่าวต้องรีบมาพยุงเขาออกไป

…..

ในขณะเดียวกันที่กรมอาญา

เจิ้งจู่เหวินกำลังคิดหนัก นางติงโง่มาก การที่นางสารภาพรับข้อกล่าวหาทำให้กรมอาญาสามารถลงโทษนางได้ แม้ว่าเจิ้งจู่เหวินจะอยากช่วยนาง แต่เขาจะนำตำแหน่งหน้าที่การงานของเขามาเสี่ยงไม่ได้

หัวใจของเจิ้งจู่เหวินนั้นเย็นเฉียบ เขายอมทิ้งนางติงเหมือนสละเบี้ยเพื่อรักษาขุน! สุดท้ายแล้วนางติงจะทำให้เขาสมปรารถนาได้อย่างไร?

เจิ้งจู่เหวินเป็นเจ้ากรมอาญาและเขาต้องรับผิดชอบนักโทษประหาร

นางติงไม่ต้องการตาย เมื่อเห็นว่าชายคนรักไม่ได้ช่วยเหลือนาง นางจึงเริ่มข่มขู่เขา ถ้าเขาไม่ช่วยนางจะเปิดโปงความสัมพันธ์ของเขากับนาง

ติงเสี่ยวเหลียนทำสิ่งชั่วร้ายมากมาย นางกลัวว่าเจิ้งจู่เหวินจะฆ่านางเพื่อปิดปาก นางจึงมีไพ่ตายของตนเองเช่นกัน ถ้าเขาต้องการจะปิดปากนางล่ะก็ ภรรยาของเขาจะได้รู้ถึงความสัมพันธ์ของพวกเขาทั้งสองคนแน่!

เจิ้งจู่เหวินตื่นตระหนกมาก หากภรรยารู้ว่าเขาแอบมีความสัมพันธ์กับหญิงข้างนอกทุกอย่างจบแน่! เขาต้องหาทางช่วยติงเสี่ยวเหลียน!

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท