เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 400 ซานเป่าหาอาจารย์

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 400 ซานเป่าหาอาจารย์

ถังหลี่ถอดเสื้อตัวนอกของซานเป่าออกเผยเห็นเสื้อตัวในสีขาว เด็กน้อยน้ำหนักลดลงเยอะมาก เอวของนางเพรียวขึ้นแต่แก้มยังเป็นพวงนุ่มนิ่ม อีกไม่กี่ปีนางก็จะเติบโตเป็นเด็กสาวที่ผอมเพรียว ทำให้ถังหลี่ตั้งตารอวันนั้น

หลังจากที่เด็กหญิงถอดเสื้อออกแล้วนางก็ปีนขึ้นเตียง เห็นเพียงศีรษะเล็กๆ เท่านั้นที่โผล่ออกมา นางมองมารดาอย่างกระตือรือร้น ซานเป่าไม่ได้นอนกับแม่นานแล้วทำให้เด็กหญิงมีความสุขมาก

ถังหลี่ถอดเสื้อตัวนอกออกแล้วขึ้นเตียงเช่นกัน เด็กหญิงตัวเล็กๆ เหมือนเตาอุ่นมือน้อยๆ นางมุดมาในอ้อมกอดของถังหลี่ สูดจมูกดมกลิ่นมารดา ท่านแม่ของนางตัวหอมมาก

“ซานเป่า เจ้าอยากได้อาจารย์แบบไหนหรือ?” ถังหลี่ถาม

“แข็งแกร่งจนไม่มีใครเทียบ” ซานเป่ายื่นมือของนางออกไปทำท่าทาง นางอยากให้อาจารย์ของนางมีวิชาตัวเบาเหินไปได้ไกล แค่เพียงสะบัดปลายเท้าไม่กี่ครั้งก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย เขาต้องเป็นปรมาจารย์ที่เก่งกาจจนใครไม่อาจสู้ได้

“มีอะไรอีก” ถังหลี่ถาม

ซานเป่าสบตามารดาด้วยดวงตาเปียกชื้น

“แล้วก็…หน้าตาดี” ซานเป่าพูดเขินๆ ก่อนจะเอามือเล็กๆ ปิดใบหน้า

ซานเป่าของนางชอบคนหน้าตาดีจริงๆ ถังหลี่พอจับทางได้ ว่านางนั้นชอบเล่นกับเด็กหน้าตาดี

“หน้าตาดีขนาดไหนหรือ?” ถังหลี่จงใจแกล้งบุตรสาว

ซานเป่าขยับมือเล็กๆ ของนางออกจากหน้ามองมารดาด้วยนัยตาสีเข้ม

“ถึงจะเทียบท่านพ่อกับท่านแม่ไม่ได้ แต่อย่างน้อยก็หน้าตาดีพอๆ กับท่านลุงมู่หยางและท่านลุงรอง”

ช่างเป็นความต้องการที่สูงมากจริงๆ ทั้งไป๋มู่หยางและกู้หวนอวี้เป็นชายหนุ่มที่หน้าตาดีที่สุดในเมืองหลวง โดยเฉพาะกู้หวนอวี้เขาหล่อเหลาประมาณพานอัน[1] หรือเว่ยเจี่ย[2] หนุ่มหล่อในตำนานที่ดึงดูดสตรีนับไม่ถ้วนยามเมื่อออกไปข้างนอก

เมื่อพูดถึงอาจารย์ที่ไม่มีใครเทียบได้และหน้าตาดี ถังหลี่นึกถึงคนผู้หนึ่ง เขาได้ทิ้งมรดกเป็นคัมภีร์เล่มหนึ่งเอาไว้ให้ซานเป่าได้ฝึกฝนวรยุทธ์ในนวนิยายต้นฉบับ

ทั้งสองคนเคยเจอกันเป็นช่วงเวลาสั้นๆ หกปีผ่านไปไม่รู้ว่าคนผู้นั้นจะอยู่ที่ไหน

“มีอย่างอื่นอีกไหม? นิสัยล่ะ?” ถังหลี่ถามต่อไป

ซานเป่านอนคว่ำหน้าและเอามือยันคางตนเอง นางทำสีหน้าเคร่งเครียด

“เป็นคนสนุกสนาน” ซานเป่าพูด นางเดาได้ว่าท่านแม่ของนางถามทำไม

“ท่านแม่ ข้าอยากหาอาจารย์ด้วยตัวเอง” ซานเป่ากล่าว

เมื่อซานเป่าพูดขึ้น เงาลางคลุมเครือปรากฏอยู่ในใจของนาง แต่นางจำได้ไม่ชัดเจนนัก ถังหลี่ยิ้มเล็กน้อยอย่างเอาอกเอาใจ

“ได้สิ ถ้าเช่นนั้นแม่จะให้ซานเป่าหาอาจารย์ของตัวเอง”

“ท่านแม่เยี่ยมที่สุด” ซานเป่าจูบใบหน้าของถังหลี่ แม่ลูกนอนกระซิบหยอกล้อกันไม่นานนักเสียงของซานเป่าก็ค่อยๆเบาลงจากนั้นจึงได้ยินเสียกรน

ถังหลี่มองไปเห็นนางหลับอยู่ในอ้อมแขน ขนตาของเด็กหญิงยาวมากจนเหมือนพัดขนาดเล็ก จมูกเล็กๆ ขยับไปมาอย่างน่าเอ็นดู ริมฝีปากเผยอขึ้นเหมือนลูกหมูตัวน้อย ถังหลี่จูบแก้มของนางก่อนจะเป่าเทียนและหลับไป

เช้าวันถัดมา

ซานเป่าเปลี่ยนเสื้อและทานอาหารเช้า นางเอาแต่กินปลา ถังหลี่ไม่ว่าหากซานเป่าอยากกินอะไรนางจะคีบใส่ชามของเด็กหญิง

ซานเป่าหันไปเห็นสีหน้าที่ขุ่นเคืองของบิดา

เมื่อคืนนางนอนกับท่านแม่ทั้งคืนทำให้ท่านพ่อไม่พอใจ หากเป็นเช่นนี้ต่อไปท่านพ่อจะตีนางไหม?

ซานเป่าเอียงคออย่างสงสัย ลืมไปว่านางไม่อยากท้าทายกฎกฎข้อนี้ ซานเป่ากลอกตาก่อนจะวิ่งไปนั่งข้างๆ พี่รองแทน จากนั้นท่านพ่อก็อาศัยรูปร่างใหญ่โตของเขาไปถูไถสีข้างของมารดาเกาะติดนางแทนซานเป่า

หลังจากซานเป่าทานข้าวเสร็จ นางออกไปด้านนอกเห็นอู่โหวเยว่กำลังถือกรงนกอยู่ในมือ

“ท่านปู่” ซานเป่าวิ่งไปจับชายเสื้อของอู่โหว

“ไปเดินเล่นกับปู่ไหม?” อู่โหวเยว่ลูบศีรษะของนาง

ทั้งสองเดินไปที่หน้าประตูจวนโหวก่อนจะเดินออกไปที่ถนน ก่อนหน้านี้อู่โหวเยว่เดินเล่นไปมารอบๆ เพียงคนเดียว แต่ตอนนี้เขามีหลานตัวน้อยเดินมากับเขา เจ้าตัวเล็กชอบมองโน่นมองนี่ ทั้งฉลาดและน่ารัก ชอบซักชอบถาม ทำให้นายท่านอู่มีความสุขมาก

เวลาพบคนรู้จักเขาก็จะอวดว่านี่คือหลานสาวตัวน้อยของเขา ทำให้คนเหล่านั้นอิจฉาและอยากขโมยนางไปเป็นของตัวเอง ยิ่งทำให้เขามีความสุขมากขึ้น แต่วันนี้เดินมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่เขายังไม่พบคนรู้จักเลย

ในขณะที่เดินไปเขาก็เห็นขอทานสี่ห้าคนกำลังรังแกคนผู้หนึ่ง

“ที่นี่คือถิ่นของเรา ออกไป”

“ใช่ ถ้าไม่ออกจะโดนทุบตี”

พวกขอทานพากันทุบตีเขา คนผู้นั้นไม่ขัดขืน เขาเดินไปหยิบขวดเหล้าของตัวเองในขณะที่ขอทานยังรุมประเคนทั้งหมัดและเท้าให้เขา นายท่านอู่มองพวกเขาพลางขมวดคิ้ว ขณะที่กำลังจะเอ่ยห้ามปราม ซานเป่าก็กระโจนพุ่งไป

“หยุดนะ” ซานเป่าวางมือบนสะโพกและตะโกนหยุดพวกเขาด้วยท่าทีดุร้าย

เมื่อเห็นว่านางเป็นเพียงเด็กผู้หญิง ขอทานเหล่านั้นจึงไม่สนใจ ยังคงทุบตีชายผู้นั้นต่ออย่างเมามัน ชายผู้นั้นสกปรกมีผมเผ้ารุงรังดูเหมือนสุนัขใกล้ตาย เขานอนคว่ำปล่อยให้คนขอทานเหล่านั้นทุบตีเขา ซานเป่าขมวดคิ้ว นางหยิบไม้ที่พิงกับผนังเหวี่ยงไปทางขอทาน แม้ซานเป่ายังเด็กและตัวไม่สูง แต่นางมีพลังมหาศาล แค่ไม้ท่อนเดียวก็ทำให้พวกขอทานล้มลงกับพื้น เมื่อพวกมันเห็นอย่างนั้นก็รีบเข้ามาล้อมซานเป่าทันที

ซานเป่าก้าวเท้าเหวี่ยงไม้ในมือ ส่งเสียงคำรามอย่างความดุดัน อู่โหวเยว่เดินไปที่ด้านหลังซานเป่า เมื่อพวกเขาเห็นอู่โหวเยว่แต่งตัวหรูหราจึงรู้ว่าย่อมมาจากตระกูลร่ำรวยเป็นแน่ ทำให้ไม่กล้าที่จะรุกรานเขา พวกขอทานพากันพยุงเพื่อนที่ล้มกับพื้นแล้วหนีไปทันที

ซานเป่ายืนมองขอทานบนพื้นด้วยสีหน้ากังวล

“ท่านเป็นอย่างไรบ้าง?”

ชายคนนั้นพลิกตัวนอนหงายใบหน้าที่มีหนวดเคราและดวงตาคู่หนึ่งจับจ้องไปที่ซานเป่า เขาดูสกปรกมากมีกลิ่นเหม็นทั่วทั้งร่าง แต่กลับมีดวงตาดอกท้อที่สวยงามคู่หนึ่ง เพียงแต่ดูหม่นแสงไปบ้าง

“หิว” เขาเอ่ยปาก

ซานเป่ายื่นขนมให้ เขาคว้าจากมือของเด็กหญิงรีบยัดเข้าปากทันที ก่อนจะรีบกลืนขนมชิ้นนั้นหมดภายในสองสามคำเท่านั้น

“มีอีกไหม?” เขาถาม

ซานเป่าหยิบขนมออกมาจากในกระเป๋าส่งให้แก่เขา เขารับไปกินจนหมดอย่างไม่ลังเล จากนั้นจึงส่งเสียงเรอออกมา เขาโยนขวดเหล้าไปที่เท้าของซานเป่า

“ยัยหนูไปเอาสุรามาให้ข้าหน่อยสิ”

คิ้วของนายท่านอู่ขมวดแน่น เมื่อเห็นว่าหลานสาวตัวน้อยของเขาได้ช่วยคนนิสัยไม่ดีเข้าแล้ว

[1] พานอัน เกิดในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันตก เป็นนักปราชญ์ เป็นนักกวีที่มีชื่อเสียง ความหล่อของเขานั้นมากขนาดที่ว่าเวลาขี่รถม้าไปข้างนอกก็มักมีผู้หญิงทุกวัย ทุกรุ่นมารุมล้อม อยากใกล้ชิด อยากเข้าหา ส่วนผู้หญิงที่เข้าไปไม่ถึงตัวแต่อยากแสดงความรัก ก็ใช้วิธีโยนผลไม้ใส่เข้าไปในรถม้าของเค้าแทนความรักที่มีต่อพานอัน

[2] เว่ยเจี่ย หนึ่งในสี่หนุ่มรูปงามในประวัติศาสตร์จีน เกิดในสมัยราชวงศ์จิ้นตะวันตก ความหล่อของเขานั้นว่ากันว่า เขามีผิวขาวเนียนสวยเหมือนรูปปั้นหยก ดวงตาเงาวาว ท่าทางของเขานุ่มนวลสง่างาม เวลานั่งรถม้าเข้าไปในเมือง ผู้คนต่างคิดว่าเป็นรูปสลักไม่ใช่คนจริงๆ ไปไหนมาไหนก็มีแต่คนรุมล้อมอยากเข้าใกล้อยากสัมผัส

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท