บทที่ 402 เสวียนเซิงตู้เย่อยู่ที่ไหน?
ซานเป่าอารมณ์ดีขึ้นมาก นายท่านอู่เฝ้ามองด้วยหัวใจที่หนักอึ้ง หลานของเขาถูกหลอกลวงได้ง่ายเช่นนี้เลยหรือ? ซานเป่าเก็บข้าวของ
“อย่าเดินไปไหนมาไหน ข้าจะมาหาท่านตอนเที่ยง”
ชายคนนั้นหลับตาไม่ตอบว่าอะไร
ซานเป่าลุกขึ้นไปคว้าชายเสื้อของท่านปู่
“ท่านปู่เราไปกันเถอะ”
คิ้วของนายท่านอู่ขมวดยุ่ง เขาต้องดูแลหลานให้ดีไม่ให้โดนหลอกได้!
หลังจากนั้นซานเป่าก็ทำอาหารกลางวันและเย็นมาให้ขอทาน โดยที่นายท่านอู่มาด้วยทุกครั้ง
….
กลางดึกที่จวนอู่โหว
เว่ยฉิงนอนกอดถังหลี่ไว้ในอ้อมแขน เขากำลังครุ่นคิดบางอย่าง ถังหลี่ถามเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นในกรมอาญา
“ตอนนี้ตำแหน่งเจ้ากรมอาญากำลังว่าง มีหลายคนกำลังจับตาจ้องตำแหน่งนั้น” เว่ยฉิงพูด
“ทว่าฮ่องเต้ยังไม่ทรงตัดสินพระทัย”
มีขุนนางหกคนที่สามารถขึ้นตำแหน่งนั้นได้ ดังนั้นจึงเป็นเรื่องปกติที่ตำแหน่งนี้ต่างมีคนจำนวนมากหมายปอง
“แล้วสถานการณ์ภายในราชสำนักตอนนี้เป็นอย่างไร?”
“กลุ่มอำนาจหลายฝ่ายกำลังชิงไหวชิงพริบกัน องค์ชายสามและองค์ชายหกต่างจ้องตำแหน่งรัชทายาท องค์ชายสามเป็นที่โปรดปราน แต่ตระกูลฝั่งมารดาขององค์ชายหกก็แข็งแกร่ง นอกจากนี้ยังมีองค์หญิงใหญ่เฉวียนเซิงที่มีอำนาจในมือ อีกทั้งองค์หญิงใหญ่ยังมีพระประสงค์ให้พระธิดาองค์โปรดได้อภิเษกสมรสกับองค์ชายสาม หากทั้งสองได้จับมือกัน พวกเขาจะได้เปรียบองค์ชายหก ส่วนกลุ่มขุนนางที่นำโดยเว่ยโส่วฝู่นั้น วางตัวเป็นกลางไม่เอียงไปทางด้านใด”
ภายใต้สถานการณ์ที่ซับซ้อนนี้ สามีของถังหลี่ยังต้องค้นหาความจริงเพื่อแก้แค้นคนเหล่านั้น พร้อมทั้งกอบกู้สกุลเซียวไปด้วย เขาต้องเผชิญกับความลำบากมากมาย ยิ่งกว่านั้นเมื่อพวกเขาต่อสู้กัน ผู้ที่เดือดร้อนก็คือราษฎร
ถังหลี่มีความรู้สึกว่าแผ่นดินกำลังระส่ำระส่าย
“ใครคือเว่ยโส่วฝู่?” ถังหลี่ถาม
“เขาเป็นบัณฑิตจากครอบครัวยากจน เป็นที่ปรึกษาของฮ่องเต้มาสิบห้าปี เขาทำงานมาถึงสามรัชกาลแล้ว ทั้งยังเป็นพระอาจารย์ของฮ่องเต้องค์ปัจจุบัน พระองค์ให้ความเคารพเขามาก” เว่ยฉิงพูด
เขายังไม่รู้ว่าเว่ยโส่วฝู่มีบทบาทเกี่ยวข้องอย่างไรกับตระกูลเซียวที่ถูกใส่ร้ายและประหารทั้งตระกูล เรื่องนี้ต้องสืบ
“ใต้เท้าเหวิน..”
“ใต้เท้าเหวินเป็นลูกศิษย์ของเว่ยโส่วฝู่” เว่ยฉิงพูด
จากที่ถังหลี่ได้รู้จัก ใต้เท้าเหวินเจ้าคณะมณฑลชิงเหอนั้น เขาเป็นคนซื่อตรงและหนักแน่น แต่ไม่อาจสรุปได้ว่าเว่ยโส่วฝู่เป็นคนดีเพียงเพราะลูกศิษย์ของเขาเป็นคนดี
“ฮูหยินเลิกคิดเถอะ นอนกัน พรุ่งนี้ข้าจะจัดการเรื่องของกรมอาญาเอง” เว่ยฉิงพูด หญิงสาวพยักหน้าก่อนจะหาที่สบายๆ ในอ้อมแขนของเว่ยฉิงอิงและผล็อยหลับไป ชายหนุ่มจูบที่หน้าผากของนางก่อนจะหลับไปในที่สุด
วันถัดมา
วันนี้ถังหลี่ตื่นเช้ามากและพบว่าเว่ยฉิงนั้นไม่อยู่แล้ว หญิงสาวรีบอาบน้ำ กินข้าว ก่อนจะวางแผนไปที่จวนแม่ทัพ เพื่อดูแลว่ามารดาของนางเป็นอย่างไรบ้าง
“คุณหนู”
“คุณหนูมาแล้ว”
บ่าวรับใช้ต่างทักทายนาง ถังหลี่เดินไปที่เรือนของมารดา พบว่านางกำลังรออยู่ที่ประตู ถังหลี่ขมวดคิ้วก่อนจะรีบเดินไปหานาง
“ไม่ต้องกังวล แม่ใส่เสื้อผ้าหนา ไม่หนาวหรอก” ฮูหยินกู้หัวเราะ เมื่อพูดถึงเรื่องนี้บุตรสาวของนางช่างเหมือนเสื้อนวมอุ่นๆ เสียจริง แม้ว่าลูกชายทั้งหลายของนางจะมีความกตัญญูแต่ก็ไม่เอาใจใส่เท่ากับบุตรสาว
“ท่านแม่ เมื่อคืนปวดหัวหรือไม่?” ถังหลี่ถาม
“ไม่แล้ว อย่างมากก็เดือนละครั้ง” ฮูหยินพูด
“ยาของหมอซูนั้นดีมาก ฝีมือการนวดของลูกสาวข้าก็ดี อาการปวดของแม่เฒ่าผู้นี้หายไปเกือบหมดแล้วล่ะ”
ถังหลี่ถอนหายใจอย่างโล่งอก สุขภาพของท่านแม่ดีขึ้นเรื่อยๆ ทั้งสองเดินเข้าไปในห้อง เตาอุ่นที่มีนั้นทำให้ห้องอุ่นขึ้นมาก หญิงสาวช่วยมารดาถอดเสื้อคลุมออก ก่อนจะเห็นภาพวาดจำนวนมากบนโต๊ะ หญิงสาวมองภาพเหล่านั้นพบว่ามันเป็นภาพของหญิงสาว ทุกภาพล้วนมีลักษณะเฉพาะดูอ่อนโยนเหมือนสาวสูงศักดิ์ในเมืองหลวง…
“ท่านแม่ พวกนี้คือ…?”
“แม่กำลังหาฮูหยินให้พี่ๆ ของเจ้า”
“ท่านพี่หรือ?”
“ถูกต้อง” ฮูหยินกู้กล่าว
“พี่ใหญ่ของเจ้าก็ยี่สิบปลายแล้ว ไม่ใช่เด็กๆ คนอื่นที่อายุไล่เลี่ยกับเขานั้นต่างมีลูกที่อายุเกือบสิบขวบกันแล้วทั้งนั้น”
“แต่พี่ชายของเจ้านั้นเฉยชาเกินไป แม่ไม่รู้ว่าเขาชอบสตรีเช่นไร ทำให้มันยากมาก”
“ลองเลือกให้พี่ชายเจ้าสิ”
ถังหลี่มองไปยังภาพเหล่านั้น ในบรรดารูปภาพของสตรีสูงศักดิ์เหล่านั้นมีคนหนึ่งที่ดึงดูดความสนใจของนาง ก็คือเซี่ยฟางเฟย! หญิงคนนี้เป็นสตรีที่นางพบในเมืองเหยาสุ่ย
นางเกลียดเซี่ยฟางเฟยมาก หากสตรีคนนี้เข้าไปในสกุลใด ครอบครัวนั้นย่อมไม่สงบสุข พี่ชายคนโตของนางเป็นบุรุษที่ดี เขาต้องคู่ควรกับสตรีที่ดีที่สุด ไม่ใช่หญิงเช่นนี้
“ท่านแม่ ข้าไม่ชอบคนผู้นี้” ถังหลี่พูดขึ้น
เมื่อฮูหยินกู้ได้ยินที่บุตรสาวพูดก็ตามใจนางทันที
“ตกลง ไม่เอาคนนี้” นางพูดก่อนจะเก็บรูปภาพของเซี่ยฟางเฟย ถังหลี่นวดศีรษะให้มารดาและพูดคุยกับนางเป็นเวลานานก่อนจะจากไปหลังอาหารกลางวัน เมื่อหญิงสาวนั่งรถม้าผ่านตลาดก็ได้ยินเสียงเอะอะโวยวายที่ด้านนอก เพราะความอยากรู้อยากเห็นถังหลี่จึงเปิดม่านขึ้นและมองออกไป มีกลุ่มคนกำลังยืนคุยเรื่องในประกาศ
“มีอะไรหรือ?”
“มีรับสมัครผู้มีความสามารถด้านการต่อสู้”
“คนใหญ่คนโตที่ไหนรับผิดชอบในครั้งนี้หรือ?”
“เป็นองค์ชายสามน่ะ พระองค์อยากได้คนที่มีฝีมือ และหากผ่านการทดสอบก็จะสามารถเข้าเป็นขุนนางได้”
ถังหลี่ฟังคำพูดอย่างครุ่นคิด ในแผ่นดินต้าโจวมีทั้งการสอบหน้าพระที่นั่งของบัณฑิต และการคัดเลือกผู้มีฝีมือเข้าสู่ราชสำนัก
ในสนามประลองการต่อสู้นี้ ผู้ที่มีความสามารถที่สุดจะได้รับตำแหน่งแม่ทัพ ตอนนี้แม่ทัพแทบทุกคนล้วนมาจากการแข่งในสนามประลองยุทธทั้งสิ้น ทำให้บรรดาผู้มีวรยุทธหลายคนมีเป้าหมายในการเข้าไปประลองที่นี่ ทันทีที่พวกเขาได้เข้าไปในสนามประลอง ก็เหมือนเป็นก้าวแรกที่พุ่งทะยานอย่างมั่นคง
แต่ถังหลี่กำลังนึกเรื่องอื่น ในการสอบครั้งนี้องค์ชายสามเป็นคนรับผิดชอบคัดสรรคน
โอกาสที่จะได้เป็นผู้คุมการคัดเลือกนั้นยากมากและขั้นตอนล้วนเป็นความลับ แต่ฮ่องเต้ให้โอกาสนี้แก่จ้าวชูหมายความว่าพระองค์กำลังหมายตาให้เขาขึ้นเป็นองค์รัชทายาทหรือ?
ถังหลี่กำลังนึกถึงในบางคนตามนวนิยายต้นฉบับ เสวี่ยนเซิงตู้เย่จะเป็นคนที่ผ่านการทดสอบในครั้งนี้
สิ่งที่ถังหลี่ไม่เข้าใจคือเหตุใดคนที่หยิ่งสโยอย่างตู้เย่จึงภักดีต่อจ้าวชูมากเช่นนั้น แต่หลังจากการปรากฏตัวของถังหลี่ เนื้อเรื่องของนวนิยายในครั้งนี้เปลี่ยนไปมาก
ถังหลี่รู้สึกเสียใจที่ตู้เย่ต้องจบชีวิตลงในหนังสือเรื่องนี้ แม้นางกับเขาจะได้พบกันในช่วงเวลาสั้นๆ แต่ก็ไม่อยากให้ตู้เย่เป็นเหมือนในนิยาย ตอนนี้ชายคนนั้นอยู่ที่ใด?