บทที่ 420 เซี่ยฟางเฟยมีส่วนในคดีฆาตกรรม
ใบหน้าของฝางเหมี่ยวแดงระเรื่อ นางมองใต้เท้ากู้ในขณะที่กำลังถือผ้าเช็ดหน้าอยู่ในมือ อดไม่ได้จะกำมันแน่นไว้ที่หน้าอก หัวใจดวงน้อยของนางเต้นถี่แรงขึ้น ฝางเหมี่ยวสูดลมหายใจเพื่อระงับอารมณ์ปั่นป่วนของตนเอง
นี่นางกำลังคิดอะไรอยู่!
เขาเป็นบุตรคนโตของแม่ทัพกู้ เป็นผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ ส่วนนางเป็นเพียงอู่จั้วตัวเล็กๆ ระหว่างเขากับนางเปรียบดังฟ้ากับเหว!
ฝางเหมี่ยวระงับความกระวนกระวายภายในใจแล้วเดินตามหลังกู้หวนเนี่ยนไปอย่างรวดเร็ว ทันใดนั้นเองฝีเท้าของกู้หวนเนี่ยนก็หยุดชะงักลง ทำให้นางรั้งฝีเท้าเอาไว้ไม่ทัน ผลก็คือหญิงสาวพุ่งชนเข้ากับหลังของเขาอย่างไม่ตั้งใจ นางตกใจไปชั่วครู่ ถอยหลังไปสองก้าว เป็นที่รู้กันว่าใต้เท้ากู้ไม่ชอบให้ใครมาถูกตัวหรือสัมผัสเขา นี่นางทำอะไรลงไป!
“ข้าขอโทษเจ้าค่ะ!” ฝางเหมี่ยวรีบกล่าวขอโทษอย่างรวดเร็ว
กู้หวนเนี่ยนเพียงแค่มองหน้านาง เขาไม่พูดอะไรเพียงแต่เดินต่อไป ทำให้ฝางเหมี่ยวชะงักไป ที่มุมปากของเขามีรอยยิ้มหรือว่านางจะตาฝาดไป?
ในศาลต้าหลี่ใต้เท้ากู้นั้นมีสมญานามว่า ‘มัจจุราชหน้าตาย’
…..
กู้หวนเนี่ยนตรวจสอบความสัมพันธ์ของผู้ตายและคนที่เขาได้พบเจอ ไม่ช้าคดีก็มีความคืบหน้า
เมื่อไม่กี่วันก่อน มีพยานเห็นผู้ตายมีปากเสียงกับคนผู้หนึ่งในตลาดก่อนจะเสียชีวิต อีกฝ่ายคือเซี่ยซือหยวน เขาเป็นบุตรชายของหมอหลวงและเป็นสหายร่วมดื่มกับผู้ตาย ครั้งนี้ไม่แน่ใจว่าเหตุใดทั้งสองจึงมีปากเสียงกัน
กู้หวนเนี่ยนเรียกตัวบุคคลนี้มาทันที เขามีทีท่าตื่นตระหนกผิดปกติ จากผลของการชันสูตรที่กู้หวนเนี่ยนบอกเขายิ่งกระวนกระวายมากยิ่งขึ้น หลังจากใต้เท้ากู้กดดันเขาสักพักในที่สุดเขาก็สารภาพออกมาอย่างน่าตกใจ
“ใต้เท้า…ข้าเป็นคนฆ่าเขา…” เซี่ยซือหยวนคุกเข่ากับพื้นอย่างตื่นตระหนก
“เหตุใดเจ้าถึงฆ่าเขา?” กู้หวนเนี่ยนถามอย่างเย็นชา ชายผู้นี้เก็บงำความลับบางอย่างไว้ กู้หวนเนี่ยนอธิบายถึงโทษทัณฑ์ที่เขาจะได้รับอย่างละเอียดถี่ถ้วน หลังจากได้ฟังสีหน้าของเขาก็ยิ่งซีดเซียวมากยิ่งขึ้น
“หากเจ้าสารภาพมาตามตรงล่ะก็ ข้าอาจลดโทษผ่อนผันได้” กู้หวนเนี่ยนพูดขึ้น
ความเข้มแข็งที่จะยืนกรานของเซี่ยซือหยวนพังทลายลงทันที เขารีบสารภาพออกมา
“ขอรับ… เซี่ยฟางเฟยขอให้ข้าฆ่าเขา”
“เซี่ยฟางเฟย?”
“เซี่ยฟางเฟยบุตรสาวของใต้เท้าที่คุมการขนส่งเกลือขอรับ” เซี่ยซือหยวนกล่าว
“เหตุใดนางจึงให้เจ้าฆ่าเขา?”
“จางเหลียงกงและข้าเป็นสหายที่ดีต่อกัน แต่เพราะเป็นเพราะข้าและเขาต่างชอบพอเซี่ยฟางเฟยด้วยกันทั้งคู่ พวกเราจึงทะเลาะขัดแย้งกัน ข้าจะด้อยไปกว่าเขาได้อย่างไร? เขาเองก็มีภรรยาเอกอยู่แล้ว แต่ข้ายังไม่ได้แต่งงาน ข้าสามารถตบแต่งเซี่ยฟางเฟยเป็นฮูหยินของข้าได้ แต่ข้าไม่ได้คิดมาก่อนเลยว่า ไอ้สารเลวแซ่จางผู้นั้นมันจะทำเรื่องชั่วช้ากับฟางเฟยได้!”
ตาของเขาแดงก่ำและเต็มไปด้วยโทสะที่ไม่อาจเก็บเอาไว้ได้ เขาสูดลมหายใจเข้าสองสามครั้งก่อนจะพูดต่อ
“ไม่กี่วันก่อนฟางเฟยบอกข้าว่านางกับจางเหลียงกงมีความสัมพันธ์ทางกายกัน ชายคนนั้นมอมเหล้านาง นางไม่ได้เต็มใจเลยแม้แต่น้อย จางเหลียงกงมันเป็นสัตว์ร้าย!”
“เขายังบังคับให้นางเป็นอนุฯของเขา แต่ฟางเฟยไม่เต็มใจ นางไม่มีที่พึ่งจึงมาหาข้าขอให้ข้าฆ่าเขา”
“ฟางเฟยพูดกับข้าว่า หากข้าฆ่าเขาได้ล่ะก็ นางจะแต่งงานกับข้า เดิมทีข้าแค่ตั้งใจให้เขาตกลงไปในน้ำเท่านั้น ไม่คิดว่า…”
“ไม่คิดว่าเขาจะตายจริงๆ หรือ?”
เซี่ยซือหยวนน้ำตาไหลออกมา ชายหนุ่มหรี่ตามอง หากเป็นอย่างที่เขาพูดจริงๆ ล่ะก็ แม้เซี่ยฟางเฟยจะไม่ใช่ฆาตกรแต่ก็เป็นผู้สมรู้ร่วมคิด
“ไปคุมตัวเซี่ยฟางเฟยมา”
….
จวนสกุลเซี่ย
ใบหน้าของเซี่ยฟางเฟยทั้งบวมและน่าเกลียด ตั้งแต่ที่นางรู้ว่าถังหลี่เป็นน้องสาวของกู้หวนเนี่ยน นางก็ตระหนักแล้วว่าความสัมพันธ์ระหว่างนางและกู้หวนเนี่ยนจะเป็นไปไม่ได้
คนทั้งเมืองหลวงรู้ดีว่ากู้หวนเนี่ยนรักน้องสาวคนนี้มากแค่ไหน นางกับถังหลี่เป็นศัตรูกัน จึงเป็นไปไม่ได้ที่กู้หวนเนี่ยนจะมีใจให้ฟางเฟย
แต่นางไม่อาจกล้ำกลืนโทสะและความขุ่นมัวเอาไว้ได้ เมื่อกลับถึงเรือน จึงเฝ้าแต่ครุ่นคิดว่า สามีของถังหลี่คือเว่ยฉิงไม่ใช่หรือ?
ถังหลี่อยู่ในเมืองหลวง สามีของนางเป็นบุตรชายของอู่โหวเยว่ แล้วเว่ยฉิงหายไปไหน? นางรู้สึกว่าเรื่องนี้ดูไม่ชอบมาพากล และอาจจะทำลายชื่อเสียงของถังหลี่ได้ เซี่ยฟางเฟยเรียกบ่าวรับใช้มาเพื่อให้ไปตรวจสอบเรื่องนี้ แต่ก่อนที่บ่าวจะมาหา เจ้าหน้าที่จากศาลต้าหลี่ก็มาถึงจวนเสียก่อน เซี่ยฟางเฟยมองไปเจ้าหน้าที่อย่างนิ่งงัน
“เซี่ยฟางเฟย?”
“ข้าเอง เหตุใดพวกเจ้าจึงได้บุกเข้ามาถึงห้องส่วนตัวของข้า”
“เซี่ยฟางเฟย ทางเราสืบได้ว่าเจ้าเป็นผู้ที่เกี่ยวข้องกับการตายของจางเหลียงกง ทางการจึงได้มาเชิญเจ้าไปให้ปากคำที่ศาลต้าหลี่ นี่เป็นหมายจับจากใต้เท้า” หัวหน้าเจ้าหน้าที่พูดอย่างรวดเร็ว
จางเหลียงกง?
ใช่จางเหลียงกงที่นางรู้จักหรือไม่? แล้วเขาตายได้อย่างไร?
หญิงสาวมีคนสนิทมากมายในเมืองหลวง คนเหล่านั้นเป็นเสมือนแขนขาให้กับนาง จางเหลียงกงเองก็เป็นหนึ่งในนั้น บิดาเขาเป็นขุนนางขั้นสาม เขามีอำนาจพอควร แต่เขามีภรรยาเอกอยู่แล้ว
เซี่ยฟางเฟยไม่ได้สนใจภรรยาของเขา นางวางแผนล่อปั่นหัวเขาเล่นเท่านั้น ต่อให้นางยุให้จางเหลียงกงหย่ากับภรรยาเขา เขาย่อมไม่ปฏิเสธนางอยู่แล้ว นางอยากมั่นใจในเสน่ห์ของตนเองจึงได้เอ่ยปากกับเขา ใครเลยจะไปคิดว่าเขากลับลังเล
เซี่ยฟางเฟยอารมณ์เสีย พวกเขาทะเลาะกัน นางโกรธมากจึงได้ไปเล่าเรื่องนี้ให้เพื่อนของจางเหลียงกงฟัง กุเรื่องที่เขาข่มเหงนาง
ในขณะที่รอดูเรื่องตื่นเต้น กลับกลายเป็นเขาเสียชีวิตไปแล้ว!
“ข้าไม่เคยเจอเขา การตายของเขาไม่เกี่ยวข้องกับข้า นางโต้แย้งขึ้นมาทันที
“เอาตัวนางไป!”
เจ้าหน้าที่สองคนเข้ามาจับกุมนางทันที เมื่อเซี่ยหรงอันได้ยินว่ามีเจ้าหน้าที่จากทางการมานำตัวบุตรสาวเขาไปศาลต้าหลี่ เขารีบกลับมาทันที
“อะไร! เกิดอะไรขึ้นกับบุตรสาวของข้า?” เซี่ยหลงอันตกใจ
หากศาลต้าหลี่เข้ามาจับกุมผู้คนถึงในเรือนเช่นนี้ไม่น่าจะเป็นเรื่องดี
“ใต้เท้าเซี่ย บุตรสาวของท่านมีส่วนพัวพันกับคดีฆาตกรรม เราต้องการจะพานางไปให้ปากคำ”
“บุตรสาวข้าจะเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรมไปได้อย่างไร?”
“ท่านพ่อ! ช่วยข้าด้วย ข้าไม่อยากไปศาลต้าหลี่!”
เซี่ยหรงอันเห็นลูกสาวที่ดิ้นรนขัดขืนการจับกุม เขาเกิดความเจ็บปวดขึ้นมาทันที
“ฟางเฟยไม่ต้องกลัว พ่ออยู่นี่แล้ว!”
ก่อนที่เขาจะเข้าไปถึงตัวเซี่ยฟางเฟย เจ้าหน้าที่จับเขาไว้
“ใต้เท้าเซี่ย นี่เป็นหนังสือการจับกุมที่ลงนามโดยใต้เท้ากู้ ท่านโปรดอ่านและอย่าได้ขัดขวางการทำงานของพวกเรา”
เซี่ยหรงอันดูหนังสือการจับกุมเห็นเขียนชื่อบุตรสาวของเขาเอาไว้อย่างชัดเจน เขาวิงเวียนพาลจะเป็นลม
“ท่านพ่อ! ข้าไม่ไปศาลต้าหลี่ ท่านอย่าสนใจหนังสือฉบับนั้น” เซี่ยฟางเฟยตะโกนขึ้นมา เจ้าหน้าที่รีบพาตัวนางไปทันทีโดยไม่ฟังคำร้องของนาง
“ท่านพ่อช่วยข้าด้วย!”
“ท่านไม่ห่วงใยชีวิตบุตรสาวของท่านเลยหรือ? ท่านเป็นบิดาเช่นไรกัน!”
“หากท่านช่วยข้าไม่ได้ ก็ไม่ต้องมาเป็นพ่อลูกกันอีกแล้ว!” เซี่ยฟางเฟยตะโกนออกมาอย่างสุดเสียง คำพูดของนางล้วนเสียดแทงเข้ามาในหัวใจของเซี่ยหรงอันเป็นอย่างมาก ตอนที่ภรรยาตายเขาก็ไม่ได้อยู่เคียงข้างนาง ยามที่เซี่ยฟางเฟยตกน้ำ เขาไม่ได้ช่วยเหลือนาง เขาเป็นสามีและบิดาเช่นไรกันแน่!
เซี่ยหรงอันเดินตามบุตรสาวไปสองสามก้าว อาการวิงเวียนถาโถมเข้าใส่จนเขาหน้ามืดล้มลงไปกับพื้น
…………………….