บทที่ 421 การสมรู้ร่วมคิดของจ้าวชู
ที่ห้องนอนในจวนอู่โหว
“คุณชายเซี่ยซือหยวนให้การว่าเซี่ยฟางเฟยสั่งให้เขาฆ่าจางเหลี่ยงกง และตอนนี้นางถูกพาตัวไปที่ศาลต้าหลี่ขอรับ” ฉือซื่อพูด
ในช่วงเวลาสองวันที่ผ่านมาถังหลี่ขอให้ฉือซื่อสืบเรื่องของเซี่ยฟางเฟย ดังนั้นนางจึงรู้เรื่องของความสัมพันธ์และการกระทำต่างๆ ของเซี่ยฟางเฟย รวมไปถึงที่เซี่ยซือหยวนและจางเหลียงกงต่างชอบเซี่ยฟางเฟย นางจึงสนุกเพลิดเพลินไปกับการปั่นหัวใส่เสน่ห์กับคนทั้งสอง มีความสุขกับการได้ควบคุมพวกเขา
ช่างอำมหิต เลวทราม ไร้ซึ่งความปราณี
เซี่ยฟางเฟยไม่มีความละอายและศีลธรรมใดๆ เลย นางมีความสุขกับการกระทำเช่นนี้ เมื่อคิดดูแล้ว ถังหลี่จึงรู้ว่าครั้งนี้เซี่ยฟางเฟยล้ำเส้นมากเกินไป นางได้ฆ่าคนไปแล้วจริงๆ
เดิมทีถังหลี่จะให้ฉือซื่อแสร้งปลอมเป็นนักพรตที่มีชื่อเสียงเพื่อทำให้ครอบครัวสกุลเซี่ยเริ่มสงสัยในตัวเซี่ยฟางเฟยที่เปลี่ยนไป ว่าบุตรสาวของเขาโดนวิญญาณร่อนเร่เข้าสิง แต่ไม่คาดคิดเลยว่านางจะมีส่วนเกี่ยวข้องกับคดีฆาตกรรม เซี่ยฟางเฟยไม่ใช่คนดิบดีอะไร สมควรแล้วที่จะถูกจับเพราะก่อเรื่องเลวร้ายเช่นนี้ขึ้นมา แต่ถังหลี่รู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ
“ศพของจางเหลียงกงถูกพบเมื่อไหร่?” ถังหลี่ถาม
“เมื่อวานตอนเช้าขอรับ คุณชายใหญ่กู้เป็นคนรับผิดชอบในการสืบสวนคดีนี้” ฉือซื่อพูด ถังหลี่รู้สึกหดหู่ใจเมื่อได้ยิน
เมื่อวานนางไปที่จวนสกลกู้อยู่กับพี่ชายเกือบทั้งวัน ไม่น่าเชื่อเลยว่าช่วงบ่ายที่นางแยกตัวกลับมา พี่ใหญ่ต้องออกไปทำงานตั้งแต่ตอนนั้น
“เซี่ยซือหยวนถูกพาตัวไปเมื่อไหร่?” ถังหลี่ถาม
“เมื่อเช้านี้ขอรับ”
“เซี่ยซือหยวนให้การถึงตัวเซี่ยฟางเฟยเร็วขนาดนั้นเลยหรือ?” ถังหลี่พูดทักขึ้น แต่ฉือซื่อไม่ทราบเรื่องรายละเอียดของคดีมากนัก
ถังหลี่ไม่ได้รอคำตอบ แต่นางมีข้อสงสัยอยู่ในใจ น่าประหลาดที่ชายหนุ่มที่หลงรักเซี่ยฟางเฟยระบุตัวของนางเร็วเกินไป
สัมผัสที่หกของถังหลี่ตะโกนร้องว่าเรื่องนี้ต้องมีสายสนกลในที่ไม่ธรรมดา อาจจะมีการวางแผนสมรู้ร่วมคิดแอบซ่อนอยู่ก็เป็นได้
….
จวนรุ่ยอ๋อง
“เซี่ยฟางเฟยถูกจับแล้ว?” จ้าวชูยกถ้วยชาขึ้นจิบ
มีคนๆ หนึ่งกำลังคุกเข่าต่อหน้าเขาอย่างเคารพ
“พะย่ะค่ะท่านอ๋อง ทุกอย่างเป็นไปตามที่ท่านอ๋องคาดไว้”
“แล้วเซี่ยหรงอันเป็นอย่างไรบ้าง?” มุมปากของจ้าวชูยกขึ้น
“เขาถึงขนาดลมจับ”
“ว่ากันว่าเซี่ยหรงอันนั้นรักบุตรสาวคนนี้มาก เห็นทีข่าวลือนี้คงเป็นความจริง” จ้าวชูกล่าวด้วยรอยยิ้ม
การขนส่งเกลือนั้นเป็นงานหนักมากและจำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องรู้สถานการณ์ต่างๆ อย่างฉับไว แต่เซี่ยหรงอันนั้นไม่รู้เหนือรู้ใต้เอาเสียเลย
เดิมทีจ้าวชูนั้นต้องการที่จะเริ่มต้นธุรกิจนี้ แต่เซี่ยหรงอันกลับปฏิเสธและทำตามกฎอย่างเคร่งครัด จุดอ่อนของเขาคือบุตรสาว จ้าวชูจึงเริ่มวางแผนจากจุดอ่อนนี้
เซี่ยฟางเฟยเป็นตัวปัญหา เขาใช้เวลาไม่นานนักก็สามารถจับจุดได้ เพียงแค่ช่วงครึ่งเดือนที่ผ่านมา คนที่ติดตามเซี่ยฟางเฟยก็พบโอกาส แต่ความจริงแล้วเซี่ยซือหยวนนั้นฆ่าจางเหลียงกงเพราะความหึงหวงเท่านั้น ไม่ได้มีเซี่ยฟางเฟยเป็นคนบงการเลยแม้แต่น้อย ดังนั้นหญิงสาวจึงไม่มีความผิด แต่จ้าวชูวางแผนให้เซี่ยซือหยวนสารภาพไปเช่นนั้น
“ในตอนนี้เปิ่นหวางสงสัยเหลือเกินเมื่อว่าเมื่อเหตุการณ์เป็นเช่นนี้ เซี่ยหรงอันจะยึดมั่นในอุดมการณ์หรือเขาจะช่วยบุตรสาวของตัวเอง” รอยยิ้มของจ้าวชูดูน่าขนลุก เขามองลูกน้องใต้บังคับบัญชา
“ให้เว่ยชิงชูไปเยี่ยมจวนสกุลเซี่ยสักหน่อยเถอะ”
เว่ยชิงชูเป็นหนึ่งในพ่อค้าที่ได้รับการฝึกฝนจากจ้าวชูและเป็นคนที่ทำเงินให้กับเขามหาศาล
….
จวนสกุลเซี่ย
เซี่ยหรงอันลืมตาตื่นขึ้นมาใบหน้าของเขาซีดเซียวดูอายุมากขึ้นไปถึงสิบปี เมื่อนางเซี่ยเห็นน้องชายฟื้นขึ้นมา นางรีบเอาน้ำมาให้เขาดื่มทันที
“พี่สาว…ข้าฝันว่ามีบางอย่างเกิดขึ้นกับฟางเฟย”
“หรงอัน…อย่าคิดมากเลย เจ้าพักผ่อนก่อนเถอะ” ดวงตาของนางเป็นประกาย
เซี่ยฟางเฟยทำให้นางกังวลในสองสามวันก่อน ไม่คิดเลยว่าสุดท้ายแล้วนางจะสร้างปัญหาจริงๆ ผู้สมรู้ร่วมคิดในคดีฆาตกรรมหรือ?! เหตุใดหลานสาวของนางจึงทำตัวแบบนี้!
ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นหลานสาวเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขเดียวกันกับน้องชายของนาง
นางเซี่ยจึงได้แต่ดูแลน้องชายที่หมดสติไป ในขณะเดียวกันก็ส่งคนไปที่ศาลต้าหลี่เพื่อดูเหตุการณ์
สีหน้าของเซี่ยหรงอันเปลี่ยนไป
“ไม่…มันไม่ใช่ความฝัน มีเรื่องเกิดขึ้นกับฟางเฟยจริงๆ ใช่ไหม! ฟางเฟย…” เขากำลังรีบลุกจากเตียงแต่ก็พี่สาวของตัวเองรั้งเอาไว้
“หรงอันอย่ากังวลเลย ข้าให้คนไปสืบเรื่องให้แล้ว เราควรอยู่รอฟังก่อนเพื่อคิดหาวิธีแก้ปัญหา”
“นอกจากนี้คดีความจะถูกพิจารณาโดยใต้เท้ากู้ ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ เขาเป็นคนยุติธรรมและเข้มงวดมาก เขาจะต้องสืบสวนเรื่องนี้อย่างรอบคอบแน่นอน” นางเซี่ยกล่าว
เหตุการณ์วุ่นวายที่เกิดขึ้นในครั้งนี้ ทำให้ชื่อเสียงของหลานสาวนางป่นปี้
เซี่ยฟางเฟยทำเรื่องอื้อฉาวมากเกินไป จนเกิดเสียงนินทาไปทั่วเมืองหลวงอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ การที่จะหาผู้ชายจากตระกูลดีๆ มาแต่งงานยิ่งเป็นเรื่องยากขึ้นไปอีก
นางเซี่ยจำได้ว่าก่อนหน้านี้หลานสาวไม่ใช่คนแบบนี้เลย นางเป็นเด็กน่ารัก จิตใจดี ไฉนจึงกลายเป็นเช่นนี้ไปได้!
เซี่ยหรงอันไม่สบายใจ ไม่ว่าใต้เท้ากู้จะเก่งกาจมากเพียงไหน หากทว่าคดีนี้เกิดความผิดพลาดล่ะ? เขาสูญเสียภรรยาไปแล้ว เซี่ยหรงอันจะไม่มีวันยอมสูญเสียบุตรสาวอีกต่อไป เมื่อคิดว่าหากไม่มีนาง เขาแทบหายใจไม่ออก
“ไม่ ข้าจะไปดูฟางเฟย นางเป็นเด็กขี้กลัว แม้แต่ยามฟ้าร้องยังต้องให้ข้ากอดเอาไว้” เมื่อเซี่ยหรงอันพูดถึงเรื่องอดีต เบ้าตาของเขาเป็นสีแดงก่ำ เด็กหญิงตัวน้อยที่คอยแต่พึ่งพาเขาคนนั้นไม่มีอีกต่อไปแล้ว ถ้าเขามีโอกาสอีกครั้ง เขาจะเลือกอยู่ข้างภรรยาและบุตรสาวของเขา
นางเซี่ยมองน้องชายอย่างไม่สบายใจ
“เอาล่ะ ถ้าเช่นนั้นเจ้าไปดูนางเถอะ””
นางเซี่ยช่วยประคองเซี่ยหรงอันขึ้นรถม้า ทั้งสองเดินทางไปยังศาลต้าหลี่ แต่พวกเขาถูกห้ามไม่ให้เข้าไปข้างใน ไม่ว่าเซี่ยหรงอันจะพูดขอร้องเพียงใด เจ้าหน้าที่ก็ไม่มีทีท่าอ่อนข้อให้ นางเซี่ยจึงได้เกลี้ยกล่อมให้น้องชายกลับไปรอฟังข่าวที่สกุลเซี่ย
“เหตุใดข้าถึงเข้าพบฟางเฟยไม่ได้ ไม่รู้ว่าการพิจารณาคดีไปถึงไหนแล้ว” เซี่ยหรงอันกระวนกระวายใจ ในตอนนั้นเองมีบ่าวเข้ามารายงาน
“นายท่าน มีพ่อค้าสกุลเว่ยต้องการพบท่านขอรับ”
เซี่ยหรงอันรู้ว่าเถ้าแก่คนนี้ต้องการจะเปิดกิจการขายเกลือเขาจึงพยายามเข้าหาเขาหลายครั้งพร้อมกับข้อเสนอมากมายแต่เซี่ยหรงอันก็ปฏิเสธตลอด เขาไม่คิดเลยว่าชายคนนี้จะมาปรากฏตัวต่อหน้าเขาอีก แต่เป็นเพราะเรื่องของบุตรสาวจึงทำให้เขาไม่สนใจ
“ให้เขากลับไป”
“นายท่าน เขาบอกว่าเขามีวิธีที่จะแก้ปัญหาของท่านได้อย่างรวดเร็วขอรับ”
เซี่ยหรงอันขมวดคิ้ว ตอนนี้ปัญหาที่ใหญ่ที่สุดของเขาคือเรื่องของฟางเฟย เถ้าแก่เว่ยผู้นี้กล่าวว่ามีวิธีหรือ?
จะมีคนอยู่เบื้องหลังเขา…
หากเป็นเมื่อก่อนเซี่ยหรงอันคงจะปฏิเสธทันทีเพราะเขาเป็นคนทำงานอย่างตรงไปตรงมาเขาเป็นขุนนางที่ดี แต่เพราะร้อนใจเรื่องของบุตรสาวเขาจึงเริ่มลังเล เขานิ่งคิดอยู่ชั่วครู่แล้วเอ่ยปากบอกคนรับใช้
“ให้เขาเข้ามา”