บทที่ 422 แผนของถังหลี่
เซี่ยหรงอันทรุดตัวลงนั่งเก้าอี้ ไม่นานนักเถ้าแก่เว่ยก็เข้ามาคำนับเขาอย่างนอบน้อม
“ขอบคุณขอรับนายท่าน”
“เว่ย…”
“เถ้าแก่เว่ยชิงชูขอรับ” เขาตอบด้วยรอยยิ้ม
“เอาล่ะเว่ยชิงชู บอกข้ามาสิว่าเรื่องเร่งด่วนของเจ้าคืออะไร?” เซี่ยหรงอันถาม
“บุตรสาวท่านถูกคุมขังอยู่ในคุกศาลต้าหลี่”
“บุตรสาวข้าถูกเรียกตัวไปสอบปากคำเท่านั้น นางไม่ใช่ฆาตกร” เขาพูดด้วยใบหน้าไม่สู้ดีนัก
“นายท่าน…คุณชายรองจางโดนฆ่าตายผลักตกลงไปในแม่น้ำ ฆาตกรอย่างเซี่ยซือหยวนให้การว่า บุตรสาวของท่านเป็นคนสั่งการให้ฆ่าเขา”
ใบหน้าของเซี่ยหรงอันตึงเครียดขึ้นมาทันที เป็นเพราะเหตุนี้หรือ? เขารู้ว่ามีคดีฆาตกรรมเกิดขึ้นแต่ไม่รู้รายละเอียดว่าเป็นอย่างไร เป็นไปตามที่เขาคาดเอาไว้ มีคนใหญ่โตอยู่เบื้องหลังเถ้าแก่เว่ย
“บุตรสาวข้าไม่ได้ทำเช่นนั้น หากใต้เท้ากู้ทราบความจริง แน่นอนว่าเขาจะต้องปล่อยตัวนาง” เซี่ยหรงอันยืนยัน
“ใต้เท้าเซี่ย…ท่านแน่ใจหรือว่าบุตรสาวของท่านไม่ได้ทำอะไรผิด?
เซี่ยหรงอันสูดลมหายใจ ที่จริงแล้วเขาเองยังไม่แน่ใจสักเท่าใดนัก หากเป็นบุตรสาวคนเดิมของเขาก่อนหน้านี้ เขาย่อมมั่นใจในตัวนาง แต่ในช่วงเวลาไม่กี่ปีที่ผ่านมาเซี่ยฟางเฟยเปลี่ยนไปมาก เขาไม่อาจมั่นใจได้เลย
“นอกจากนี้แล้วเซี่ยซือหยวนยังไม่มีทางปล่อยบุตรสาวท่านไปง่ายๆ หลังจากการพิจารณาคดีแล้วมีความเป็นไปได้สองทางเท่านั้นคือหนึ่งบุตรสาวท่านเป็นผู้บงการ สอง นางเป็นผู้สมรู้ร่วมคิด และไม่ว่าทางไหนบทโทษย่อมหนักเช่นกัน” เว่ยชิงชูพูดด้วยใบหน้าที่เป็นมิตร เขาหลุดหัวเราะออกมา ทำให้เซี่ยหรงอันรู้สึกใจสั่นหน้ามืด
“ใต้เท้า ข้ามีวิธีจะช่วยท่าน” เว่ยชิงชูวกกลับเข้าประเด็น
“ช่วยอย่างไร? เจ้าเป็นเพียงพ่อค้า มีแค่ไม่กี่คนเท่านั้นที่จะกล้ายื่นมือเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับคดีของใต้เท้ากู้”
กู้หวนเนี่ยนเป็นผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ที่มีทั้งความยุติธรรมและเข้มงวด โดยมีตระกูลแม่ทัพกู้หนุนหลัง จะมีสักกี่คนที่จะกล้าขัดขวางเขา
“ใต้เท้า ตัวข้าทำไม่ได้ก็จริง …แต่เจ้านายข้าพอมีวิธีอยู่” เว่ยชิงชูกล่าวอย่างมั่นใจ
“ตราบใดที่เจ้านายของข้าช่วยท่าน ศาลต้าหลี่จะปล่อยตัวบุตรสาวของท่านในวันพรุ่งนี้อย่างแน่นอน”
ผู้ที่อยู่เบื้องหลังพ่อค้าผู้นี้ช่างมีอำนาจ…เซี่ยหรงอันก้มหน้าคิดไม่ตก
“ขอเวลาข้าคิดก่อนเถอะ”
“ตกลง..หากใต้เท้าตัดสินใจแล้วหวังว่าข้าจะได้คำตอบที่น่าพอใจ” เว่ยชิงชูพูดอย่างนอบน้อม
“แต่ถ้าหากท่านลังเลสักนิดล่ะก็ บุตรสาวของท่านคงต้องทรมานในนั้นนานกว่าเดิม ได้โปรด…รีบตัดสินใจเถอะขอรับ” หลังจากที่พูดจบเขาก็จากไป
นางเซี่ยที่ฟังอยู่ตลอดเวลารีบเข้ามาหาหลังจากพ่อค้าคนนั้นคล้อยหลัง
“หรงอันเจ้าอย่าทำอะไรโง่ๆ นะ ถ้าเจ้าตกลงล่ะก็สิ่งที่เจ้ายึดถือมาตลอดสิบปีจะสูญไป”
นางรู้ว่าน้องชายของนางเป็นขุนนางที่ดี ทั้งเที่ยงตรงและซื่อสัตย์ ถ้าหากเขาตกลงทำตามชื่อเสียงของเขาที่ทำมาคงจะหายไปในพริบตาถ้าหากเป็นเรื่องผิดกฎหมาย เซี่ยหรงอันจะต้องติดคุกแน่! นางทนเห็นน้องชายของนางเป็นแบบนั้นไม่ได้!
เซี่ยหรงอันพยักหน้า
“ข้ารู้ดี..พี่สาว”
“ข้าเหนื่อยเแล้ว อยากพักผ่อนสักหน่อย” เมื่อเซี่ยหรงอันพูดขึ้น นางจึงถอยออกจากห้องไป
เซี่ยหรงอันนอนอยู่บนเตียงเหม่อมองเพดานด้านบน ในความคิดของเขามีหลายอย่างประดังเข้ามา เขาคิดถึงตนเองในวันที่รู้ว่าภรรยาตั้งครรภ์และกำลังจะเป็นพ่อคน
ตอนนั้นเขามีความสุขมาก เขาใช้ความพยายามในการตั้งชื่อลูก หากเป็นบุตรสาวเขาอยากจะให้ชื่อว่าฟางเฟย มีความหมายเปรียบเสมือนต้นหญ้าที่งอกงามในฤดูใบไม้ผลิ ราวกับประตูที่เปิดรับรุ่งอรุณของวันใหม่
เมื่อเขาได้เห็นลูกสาวตัวน้อยที่เพิ่งคลอดออกมา เป็นครั้งแรกที่เขาทั้งดีใจและตื้นตัน วันที่นางเรียกเขาว่าพ่อ วันนั้นเขาเพิ่งกลับมาจากทำงาน เด็กน้อยโผเข้ากอดเรียกเขาด้วยเสียงน่าเอ็นดู
ยามนางเติบใหญ่ขึ้น เจ้าเกี๊ยวน้อยจะไปคอยเฝ้ารอคอยเขาที่ประตูบ้านทุกๆ วัน ต่อมางานของเขาเริ่มรัดตัว เขาต้องเดินทางไปต่างเมืองนานขึ้นเรื่อยๆ รอยยิ้มที่เขาเคยเห็นเปลี่ยนเป็นฝาดเฝื่อน
ฉากในวันนี้ที่นางร้องหาเขายามถูกควบคุมตัวไปศาลต้าหลี่ ทำให้เขาทุกข์ใจลำบากใจไม่น้อย
ที่หน้าประตูห้อง นางเซี่ยเดินกลับไปมาอย่างกระวนกระวายใจ นางเข้าใจน้องชายดีรู้ว่าเขารักฟางเฟยมากเพียงใด ทั้งยังรู้สึกผิดกับบุตรสาวเสมอ แต่เขาจะยอมทิ้งทุกอย่างจริงหรือ? หากเป็นเช่นนั้นอนาคตและชื่อเสียงของหรงอันคงได้พังพินาศ ไม่น่าเชื่อเลยว่าเลยว่าพวกเขาจะเดินมาถึงจุดนี้ได้
ไม่มีทางเลือกอื่นอีกแล้วหรือ?
….
จวนอู่โหว
ฉือซื่อทำตามคำสั่งของถังหลี่ เขามารายงานหญิงสาวเรื่องที่เว่ยชิงชูไปที่จวนสกุลเซี่ยในวันนี้
“นายหญิงขอรับ เว่ยชิงชูยื่นข้อเสนอว่าหากเซี่ยหรงอันช่วยเขาในการอำนวยความสะดวกในกิจการครั้งนี้ เขาจะช่วยเซี่ยฟางเฟยขอรับ”
“รวมถึง…เว่ยชิงชูเป็นคนขององค์ชายสามด้วยขอรับ”
ถังหลี่เป็นคนฉลาดเมื่อพูดเช่นนี้นางสามารถเชื่อมโยงทุกอย่างได้ทันที ก่อนหน้านี้หญิงสาวรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ แต่ตอนนี้ทุกอย่างได้เชื่อมสนิทต่อเข้าด้วยกัน ปรากฏว่าทั้งหมดนี้เป็นแผนของจ้าวชู
ไม่ว่าเซี่ยฟางเฟยจะเป็นคนที่บงการในคดีนี้หรือไม่ แต่นางก็ถูกพาตัวไปยังศาลต้าหลี่เพื่อเป็นการข่มขู่เซี่ยหรงอันผู้เป็นบิดา บุตรสาวของเขาเป็นจุดอ่อน หากเซี่ยหรงอันตกลง ภายหน้าเขาจะกลายเป็นเครื่องมือของจ้าวชู
เซี่ยหรงอันเป็นขุนนางที่ดี ถ้าหากเขาต้องเดินไปสู่จุดนั้นเพราะหญิงสาวที่เดินทางข้ามเวลามาผู้นี้ นี่เป็นเรื่องที่ถังหลี่รับไม่ได้
“ฉือซื่อ เจ้าไปทำตามสิ่งที่ข้าพูดกับเจ้าก่อนหน้านี้เถอะ”
ถังหลี่ตัดสินใจอย่างเด็ดขาด
“ขอรับนายหญิง”
….
จวนสกุลเซี่ย
ไต้ซือวัยกลางคนปรากฏตัวที่หน้าจวนตระกูลเซี่ย
“ที่จวนแห่งนี้มีพลังหยินอยู่มาก”
ไต้ซือรูปนี้พูดขึ้นมาอย่างไม่มีสาเหตุ ทำให้บ่าวรับใช้ที่เฝ้าประตูมองด้วยความสงสัย
ในแคว้นต้าโจวผู้คนล้วนเชื่อในเรื่องผีสางและวิญญาณ แต่ก็มีศรัทธาในศาสนาพุทธและนับถือเทพเจ้า เพียงแต่พวกเขาไม่รู้ว่าพระรูปนี้จะเป็นพระจริงหรือพระปลอม พวกเขาจึงมองหน้ากันอย่างตกใจ
“ประสก…ที่จวนแห่งนี้มีผู้ที่อุปนิสัยเปลี่ยนไปหลังจากตกน้ำหรือไม่?” ไต้ซือถาม
“ที่นี่ไม่เคยมีใครตกน้ำ” พวกเขาต่างปฏิเสธ
“ไต้ซือท่านนี้…เชิญมาดื่มชาแก้กระหายก่อนเถิดเจ้าค่ะ” ทันใดนั้นเสียงของนางเซี่ยก็ดังขึ้น
บ่าวรับใช้สองคนนี้ไม่ได้ทำงานในจวนเมื่อสองสามปีก่อน พวกเขาจึงไม่รู้และไม่กล้าพูดเรื่องของเจ้านาย แต่นางเซี่ยกลับรู้เรื่องราวดี เพราะหลังจากเหตุการณ์ตกน้ำในครั้งนั้น หลานสาวของนางก็เปลี่ยนไปอย่างสิ้นเชิง นางอดไม่ได้ที่จะคิดถึงฟางเฟยคนเก่า
“อาตมาเดินทางมาที่นี่เพราะเป็นเรื่องที่สวรรค์ลิขิตไว้ เพื่อให้อาตมาได้มาพบกับอุบาสิกา เมื่อเห็นความเดือดร้อน อาตมาจึงอยากจะเอ่ยเตือน”
“ไต้ซือมาจากที่ไหนหรือเจ้าคะ” นางเซี่ยถาม
“ภูเขาตงฮั่ว…อาตมามีนามว่าหวู่หยาน” ภูเขาตงฮั่วเป็นที่รวมของพุทธศาสนิกชน มีเรื่องกล่าวขานมาช้านานว่าพระพุทธองค์ได้ทรงสร้างสำนักปฏิบัติธรรมขึ้นที่นี่ เพื่อเผยแพร่คำสอนจากพระไตรปิฎก ภูเขาตงฮั่วจึงได้เป็นแหล่งรวมปรมาจารย์และไต้ซือที่มีชื่อเอาไว้
“ไต้ซือหวู่หยานได้โปรด..” นางเซี่ยเอ่ยปากด้วยศรัทธา