บทที่ 433 พี่ใหญ่ไม่ชอบฝางเหมี่ยวหรือ?
คืนนั้นฝางเหมี่ยวแทบจะนอนไม่หลับ นางพลิกตัวไปมาอย่างตื่นเต้น เช้าวันรุ่งขึ้นหญิงสาวแต่งกายอย่างพิถีพิถัน
ในวันธรรมดานางจะแต่งกายรัดกุมเพื่อสะดวกในการทำงาน แต่วันนี้ฝางเหมี่ยวเลือกชุดสีสันสดใสมาสวมใส่ หวีแต่งทรงผมปักปิ่นอย่างสวยงาม นอกจากนี้ยังเขียนคิ้วทาชาดตกแต่งที่ใบหน้าอีกด้วย
ใบหน้าที่งดงามของฝางเหมี่ยวสะท้อนให้เห็นในกระจกสัมฤทธิ์ นางมองตนเองอย่างพึงพอใจ จริงๆ แล้วฝางเหมี่ยวเป็นสาวงามที่ไม่แพ้คุณหนูตระกูลสูงศักดิ์เลยเพียงแต่นางไม่ค่อยจะแต่งตัวสักเท่าไหร่นัก
ใต้เท้ากู้ไม่เคยเห็นนางแต่งตัวแบบนี้เลย เขาจะประหลาดใจไหม?
ฝางเหมี่ยววางกระจกลงอย่างมีความสุข นางแทบจะกระโดดออกมาจากห้อง เมื่อเห็นท่าทางของบุตรสาว มารดาของนางจึงทักขึ้นอย่างแปลกใจ “เหมี่ยวเหมี่ยว เจ้าแต่งตัวเช่นนี้ไปเจอกับใครหรือ?”
“ไปเจอเพื่อนเจ้าค่ะ ท่านแม่ ลูกจะไปกินอาหารกลางวันที่นอกบ้าน ท่านแม่ไม่ต้องทำอาหารให้ลูกนะ” ว่าแล้วนางก็วิ่งออกไปราวกับลมกรรโชก
นางฟางเห็นแล้วส่ายหน้า บุตรสาวของนางช่างใจร้อนเสียจริงๆ
เพื่อน?
นางมีเพื่อนกับเขาด้วยหรือ?
หากมีก็เป็นเรื่องน่ายินดี
ฝางเหมี่ยวเดินไปที่ร้านอาหาร ชิงเฟิง นางไม่กล้าเดินเร็วจนเกินไป เกรงว่าชาดที่แต่งบนใบหน้าจะหลุดออกเพราะเหงื่อ ฝางเหมี่ยวจึงเดินช้าๆ เนื่องจากนางออกไปก่อนเวลาจึงได้ไปถึงเร็วกว่าที่นัดหมายเอาไว้
ถังหลี่จองห้องไว้ก่อนแล้ว นางจึงไปรอที่ห้องนั้นยังเหลือเวลาอีกตั้งครึ่งชั่วยาม
ฝางเหมี่ยวนั่งแบบสบายๆ อย่างพื้นนิสัยเดิม แต่แล้วกลับคิดขึ้นมาได้ว่า นางควรนั่งโดยเอาขาแนบชิดกัน วางมือไว้บนตัก เป็นท่านั่งที่เรียบร้อยของหญิงสาวทั่วไป
ถังหลี่และกู้หวนเนี่ยนออกไปข้างนอกพร้อมกันด้วยรถม้า กู้หวนเนี่ยนไม่สนใจหญิงสาวที่ถังหลี่นัดให้ เขาสนใจที่จะใช้เวลาร่วมน้องสาวของเขามากกว่า
“พี่ชาย หากพี่นัดเจอกับผู้หญิง พี่ต้องเป็นฝ่ายชวนนางคุยก่อนบ้าง ยิ้มให้มากขึ้น นางจะได้ไม่กลัวพี่”
“อืม” กู้หวนเนี่ยนรบคำ แต่ความจริงแล้วเขาจะบังคับให้นางถอนตัวกลับก่อนเพราะใบหน้าที่เย็นชาของเขานี่แหละ
“พี่ชาย หากพี่ได้เจอนาง พี่จะประหลาดใจมากแน่ๆ” ถังหลี่กะพริบตา
“พี่ไม่ตื่นเต้นบ้างหรือ?”
“รอดูไปก่อนเถอะ” กู้หวนเนี่ยนพูดอย่างเอื่อยเฉื่อย
“พี่ชาย ช่างไม่เอาไหนจริงๆ” ถังหลี่ต่อว่า เขายิ้ม ก่อนจะพูดว่า
“ข้าตั้งตารอเลย”รอยยิ้มของพี่ชายดูเสแสร้ง ความคาดหวังยิ่งเสแสร้งมากกว่า การที่พี่ชายของนางไม่สนใจผู้หญิงคนไหนเลยนี่ช่างน่าหมั่นไส้จริงๆ
นางอยากเห็นเขาประหลาดใจเมื่อพบว่าหญิงสาวคนนั้นคือฝางเหมี่ยว
ครึ่งชั่วยามต่อมารถม้าได้มาถึงที่หน้าร้านอาหารชิงเฟิง ถังหลี่ไม่ได้ลงมาด้วย นางรออยู่ในรถม้า
กู้หวนเนี่ยนก้าวลงจากรถแล้วเดินเข้าไปในร้าน เขาผลักประตูห้องเข้าไป
ฝางเหมี่ยวนั่งตัวตรงอยู่ที่มุมห้อง เมื่อเห็นกู้หวนเนี่ยนเดินเข้ามานางลุกขึ้นยืน
“ใต้…ใต้เท้ากู้ “ นางทักทายอย่างขัดเขินพร้อมกับก้มหน้าลง กู้หวนเนี่ยนยืนตัวตรงมองหญิงสาวที่อยู่ข้างหน้าเขา เขาเคยเห็นแต่ฝางเหมี่ยวที่ใส่ชุดธรรมดา เขาไม่เคยเห็นนางแต่งตัวสวยงามเช่นนี้
ใบหน้าของฝางเหมี่ยวดูบอบบาง ดวงตาเป็นรูปผลซิ่ง จมูกโด่งเล็กน้อย ริมฝีปากที่แต่งด้วยชาดงดงามราวกับผลท้อ กู้หวนเนี่ยนมองอย่างเหม่อลอย
ผู้หญิงที่น้องสาวแนะนำให้คือ ฝางเหมี่ยว?
ฝางเหมี่ยวไม่ได้ยินเสียงของกู้หวนเนี่ยน นางจึงเงยหน้าขึ้นมองเขาอย่างเขินอาย
“ใต้เท้ากู้” สายตาที่นางมองเขาดูดึงดูดใจชวนหลงใหลมาก ลูกกระเดือกของกู้หวนเนี่ยนขยับไปมา หัวสมองยุ่งเหยิงร่างกายร้อนผ่าว เขาหันไปมองทางอื่นไม่กล้าสบตากับนาง จากนั้นจึงได้พลิกตัวกระโดดลงจากหน้าต่างไปทันที
ภายในห้องเหลือฝางเหมี่ยวแต่เพียงผู้เดียว นางยืนอยู่อย่างงุนงง ใช้เวลาอยู่สักพักจึงได้สติ
ใต้เท้ากู้หมายความว่าอย่างไรกันแน่? แค่มองแล้ววิ่งหนีไปเลยหรือ? เขาไม่ชอบนาง? ความสุขที่เกิดขึ้นในหัวใจก่อนหน้าถูกพัดสลายไปในพริบตา นางเต็มไปด้วยความผิดหวัง เขาจะมาชอบนางได้อย่างไร นางเป็นแค่หญิงสาวธรรมดา ทั้งยังเป็นอู่จั้ว นางจะคู่ควรกับเขาได้อย่างไร นางเพ้อฝันไปเองว่าเขาชอบนาง..
ฝางเหมี่ยวรู้สึกเศร้าใจเหลือเกิน นางทรุดตัวลงนั่งยองๆ ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของตนเองอีกต่อไป
ถังหลี่ที่นั่งรออยู่ในรถม้า จ้องมองที่ร้านอาหารพร้อมกับเลิกม่านขึ้น นางจึงได้เห็นพี่ชายของนางที่กระโดดลงมาทางหน้าต่าง ถังหลี่ผงะไปเลย เขาออกมาเร็วถึงเพียงนี้ พี่ชายของนางไม่ของฝางเหมี่ยวหรือ? นางเข้าใจผิดไปหรือ?
ฝางเหมี่ยว!
ถังหลี่รีบลงจากรถม้า ขึ้นไปที่ชั้นสอง เปิดประตูเข้าไปในห้องอย่างรวดเร็ว ภาพที่นางเห็นคือฝางเหมี่ยวนั่งอยู่ที่พื้น นางฝังใบหน้าลงกับเข่าของตนเอง รู้สึกเศร้าเหลือเกิน
ถังหลี่สงสารนาง จึงนั่งลงแล้วเรียกนางเบาๆ
“เหมี่ยวเหมี่ยว ข้าขอโทษ” นางไม่ได้คาดหวังว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้ นางทำร้ายฝางเหมี่ยว นางไม่ควรนัดพวกเขามาเจอกันเลย ฝางเหมี่ยวเงยหน้าขึ้น ดวงตาของนางแดงก่ำ
“ถังหลี่ไม่ต้องขอโทษข้า”
“เจ้าให้โอกาสข้าแล้ว หากข้าไม่ลองก็คงจะไม่รู้ไปจนชั่วชีวิต ..ตอนนี้ข้ารู้แล้ว”
ฝางเหมี่ยวยืนขึ้น ท่าทางนางไม่มีความสุข
“เอาละ ขอบคุณที่ให้โอกาสข้า ข้าขอตัวกลับบ้านก่อนนะ ข้าต้องไปทำงาน”
“ให้ข้าไปส่งที่บ้านเถอะ” ถังหลี่เป็นห่วง
“ไม่ต้องหรอก ข้าโตขนาดนี้แล้ว ไม่หลงทางหรอก” ฝางเหมี่ยวพูดก่อนกำชับว่า
“เอาไว้เจ้ามาเล่นกับข้าอีกนะ” หลังจากนางพูดจบก็รีบเดินจนเกือบจะเป็นวิ่งออกไปทันที ถังหลี่ขมวดคิ้ว เฝ้าดูนางวิ่งออกไป ช่างเป็นหญิงสาวที่ดีจริงๆ
ทำไมพี่ชายไม่ชอบนางกัน?
ในนิยายดั้งเดิมนั้น ความรู้สึกที่ฝางเหมี่ยวมีต่อกู้หวนเนี่ยนเป็นไปอย่างลึกซึ้งและเห็นได้อย่างชัดเจน แต่ความรู้สึกของพี่ชาย นางมองไม่ออกจริงๆ
เป็นไปได้ไหมว่าทั้งสองถูกกำหนดมาให้แคล้วคลาดกัน
ฝางเหมี่ยวออกจากร้านอาหารอย่างเร่งรีบราวกับกำลังหลบหนี หากนางเดินช้าลงนางจะหลั่งน้ำตาออกมาให้ถังหลี่เห็น ฝางเหมี่ยววิ่งกลับบ้าน นางฝางเห็นลูกสาวกลับมาเร็วจึงเอ่ยทักทายว่า
“ทำไมกลับมาเร็วนัก เจ้ากินข้าวมาหรือยัง?” ฝางเหมี่ยวก้มหน้าด้วยท่าทางหดหู่
“เหมี่ยวเหมี่ยว เจ้าจำหลี่คงได้ไหม? ช่างไม้ที่มาช่วยยกของเมื่อวันก่อน” นางฟางถามบุตรสาว
ฝางเหมี่ยวตอบรับมารดาอย่างใจลอย
“จำได้” ว่าแล้วนางจึงได้เดินเข้าบ้านไป นางฟางไล่ตามบุตรสาวไปติดๆ
“เขาเป็นเด็กหนุ่มคนนั้นนิสัยดีจริงๆ นะ ตอนที่แม่เข็นรถไปส่งของตอนเช้า ล้อรถติดหล่ม เขาก็มาช่วยแม่เข็น เขายังถามถึงเจ้าด้วย”
“นี่ เขาฝากขนมมาให้เจ้าด้วย ดูสิ” นางฟางพูดพลางส่งขนมอบให้บุตรสาว เป็นขนมที่ผู้หญิงทั่วไปชอบกิน เด็กหนุ่มคนนั้นสนใจบุตรสาวของนางอย่างเห็นได้ชัด
“ท่านแม่ ท่านเอาไปกินเถอะ” นางเดินตรงเข้าห้องไป
“ข้าขอนอนพักสักครู่ ข้าเหนื่อย” นางพูดพร้อมกับปิดประตู นางฟางได้แต่กลืนคำพูดของตนลงคอ
เป็นอะไรไป? ก่อนออกจากบ้านก็ัยังเห็นร่าเริงมีความสุขดี แต่กลับมาดูหงุดหงิดอารมณ์เสีย แปลกจริงๆ
นางฟางชอบเด็กหนุ่มที่ชื่อ หลี่คง คนนั้นมาก เขาดูขยันขันแข็ง มีน้ำใจ ทั้งยังไม่รังเกียจเหมี่ยวเหมี่ยว
นางคงต้องลองดูไถ่ถามครอบครัวและพฤติกรรมของเขาดูเสียแล้ว
…………….