บทที่ 438 วีรบุรุษช่วยสาวงาม
ฝางเหมี่ยวผลักประตูเปิดเข้าไป ในห้องที่มืดสนิท มารดาของนางนั่งอยู่เงียบๆ ค่าน้ำมันเติมตะเกียงมีราคาสูงไม่ใช่น้อย มารดาของนางต้องการจะประหยัดเงิน
“ท่านแม่ … ฝางเหมี่ยวเรียก
“ทำไมยังไม่นอนอีกเจ้าคะ”
“ยังไม่ดึกเท่าไหร่ แม่ยังไม่อยากนอน” ฝางเหมี่ยวรู้ว่ามารดาของนางเป็นห่วง นางรอให้ตนเองกลับมา
“ท่านแม่… ไม่ต้องเป็นห่วง พอดีทางศาลต้าหลี่มีงานให้ข้าทำต่อ ข้าเลยกลับมาช้าไปสักหน่อย”
“แม่รู้แล้ว ช่างไม้คนนั้นมาบอกเอาไว้ก่อนหน้าแล้ว ศาลต้าหลี่นี่ช่างกระไร ลูกเป็นผู้หญิงจะใช้ให้ทำงานถึงดึกดื่นได้อย่างไร…นางฝางบ่น แต่แล้วก็พูดขึ้นว่า
“แม่ว่าเจ้าเลิกทำงานที่นี่แล้วเปลี่ยนงานเสียเถอะ”
ถ้าไม่ทำงานที่นี่แล้วจะไปหางานที่ไหนได้ ฝางเหมี่ยวรู้ว่าทุกคนรังเกียจนาง แต่นางก็ยังชอบงานที่ทำอยู่…
“ท่านแม่ ไว้ค่อยพูดกันทีหลัง วันนี้ไปนอนก่อนเถอะ” ฝางเหมี่ยวจูงมือมารดาเข้าไปในห้อง
วันถัดมา
“เหมี่ยวเหมี่ยว ลุกไปกินอาหารเช้าได้แล้ว” ฝางเหมี่ยวได้ยินเสียงมารดา นางลุกขึ้นอาบน้ำแล้วจึงไปกินอาหารเช้า อาหารเช้าเป็นเซาปิ่งโรยงาดำที่มารดาซื้อให้
มารดามีรอยยิ้มอยู่บนใบหน้าอย่างอารมณ์ดี จนทำให้ฝางเหมี่ยวอดถามไม่ได้ว่า
“ท่านแม่ เหตุใดวันนี้ท่านอารมณ์ดี?”
“แม่พบช่างไม้ผู้นั้นตอนเช้า ช่างไม้เข้ามาคุยกับแม่มากมายเลยทีเดียว” นางฟางเอ่ยออกมาอย่างอารมณ์ดี
“อ้อ!” ฝางเหมี่ยวไม่มีทีท่าสนใจแต่อย่างใด หากนางฝางยังคงพูดต่อว่า
“ช่างไม้ผู้นั้นอยากมาสู่ขอเจ้า”
ฝางเหมี่ยวชะงัก
“เขาถามแม่ว่า หากเป็นไปได้เขาจะให้มารดามาสู่ขอจะได้หรือไม่”
“แม่ตอบเขาไปว่าอย่างไร?” ฝางเหมี่ยวถาม
“เหมี่ยวเหมี่ยว ช่างไม้ผู้นี้เขาขยันและซื่อสัตย์ดีจริงๆ หากเจ้าพลาดไป อาจจะหาคนดีเท่านี้ไม่ได้อีก” นางฝางพูด
“แม่รู้ว่าเจ้าไม่ได้ชอบเขา แต่หากเมื่อเจ้าต้องแต่งงาน ไม่ว่าเจ้าจะชอบหรือไม่ก็ตาม มันไม่ใช่เรื่องสำคัญอะไร สิ่งที่สำคัญก็คือคนผู้นั้นพึ่งพาได้ เชื่อถือได้หรือไม่ เจ้าก็รู้ว่าตอนที่แม่แต่งงานกับบิดาเจ้า แม่ก็ใช่ว่าจะรักใคร่ชอบพอเขา ช่างไม้ผู้นี้ทำงานดีขยันขันแข็ง หากลูกได้แต่งงานกับเขาไป จะได้ไม่ต้องไม่ทำงานที่ศาลต้าหลี่อีก ใช้ชีวิตเป็นแม่บ้านเหมือนสตรีธรรมดาทั่วไป” ฝางเหมี่ยวรู้ว่ามารดาเป็นห่วงนาง ต้องการให้นางแต่งงานมีครอบครัวที่ดีมีชีวิตที่มั่นคง
หากนางได้แต่งงานไปจริงๆ มารดาคงโล่งอก หลี่คงเป็นคนดีจริงๆ เขาเป็นคนซื่อสัตย์และเชื่อถือได้ นางทำงานเป็นอู่จั้วเช่นนี้ เป็นเรื่องที่ดีที่เขาไม่รังเกียจนางและเต็มใจที่จะแต่งงานกับนาง
แต่กระนั้นฝางเหมี่ยวก็ยังไม่ยินดีที่จะแต่งงาน นางไม่อยากแต่งงานกับคนที่ตนเองไม่รัก อีกทั้งไม่อยากออกจากงานด้วย
เรื่องเช่นนี้เป็นปัญหาที่กวนใจฝางเหมี่ยวเหลือเกิน
“ท่านแม่ ท่านอย่าเพิ่งตอบตกลงไป ข้าจะคิดเรื่องนี้ภายหลัง”
ฝางเหมี่ยวเอ่ยขึ้นมา หลังจากกินอาหารไปสองสามชิ้นนางก็พูดว่า
“ท่านแม่ ข้าขอออกไปเดินเล่นนอกบ้านสักครู่นะเจ้าคะ” ว่าแล้วนางก็รีบวิ่งออกไป เมื่อฝางเหมี่ยวมีปัญหาที่ขบคิดไม่ออก นางจะอยากกินอาหารเพื่อบรรเทาความกระวนกระวายในใจ
หญิงสาวเดินไปที่ตลาด ซื้ออาหารใส่ถุงกระดาษซับน้ำมันมามากมาย มีขอทานสองสามคนจ้องมองอาหารที่นางถือเอาไว้อย่างตะกละ ฝางเหมี่ยวแบ่งอาหารให้ขอทานเหล่านั้น ในขณะที่นางกำลังแจกอาหารให้ขอทาน จู่ๆ หญิงสาวก็ถูกผลักล้มลงกับพื้น ถุงใส่อาหารกระจัดกระจายอยู่เต็มถนน
“เจ้าคือหญิงสารเลวที่ชื่อ ฝางเหมี่ยวใช่หรือไม่?”
ฝางเหมี่ยวมองคนที่ผลักนางจนล้ม เป็นหญิงวัยกลางคน รูปร่างไม่สูงแต่แข็งแรง ท่าทางดุร้าย
“เจ้าเป็นใคร?” ฝางเหมี่ยวลุกจากพื้นถามอย่างงุนงง
“ข้าเป็นมารดาของหลี่คง นังสารเลว เจ้าบังอาจยั่วยวนลูกชายข้า เจ้าอยากให้เขาแต่งงานกับเจ้าหรือ? ช่างไม่ดูตัวเองเลย เจ้ามีค่าแค่ไหนกัน ไม่คู่ควรแม้แต่จะมาเป็นบ่าวรับใช้ลูกชายของข้า หากคิดจะแต่งเข้าบ้านข้า เจ้าต้องตาย!”
ผู้หญิงคนนั้นสาปแช่งและดูถูกฝางเหมี่ยวทั้งๆ ที่นางไม่ได้ทำอะไรเลย มารดาของหลี่คงกำลังโกรธ เมื่อได้ยินว่าหญิงเลวผู้นี้กำลังล่อลวงบุตรชายของนาง แม้นางไม่ได้เห็นกับตา แต่วันนี้บุตรชายมาเอ่ยปากให้นางไปสู่ขอ นางโกรธแทบตาย ใครจะแต่งสะใภ้ที่ทำงานกับคลุกคลีกับศพเข้าบ้าน! ฝันไปเถอะ!
วันนี้นางได้บังเอิญเจอกับฝางเหมี่ยวบนถนน นางจึงไม่คิดจะปล่อยหญิงไร้ยางอายผู้นี้ไปง่ายๆ
“ยั่วยวน! สายตาคู่ไหนของเจ้าที่เห็นข้ายั่วยวนบุตรชายเจ้ากันแน่!” ฝางเหมี่ยวไม่ยอมถูกรังแกง่ายๆ นางตวาดกลับ
“มีมารดาน่ารังเกียจเช่นนี้ บุตรชายที่เจ้าให้กำเนิดคงอัปลักษณ์เช่นกัน ข้าจะไปยั่วยวนสัตว์ประหลาดแบบนั้นทำไม?”น้ำเสียงของฝางเหมี่ยวทั้งดูถูกและเหยียดหยาม
“สัตว์ประหลาด! เจ้านะสิสัตว์ประหลาด น่ารังเกียจ!” ผู้หญิงคนนั้นเบิกตากว้างรีบวิ่งเข้าไปจะทุบตีฝางเหมี่ยว แต่ฝางเหมี่ยวกลับผลักนางกระเด็นจนล้มลงกับพื้น นางยกเท้าทำท่าจะเดินไปแต่หญิงคนนั้นกลับกอดเท้านางเอาไว้
“ช่วยด้วย! นังหญิงใจร้ายผู้นี่ทุบตีข้า!” นางตะโกนร้องเรียกชาวบ้าน ไม่นานนักก็มีชาวบ้านกลุ่มหนึ่งเข้ามามุงดู
ตลาดแห่งนี้อยู่ใกล้กับบ้านตระกูลฝาง ทั้งหลี่คงก็เป็นที่รู้จักกับคนละแวกนี้
“พี่สะใภ้หลี่ ท่านเป็นอะไรไปหรือ?”
“นี่ไม่ใช่ฝางเหมี่ยวหรือ? ฝางเหมี่ยว ทำไมเจ้าถึงได้ทำร้ายผู้อื่นเช่นนี้?”
“ผู้หญิงหน้าตาก็ดีแต่ทำไมดุร้ายนัก!”
“นางล่อลวงบุตรชายข้า ข้าพูดกับนางไม่กี่คำนางก็ทุบตีข้าเสียแล้ว” ผู้หญิงคนนั้นใส่ความ
“พวกเจ้าต้องช่วยข้าตัดสิน” ขาของฝางเหมี่ยวถูกกอดเอาไว้นางหนีไปไหนไม่ได้
“โอ้ แม้ว่านางจะแต่งงานกับใครไม่ได้ ก็ไม่สมควรไปล่อลวงผู้อื่นนี่!”
“ใช่ หลี่คงเป็นคนดี เขาตั้งใจทำงานอย่างหนัก เขาคู่ควรที่จะได้แต่งกับหญิงสาวที่ดี”
“ใครจะไปอยากแต่งงานกับสาวกาลกิณีเช่นหญิงผู้นี้เล่า ทำอย่างนั้นมิเท่ากับอัญเชิญเคราะห์ร้ายเข้าบ้านหรือ?”
“หากข้าเป็นเจ้านะ ข้าคงไม่กล้าไม่ล่อลวงผู้อื่นหรอก ข้าคงจะไปบวชชีมากกว่าจะแต่งเข้าไปเป็นลูกสะใภ้บ้านใคร”
“ข้าไม่รู้ว่าตระกูลฝางสอนลูกมาอย่างไร ถึงได้ไร้ยางอายเช่นนี้”
“ตระกูลหลี่ช่างโชคไม่ดีเอาเสียเลย ไปยุ่งกับหญิงอัปมงคลเช่นนี้ได้อย่างไร?”
ถ้อยคำติเตียนที่ปากคนพูดพาไปแทบจะทำให้ฝางเหมี่ยวจมน้ำลายตาย นางไม่ได้ไปยั่วยวนหรือแม้แต่ล่อลวงหลี่คงเลยสักครั้ง! แต่นางมีแค่ปากเดียวจะไปสู้กับคนที่มารุมด่าประจานนางได้อย่างไร ฝางเหมี่ยวโกรธจนน้ำตาไหล
“ปล่อยนาง!” ทันใดนั้นเสียงหนึ่งดังขึ้นมา
เมื่อฝางเหมี่ยวเห็นคนที่พูด นางไม่แปลกใจหากใบหน้าซีดเผือดลง เพราะคนที่มาคือกู้หวนเนี่ยน คนที่นางชอบ!
ใต้เท้ากู้มาเห็นฉากที่น่าอายของนางเข้า ฝางเหมี่ยวอยากจะขุดหลุมเพื่อตนเองจะมุดลงไปได้ กู้หวนเนี่ยนเดินตรงเข้ามาหานาง รูปร่างสูงใหญ่ สง่างามทั้งมีใบหน้าเย็นชาและน่าเกรงขาม ผู้หญิงเหล่านั้นรู้สึกกลัวเขา พวกนางจึงได้หลีกทางให้กู้หวนเนี่ยน เขาเดินตรงเข้ามาหาฝางเหมี่ยว
……………………..