บทที่ 442 แผนของจ้าวชิงเฉิง
ที่วังองค์หญิงใหญ่
ในบรรดาบุตรสาวทั้งยี่สิบห้าคน มีเพียงองค์หญิงสององค์เท่านั้นที่เป็นบุตรแท้ๆ ส่วนที่เหลือเป็นเพียงบุตรบุญธรรมทั้งหมด ในบรรดาบุตรสาวทั้งยี่สิบห้าคน นอกเหนือจากบุตรที่ให้กำเนิดแล้ว ยังมีลูกสาวบุญธรรมสิบเจ็ดคนที่เป็นคนโปรดอาศัยอยู่ในวังขององค์หญิงเช่นกัน ทุกคนมีเรือนแยกเป็นของตัวเอง
ภายในเรือนชิงเฉิง ประตูห้องนอนถูกปิดสนิท
หญิงสาวคนหนึ่งกำลังนอนอยู่บนเตียงใบหน้าของนางซีดเซียวมาก
“คุณหนู ทำไมจึงทำเช่นนี้เจ้าคะ?” หญิงวัยกลางคนถอนหายใจออกมา นางคือนางพันเป็นคนที่ดูแลจ้าวชิงเฉิงมาตั้งแต่ยังเล็ก ในตอนที่นางคลาดสายตาก็พบว่าคุณหนูของนางไปกระโดดลงในแม่น้ำ โชคดีที่มีคนช่วยไว้ทัน
“ไม่ ข้าไม่อยากมีชีวิตอยู่แล้ว” จ้าวชิงเฉิงวางมือไว้ที่หน้าท้องของนาง น้ำตาของนางไหลรินออกมา นางพันมองไปที่หน้าท้องของนางและถอนหายใจ
“คุณหนู…ท่านอาจจะกำลังสับสน อย่างไรก็ตามเขาเป็นเพียงทหารยามตำแหน่งเล็กๆ เท่านั้น”
“แต่ข้าชอบเขา ข้าไม่สามารถควบคุมหัวใจของตัวเองได้” ดวงตาของจ้าวชิงเฉิงเป็นสีแดง
“องค์หญิงใหญ่วางแผนให้ท่านแล้ว ท่านอยากให้คุณหนูแต่งงานกับครอบครัวที่ดีนะเจ้าคะ”
ในตอนที่คุณหนูของนางอายุห้าหรือหกขวบ องค์หญิงใหญ่ก็พานางเข้ามาในวังและเลี้ยงดู องค์หญิงใหญ่ให้ความใส่ใจกับคุณหนูของนางเป็นอย่างมาก
“หากท่านแม่รู้ ท่านแม่จะไม่มีทางยอมรับและท่านจะไม่มีวันปล่อยเขาไป” จ้าวชิงเฉิงขึ้นเสียง
“ทำไมต้องช่วยข้าด้วย! หากข้าตายไป อย่างน้อยข้าก็ปกป้องเขาได้!” นางร่ำไห้สะอึกสะอื้น เสียงร้องเต็มไปด้วยความสิ้นหวัง
“คุณหนู ไม่ต้องกลัวเจ้าค่ะ ต้องมีหนทางแก้ไข”
นางพันพยายามปลอบโยน
“ไม่มีทาง ไม่มีทางแก้” จ้าวชิงเฉิงร้องไห้
“บ่าวมีวิธีเจ้าค่ะ” จ้าวชิงเฉิงมองไปที่นางพัน
“ทำอย่างไร?”
“เอาเด็กคนนี้ออก” นางพันกล่าว
“บ่าวมีวิธีที่จะเอาเด็กคนนี้ออกไป”
จ้าวชิงเฉิงลังเลอยู่เล็กน้อยก่อนจะส่ายศีรษะ
“ไม่…เด็กไร้เดียงสาเกินไป ข้าทำไม่ได้ ข้าอยากตายไปพร้อมกับเขา”
“มีอีกวิธี…แต่มันเสี่ยงมาก”
“แม่นม…ท่านรีบพูดเถอะ” จ้าวชิงเฉิงเร่ง อย่างไรก็ตามสถานการณ์ไม่มีทางเลวร้ายมากไปกว่านี้
“คุณหนูรู้ไหมเจ้าคะว่าใครเป็นคนช่วยท่านวันนี้” นางพันพูด
“ใคร?”
“เขาเป็นบุตรชายคนโตของแม่ทัพกู้ ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่นามว่ากู้หวนเนี่ยน”
“กู้หวนเนี่ยนหรือ?…ข้ารู้จักเขา พี่สาวของข้าชอบเขามาก” จ้าวชิงเฉิงพูดขึ้น พี่หกเป็นคนที่โดดเด่นเก่งกว่านางมากนัก นางเชี่ยวชาญศาสตร์ทั้งสี่เป็นอย่างมาก มารดาของนางให้ความสำคัญกับกู้หวนเนี่ยน เป็นเพราะเขาเป็นบุตรของท่านแม่ทัพกู้
“หากคุณหนูสามารถแต่งงานกับกู้หวนเนี่ยนได้” นางพันเอ่ยขึ้นมา จ้าวชิงเฉิงตกตะลึงไป เรื่องนี้นับว่ามีความเสี่ยงสูง แต่หากนางทำสำเร็จ บุตรในท้องของนางก็จะมีชีวิตรอด ดีกว่ารอความตายนางจะลองเสี่ยงดู สายตาของจ้าวชิงเฉิงมีความมุ่งมั่น
“ชิงเฉิงลูกแม่” น้ำเสียงเป็นห่วงกังวลของสตรีผู้หนึ่งดังขึ้นจากด้านนอก นางมีใบหน้ากลมดูอ่อนเยาว์ แต่งไว้อย่างประณีต เป็นสตรีวัยสามสิบที่สง่างาม นางคือองค์หญิงใหญ่
องค์หญิงใหญ่เดินมาข้างเตียง จ้าวชิงเฉิงพยายามจะลุกขึ้น หากแต่นางกลับห้ามเอาไว้
“เจ้ายังไม่แข็งแรง ไม่ต้องลุกขึ้นหรอก”
“ท่านแม่…ลูกอกตัญญูทำให้ท่านแม่ต้องเป็นกังวล” จ้าวชิงเฉิงดวงตาแดงก่ำ
“ไม่เป็นไร” องค์หญิงใหญ่เป็นกังวล นางเคาะหน้าผากบุตรสาวเบาๆ พูดอย่างกังวลว่า
“เหตุใดเจ้าประมาทเช่นนี้”
“ลูกเดินอยู่ริมแม่น้ำ จู่ๆ ก็เวียนศีรษะจึงได้พลัดตกลงไปเพคะ” จ้าวชิงเฉิงกล่าว
“ต่อไปเจ้าต้องระวังนะ
“ลูกกลัวแทบตาย…ต่อไปคงไม่กล้าไปเดินใกล้แม่น้ำเช่นนั้นอีกแล้ว ครั้งนี้ต้องขอบคุณคุณชายกู้ที่ช่วยชีวิตของลูกไว้”
“คุณชายกู้?” องค์หญิงใหญ่สนใจขึ้นมาทันที
“เพคะ..คุณชายกู้ผู้พิพากษาศาลต้าหลี่ เขาช่วยลูกเอาไว้”
จ้าวชิงเฉิงพูดด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ ท่าทีมีพิรุธราวกับอยากพูดบางอย่างต่อ
“แต่ว่า…”
“ชิงเฉิงมีอะไรหรือ?” องค์หญิงใหญ่รีบถามอย่างเป็นห่วง
“ตอนที่คุณชายกู้ช่วยลูกไว้ได้ เขาได้เห็นเรือนร่างของลูกแล้ว ชื่อเสียงใบหน้าของสตรีล้วนสำคัญยิ่งกว่าสิ่งอื่นใด ลูกอับอายเพคะ เสด็จแม่ หากมีข่าวลือออกไปจะเป็นผลเสียต่อเสด็จแม่ ลูกคงยอมรับไม่ได้ ลูกจะขอลาไปอยู่อารามบวชชีเพคะ”
จ้าวชิงเฉิงกล่าว น้ำเสียงกระวนกระวาย ร้อนใจองค์หญิงใหญ่ครุ่นคิดอย่างหนัก
อำนาจของสกุลกู้นั้นยิ่งใหญ่ราวกับผืนฟ้า นางมีความต้องการเป็นทองแผ่นเดียวกับสกุลกู้มานานแล้ว เดิมทีนางจะให้ลูกหกแต่งงานกับกู้หวนเนี่ยน นางพยายามส่งภาพวาดของบุตรสาวไปหลายครั้ง แต่สกุลกู้ก็ไม่ตอบรับกลับมา ดูเหมือนว่าเขาจะไม่ได้มีความชอบพอในตัวบุตรสาวของนาง นางจึงมีความคิดที่จะเปลี่ยนเป็นบุตรคนอื่น
องค์หญิงใหญ่มองจ้าวชิงเฉิง แม้ว่าบุตรสาวของนางคนนี้จะไม่เก่งเท่าลูกหกที่เป็นเลิศในทุกด้าน
“ชิงเฉิง…เจ้าคิดว่ากู้หวนเนี่ยนเป็นอย่างไรหรือ?” องค์หญิงใหญ่ถาม จ้าวชิงเฉินมีทีท่าเขินอาย
“เขา…ดีเพคะ”
“ชิงเฉิง ในเมื่อกู้หวนเนี่ยนเห็นเรือนร่างของเจ้าแล้ว เขาจะต้องรับผิดชอบ”
“ท่านแม่ แต่คุณชายกู้เป็นคนช่วยชีวิตข้า หากเขาจะต้องมารับผิดชอบแบบนี้เขาจะไม่โกรธหรือเพคะ” จ้าวชิงเฉิงลังเล
“เขาจะโกรธได้อย่างไรกัน บุตรสาวข้าไม่คู่ควรกับเขาหรือ? การที่เจ้าจะได้แต่งงานกับเขาถือว่าเป็นวาสนาของเขาแล้ว”
“เพคะเสด็จแม่”
“เอาล่ะ ข้าจะจัดการทุกอย่างให้เอง เจ้าพักผ่อนเถอะ” เมื่อองค์หญิงใหญ่จากไป ใบหน้าที่เขินอายของจ้าวชิงเฉิงก็เปลี่ยนเป็นเรียบเฉยขึ้นมา จริงๆ แล้วนางรู้สึกเจ็บปวดไม่น้อยที่จะต้องแต่งงานกับกู้หวนเนี่ยน
เป็นบุตรชายคนโตของแม่ทัพกู้แล้วอย่างไร เป็นผู้ปกครองศาลต้าหลี่แล้วอย่างไร?
นางไม่ได้ชอบยศถาบรรดาศักดิ์เหล่านี้เลยแม้แต่น้อย
แต่จ้าวชิงเฉิงไม่มีทางเลือก มันคือทางออกสำหรับบุตรในท้องและจู้หลางคนรักของนาง