บทที่ 459 แผนกลยุทธ์ควบคุมน้ำ
“ฮูหยิน ดูเหมือนคนตายเจ้าค่ะ” ชิวเยว่ตกใจ
ถังหลี่ก้าวเท้าไปข้างหน้า สาวใช้รีบคว้าตัวนางเอาไว้
“ฮูหยิน…”
ถังหลี่ตบมือของนางเบาๆ อย่างปลอบประโลม
“ไม่เป็นไร” นางเดินไปยังชายที่นอนอยู่ที่พื้นพบว่าเนื้อตัวเขาสกปรก ร่างกายเต็มไปด้วยโคลนแม้แต่ผมก็มีโคลนติดอยู่รวมถึงใบหน้าและลำคอด้วย
ถังหลี่ไม่ได้เห็นใบหน้าเขาขัดเจน รู้แต่เพียงว่าเขาเป็นบุรุษเท่านั้น ถังหลี่ยื่นมือไปอังที่จมูกของเขา
“ยังหายใจอยู่” นางมองเขาแล้วเอ่ยว่า
“อาจจะเป็นผู้ประสบภัยก็เป็นได้”
ผู้ประสบภัย?
“ฮูหยินเจ้าคะ ให้บ่าวไปตามหมอมาดีหรือไม่?” ชิวเยว่พูดอย่างกระวนกระวาย
“ยามนี้แล้วจะไปหาหมอจากที่ไหนได้” ถังหลี่พึมพำ
ตอนนี้หาหมอได้ยากมาก มีหมอบางคนต้องไปประจำอยู่ที่ศูนย์พักพิง
บางคนก็ถูกเว่ยฉิงพาไปที่จุดสร้างเขื่อน ส่วนหมอที่เหลือก็มีงานยุ่งมาก ไม่ว่าจะไปโรงหมอสักกี่แห่งก็ไม่สามารถจะเจอหมอได้
“กลับไปที่ศาลาว่าการก่อน แล้วนำรถม้ามา”
“เจ้าค่ะ” ชิวเยว่รับคำรีบกลับไปยังศาลาว่าการ
หลังจากนั้นไม่นานรถม้าก็แล่นมาถึง บ่าวรับใช้ชายสองคนหามชายที่นอนอยู่กลางถนนขึ้นรถพาเขากลับไปยังศาลาว่าการ ชิวเยว่หยิบผ้าเช็ดหน้าชุบน้ำร้อนเช็ดไปตามใบหน้าของเขาจนสะอาด นางจึงเห็นว่าเขาเป็นชายหนุ่มวัยประมาณยี่สิบปีที่หน้าตาดี
“หน้าแดง มีไข้ ไอ ลิ้นขาว น่าจะเป็นไข้หวัด ”
ถังหลี่กล่าว
นางอยู่กับหมอซูมาระยะหนึ่งแล้ว ถึงนางจะไม่เข้าใจทักษะการแพทย์มากนักแต่ก็พอประเมินอาการเบื้องต้นได้ ถังหลี่มองไปชิวเยว่
“ข้าจะเขียนใบเทียบยาให้ เจ้าให้คนไปซื้อยามาต้มให้เขากินเสีย”
“เจ้าค่ะ ฮูหยินไปพักผ่อนเถอะเจ้าค่ะ”
ถังหลี่พยักหน้า นางเหนื่อยมากจึงรีบเขียนใบสั่งยา กลับไปที่ห้องของตัวเอง ในคืนนั้นชิวเยว่ต้มยาให้เขาดื่ม พบว่าไข้ของชายหนุ่มค่อยๆ ลดลง ใบสั่งยาของฮูหยินใช้ได้ผลจริงด้วย
ตอนนี้ในสายตาของสาวใช้ตัวน้อย ถังหลี่แทบจะเป็นผู้วิเศษไปเสียแล้ว
ในเช้าวันรุ่งขึ้นชิวเยว่ไปต้มยาอีกครั้งนางนำยากลับมา ในห้องก็พบว่าชายผู้นั้นลืมตาตื่นขึ้นแล้ว “ฟื้นแล้วหรือ?”
เขาพยายามลุกชิวเยว่รีบเข้าไปหาทันที
“นอนก่อนอย่าเพิ่งลุก”
ชายคนนั้นมองชิวเยว่ด้วยใบหน้าสับสน
“ที่นี่คือที่ไหน?”
“ศาลาว่าการเมือง”
“ศาลาว่าการ? ข้ามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” เขาประหลาดใจ
“ฮูหยินของพวกเราช่วยชีวิตเจ้าไว้” ชิวเยว่กล่าว
“ใครคือฮูหยินของเจ้า?”
“ฮูหยินเป็นภรรยาของใต้เท้าอู่ ทูตของราชสำนักอย่ามัวแต่ถามเลยดื่มยาก่อนเถอะ” ชิวเยว่พูดขึ้น
“ฮูหยินของทูตราชสำนักหรือ?” ดวงตาของเขาเป็นประกาย
“ข้าขอพบสตรีผู้นั้นได้หรือไม่?”
“ดื่มยาก่อนเถอะ”
เมื่อเห็นแววตาที่แน่วแน่ของเขาชิวเยว่จึงตัดบทว่า
“เช่นนั้นเจ้าก็ดื่มยาเองเถอะ ข้าจะไปเรียนฮูหยินให้”
นางส่งยาให้เขาก่อนจะเดินไปหาถังหลี่ ไม่นานนักถังหลี่ก็เข้ามาชายคนนั้นมองหน้าถังหลี่แล้วทำความเคารพทันที
“ฮูหยินอู่”
“เจ้ายังป่วยอยู่ ไม่ต้องยืนหรอกนั่งลงเถอะ” ถังหลี่กล่าว
“ใช่แล้ว นั่ง!” ชิวเยว่เดินไปที่ชามยาและพบว่ามันว่างเปล่า นางจึงไม่ได้จู้จี้กับใครต่ออีก
“เจ้าอยากพบข้าหรือ?” ถังหลี่ถาม
“ขอบคุณฮูหยินที่ช่วยชีวิตข้า ข้าอยากพบท่านมาก”
“ก่อนหน้านี้ข้าเป็นศิษย์ของใต้เท้าซ่ง ข้าได้ศึกษาปัญหาน้ำท่วมของมณฑลอี้โจวมาหลายปีแล้ว ตัวข้ามีแผนบริหารควบคุมสถานการณ์น้ำข้าอยากมอบให้แก่ทูตจากราชสำนัก”
ฉางหยูได้เข้าหาคนใหญ่โตมากมายก่อนหน้านี้ แต่พวกเขากลับส่ายหน้าปฏิเสธ เมื่อเขาได้ยินว่าทูตจากราชสำนักผู้นี้มีความกล้าหาญและความสามารถ เขาจึงรีบกลับมาที่เมืองเหอกู่ทันทีเพื่อจะได้พบคนผู้นี้ เขาอยากลองดูสักครั้งว่าทูตจากราชสำนักจะยอมรับความคิดเห็นของเขาหรือไม่
แต่การเดินทางเป็นไปอย่างยากลำบาก เมื่อโดนพายุฝนและลมแรงหนาวจัดเช่นนี้ทำให้เขาหมดสติเป็นลมไป
ศิษย์ของใต้เท้าซ่ง?
เหมือนนางจะเคยได้อ่านเกี่ยวกับเรื่องนี้
ฉางหยู…ชื่อนี้คุ้นมาก
“ฮูหยินเจ้าค่ะ” ชิวเยว่ดึงเสื้อของถังหลี่
นับตั้งแต่ได้ยินชื่อของเขา สาวใช้ก็มองไปยังอีกฝ่ายด้วยท่าทีไม่เป็นมิตร
“มีอะไรหรือ?”
“ชายคนนี้แซ่ฉางเจ้าค่ะ…” ชิวเยว่กระซิบ
ถังหลี่จำได้ว่าในตอนที่นางได้คุยกับฟ่านเยว่ซีนางบอกว่าคนที่นางชื่นชมมากที่สุดคือใต้เท้าซ่งและคนที่นางเกลียดนั้นคือคนแซ่ฉาง
ฉางหยูก็มีนามสกุลเดียวกัน เป็นไปได้หรือไม่ว่า….
ฉางหยูรู้สึกถึงความเป็นปรปักษ์ของชิวเยว่ อันที่จริงแล้วเขาเองก็เคยชินกับความเกลียดชังพวกนี้เพียงเพราะเขานั้นแซ่ฉาง ส่วนพี่ชายของเขาก็คือ…
“ฮูหยิน ข้าและพี่ชายข้า ฉางเหยียนเป็นศิษย์ของใต้เท้าซ้ง” ฉางหยูพูดขึ้นมา
“ฉางเหยียน? เจ้าเป็นน้องชายของฉางเหยียนหรือ? เขาไม่สมควรแม้แต่จะเป็นลูกศิษย์ของใต้เท้าซ่ง!”
ชิวเยว่มองไปที่ฉางหยูด้วยสายตาไม่เป็นมิตร
คนแซ่ฉางไม่คู่ควร!
หลังจากที่ใต้เท้าซ่งเสียชีวิต ฉางเหยียนได้กลายเป็นคนที่รับผิดชอบเรื่องมาตรการควบคุมน้ำ เขาล้มล้างแผนการเดิมของใต้เท้าซ่งจนหมด ทำให้ผู้คนหลายคนรวมถึงปู่และลุงของชิวเยว่เสียชีวิต
ไม่คิดว่าคนแซ่ฉางยังมีหน้ากลับมา!
หัวใจของเขาจมดิ่งลงทันทีเมื่อเห็นปฏิกิริยาของชิวเยว่ ตราบใดที่มีคนรู้ชาติกำเนิดเขา เขาก็จะกลายเป็นดาวหายนะและไม่มีใครสนใจแผนควบคุมน้ำของเขาอีก
แต่ว่าถังหลี่ไม่ได้เดินหนีออกไป
“ข้าขอดูแผนควบคุมน้ำของเจ้าหน่อยเถอะ” ถังหลี่กล่าว
ฉางหยูรีบควานหามันทันทีแต่เขาพบว่าตัวเองได้เปลี่ยนเสื้อผ้าแล้ว ใบหน้าของชายหนุ่มซีดลง
“ของของข้าอยู่ที่ไหน?”
“ใช่นี่หรือเปล่า?” ชิวเยว่ส่งห่อกระดาษบางอย่างให้กับฉางหยู เขาถอนหายใจอย่างโล่งอกรับไปอย่างรวดเร็ว
“ใช่แล้ว”
เขาค่อยๆ กางกระดาษออกอย่างระมัดระวัง มันถูกห่อไว้ด้วยกระดาษหลายชั้น เมื่อเปิดออกจึงพบกับกระดาษหลายแผ่นที่อยู่ด้านใน เขาส่งให้ถังหลี่
เมื่อวานนี้แม้ร่างกายของฉางหยูจะเปียกโชกแต่เขาปกป้องกระดาษพวกนี้ไว้เป็นอย่างดี
“ข้าจะมาหาเจ้าอีกครั้งหลังจากที่อ่านเสร็จแล้วแล้ว” ถังหลี่พูด
ฉางหยูพยักหน้าแต่ก็ยังจ้องกระดาษพวกนั้นอยู่
“ทำไม เจ้ากลัวว่าฮูหยินของข้าจะทำพังหรือ?” ชิวเยว่พูดอย่างโกรธเคือง
“ฮูหยิน…มาตรการควบคุมน้ำพวกนี้ข้าวิจัยมานานหลายปี…”
“ไม่ต้องห่วง ข้าไม่ทำอะไรเช่นนั้นหรอก” ถังหลี่กล่าว
หญิงสาวดูจริงจังมากจนฉางหยูรู้สึกไว้ใจ นางหยิบกระดาษขึ้นมาแล้วเดินออกไป
“ฮูหยินอย่าไว้ใจเขานะเจ้าคะ พวกแซ่ฉางเป็นคนไม่ดีเขาควรถูกขับไล่ไป” ชิวเยว่กล่าว
“ก่อนหน้านี้เจ้ากระตือรือร้นดูแลเขา แต่ตอนนี้กลับอยากไล่เขาไป เหตุใดจึงเปลี่ยนไปราวกับพลิกฟ้าเช่นนี้ล่ะ?” ถังหลี่ยิ้ม
“ฮูหยิน…เขาเป็นคนเลวเจ้าค่ะ” ชิวเยว่พูด
“ชิวเยว่ คนดีและคนเลวไม่สามารถตัดสินได้ในคำเดียว พี่ชายของเขาอาจจะเลวแต่เขาอาจจะไม่…เจ้ากำลังอคติ”
ชิวเยว่มีสีหน้าครุ่นคิด เป็นไปได้ไหมว่านางคิดผิด… แต่ทุกคนในที่นี่เกลียดคนแซ่ฉางต่างพูดว่าเขาเป็นคนเลวทั้งนั้น