บทที่ 509 ตายไปอีกคน
หลังจากที่เหลียงหยูส่งหมอกลับไปแล้ว เขาก็หันหลังกลับไปเจอเจี้ยนเฉิงและซือเย่ที่กำลังรอเขาอยู่
“ท่านอาจารย์เหลียง ตามที่หมอกล่าวศิษย์คนนั้นถูกวางยาพิษ ท่านอยากให้เรารายงานศาลต้าหลี่หรือไม่?” ซื่อเย่ถาม
“ข้าคิดว่าอย่ารีบร้อนจะดีกว่า ลองตรวจสอบกันเองก่อนดีไหม หากศาลต้าหลี่เข้ามาเกี่ยวข้อง จะส่งผลกระทบต่อชื่อเสียงกั๋วจื่อเจี้ยน อีกอย่างนี่ใกล้การสอบชุนเหวยแล้วอาจจะส่งผลกระทบต่อศิษย์ทั้งหลายด้วย” เจี้ยนเฉิงแย้งขึ้น
“อาจารย์เจี้ยนเฉิงท่านพูดเช่นนี้ไม่ถูกต้อง หากไม่ใช่ศาลต้าหลี่ก็คงไม่สามารถสืบหาความจริงได้ จะยิ่งกลายเป็นข่าวลือไปว่าศิษย์ของกั๋วจื่อเจี้ยนตกเป็นเหยื่อทำให้ผู้คนตื่นตระหนก จนไม่มีสมาธิกับการสอบชุนเหวยได้”
“ข้าคิดว่าคงต้องรอให้ศิษย์เฉินเหวินหานฟื้นก่อน เพราะหากเขากินมันโดยไม่ได้ตั้งใจ การที่ศาลต้าหลี่เข้ามาจะทำให้เกิดเรื่องยุ่งยาก”
“ที่อาจารย์เจี้ยนเฉิงพูดมาก็มีเหตุผล” ซือเย่หยุดคิด เขาหันไปมองเหลียงหยู
“ท่านอาจารย์เหลียง ท่านคิดว่าควรทำอย่างไรดี?”
เขาเป็นอาจารย์และคนคอยดูแลสำนักศึกษาแห่งนี้ เหลียงหยูจะเป็นคนตัดสินใจในครั้งสุดท้าย เขาคิดครู่หนึ่งก่อนจะพูดว่า
“เจี้ยนเฉิง ส่งคนไปเฝ้าเฉินเหวินหานที่ห้องเขา แม้แต่โต๊ะหรือเก้าอี้ก็อย่าให้มีการขยับ หากเขาฟื้นรีบแจ้งข้า”
“ขอรับ” เจี้ยนเฉิงรับคำสั่ง
แต่ทันทีที่บทสนทนาจบลง มีคนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามา
“นายท่านขอรับเกิดเรื่องใหญ่แล้วขอรับ!”
“เกิดอะไรขึ้น?” เหลียงหยูถาม
“มารดาของเฉินเหวินหานมาที่นี่ นางต้องการจะพาเหวินหานออกไป!”
“นำข้าไป !”
เหลียงหยูและคนอื่นรีบไปที่นั่นทันที เขาเห็นสตรีผู้หนึ่งพร้อมด้วยคนหลายคนกำลังแบกเปลหาม มีเฉินเหวินหานกำลังนอนอยู่บนเปล
ในขณะที่นางกำลังจากไปเหลียงหยูเข้าไปขวางไว้
“ฮูหยิน! ข้าเหลียงหยู…เป็นอาจารย์ที่กั๋วจื่อเจี้ยน ไม่ทราบว่าท่านกำลังทำอะไรอยู่หรือ?”
“ท่านอาจารย์เหลียง ข้าต้องการพาบุตรชายข้ากลับไป” สตรีคนนั้นเงยหน้าขึ้นมองเขา
เฉินเหวินหานถูกลอบวางยาพิษ ก็เป็นที่เข้าใจว่าครอบครัวคงอยากให้เขากลับบ้านไป แต่อย่างไรก็ตามเรื่องการวางยาพิษยังไม่ได้รับข้อเท็จจริงและยังไม่มีการตรวจสอบที่แน่ชัด ดังนั้นเขาจึงไม่อยากให้เหวินหานกลับออกไป
“ฮูหยินรอให้อาการของเขาคงที่ก่อนค่อยพาเขากลับดีไหม?”
“ข้ากลัวว่าบุตรชายของข้าจะตายอยู่ที่นี่” ฮูหยินเฉินพูดด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง
“ฮูหยินท่านได้ยินข่าวลืออะไรมาหรือ? ที่กั๋วจื่อเจี้ยนนั้นปกป้องเฉินเหวินหานเป็นอย่างดีแน่นอน” เหลียงหยูกล่าว
“ท่านรับรองได้หรือ? ก่อนจะเข้ามาที่นี่บุตรชายของข้าสบายดี แต่ตอนนี้กลับเป็นแบบนี้ไปแล้ว!”
ในขณะที่นางพูดดวงตาของนางแดงก่ำ นางหันไปมองเหลียงหยูด้วยความโกรธ
“ท่านอาจารย์เหลียงจะไม่ยอมให้ข้าพาเขาไปหรือ? เหตุใดกั๋วจื่อเจี้ยนจึงเอาแต่ใจเช่นนี้”บราวนี่ออนไลน์
“กั๋วจื่อเจี้ยนเป็นสถานที่ให้คนได้มาศึกษาหาความรู้ แต่วันนี้บุตรชายข้าเกือบจะเอาชีวิตมาทิ้งที่นี่! ข้าจะไม่ปล่อยให้เขาต้องอยู่ในสถานที่แบบนี้อีก!
“ถ้าท่านไม่ยอมให้ข้าพาเขากลับไปล่ะก็ ข้าจะตายให้ดู!”
นางเฉินทำท่าจะเอาศีรษะของนางชนกำแพง
เหลียงหยูจึงไม่กล้ารั้งนางไว้ เขาได้แต่ปล่อยให้ฮูหยินเฉินพาบุตรชายกลับไป รอจนกว่าเฉินเหวินหานจะฟื้นและถามเขาอีกครั้ง ระหว่างนี้คงต้องตรวจสอบภายในกั๋วจื่อเจี้ยนไปก่อน
วันถัดมา
สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งยังคงวิตกเกี่ยวกับสหายรวมชั้นของเขา พวกเขาจึงวางแผนไปเยี่ยมที่บ้าน เฉินเหวินหานเป็นศิษย์จากชิงเหอ ครอบครัวของเขาค่อนข้างมีฐานะ เมื่อเขาได้สิทธิ์เข้ามาศึกษาที่กั๋วจื่อเจี้ยน มารดาของเขาก็เข้ามาที่เมืองหลวงและเช่าบ้านอยู่ด้วย
เฉินเหวินหานทุ่มเทกับการเรียนอย่างหนักจนไม่อยากเสียเวลาเดินทางบนท้องถนน เขาเลยเลือกที่จะนอนพักที่หอรับรองในสำนักศึกษา ทั้งสองเคยได้ยินเรื่องบ้านของเฉินเหวินหานแต่ไม่เคยไปที่นั่น เขาจึงสอบถามให้แน่ใจก่อนว่าบ้านของเขาอยู่ที่ไหน
ทั้งสองมาถึงประตูบ้าน เคาะประตูแต่ก็ไม่มีใครเปิดออกมา พวกเขาต้องเคาะประตูย้ำอยู่หลายครั้ง สักพักจึงได้มีคนเปิดประตูออกมา
นางเฉินเป็นคนมาเปิด เมื่อวานนี้นางเป็นคนไปรับเฉินเหวินหานเอง พวกเขาจึงรู้จักนาง ดวงตาของฮูหยินเฉินแดงก่ำดูตึงเครียด
“ฮูหยินเฉิน” ทั้งสองคารวะนาง
“พวกเราเป็นสหายร่วมชั้นของพี่เฉินขอรับ เรามาที่นี่เพื่อเยี่ยมเขา” สวี่เจวี๋ยกล่าว
พวกเขาถือห่อกระดาษหลากหลายในมือทั้งหมดเป็นของเยี่ยมเฉินเหวินหาน แต่ฮูหยินเฉินไม่ได้เชิญเขาเข้าไป
“ไม่จำเป็นต้องเยี่ยม” ฮูหยินเฉินกล่าว ทำให้ทั้งสองพากันยืนนิ่งด้วยความงุนงง
“ลูกชายข้า…ลูกชายของข้าจากไปแล้ว” นางสะอื้นร่ำไห้ ในขณะที่ทั้งสองคนตื่นตะลึง
จากไป?
เป็นไปได้อย่างไรกัน?
เมื่อวานนี้หมอก็บอกอยู่ว่าดีขึ้นแล้ว ทั้งคู่ไม่สามารถยอมรับเรื่องนี้ได้ ฮูหยินเฉินทำท่าเหมือนคนตรอมใจ นางไม่อยากคุยกับพวกเขา จึงได้ปิดประตูทันที สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งหดหู่มาก พวกเขายังเด็กอยู่และเพิ่งเคยพบเจอเหตุการณ์ที่มีคนใกล้ตัวจากไปทั้งที่อายุยังน้อย
หลายปีที่ผ่านมาพ่อกับแม่เขาดูแลพวกเขาเป็นอย่างดีไม่เคยมีเรื่องเลวร้ายเกิดขึ้น พวกเขาจึงทำใจลำบากมาก คนผู้นี้เมื่อวานยังคุยกันอยู่แต่วันนี้กลับจากไปเสียแล้ว
หลังจากนั้นไม่นานก็มีคนจากกั๋วจื่อเจี้ยนมา เป็นเหลียงหยูที่มาด้วยตัวเอง เมื่อเห็นอาจารย์ทั้งสองคนก็ได้สติ
“คารวะท่านอาจารย์ขอรับ”
“เด็กดีๆ ข้ามาเยี่ยมเขา เหวินหานเป็นอย่างไรบ้าง” เหลียงหยูพยักหน้า และเป็นสวี่เจวี๋ยที่ตอบ
“ฮูหยินเฉิน…นางกล่าวว่าพี่เฉินจากไปแล้วขอรับ”
ทันทีที่พูดจบท่าทีของเหลียงหยูก็เปลี่ยนไป
เป็นไปได้อย่างไร?
เขารีบยกมือเคาะประตุทันที หลังจากนั้นไม่นานฮูหยินเฉินก็มาเปิดประตู นางมองไปที่เหลียงหยูด้วยแววตาไม่เป็นมิตร
“เจ้ายังมีหน้ามาอีกหรือ?” นางพูดอย่างเย็นชา
“ฮูหยินเฉิน…เฉินเหวินหานเขา…”
“ลูกชายข้าจากไปแล้ว! จู่ๆเขาก็กระอักเลือดออกมากลางดึกก่อนจะตาย!” ฮูหยินเฉินพูดพร้อมร้องไห้อีกครั้ง
“ฮูหยิน ข้าขอดูร่างของเขาหน่อย” เหลียงหยูพูด
“เหตุใดข้าต้องให้ดูด้วย! คนในกั๋วจื่อเจี้ยนของเจ้าทำร้ายลูกชายข้า! ข้าต้องเรียกร้องความยุติธรรมให้เขา!”
เสียงของฮูหยินดังขึ้น นางชี้ไปที่เหลียงหยู
“หากเขาโดนวางยาพิษจริง กั๋วจื่อเจี้ยนจะต้องให้ความร่วมมือกับทางการให้การหาตัวคนร้ายอย่างแน่นอน” ฮูหยินเฉินปิดประตูไม่สนใจพวกเขาอีกต่อไป
“ท่านอาจารย์ขอรับพวกเราควรทำอย่างไรดี” สวี่เจวี๋ยถาม เขารู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ
“รายงานเรื่องนี้ให้ศาลต้าหลี่สอบสวนเถอะ” เหลียงหยูว่า
เขาให้บ่าวรับใช้ไปที่ศาลต้าหลี่และร้องเรียนเกี่ยวกับคดีที่เกิดขึ้น ในขณะนั้นเขาก็รออยู่ที่ประตูบ้าน นี่คือชีวิตของลูกศิษย์เขา!
เขาจะไม่สนใจได้อย่างไร?
นอกจากนี้แล้วมันยังเกี่ยวข้องกับชื่อเสียงของกั๋วจื่อเจี้ยน หากกั๋วจื่อเจี้ยนจะต้องพังทลายลงในน้ำมือของเขาล่ะก็….
การสอบชุนเหวยก็ใกล้เข้ามาแล้ว เรื่องนี้มันจะส่งผลกับศิษย์ในสำนักอย่างไรบ้างก็ไม่อาจทราบได้ ดังนั้นจึงต้องมีการสอบสวนเกิดขึ้น