บทที่ 519 ทางเลือกของฉินจ้าว
จินเซ่อถือปิ่นปักผมไว้ในมือ องค์ชายสามเป็นผู้มอบปิ่นให้กับนางเมื่อไม่นานมานี้ เขาแกะสลักลวดลายบนปิ่นให้นางเองกับมือ จินเซ่อรับไว้ด้วยหัวใจที่หวานล้ำ
ช่วงนี้คนทั้งสองเข้ากันได้ดีราวกับน้ำผึ้งคลุกเคล้ากับน้ำมัน ทั้งสองรักใคร่กันมากทำให้จินเซ่อมีความสุข แต่ตอนนี้นางกำลังกังวลกับผลลัพธ์ เมื่อคืนนี้องค์ชายไม่ได้อยู่ที่ห้องกับนาง
ดูเหมือนว่าหลังจากที่นางทำผิดแผนเรื่องจ้าวจิ่งซวน องค์ชายสามถึงได้เย็นชากับนาง ความรู้สึกคลุมเครือเกิดขึ้นในใจของจินเซ่อ
องค์ชายกำลังหลอกใช้นาง?
ทันทีที่ความคิดนี้ปรากฏขึ้น หัวใจของนางเหมือนถูกบีบรัด จนทำให้ต้องรีบสลัดความคิดนี้ไปทันที
ไม่!
องค์ชายสามรักนางมาก ไม่มีทางหลอกใช้นางแน่นอน!
อาจจะเป็นเพราะเขากำลังคิดเรื่องอื่นอยู่ จึงไม่อาจมาใช้เวลากับนางได้ทุกวัน เมื่อการสอบชุนเหวยกำลังใกล้เข้ามา สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งเป็นบัณฑิตที่เก่งที่สุดในบรรดาศิษย์ของกั๋วจื่อเจี้ยน ส่วนจ้าวจิ่งซวนก็สนิทกับพวกเขามากขึ้น…
จ้าวจิ่งซวนได้เปรียบมาก หากคนใดคนหนึ่งคว้าตำแหน่งจ้วงหยวน จ้าวจิ่งซวนจะได้แรงสนับสนุนอีกทาง สถานการณ์เช่นนี้ จะทำให้องค์ชายสามมีปัญหาเพิ่มมากขึ้น
จินเซ่อลูบปิ่นอย่างครุ่นคิด หลังจากที่ใช้ชีวิตมาแล้วสองชาติ นางก็เข้าใจความจริงข้อหนึ่งว่า การจะเอาชนะหัวใจของบุรุษได้นั้น จะหวังพึ่งความรักอย่างเดียวคงไม่ได้ นางต้องมีความสามารถที่สตรีคนอื่นไม่มี มอบสิ่งที่ผู้หญิงคนอื่นให้ไม่ได้แก่เขา
นางต้องไม่ให้เขาจากนางไป นางต้องเริ่มทุกทำทุกอย่างด้วยตัวของนางเอง !
“พระชายาเพคะ มีคนอ้างว่าเป็นบัณฑิตจากเหลียงโจวมาขอเข้าพบเพื่อขอบคุณพระชายาเพคะ” เสียงสาวใช้จากด้านนอกดังเข้ามาในห้อง
จินเซ่อยิ้มกลับมามีสติอีกครั้ง ฉินจ้าวผู้นี้เป็นศิษย์จากเหลียงโจว เขาเป็นไพ่ตายของจินเซ่อที่จะนำมาพลิกสถานการณ์ในตอนนี้
เมื่อการสอบชุนเหวยใกล้เข้ามา ทุกคนต่างบอกว่าเว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยจะได้ลำดับหนึ่ง แต่ว่าพระสวามีของนางย่อมไม่ต้องการให้เป็นเช่นนั้น เขาไม่ต้องการให้เด็กสองคนนั่นเป็นกำลังสำคัญของจ้าวจิ่งซวน
อีกทั้งเด็กสองคนยังเป็นบุตรบุญธรรมของถังหลี่อีกด้วย
นางกับถังหลี่คือศัตรูชั่วกัลป์!
เมื่อเห็นว่าถังหลี่มีชีวิตดีขึ้นเรื่อยๆ จะไม่ให้นางอิจฉาและโกรธได้อย่างไร โชคดีที่นางมีเทพเซียนคอยช่วยไว้ เทพเซียนองค์นี้เป็นความลับที่ซ่อนอยู่ในใจของนาง นางไม่กล้าบอกใคร เขาปรากฏตัวในวันที่นางถูกตัดศีรษะ เขาเปลี่ยนรูปลักษณ์ของนาง ในความฝันเขาบอกว่าตอนนี้คือภาพลวงตาจะไม่มีใครจำใบหน้าเดิมของนางได้
เทพเซียนที่ว่านี้ได้เปลี่ยนใบหน้าของนางกับธิดาขององค์หญิงใหญ่ จากนั้นจึงได้เปลี่ยนให้คนมีใบหน้าของนางไปตายแทน เพื่อให้นางได้หนีไป นางรู้ว่าจ้าวชูจะได้เป็นฮ่องเต้ในภายหน้า เทพเซียนผู้นั้นได้บอกนางเอาไว้
ในความฝัน นางเห็นฉินจ้าวศิษย์จากเหลียงโจวจะกลายเป็นจ้วงหยวนในการสอบครั้งนี้
เว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยไม่รู้เลยว่าตนเองเป็นเพียงล่อไม่ใช่ม้า ถึงพวกเขาจะได้รับเสียงเยินยอ แต่ทั้งหมดล้วนจอมปลอม นางอยากให้ฉินจ้าวมาเป็นกำลังให้นางเพื่อที่นางจะได้ชนะถังหลี่สักครั้ง!
จินเซ่อจึงวางแผนให้ฉินจ้าวถูกคนร้ายปล้นเงินระหว่างทาง เมื่อเขามาเมืองหลวงนางจะเข้าไปช่วยเขา สานต่อความสัมพันธ์นี้
“เชิญเขาไปในห้องรับแขกให้เขารอสักครู่ อีกสักพักข้าจะตามไป” จินเซ่อกำชับสาวใช้ นางเปลี่ยนเสื้อผ้าเพื่อออกไปรับแขก ฉินจ้าวนั่งอยู่ที่นั่นเมื่อเขาเห็นจินเซ่อ เขารีบโค้งคำนับนางทันที
“ถวายบังคมพะย่ะค่ะพระชายา”
จินเซ่อแสร้งยิ้มอ่อนโยน
“ได้โปรดลุกขึ้นเถอะ ไม่ต้องสุภาพถึงเพียงนั้น” จินเซ่อพูด
“นั่งลงสิ”
“พระชายานี่เป็นของที่ข้าขอถวายให้ท่านพะย่ะค่ะ” ฉินจ้าวยื่นม้วนกระดาษให้กับจินเซ่อ
“ขอบพระทัยที่พระชายาช่วยชีวิตกระหม่อมไว้ ขอบพระทัยพะย่ะค่ะ”
“นี่คือ?” จินเซ่อหยิบม้วนกระดาษขึ้นมาด้วยความสงสัย
นางเปิดออกดูเห็นว่าภาพเขียน นางคิดว่าเป็นภาพวาดที่มีชื่อเพียงแต่นามที่ลงไว้นั้นไม่คุ้นเคย
“กระหม่อมวาดเองพะย่ะค่ะ”
จินเซ่อมองภาพวาดด้วยสายตาที่พึงพอใจ
“คุณชายฉินมีฝีมือยากหาใครเทียบได้”
ฉินจ้าวพอใจกับท่าทีของจินเซ่อ ตั้งแต่ยังเล็กเขาเป็นบุตรที่สวรรค์โปรดปราน ทุกคนตามหาเขาและเชื่อทุกอย่างที่เขาพูดโดยไม่มีข้อสงสัย เขาเป็นคนมีความมั่นใจในตัวเองสูง มีบุคลิกที่หยิ่งยโส เขาไม่ได้สนใจอำนาจ แต่หากเขาเป็นไปได้ เขาอยากจะเป็นเสนาบดี เพื่อเป็นมือไม้ช่วยเหลือฮ่องเต้
“พระชายาพูดถูก หากข้าสามารถสอบได้เป็นจ้วงหยวน ภาพวาดพวกนี้จะกลายเป็นของล้ำค่าจริงๆ” ฉินจ้าวพูดขึ้น จินเซ่อหัวเราะออกมาเช่นกัน
“ขอให้ท่านสมหวังดั่งตั้งใจ คุณชายฉิน!”
จินเซ่อเก็บภาพวาดอย่างระมัดระวัง นางส่งให้สาวใช้นำไปเก็บรักษา
“ครั้งนี้คุณชายฉินมั่นใจในการสอบชุนเหวยหรือไม่”
ฉินจ้าวหัวเราะเบาๆ ท่าทางเย่อหยิ่ง
“มั่นใจหรือไม่… กระหม่อมขังตัวเองอยู่ในบ้านมาเป็นเวลาสามปีแล้ว ไม่ได้ออกไปเที่ยวเตร่หรือแม้แต่พูดคุยกับผู้คนที่ไหนเลย” หลังจากที่ได้อ่านตำรามามากกว่าพันเล่ม เนื้อหาทั้งหมดในตำราได้สลักลงในใจของเขาทั้งหมดแล้ว
ครั้งหนึ่งเขาได้เคยโต้เถียงกับศิษย์จากเหลียงโจวหลายร้อยคน ทำให้คนเหล่านั้นถึงกับจนปัญญาไม่อาจโต้เถียงกับเขาได้
ตอนที่เขาอายุได้สิบสามปี เขาเขียนบทความวิจารณ์ ‘ช่างหลิน’ และเมื่ออายุสิบแปดเขาได้เขียนบทความเกี่ยวกับ ‘ภูมิศาสตร์ของแคว้น’ บทความทั้งหมดนั่นถูกส่งต่อมาในเมืองหลวง ตอนนี้เขามาถึงที่นี่แล้วเขาจะต้องคว้าตำแหน่งจ้วงหยวนมาให้ได้!
“ในบรรดาบัณฑิตของเมืองหลวงมีบัณฑิตที่มีชื่อเสียงอย่างเว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยอยู่ด้วย” จินเซ่อพูดขึ้น
“เว่ยจื่ออั๋ง…สวี่เจวี๋ย?” ฉินจ้าวประทับใจชื่อของคนทั้งคู่เขาจดจำได้อย่างรวดเร็ว นั่นไม่ใช่บัณฑิตที่มารอหน้าประตูห้องเขาตั้งแต่เช้าหรอกหรือ?
เมื่อฉินจ้าวเข้าสู่เมืองหลวงเขาได้ยินศิษย์หลายคนพูดถึงเด็กหนุ่มสองคนนี้ แต่เขาไม่ได้ใส่ใจ
“เด็กสองคนนี้เก่งมาก อาจารย์ของกั๋วจื่อเจี้ยนก็ชื่นชมเขา” จินเซ่อกล่าว
“ในหอฉิงเฟิง จะมีกระดานแต้มของการโต้วาทีอยู่ สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งจะอยู่ในอันดับต้นๆ เสมอ”
รายชื่อในหอฉิงเฟิงเชื่อถือได้ หลายคนใช้เพื่อตัดสินความสามารถของศิษย์จากกั๋วจื่อเจี้ยน
“นั่นอาจจะเป็นเพราะการแข่งที่นั่นไม่มีข้า”
จินเซ่อถูกใจความหยิ่งยโสของเขา นางรอให้ฉินจ้าวเหยียบเว่ยจื่ออั๋งและสวี่เจวี๋ยแทบไม่ไหว
“คุณชายฉิน อยากจะเข้าพบองค์ชายสามหรือไม่?” จินเซ่อถาม
ฉินจ้าวตัดสินใจเข้าร่วมการสอบครั้งนี้เพราะเขามั่นใจว่าตนเองจะได้ตำแหน่งจ้วงหยวนมาครอบครอง จากนั้นก็เข้ารับราชการ กลายเป็นเสนาบดี ช่วยเหลือฮ่องเต้ปกครองใต้หล้า!
ฉินจ้าวรู้จักองค์ชายสามเป็นอย่างดี
ผู้มีแนวโน้มจะว่าจะได้รับการสืบทอดบัลลังก์มากที่สุดเป็นรุ่ยอ๋องผู้นี้ และองค์ชายหก
ตอนนี้รอบตัวขององค์ชายหกมีผู้มากความสามารถ นางจึงต้องย้ำถึงเรื่องนี้ องค์ชายสามสูญเสียอำนาจในมือไปชั่วคราว เหมือนมังกรติดอยู่ในเหวลึก เขาจะไม่มีวันขึ้นมามีอำนาจได้ หากปราศจากผู้ให้คำปรึกษา
เมื่อคิดเรื่องนี้ฉินจ้าวส่ายศีรษะ
“กระหม่อมไม่อาจรบกวนรุ่ยอ๋องพะย่ะค่ะ”
เขาไม่ต้องการจะเข้าพบรุ่นอ๋อง แต่เป็นรุ่ยอ๋องต่างหากที่จะต้องเข้าหาเขา
“กระหม่อมไม่รบกวนพระชายาแล้ว ขอทูลลา” ฉินจ้าวกล่าว
จินเซ่อเป็นสตรี จึงไม่สะดวกที่จะไปส่งเขาด้วยตัวเอง นางจึงให้สาวใช้ไปส่งเขาที่ประตู ฉินจ้าวพอใจกับทัศนคติของพระชายามาก เพราะนางเป็นคนที่ช่วยชีวิตเขาไว้ เขาจึงตัดสินใจได้ง่ายขึ้น
รุ่ยอ๋อง ..จ้าวชู