บทที่ 581 : ความรู้สึก (3)
ขณะนี้เตาหลอมค่อย ๆ กระจายกลิ่นหอมอ่อน ๆ ไปทั่วถ้ำ
”ยาปรับระดับ”
จู่ๆ ไป๋หยานก็ลืมตาขึ้น นางลุกขึ้นยืน จากนั้นก็ค่อย ๆ เปิดฝาเตาหลอมออกช้า ๆ
ภายในเตาหลอมปรากฏยาเม็ดสามเม็ดลักษณะเม็ดยามีสีเขียว พาดด้วยเส้นสีแดงสดใสสามเส้นผสานในเม็ดยานั้น
”ที่สุดข้าก็ปรุงยาเม็ดจิตวิญญาณระดับเทียนเจี่ยสำเร็จแล้ว เพียงกลืนยาเม็ดนี้ ข้าก็จะสามารถก้าวข้ามสู่อีกระดับได้ทันที” ไป๋หยานนำเม็ดยาออกมาจากเตาหลอม รอยยิ้มพลันปรากฏบนริมฝีปากของนาง
อย่างไรก็ตามนางยังไม่รีบร้อนที่จะก้าวข้ามอีกขั้น ก่อนอื่นนางต้องช่วยให้ไป๋เสี่ยวเฉินบรรลุขั้นที่เขาติดอยู่ก่อน
ครั้นคิดถึงเรื่องนี้นางก็รวบรวมยาเม็ดระดับเทียนเจี่ยทั้งสาม จากนั้นก็เดินไปทางปากถ้ำอย่างไม่รีบร้อน
”ราชินี”
หลังจากเห็นไป๋หยานออกมาจากถ้ำแววตาของวิหคอัคคีก็เต็มไปด้วยความสุข นางก้าวเข้าไปหาอย่างรวดเร็ว พลางกล่าวพร้อมรอยยิ้มว่า “ราชินี ทรงปรุงยาสำเร็จหรือไม่เพคะ ?”
”อืม”ไป๋หยานพยักหน้า “เฉินเอ๋อกับเสี่ยวมี่ล่ะ ?”
“โอ้…พวกเขาออกไปเล่นกันส่วนหม่อมฉันเฝ้าอยู่ที่นี่ เพื่อดูแลพระองค์”
วิหคอัคคียิ้มนางจับแขนของไป๋หยาน ชั่วขณะนั้นนางรู้สึกว่ามีดวงตาที่มืดมนคู่หนึ่งจ้องมองนางอยู่ตลอดเวลา
ดูเหมือนว่าดวงตาคู่นั้นจะไม่พอใจ
ในขณะที่วิหคอัคคีประสงค์จะกล่าวบางสิ่งกลิ่นอายมืดมนพลันลอยมาจากด้านหลัง ทำให้นางถึงกับเนื้อตัวสั่นเทา นางปล่อยแขนของไป๋หยานอย่างรวดเร็ว
ครั้นหันกลับมานางก็เห็นบุรุษที่สง่างามยืนอยู่ด้านหลัง
เพียงทว่ายามนี้ใบหน้าของชายหนุ่มดำคล้ำนัยน์ตาที่เย็นชาของเขาจับจ้องมองนางเขม็ง
”ตี้คัง…เหตุใดท่านถึงมาที่นี่ได้”ไป๋หยานไม่สนใจอารมณ์ของตี้คัง นางเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
ตี้คังเงยหน้าขึ้นมองทันทีที่เขาเห็นไป๋หยาน ใบหน้าที่แต่เดิมเย็นชา และเคร่งเครียดของเขา พลันปรากฏรอยยิ้มแปลก ๆ
รูปงามยิ่งเห็นแล้วถึงกับหายใจไม่ออกชั่วขณะ
”ข้าจะมารับเจ้ากลับบ้าน”
ไป๋หยานมองใบหน้าที่น่าสมเพชของวิหคอัคคีจากนั้นก็หันกลับมามองตี้คัง “ข้าให้สัญญากับวิหคอัคคีไว้ว่าจะอยู่ที่นี่เป็นเพื่อนนางครึ่งเดือน นอกจากนี้ข้ายังต้องหาสถานที่เงียบสงบ เพื่อก้าวผ่านระดับที่ค้างคาอยู่”
”เช่นนั้นข้าจะอยู่เป็นเพื่อนเจ้า”
ตี้คังเอ่ยพลางยกมือขึ้นดึงไป๋หยานเข้าสู่อ้อมแขนนิ้วเรียวของเขาลูบไล้เรือนผมดำขลับของนาง รอยยิ้มปรากฏในแววตาของเขา
”หยานเอ๋อเพื่อเจ้าแล้ว เผ่าอสรพิษก็ถูกกวาดล้างจนสิ้นเผ่าพันธุ์ หากมีผู้ใดกล้าล่วงเกินเจ้าโดยไม่ดูตาม้าตาเรืออีก เจ้าก็บอกข้าได้เลย ข้าจะคิดบัญชีพวกมันทุกคนแทนเจ้า”
ไป๋หยานหน้าง้ำนี่เห็นนางเป็นคนขี้ฟ้องงั้นหรือ ?
”สมควรแล้วที่เผ่าอสรพิษต้องตายยกเผ่า !” วิหคอัคคีเบ้ปากพลางกล่าวด้วยความโกรธ “เป็นแค่เผ่าทาสที่ต่ำต้อย กล้าดียังไงถึงได้แสดงอำนาจเหนือราชินี ข้าคิดว่าพระองค์ลงมือช้าไปด้วยซ้ำ”
สายตาประดุจคมดาบอันเย็นยะเยือกตวัดมามองทำให้วิหคอัคคีหุบปากอย่างรวดเร็ว
”เจ้าพูดมากไปแล้วนะ”
คิ้วของตี้คังย่นเข้าหากันน้ำเสียงของเขาพลันเย็นชา
หลังจากกล่าวจบชายหนุ่มก็หันหน้ากลับมาอย่างช้า ๆ นัยน์ตาเรียวคมจ้องมองสตรีงดงามผู้ซึ่งอยู่ในอ้อมแขน รอยยิ้มบนริมฝีปากของเขายิ่งเปี่ยมเสน่ห์มากขึ้นเรื่อย ๆ
”หยานเอ๋อข้าจะพาเจ้าไปยังสถานที่แห่งหนึ่ง”
ไป๋หยานตะลึง
ขณะที่นางกำลังงุนงงอยู่นั้นมือของชายหนุ่มก็โอบรอบเอวของนาง นางซบลงสู่อ้อมกอดอันอบอุ่น และนิ่งงันอย่างงวยงง
”ท่านจะพาข้าไปที่ใด?” ไป๋หยานขมวดคิ้วพลางเอ่ยถาม
”แล้วเจ้าก็จะรู้เอง… ”
นิ้วของชายหนุ่มปัดเรือนผมดำขลับของนางริมฝีปากแดงเอ่ยเบา ๆ ด้วยเสียงที่ค่อนข้างแหบห้าว
ไป๋หยานไม่ได้เอ่ยถามอะไรอีกนางปล่อยให้ตี้คังโอบกอดนาง และพานางไปยังสถานที่อันห่างไกลอย่างรวดเร็ว
*****
ท้องนภาย้อมสีแดงดั่งเลือด
***จบบทความรู้สึก (3)***
บทที่ 582 : ความรู้สึก (4)
ทั่วทั้งภูเขารวมถึงทุ่งนาต่างก็ถูกย้อมด้วยสีแดงดั่งเลือด
ชายหนุ่มกอดไป๋หยานร่อนลงจากอากาศมายืนอยู่ท่ามกลางมวลหมู่บุปผาสีแดง
”ตี้คังเหตุใดท่านจึงพาข้ามาที่นี่ ?”
มือของไป๋หยานจับฝ่ามือของตี้คังแน่นความอบอุ่นร้อยรัดรอบร่างของนาง ราวกับน้ำพุร้อนไหลชะโลมโอบล้อมนาง
”หยานเอ๋อ!” ตี้คังเชิดคางขึ้นเล็กน้อย แววตาของเขายังทรงอำนาจ ทั้งยังมั่นคง “เฉินเอ๋อ บอกข้าว่า”
”ว่ากระไร?”
ไป๋หยานมองใบหน้าที่เป็นเอกลักษณ์ของเขา
แม้แต่บุปผาที่เบ่งบานรอบด้านก็ยังไม่อาจงดงามเทียบชายผู้นี้ได้เลย
บุรุษผู้สง่างามเช่นนี้นับเป็นความอัปยศสำหรับสตรีทั่วโลก
”เรื่องที่เจ้าเล่าให้เฉินเอ๋อฟังเฉินเอ๋อได้บอกข้าหมดแล้ว”
”ลูกทรยศนี่!”
ไป๋หยานกัดฟันอย่างแรงนางไม่เคยคิดว่าบุตรชายของนางจะทรยศนาง ก็เขาเป็นบุตรชายของนางแท้ ๆ !
”ข้ายอมรับว่าเดิมทีที่ข้าเข้าหาเจ้า ก็เพื่อประสงค์บางสิ่ง ทว่าต่อมา… ” ชายหนุ่มยกยิ้มพลางกล่าว “ข้าก็พบว่า เจ้าได้ครอบครองหัวใจของข้าแล้ว !”
ในอดีตชายผู้นี้เอาแต่ตามตื๊อรังแกนาง นี่เป็นครั้งแรกที่เขาสารภาพรักกับนาง !
ไป๋หยานจ้องมองนัยน์ตาที่ทรงอำนาจของเขาพลันหัวใจของนางก็เต้นระรัว นางรู้สึกว่าหัวใจของนางเต้นตูมตาม นางพยายามกำหมัดให้แน่นขึ้น เพื่อปรามหัวใจที่กำลังตื่นตระหนก
”ท่านจะทำอะไร?”
”ทำให้เจ้ามั่นใจไง”
เขารู้และรู้อยู่เสมอว่าไป๋หยานไม่เคยยอมรับเขาเพราะนางยังไม่มั่นใจ
นางกลัวกลัวจะเหมือนเด็กสาวในเรื่องเล่านั้น ที่ต้องสัมผัสกับความเจ็บปวดจากการถูกทอดทิ้ง !
”ตี้คัง…”ไป๋หยานหรี่ตาลง “ท่านรู้หรือไม่ว่า ท่านกำลังพูดอะไรอยู่ ?”
สร้างความมั่นใจงั้นรึ? กล้าพูดแล้วกล้าทำด้วยหรือไม่ ?
ว่ากันตามจริงเป็นเรื่องยากมากเลยนะ
ตี้คังราวกับจะมองทะลุความคิดภายในใจของไป๋หยานเขายิ้มราวกับไม่ยอมรับในสิ่งที่นางพูด “เจ้าคิดว่า จะเป็นเช่นไร…หากวันหนึ่งข้าต้องเลือกระหว่างแดนอสูรกับเจ้า เช่นนั้น ข้าขอมอบแดนอสูรนี้ให้กับเจ้าเลยก็แล้วกัน !”
มีเพียงวิธีนี้สิ่งที่นางเป็นกังวลจะไม่มีวันเกิดขึ้น
”ตี้คัง!”
ไป๋หยานตะลึงงันพลางกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น และเย็นชา “ที่ท่านกล่าวมาเป็นความจริงกระนั้นหรือ ?”
”ข้าจริงจังกับเจ้าเสมอ!”
ข้าจริงจังกับเจ้าเสมอ
ถ้อยคำของชายหนุ่มดังก้องอยู่ในหูของไป๋หยานนางกำหมัด พลางสูดลมหายใจเข้าลึก เพื่อประคองหัวใจให้มั่นคงที่สุด
”ทว่าข้าไม่รับ”
นางหันหลังพยายามจะเดินจากไป
อย่างไรก็ตามทันทีที่ไป๋หยานก้าวออกไปได้เพียงสองก้าว มือข้างหนึ่งก็ยื่นออกมาจากด้านหลัง กระชากนางเข้าสู่อ้อมแขนอีกครั้ง
”ตี้คังท่าน อ๊ะ !”
แววตาของไป๋หยานเปลี่ยนเป็นโกรธเกรี้ยวนางอ้าปากจะตำหนิ ทว่าริมฝีปากของชายหนุ่ม พลันประทับลงมาเพื่อหยุดยั้งถ้อยคำทั้งหมดของนาง
จูบของเขาราวกับพยายามข่มเหงนางริมฝีปากของนางบดกับฟัน ทำให้นางรู้สึกเจ็บ ไป๋หยานยกมือขึ้นผลักอกเขา
”พอได้แล้ว!”
นางผลักชายหนุ่มออกอย่างแรงพลางกล่าวอย่างเย้ยหยันว่า “ท่านรู้จักวิธีที่จะทำให้ข้ารู้สึกสบายใจบ้างหรือไม่ ? ข้าจะไม่ยอมอยู่ภายใต้อิทธิพลไม่ว่าผู้ใด สิ่งเดียวที่จะทำให้ข้ารู้สึกปลอดภัยก็คือความแข็งแกร่งของตนเอง ตี้คัง…ท่าน ไม่เคยรู้เลยว่าข้าปรารถนาสิ่งใด ! ”
คิ้วของตี้คังย่นเข้าหากันเล็กน้อยเขาไม่เข้าใจเลยจริงๆ ทว่าเขาก็พยายามทำดีที่สุด เพื่อมอบความปลอดภัยในชีวิตให้แก่นาง
”ข้าไม่เข้าใจเจ้าเลยหากแต่เพื่อเจ้าแล้ว ข้าจะพยายามใช้เวลาทำความเข้าใจเจ้าให้มากขึ้น !”
หัวใจของไป๋หยานสั่นไหวมากยิ่งขึ้นนางหลับตาลงเล็กน้อย
ชั่วขณะนี้นางยอมรับแล้วว่า บุรุษผู้นี้ทำให้หัวใจของนางหวั่นไหว
***จบบทความรู้สึก (4)***
บทที่ 583 : เด็กน้อยในครรภ์ (1)
”ตี้คังท่านแน่ใจหรือว่า ท่านจะให้ในสิ่งที่ข้าต้องการ”
นัยน์ตาดำขลับของไป๋หยานจ้องมองชายหนุ่มพลางเอ่ยถามอย่างจริงจัง
”ชีวิตของข้าเป็นของเจ้า”ตี้คังกล่าว พร้อมกับกุมมือของไป๋หยานแน่น เขากดมือของนางแนบลงบนอก “หากไม่มีเจ้า โลกทั้งใบก็ไม่มีความหมายสำหรับข้าอีกต่อไป”
บูม!
ทันทีที่ได้ยินประโยคนี้ศีรษะของไป๋หยานพลันว่างเปล่า
ประโยคดังกล่าวราวกับเคยปรากฏในห้วงทรงจำของนางดูเหมือนว่ามีใครบางคนเคยพูดกับนางเช่นนี้
หากไม่มีเจ้าโลกทั้งใบก็ไม่มีความหมายสำหรับข้าอีกต่อไป ?
ไป๋หยานหลับตาลงช้าๆ ขนตายาวราวกับแผงใบปาล์มของนางสั่นไหว ภายใต้ท้องฟ้าสีเลือดยามราตรี
ใบหน้าของนางซีดเผือดมือของนางกุมหน้าอกตัวเองแน่น หน้าอกของนางเจ็บปวด ทั้งยังอึดอัดไปหมด กระทั่งแม้จะหายใจยังลำบาก
”หยานเอ๋อ!” ครั้นตี้คังเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างฉับพลันของไป๋หยาน เขาก็รู้สึกใจสั่น เขารีบยกหลังมือขึ้นมาอังหน้าผากของนาง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ ว่า “เจ้าไม่สบายหรือไร ?”
ไป๋หยานลืมตาขึ้นอย่างช้าๆ ใบหน้าของนางปรากฏรอยยิ้มที่งดงาม และสวยสง่ายิ่งกว่ารอยยิ้มใดในโลก
”ตี้คังข้าปรารถนาที่จะเป็นราชินีแห่งแดนอสูร”
ครั้งนี้นางยินดีที่จะวางกำแพงในใจของตนเองลง ยินดียอมรับเขาจากหัวใจ
ฝ่ามือของตี้คังสั่นไหวการเคลื่อนไหวของเขาพลันแข็งทื่อ เขาหัวเราะเบา ๆ “หยานเอ๋อ เจ้ากำลังล้อข้าเล่นใช่หรือไม่ หรือ เจ้า … ”
คนบ้า!
ไป๋หยานโกรธนางเขย่งปลายเท้าขึ้น มอบจุมพิตให้ชายหนุ่มอย่างดุเดือด ต่อมานางก็พยายามอย่างหนัก เพื่อผลักเขาลงกับพื้นจากนั้นก็ขึ้นคร่อมท่ามกลางดงบุปผชาติสีแดง
อาภรณ์สีแดงพลิ้วสะบัดในสายลมนัยน์ตาของนางหรี่ลงเล็กน้อย นางค่อย ๆ หยอกเย้าริมฝีปากของชายหนุ่มพลางยิ้มอย่างอ่อนหวาน
”ตี้คังหากท่านไม่เชื่อ ข้าจะถอนคำพูด จูบนี้ถือเป็นประกันหนี้ของท่านกับข้า … ”
ไป๋หยานหัวเราะนางขยับกายคิดที่จะลุกขึ้น
ทว่าก่อนที่นางจะทันได้ลุกขึ้นยืนชายหนุ่มกลับดึงนางอย่างแรง กระทั่งนางเสียจังหวะล้มลงกระแทกแผงอกเขาอีกครั้ง
ครานี้ชายหนุ่มเป็นฝ่ายพลิกกายกลับเขากดร่างแบบบางของไป๋หยานไว้เบื้องล่าง น้ำเสียงของเขาแหบห้าวเต็มไปด้วยความปรารถนาอย่างแรงกล้า ยามนี้ภายในหัวใจของเขาเอ่อล้นไปด้วยความหวัง
”หยานเอ๋อข้าจะปล่อยเจ้าไปง่าย ๆ ได้อย่างไร ในเมื่อเจ้าเสนอถึงเพียงนี้ ?” ตี้คังไล้ริมฝีปากของตน พลันมือของเขาก็เคลื่อนไหวอย่างว่องไว เขาเปลื้องอาภรณ์ทั้งหมดออกจากเรือนร่างของนาง “ไม่ต้องกังวล ข้าได้ส่งเสียงทักทายไปทั่วบริเวณแล้ว ไม่มีผู้ใดกล้าบุกรุกเข้ามาแน่ … ”
ไป๋หยานหรี่ตามองบุรุษที่อยู่เบื้องหน้านางพลางยิ้ม”ทว่าข้าชอบเป็นคนเริ่มมากกว่าถูกรังแก”
ตี้คังหัวเราะเบาๆ “เช่นนั้นก็ได้ ข้าก็ชอบให้เจ้าเป็นฝ่ายเริ่มก่อนเช่นกัน”
หกปีที่แล้วเป็นสตรีผู้นี้ที่ฉีกทึ้งเสื้อผ้าของเขาและเป็นฝ่ายเปิดฉากสานสัมพันธ์กับเขาอย่างแข็งขัน
ทว่า…
ครั้นหวนคิดถึงเรื่องเมื่อหกปีก่อนตี้คังกลับไม่รู้สึกรังเกียจนางเหมือนครานั้นอีกแล้ว
ไป๋หยานยกมือขึ้นคล้องคอเขาพลางยื่นริมฝีปากสีแดงมาจ่อต่อหน้าเขา
ชายหนุ่มจูบปากนางพลางหลับตาพริ้มอย่างไม่ลังเลราวกับว่าเขากำลังลิ้มรสสิ่งที่เลิศรสที่สุดในโลก
รสชาติของนางยังคงหวานฉ่ำจนลืมไม่ลง
ไป๋หยานค่อยๆ พริ้มตาลง พลางจูบเขา ยามนี้หัวใจของนางเต้นแรงอย่างไม่สามารถควบคุมได้แล้ว
ครั้งแรกนางถูกวางยาเช่นนั้นแม้ว่าจะมีสัมพันธ์กระทั่งตั้งครรภ์ และให้กำเนิดเฉินเอ๋อ ทว่านางก็ไม่ได้รู้สึกอะไรมากมายนัก
***จบบทเด็กน้อยในครรภ์ (1)***
บทที่ 584 : เด็กน้อยในครรภ์ (2)
หากแต่ครานี้นางมีสติรู้สึกตัวโดยตลอดร่างกายของนางตื่นตัว
ทันทีที่ชายหนุ่มถอดเสื้อผ้าจนเปลือยเปล่าเขาก็กอดนางแนบแน่น เขาเบียดร่างเข้าหานาง ราวปรารถนาจะหลอมละลายให้เป็นเลือดเนื้อเดียวกัน
”หยานเอ๋อเจ้าไม่เปลี่ยนใจแน่นะ ?” ชายหนุ่มกำลังจะก้าวเข้าสู่ขั้นตอนต่อไป เขาชะงักครู่หนึ่ง น้ำเสียงของเขาแหบแห้ง
ไป๋หยานอดไม่ได้ที่จะจูบปากของเขานางตอบคำถามของเขาด้วยการกระทำของนาง
ในเมื่อตอนนี้เฉินเอ๋อก็โตพอที่จะยอมรับเขาแล้วเหตุใดนางยังต้องปฏิเสธอีกเล่า ?
บูม!
ในขณะที่ไป๋หยานไม่อาจควบคุมอารมณ์ได้นั้นจู่ ๆ สมองของนางพลันรวดร้าวอย่างหนัก ราวกับมีพลังบางอย่างพวยพุ่งออกมา
นางเจ็บมาก!
ไป๋หยานจับศีรษะของตนเองแน่นทันทีที่นางลืมตาขึ้น นางก็พบว่า ตนเองกำลังยืนอยู่ในสนามรบอีกครั้ง
ท่ามกลางความสิ้นหวังซากศพถูกทิ้งร้างกระจัดกระจายไปทั่ว ละอองเลือดสาดทั่วท้องฟ้าสีคราม งดงามยิ่งกว่าช่วงเวลาที่พระอาทิตย์อัสดง
”นี่มันอะไรกัน?”
เหตุใดนางถึงได้เห็นฉากนี้ซ้ำแล้วซ้ำเล่า!
หากการทำพันธะสัญญากับเสี่ยวมี่เป็นเพียงภาพฝันเช่นนั้นอีกสองครั้งที่เหลือนั่นคืออะไร ? เหตุใดนางต้องตื่นลืมตาขึ้นมาเห็นภาพสนามรบนี้ทุกครั้งไป
แววตาของไป๋หยานแลดูว้าวุ่นเล็กน้อยนางรู้สึกว้าวุ่นใจ เมื่อพบร่างที่คุ้นเคยในสนามรบ
ครั้งแรกนางเข้าสู่สนามรบนี้เพราะตี้คังเช่นนั้นผู้ที่นางพบก็ต้องเกี่ยวข้องกับตี้คังด้วยเช่นกัน
ครั้งที่สองนางทำสัญญากับเสี่ยวมี่จึงได้เห็นพยัคฆ์ขาว
และในครั้งนี้จะเป็นตี้คังหรือไม่ ?
ทันใดนั้นเองฝีเท้าของนางก็หยุดลง แววตาของนางแลดูหวาดกลัว ยามนี้หัวใจของนางแทบหยุดเต้น
ภายใต้ท้องฟ้าสีแดงเลือดใบหน้าที่หล่อเหลาของชายหนุ่มชุ่มโชกไปด้วยโลหิต เขาค่อย ๆ หยัดกายยืนขึ้นจากพื้นอย่างช้า ๆ ในอ้อมกอดของเขามีร่างของสตรีที่หาชีวิตไม่นอนอยู่อย่างสงบ
เรือนผมดำขลับของนางพลิ้วไหวไปในสายลมใบหน้าของนางซีดเผือดไร้สีเลือด
”องค์ราชาราชินีสิ้นพระชนม์แล้ว โปรดระงับความโศกเศร้าด้วยเถิดพ่ะย่ะค่ะ”
ทุกคนที่อยู่โดยรอบต่างคุกเข่าลงกับพื้นความเศร้าสลดแผ่กระจายทั่วทั้งสนามรบ
”ไปให้พ้น!”
นัยน์ตาของชายหนุ่มยามนี้ไม่ต่างจากสัตว์กระหายเลือด เขากำลังบ้าคลั่ง ขณะกวาดตามองผู้คนที่คุกเข่าอยู่โดยรอบ “นางยังไม่ตาย ! อย่าได้กล่าวคำเช่นนั้นอีก ข้าไม่อยากได้ยิน !”
”องค์ราชาราชินีสิ้นพระชนม์แล้วจริง ๆ หากพระองค์ทำเช่นนี้ แดนอสูรของเราจะเป็นเช่นไร ?”
ชายชราเงยหน้าขึ้นร่างของเขาสั่นสะท้านขณะมองใบหน้าไร้อารมณ์ของชายหนุ่ม เขายังพยายามเรียกความกล้าหาญให้เค้นถ้อยคำเหล่านั้นออกมาจนได้
ปัง!
ชั่วขณะนั้นเอง…ชายหนุ่มก็ยกฝ่ามือขึ้นเขาอัดพลังกระแทกเข้าที่หน้าอกของชายชราอย่างแรง การแสดงออกที่เฉยเมยของเขาไม่ต่างจากคนวิกลจริต แววตาอำมหิตของเขาจ้องชายชราที่กล้าเอ่ยถ้อยคำดังกล่าวอย่างเย็นยะเยือก
“หุบปาก! ข้าบอกแล้วไงว่า นางยังไม่ตาย นางก็ต้องไม่ตาย หากเจ้ากล้ากล่าวเรื่องเหลวไหลเช่นนั้นอีก ข้าจะสับเจ้าให้เป็นชิ้น ๆ!”
พวกเขากลัวกระทั่งไม่กล้ากล่าวคำใดอีกยามนี้ต่างก็ทำได้เพียงก้มหัวลงต่ำจนแทบจะซุกลงไปบนดิน
ครานี้ใบหน้าของคนทั้งสองไม่ได้ถูกหมอกขาวปกคลุม เช่นนั้นไป๋หยานจึงสามารถเห็นโฉมหน้าของคนทั้งคู่ได้อย่างชัดเจน
ตี้คัง! ชายผู้นี้เป็นตี้คังจริง ๆ !
และหญิงผู้นั้นก็เหมือนนางราวกับแกะ!
สายตาของชายหนุ่มเคลื่อนจากร่างของชายชรากลับมาจับจ้องใบหน้าซีดขาวของสตรีผู้อยู่ในอ้อมแขน
แววตาของเขาไม่ได้ดุดันและกระหายเลือดอีกต่อไป ตรงกันข้ามแววตาคู่นั้นกลับเต็มไปด้วยความรักเสน่หา
”เจ้าเคยให้สัญญากับข้าแล้วไงว่าเจ้าจะติดตามข้าชั่วชีวิต ทั้งจะมีจิ้งจอกน้อยหนึ่งร้อยตัวให้ข้า เช่นนั้นเจ้าย่อมไม่มีวันทิ้งข้าไปเป็นแน่”
มือของเขาประคองใบหน้าหญิงสาวขณะเดียวกันมุมปากของเขาก็ยกยิ้มอบอุ่น
***จบบทเด็กน้อยในครรภ์ (2)***
บทที่ 585 : เด็กน้อยในครรภ์ (3)
”เจ้าจำการพบกันครั้งแรกของเราได้หรือไม่? ข้าไม่เคยคิดเลยว่า ข้าจะตกหลุมรักเจ้านับแต่แรกเห็น ข้าตั้งใจแล้วว่าชั่วชีวิตของข้าจะต้องมีเจ้าเป็นภรรยา”
”หากแต่ข้าดูเหมือนจะช้าเกินไปเจ้าเป็นที่สนใจของบุรุษทุกคนที่อยู่ใกล้ เพื่อให้เจ้าจดจำข้าได้ ข้ามักจะแกล้งให้เจ้าขายหน้า ทว่าที่แย่ก็คือเจ้ากลับยิ่งต่อต้านข้า”
”อย่างไรก็ตามที่สุดข้าก็ได้ครอบครองหัวใจของเจ้า เหตุใดเจ้าจึงจะทิ้งข้าไปอีกเล่า ? เจ้าโหดร้ายเช่นนี้ได้เยี่ยงไร ?
ก้าวย่างของชายหนุ่มโซเซเล็กน้อยเขาประคองกอดสตรีผู้เป็นที่รักไว้ในอ้อมแขนแน่น ดูเหมือนมีแต่วิธีนี้เท่านั้นที่เขาจะรับรู้ได้ถึงการมีอยู่ของนาง
”องค์ราชา!”
ครั้นเห็นชายหนุ่มอุ้มหญิงสาวกำลังจะจากไปกลุ่มผู้อาวุโสที่อยู่ด้านหลังต่างก็ร้อนรน พวกเขารีบลุกขึ้นยืนด้วยทีท่าเป็นกังวล
ชายหนุ่มยังคงก้าวต่อไปเรื่อยๆ มุมปากเขายกยิ้มเยาะ รอยยิ้มนั้นเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร แผ่รังสีเย็นยะเยือกน่ากลัวเสียเหลือเกิน
”ข้าไม่อยากพูดอะไรอีกแล้วออกไปจากที่นี่ให้หมด !”
ผู้อาวุโสพยายามเค้นคำ”ราชา…หากพระองค์เสด็จจากไป แดนอสูรของเราจะทำอย่างไร ?”
”แดนอสูรงั้นหรือ?” ชายหนุ่มหัวเราะ เขาหัวเราะอย่างดุเดือดก้องดังในสนามรบอันเงียบสงบ กระทั่งสะท้อนไปทั่วท้องฟ้า “หากมิใช่เพราะแดนอสูร หากมิใช่เพราะพวกเจ้า ! ราชินีของข้าคงจะไม่จากข้าไป ! เพราะพวกเจ้า พวกเจ้าทุกคน ทั้งหมดล้วนเป็นเพราะพวกเจ้า !
”ทว่าข้าเห็นแก่ความพยายามอย่างหนักของนางในการที่จะช่วยชีวิตพวกเจ้า เช่นนั้นข้าก็จะละเว้นชีวิตพวกเจ้า เพียงแต่ชีวิตนับแต่นี้ไป ข้าไม่ต้องการเห็นคนของแดนอสูรอีกแล้ว”
ตี้คังเดินโซเซไปยังดินแดนรกร้างที่ไร้ขอบเขตร่องรอยโลหิตไหลออกจากปากของเขาเป็นทาง
ท้ายที่สุดโลหิตก็ไหลรินหนักขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งเขาไม่อาจฝืนทรงกายอยู่ได้ เขาล้มลงกับพื้นอย่างแรง
บนท้องฟ้าเริ่มมีสายฝนหลั่งรินเพียงไม่นานสายฝนก็เทกระหน่ำราวกับฟ้ารั่ว ทั้งเลือดทั้งฝนผสมปนเป ทำให้วิสัยทัศน์ของทุกคนพร่าเลือน
”ตี้คัง!”
หัวใจของไป๋หยานเต้นแรงขึ้นเรื่อยๆ กระทั่งแทบจะโลดออกนอกอก นางรีบยื่นมือไปคว้าแขนของชายที่อยู่เบื้องหน้า
ทว่ามือของนางกลับทะลุผ่านแขนของเขาไปสัมผัสได้เพียงเม็ดฝนที่เย็นจัด
อีกแล้ว!
ไม่ต่างกับตอนที่นางยื่นมือสัมผัสตัวพยัคฆ์ขาวนางไม่สามารถแตะต้องสิ่งใดในมิตินั้นได้
นางทำได้เพียงเฝ้าดูเท่านั้นดูสิ่งที่เกิดขึ้นที่นั่นอย่างเงียบ ๆ ทั้งไม่สามารถเปลี่ยนแปลงสิ่งใดได้
“เจ้าพยายามทิ้งข้าหลายต่อหลายครั้งแต่ไม่ว่าเจ้าจะไปที่ใด ข้าก็จะตามเจ้าจนพบ ทว่าครานี้ดูเหมือนข้าจะไม่อาจหาเจ้าพบแล้ว”
รอยยิ้มที่แสนเศร้าปรากฏบนใบหน้าของชายหนุ่มเขาวางหญิงสาวในอ้อมแขนลงนอนราบกับพื้น ริมฝีปากเย็น ๆ ของเขาประทับลงบนใบหน้าของนาง พรมจูบไปทั่วราวกับจะจำรสชาติของนางให้ขึ้นใจ
”แต่ไม่ต้องเป็นกังวลข้าจะทำทุกอย่าง ! จะพยายามอย่างไม่ย่อท้อ เพื่อให้เจ้าได้มีโอกาสกลับมาเกิดใหม่ !”
มือของเขาค่อยๆ วางทาบลงบนหน้าท้องของหญิงสาว ที่ยามนี้เห็นได้ชัดเจนว่าภายในมีชีวิต น้อย ๆ ที่ยังไม่ถือกำเนิด
ก่อนที่เด็กน้อยจะได้ลืมตาดูโลกเด็กน้อยในครรภ์ก็ต้องจบชีวิตพร้อมกับมารดาตนเองแล้ว
”ข้าจำได้ว่าในวันนั้นเจ้าเคยตั้งชื่อให้จิ้งจอกน้อย เจ้าเห็นเขาเป็นเหมือนแสงสว่างในยามรุ่งอรุณ เช่นนั้นจึงเรียกเขาว่า เฉินเอ๋อ วันนี้ โชคดีที่เจ้ากำลังตั้งครรภ์ ทำให้ข้ามีโอกาสเปลี่ยนสภาพวิญญาณของเจ้า …”
”ต่อให้ต้องชดเชยด้วยชีวิตของข้าข้าก็จะต้องทำให้เจ้ากลับมามีชีวิตอีกครั้ง !”
ถ้อยคำนับจากนี้ไปไป๋หยานไม่ได้ยินอีกแล้ว นางลืมตาขึ้นทันที ร่างกายสั่นสะท้านอย่างรุนแรง
เฉินเอ๋อ…
เด็กน้อยในครรภ์เขาเรียกว่า…เฉินเอ๋อ ?
ไป๋หยานกัดริมฝีปากตนเองแน่นน้ำตาไหลพรากอย่างไม่อาจควบคุมได้ ใบหน้าของนางเต็มไปด้วยความเจ็บปวด ภายใต้สายฝนที่เทกระหน่ำ ร่างที่สั่นเทาของนางไม่ต่างจากเรือที่มุ่งฝ่าพายุในยามราตรี
***จบบทเด็กน้อยในครรภ์ (3)***