เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 527 เริ่มต้นสอบชุนเหวย

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 527 เริ่มต้นสอบชุนเหวย

เว่ยฉิงปลอบถังหลี่และบอกให้นางพักผ่อน เมื่อเห็นว่าหญิงสาวหลับแล้วเขาจึงออกจากห้องไปยังห้องนอนของเด็กทั้งสอง

พวกเขาอาศัยอยู่ในเรือนแยกหลังเดียวกันมีห้องนอนติดกันสองห้อง เว่ยฉิงเห็นว่าภายในห้องดับไฟลงไปแล้ว เขาฟังการเคลื่อนไหวที่ประตูอยู่ครู่หนึ่ง หลังจากคิดว่าบุตรชายคงหลับไปแล้วจึงหันหลังเดินจากไป

….

วันถัดมา

วันนี้เป็นวันประชุมสภาขุนนาง เว่ยฉิงจึงตื่นแต่เช้าเพื่อไปประชุม

ไม่นานนักหลังจากที่สามีออกไป ถังหลี่จึงตื่นขึ้น นางยังคงกังวลและวางแผนที่จะไปส่งบุตรชายทั้งสองที่ห้องสอบ เมื่อสวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งเดินมาถึงประตูก็ต้องชะงัก

“ท่านแม่” เว่ยจื่ออั๋งเรียก

“เตรียมทุกอย่างพร้อมดีหรือยัง?” ถังหลี่ถาม

“พร้อมแล้วขอรับ ข้าและจื่ออั๋งตรวจสอบแล้วถึงสองครั้ง” สวี่เจวี๋ยกล่าว ถังหลี่ค่อยสบายใจขึ้น เด็กสองคนนี้มีความรับผิดชอบดี

“ไปเถอะ แม่จะไปส่ง”

“ขอรับ” พวกเขายิ้มแย้มอย่างน่ารัก แม่และลูกชายทั้งสองเข้าไปในรถม้า

เมื่อใกล้ถึงห้องสอบ ถังหลี่จึงเปิดม่านหน้าต่างรถมองออกไปข้างนอก นางเห็นบัณฑิตมากมายที่กำลังเดินเข้าห้องสอบ ทุกคนมีสีหน้าคล้ายกัน นั่นคือความตึงเครียดผสมผสานกับความคาดหวัง

การอดทนร่ำเรียนมาอย่างหนักก็เพื่อหวังที่จะเปลี่ยนโชคชะตาของพวกเขาในวันข้างหน้านั่นเอง

เมื่อรถม้าหยุด สวี่เจวี๋ยยื่นมือไปหาถังหลี่โดยมีเว่ยจื่ออั๋งระวังที่ด้านหลัง

“ท่านแม่ได้โปรดระวังด้วย”

ถังหลี่จับมือที่แข็งแรงของเด็กหนุ่มที่ช่วยลงจากรถม้า ที่จริงแล้วถังหลี่ไม่ได้บอบบางถึงเพียงนั้น นางมีพลังปีศาจและมีร่างกายที่แข็งแรงกว่าคนทั่วไปมากอยู่แล้ว ยกเว้นบางครั้งที่นางรู้สึกไม่อยากอาหารและคลื่นไส้เท่านั้น นางไม่มีการเปลี่ยนแปลงในด้านอื่นๆ เลย สุขภาพของถังหลี่ดีมาก แต่ด้วยความใส่ใจของบุตรชาย ทำให้นางรู้สึกปลาบปลื้มใจ

เด็กน้อยทั้งสองคนในอดีตได้เติบโตเป็นเด็กหนุ่มและปกป้องมารดาของพวกเขาได้แล้ว

หลังจากลงจากรถม้า พวกเขาสามคนจึงได้เดินเข้าไปในห้องสอบ มีคนต่อแถวยาวเหยียดเพื่อเข้าไปด้านใน

หลังจากที่เดินไปได้สองก้าวมีคนผู้หนึ่งเดินมาชนกับสวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋ง แล้วรีบเดินหนีไปอย่างรวดเร็ว

สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งมองชายคนนั้นพลางขมวดคิ้ว

“เจ้าเป็นอะไรไหม?” สวี่เจวี๋ยหันไปมองที่เว่ยจื่ออั๋งอย่างเป็นห่วง

“ไม่เป็นไร” เว่ยจื่ออั๋งตอบ

เจ็บเพียงนิดเดียวเท่านั้น แต่ทว่าชายคนที่ชนพวกเขา ไม่มีการขอโทษใดใดทั้งสิ้น เป็นการกระทำที่หยาบคายมาก เด็กหนุ่มทั้งสองคนหันหน้าไปมองเห็นถังหลี่ขมวดคิ้วมองมาที่พวกเขา

“ท่านแม่..” เว่ยจื่ออั๋งเรียก

“สวี่เจวี๋ย จื่ออั๋งมากับแม่” ถังหลี่พูด

หญิงสาวเดินนำเด็กทั้งสองคนออกจากฝูงชนเดินเข้าไปในซอยเปลี่ยว

“ท่านแม่เกิดอะไรขึ้นหรือขอรับ?” เว่ยจื่ออั๋งถามด้วยความไม่สบายใจ

ถังหลี่นึกถึงเหตุการณ์เมื่อครู่ นางเดินเข้าไปพร้อมกับเด็กทั้งสองคนเห็นว่าตอนที่ชายคนนั้นชน เขายัดของบางอย่างใส่เข้าไปในแขนเสื้อแขนเสื้อของเว่ยจื่ออั๋ง

ถ้าเป็นแค่อุบัติเหตุคงไม่เป็นไร…แต่ถ้าไม่ใช่…

“จื่ออั๋ง ดูที่ตัวของเจ้าสิว่ามีอะไรอยู่ไหม แม่เห็นเขาเอาอะไรบางอย่างยัดใส่แขนเสื้อของเจ้า” ถังหลี่พูด

เว่ยจื่ออั๋งเอื้อมมือไปแตะแขนเสื้อและตัวของเขาแต่ไม่พบอะไร

“จื่ออั๋งถอดเสื้อเจ้าออก” สวี่เจวี๋ยพูดด้วยใบหน้าจริงจัง ในช่วงการสอบชุนเหวย ทุกคนจะต้องตรวจค้นร่างหาย หากพบเห็นการทุจริต ก็จะโดนตัดสิทธิ์ในการสอบตลอดชีวิต ผลของการทุจริตนั้นร้ายแรงมาก

เว่ยจื่ออั๋งเองก็รู้เรื่องเช่นนี้ เขารีบถอดเสื้อออก ถังหลี่หันหลังกลับไปที่ด้านหน้าของตรอก ปิดกั้นไม่ให้ผู้อื่นเห็น

“นี่มัน…” สวี่เจวี๋ยพบบางอย่าง ใบหน้าของเขาเปลี่ยนไปทันที

มันคือโพยกระดาษ ในนั้นมีบทความที่ถูกคัดลอกมา หากเมื่อครู่นี้ไม่ได้มีการสังเกตเห็น แล้วถูกตรวจค้นเจอในห้องสอบล่ะก็…เป็นเรื่องแน่! เพราะไม่ใช่แค่จะถูกตัดสิทธิ์การสอบชุนเหวยเท่านั้น แต่ยังถูกยกเลิกสถานะจี่ว์เหริน[1]เดิมของตัวเองด้วย ถือว่าเป็นโทษตายของบัณฑิตอย่างแท้จริง!

สวี่เจวี๋ยและจื่ออั๋งตรวจสอบเสื้อผ้าของพวกเขาอย่างระมัดระวังจนแน่ชัดแล้วว่าไม่มีอะไร จึงใส่เสื้อผ้ากลับเข้าไปอีกครั้ง

“สวี่เจวี๋ย ดูของเจ้าด้วย” สวี่เจวี๋ยพยักหน้า เมื่อเขาถอดเสื้อออกก็พบกับกระดาษเแผ่นหนึ่งเช่นกัน

“ทำกับเราแบบนี้เขาต้องได้รับโทษ!” เว่ยจื่ออั๋งพูดด้วยความโกรธ หลังจากที่สวี่เจวี๋ยแต่งตัวแล้ว ถังหลี่ก็หันศีรษะกลับมา นางหยิบกระดาษสองใบขึ้นมาดูด้วยใบหน้าที่เย็นชา

เรื่องนี้จะต้องไม่ผ่านไปอย่างง่ายดายคนที่ไม่หวังดีกับสวี่เจวี๋ยและจื่ออั๋งต้องได้รับการลงโทษ!

“สวี่เจวี๋ย จื่ออั๋งไปทำข้อสอบก่อน” ถังหลี่กล่าว “ที่เหลือปล่อยให้แม่จัดการเองตกลงไหม?”

ท่าทีของถังหลี่อ่อนโยน ดวงตาของนางฉายแววผ่อนคลาย สิ่งที่ถังหลี่กลัวมากที่สุดคือเรื่องนี้จะส่งผลต่อการสอบของเด็กๆ

“ท่านแม่ไม่ต้องห่วง” เว่ยจื่ออั๋งพูด

“ไม่ต้องร้อนใจ ท่านรอฟังข่าวดีของพวกข้า” สวี่เจวี๋ยพูด หญิงสาวพยักหน้ารับทันที

“เข้าห้องสอบได้แล้ว ระวังตัวด้วยล่ะ” ถังหลี่ย้ำ ทั้งสองเดินไปเข้าแถว พบว่าแถวสั้นลงกว่าเดิม

สวี่เจวี๋ยและเว่ยจื่ออั๋งระวังเป็นพิเศษ พวกเขาจงใจเว้นระยะห่างจากผู้คนที่เดินมารอบๆ ตัวเขา หลังจากเข้าแถวไปประมาณหนึ่งเค่อทั้งสองก็ได้เข้าไปในห้องสอบ

หญิงสาวไม่ได้เข้าไป นางยืนอยู่ที่ด้านนอก หลังจากนั้นไม่นานนางก็ได้ยินเสียงตะโกนขึ้น

“ข้าไม่ได้โกง”

“ข้าไม่ผิด”

“ใต้เท้า ข้าไม่ได้ทำข้าไม่ได้โกงให้โอกาสข้าเถอะ!” ศิษย์คนหนึ่งในชุดเสื้อคลุมโดนเหวี่ยงออกมา

“ในกล่องพู่กันด้ามนี้มีข้อความซ่อนอยู่ มันไม่ใช่ของเจ้าหรือ?”

“พู่กันด้ามนี้เป็นของข้า มันเป็นของข้า แต่ได้โปรดเถอะเชื่อข้า…” ศิษย์คนนั้นร้องไห้อ้อนวอน น้ำหูน้ำตาไหลน้ำเสียงของเขาเศร้าโศกมาก

“มันเป็นของเจ้า เจ้าตั้งใจทุจริต เจ้าขาดคุณสมบัติของผู้เข้าสอบ เจ้าถูกตัดสิทธิ์ตลอดชีวิต!”

อย่างไรก็ตามประตูห้องสอบถูกปิดลงอย่างไร้ความปราณี ถัดมาก็มีคนอีกสองสามคนถูกโยนตัวออกมาเช่นกัน วิธีโกงของพวกเขาล้วนสรรหาอย่างแปลกประหลาด ในการสอบชุนเหวยแต่ละครั้ง กลโกงทั้งหลายจะถูกจับได้ แต่ยังมีคนเสี่ยงที่จะทำมัน

หากไม่พบกระดาษพวกนั้นล่ะก็ ทั้งสองคนก็คงจะเหมือนคนเหล่านี้…

ถังหลี่รู้สึกหวาดกลัว

ดวงตาของถังหลี่เปลี่ยนเป็นเย็นชา นางจะไม่มีวันรามือจากคนร้ายที่ต้องการทำร้ายสวี่เจวี๋ยและจื่ออั๋งเด็ดขาด!

เสียงระฆังที่เป็นสัญญาณการสอบดังขึ้น

ถังหลี่หันหลังกลับเข้าไปในรถม้าก่อนจะวางแผนเดินทางไปยังศาลต้าหลี่ ระหว่างทางนั้นนางได้เห็นคนผู้หนึ่งยืนอยู่ริมแม่น้ำ

เขาคือบัณฑิตในชุดคลุมตัวยาวมีท่าทีสิ้นหวัง ถังหลี่รู้สึกคุ้นตา เขาคือหนึ่งในบัณฑิตที่ถูกจับได้ว่าโกง

“ข้าไม่ได้โกง! มันเป็นพู่กันของข้าแต่ไม่ใช่กระดาษของข้า!”

“ทำไมท่านถึงไม่เชื่อข้า ทำไม!”

“ข้าจะพิสูจน์ความบริสุทธิ์ของข้า!”

หลังจากที่พูดจบบัณฑิตคนนั้นก็กระโดดลงไปในแม่น้ำทันที

[1] ผู้ที่มีสิทธิเข้าสอบในระดับภูมิภาคหรือ “เซียงซื่อ” คือ”เซิงหยวน” การสอบในระดับนี้จะจัดขึ้นทุก 3 ปีที่เมืองหลวงของมณฑลต่างๆ ผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือกในระดับนี้เรียกว่า “จี่ว์เหริน” หรือมักเรียกกันทั่วไปว่า “จ้งจี่ว์”

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท