บทที่ 544 เปลี่ยนแปลงชะตากรรมขององค์หญิงจิ้งชู
องค์หญิงจิ้งชูเข้ากับจูชุนเจียวไม่ได้ นางไม่เข้าใจและต่อต้านจูชุนเจียวตลอดเวลา
จูชุนเจียวเป็นคนอาฆาต ในที่สุดนางจึงคิดหาวิธีแก้แค้นองค์จิ้งชูอย่างโหดเหี้ยม นางช่างน่าสงสารเหลือเกิน
ถังหลี่ถอนหายใจ กู้หวนจิ่นหวนคิดถึงดวงตาที่มืดมนขององค์หญิงในชาติที่แล้ว หัวใจของนางคงเจ็บปวดรวดร้าวเป็นอย่างมาก
องค์หญิงที่ได้รับความรักจากผู้คนนับพันต้องจบชีวิตลงเช่นนั้น นางถูกส่งตัวไปแต่งงานกับชาวฮันที่มีขนบประเพณีที่แตกต่างกัน จากนั้นจึงได้จบชีวิตลงในต่างแดน
“ชะตากรรมของนางไม่สมควรจะเป็นเช่นนั้นอีกในชีวิตนี้” กู้ฮวนจิ่นพูดขึ้น
ในความทรงจำของเขา เขามีปฏิสัมพันธ์กับนางน้อยมาก ทั้งคู่มาเจอกันในยามที่นางถูกส่งตัวไปยังแคว้นซยงหนูเท่านั้น
“น้องสาวเจ้าช่วยเกลี้ยกล่อมไม่ให้นางแต่งงานกัวฮั่นเสวี่ยทีเถอะ”
ถังหลี่เป็นคนที่อ่านนิยายและรู้เรื่องทั้งหมดของนิยายเรื่องนี้เป็นอย่างดี “พี่สามรู้ไหมว่า เหตุใดองค์หญิงจิ้งชูจึงได้แต่งงานกับกัวฮั่นเสวี่ย” ถังหลี่พูดขึ้น
“เป็นเพราะครั้งหนึ่งองค์หญิงออกจากวังและมีคนพยายามวางแผนทำร้ายนาง กัวฮั่นเสวี่ยได้มาพบและช่วยเหลือนางเอาไว้ได้ทัน หลังจากเหตุการณ์ในครั้งนั้นแล้ว ความรักที่นางมีต่อผู้ชายคนนั้นจึงได้เพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวีคูณ กัวฮั่นเสวี่ยรู้ดีว่าจะจับคู่นางกับตัวเขาได้อย่างไร ไปๆ มาๆ นางจึงได้ตกหลุมรักเขาเข้า”
กู้หวนจิ่นอดไม่ได้พูดประณามขึ้นมา
“เจ้าเล่ห์”
กัวฮั่นเสวี่ยเป็นคนวางแผน และองค์หญิงตกหลุมในแผนของเขาอย่างถอนตัวไม่ขึ้น
“พี่สาม หากเป็นข้าไปเกลี้ยกล่อมนางย่อมไร้ประโยชน์ สิ่งสำคัญที่สุดก็ต้องอย่าให้โอกาสกัวฮั่นเสวี่ยได้ดำเนินแผนการของเขาให้สำเร็จ…ตอนนี้องค์หญิงกำลังเสด็จเยี่ยมชมถนนในเมืองหลวงอยู่ในขณะนี้แล้ว….”
นางเจตนาทอดเสียงให้ยาวขึ้น กูหวนจิ่นขมวดคิ้วไม่อาจนั่งต่อไปได้
“น้องสาว เอาไว้พรุ่งนี้ ข้าจะมาหาเจ้าอีกครั้ง”
ว่าแล้วเขาก็ตวัดพัดแล้วรีบออกจากจวนอู่โหวไปทันที
….
องค์หญิงจิ้งชูกำลังเดินเล่นอยู่กับองครักษ์ที่ปลอมตัวมาสองคน
ถนนหนทางในเมืองหลวงช่างมีชีวิตชีวา นางมองดูข้าวของและซื้อทุกอย่างตามใจชอบ
ในตอนนั้นเองหญิงสาวเหลือบไปเห็นเงาร่างที่ดูคุ้นเคย นางเดินไปยังร้านขายตุ๊กตาที่ทำจากน้ำตาล จิ้งชูซื้อขนมจากร้านนั้น กลับมาจึงเห็นคนผู้นั้นอีก เขาคือกู้หวนจิ่นนั่นเอง!
ชายหนุ่มกำลังมองพัดที่วางขาย โดยมีเด็กสาวตัวเล็กๆ เป็นคนขายพัด ไม่รู้ว่าเขาพูดอะไรบางอย่างทำให้สาวน้อยผู้นั้นหน้าแดงระเรื่อ นางมองเขาอย่างเขินอาย
คนเจ้าชู้! กระทั่งซื้อของยังทำให้คนขายเขินอายได้
องค์หญิงจิ้งชูทนไม่ไหวอีกต่อไป นางเดินปรี่เข้าไปหาเขา เอามือเท้าสะโพกมองเขาอย่างดุดันบราวนี่ออนไลน์
กู้หวนจิ่นหันมามองนางอน่างประหลาดใจ
“ช่างบังเอิญเหลือเกิน!”
บังเอิญ! อย่าคิดว่านางไม่ได้สังเกตนะว่าเขากำลังเดินตามนางอยู่
“เมื่อครู่ข้าเห็นท่านที่แผงขายน้ำหวาน กู้หวนจิ่น ท่านตามข้ามาหรือ?”
กู้หวนจิ่นโบกพัดไปมา เขาหล่อเหลาดูเกียจคร้าน ยามที่ดวงตาได้จับจ้องใคร ดูทั้งเจ้าชู้และชวนมอง
“อาจื่อ ท่านเข้าใจผิดแล้ว ถนนสายหลักในเมืองหลวงมีมากมาย หากท่านจะไปซื้อของข้าก็ไม่ได้ไปซื้อของเช่นท่านนี่ จะบอกว่าข้าตามท่านได้อย่างไร?
องค์หญิงจิ้งชูจ้องหน้าเขา
“ใครอนุญาตให้เรียกข้าว่าอาจื่อ?”
“เมื่อครู่ข้าเห็นน้องสาวข้าเรียกท่านว่าอาจื่อ ข้าก็เลยเรียกบ้าง ท่านไม่ได้ชื่ออาจื่อหรือ? จะห้ามไม่ให้ผู้อื่นเรียกหรือ?
องค์หญิงจิ้งชูพูดไม่ออก
“อาจื่อ” เขาขยับเข้ามาใกล้พูดเบาๆ กับนาง น้ำเสียงเขาทุ้มมีเสน่ห์ น่าฟังจริงๆ หญิงสาวรู้สึกอึดอัดไม่อยากใกล้ชิดเขาให้มาก นางถอยหลังไปสองก้าว
“หากเจ้าชอบ อยากเรียกก็เรียกเถอะ!” ว่าแล้วนางก็หันหลังกลับเดินต่อไป
เมื่อองค์หญิงจิ้งชูกำลังเดินอยู่ในตรอก ทันใดนั้นก็มีหญิงชราผู้หนึ่งหกล้มลงกับพื้น
นางรีบเข้าไปช่วย หญิงชราผู้นั้น อายุมากแล้ว ผมขาวโพลนไปทั้งหัว มีริ้วรอยมากมายบนใบหน้า ผิวของนางราวกับเปลือกไม้แห้งๆ นางหลังค่อมดูแก่เฒ่า หญิงชราจับมือจิ้งชูเอาไว้แน่น
“ขอบคุณมากนะ สาวน้อย เจ้าช่วยพาข้ากลับบ้านได้ไหม?”
หญิงชราผู้นี้รู้ว่านางเป็นผู้หญิง?
นางมองด้วยความสงสารเวทนา พร้อมกับพยักหน้า นางตั้งใจจะให้ทหารองครักษช่วยพยุงไปส่ง หากหญิงชรากลับมีท่าทีหวาดกลัว ทั้งยังจับมือขององค์หญิงจิ้งชูไว้แน่น หญิงสาวจึงได้แต่พยุงนางเดินไปตามลำพัง
องค์หญิงจิ้งชูเดินไปจนสุดซอย จากนั้นจึงได้เลี้ยวผ่านตรอกเล็กไปอีกสองซอย จึงได้ไปหยุดที่ลานบ้านเล็กๆ แห่งหนึ่ง
“สาวน้อย ที่นี่เป็นบ้านของข้าเอง ขอบคุณที่ช่วยพยุงหญิงชราเช่นข้า เชิญเข้ามานั่งข้างในก่อนเถอะ” นางพูดอย่างกระตือรือร้น องค์หญิงจิ้งชูจึงเดินเข้าไป
องครักษ์สองคนตั้งใจจะตามเข้าไปด้วย หากแต่หญิงชรากลับมองพวกเขาอย่างหวาดกลัวราวกับไม่ต้องการให้เขาเข้าไป
“ไปรอที่ประตูก่อนเถอะ” องค์หญิงสั่ง จากนั้นจึงเดินตามหญิงชราเข้าไปข้างใน ห้องที่นางอยู่เป็นระเบียบดูสะอาด
นางมองไปยังตำแหน่งของเตียงมีเสียงแปลกดังออกมาจากนั้นจึงหายไปอย่างรวดเร็ว
หญิงชรารินน้ำส่งให้นาง
“สาวน้อย ดื่มน้ำสักแก้วเถอะ อากาศร้อนๆ แบบนี้ต้องพึ่งพาแม่นางให้พายายกลับมาลำบากเจ้าแล้ว” นางกล่าวขอบคุณ องค์หญิงจิ้งชูรับเอาไว้หากยังไม่ได้ดื่มเพราะนางไม่กระหาย
“สาวน้อย เจ้าไม่ดื่มน้ำเพราะรังเกียจยายหรือ?” นางดูละอายแก่ใจ
“ข้าแค่ไม่กระหายน้ำเท่านั้น ไม่ใช่ว่าข้ารังเกียจหรอก” องค์หญิงจิ้งชูพูดอย่างเร่งรีบ ในขณะที่นางจะดื่มกลับมีเสียงเคาะประตูที่ด้านนอก
เสียงเคาะประตูดังถี่รัวอย่างร้อนรนแม้หญิงชราจะอิดเอื้อนไม่อยากเปิดแต่ก็ไม่มีทางเลือก นางเปิดประตูออกไป องค์หญิงจิ้งชูเห็นคนที่อยู่ด้านนอก นางแปลกใจ ไฉนกลายเป็นกู้หวนจิ่นไปเสียได้ ?
เขาเดินเข้ามาในห้อง
“วันนี้อากาศร้อนเหลือเกิน ขอข้าดื่มน้ำบ้างจะได้หรือไม่?” กู้หวนจิ่นมองไปทางหญิงชรา เขาโบกพัดไปมาอย่างเร่งเร้าราวกับว่าร้อนแทบจะทนไม่ไหว
หญิงชราประหลาดใจไม่รู้ว่าเขาเป็นใครกัน นางไม่รู้จักเขามาก่อนเลย เมื่อได้ยินที่เขาพูดจึงได้มีสติขึ้นมา ตอบกลับไปว่า
“ได้ๆ ข้าจะไปตักน้ำให้เจ้าดื่ม” ว่าแล้วนางจึงได้เทน้ำให้กู้หวนจิ่น เขารับไปทว่ากลับไม่ได้รีบดื่ม เขาเอาแก้วน้ำมาจ่อที่ปลายจมูกแล้วดม
“ท่านยาย เหตุใดน้ำของท่านจึงมีกลิ่นไม่ใคร่ดีเช่นนี้เล่า?” องค์หญิงจิ้งชูได้ยินเข้า นางรู้สึกงุนงง มีกลิ่น? ไม่ดีหรือ?
หญิงชรามีผีอยู่ในใจ ใบหน้านางแปรเปลี่ยนไป หากยังพูดราวกับไร้เดียงสา
“นี่เป็นน้ำต้มสุก จะมีกลิ่น…”
“ท่านยาย ข้าเกรงว่าท่านจะกระหายน้ำเช่นกัน เหตุใดท่านไม่ดื่มก่อนเล่า?” กู้หวนจิ่นว่า แล้วเขาก็จ่อแก้วน้ำเข้าที่ริมฝีปากของหญิงชรา นางไม่รู้ไปเอาเรี่ยวแรงมาจากไหน สะบัดมือปัดแก้วกระเบื้องตกแตกกระจายกับพื้น
ทันใดนั้นเองมีชายร่างใหญ่สี่คนกระโดดออกมาจากห้องถัดไปเข้ามาล้อมกู้หวนจิ่นและองค์หญิงจิ้งชูเอาไว้ การกระทำที่เป็นไปอย่างรวดเร็วเช่นนี้ย่อมทำให้องค์หญิงตื่นตระหนก
แต่แล้วกลับมีร่างของคนผู้หนึ่งเข้ามายืนขวางนางเอาไว้ นางจึงได้รู้ว่ากู้หวนจิ่นนั้นตัวสูงกว่านางมากนัก
องค์หญิงจิ้งชูพลันได้สติขึ้นมา นางรีบร้องตะโกนเรียกองครักษ์ที่รออยู่ด้านนอก ทั้งสองรีบรุดเข้ามาอย่างเร็วรี่ประตูห้องได้ปิดลงแล้ว องครักษ์ทั้งสองต้องพังประตูเข้าไป จึงกลายเป็นว่ากู้หวนจิ่นต้องต่อสู้กับชายทั้งสี่เพียงลำพังแต่ผู้เดียว
ชายทั้งสี่รีบวิ่งเข้าโจมตีกู้หวนจิ่น
………………