บทที่ 545 วีรบุรุษช่วยสาวงาม
กู้หวนจิ่นโบกพัด สะบัดกลายเป็นอาวุธ ต่อสู้กับชายทั้งสี่คน
หญิงชราถอดเสื้อผ้าที่นางปลอมตัวออก นางยืนตัวตรงไม่ได้ดูหลังค่อมอ่อนแออีกต่อไป นางเดินเข้าไปหมายจะจับองค์หญิง กู้หวนจิ่นสะบัดพัดบินเข้าพุ่งชนที่หน้าท้องของหญิงชราทำให้นางล้มลงกับพื้นด้วยใบหน้าที่ซีดเซียว
องค์หญิงจิ้งชูฉวยโอกาสนี้เตะนางซ้ำอีกสองสามครั้ง นางกรีดร้องออกมาอย่างเจ็บปวด องค์หญิงจิ้งชูคว้าพัดขึ้นมาโยนกลับไปให้กู้หวนจิ่น
เขารับพัดเอาไว้ได้
“ขอบคุณ!” กู้หวนจิ่นมีฝีมือดีทีเดียว ภายใต้การจู่โจมของชายฉกรรจ์ทั้งสี่ เขาไม่ได้อ่อนแอเลย เขากระโดดเข้าใส่ชายผู้หนึ่ง กระแทกพัดเข้าใส่ศีรษะของผู้ชายอีกคน จากนั้นจึงเตะขัดขาคนผู้นั้นจนล้มลง
องค์หญิงจิ้งชูได้แต่ชมดูอย่างมึนงง นางไม่เคยคาดคิดมาก่อนเลยว่า กู้หวนจิ่นที่ดูเป็นหนุ่มเสเพล เช่นนี้ยามที่เขาต่อสู้อย่างจริงจัง เขาทั้งดูดุร้ายและหล่อเหลา เมื่อองครักษ์บุกเข้ามาได้ กู้หวนจิ่นก็ล้มชายทั้งสี่คนได้หมดแล้ว
องครักษ์ปราดเข้ามา จู่โจมซ้ำเข้ากับชายทั้งสี่คน ทุบตีพวกเขาจนขยับกายต่อไปอีกไม่ได้ จากนั้นจึงได้มัดพวกเขาเอาไว้
องค์หญิงจิ้งชูกัดริมฝีปาก ในน้ำนั่นน่าจะมีบางอย่างใส่เอาไว้ โชคดีที่กู้หวนจิ่นเข้ามาช่วยเอาไว้ได้ทัน ไม่เช่นนั้นแล้วจะเกิดอะไรขึ้นก็ไม่อาจรู้ได้
องค์หญิงจิ้งชูมองกู้หวนจิ่นอย่างขอบคุณ
“ขอบคุณมาก”
“เมื่อเร็วๆ นี้ ทางศาลต้าหลี่กำลังสืบสวนคดีของหญิงสาวที่หายตัวไปทีละคน อาจื่อท่านต้องระวังตัวให้ดี” กู้หวนจิ่นเตือนนาง
ใบหน้าขององค์หญิงจิ่งชูแข็งทื่อ กู้หวนจิ่นรู้ว่านางเป็นผู้หญิง การปลอมตัวครั้งนี้ล้มเหลวอย่างสิ้นเชิง
“มีผู้หญิงหายไปหลายคนหรือ…” จู่ๆ นางจำเสียงแปลกที่ได้ยินยามที่เข้ามาในห้องได้ “ตอนที่ข้าเข้ามา ข้าได้ยินเสียงดังมาจากเตียง!”
กู้หวนจิ่นเดินไปที่ข้างเตียง เขาเอาหูแนบ ได้ยินเสียงเหมือนใครเอาเล็บข่วนกำแพง
เขายกเตียงขึ้น พบว่ามีห้องใต้ดินอยู่ข้างล่าง กู้หวนจิ่นกระโดดลงไปพบเด็กผู้หญิงสองคนผมเผ้ากระเซิง ร่างกายถูกมัดด้วยเชือก ในปากโดนผ้าขี้ริ้วอุดเอาไว้ ไม่รู้ว่าถูกขังอยู่ในนี้นานเท่าไหร่แล้ว
พวกเขาทั้งกลัวทั้งสิ้นหวัง และอยากจะหลบหนี แต่ไม่สามารถร้องออกมาได้ จึงทำได้แต่ใช้เล็บข่วนฝาผนังเท่านั้น
เมื่อได้ยินว่ามีใครเข้ามาในห้อง พวกเขาได้แต่ร้องเสียงดังอู้ๆ อี้ๆ อย่างสุดความสามารถ
“อย่ากลัวไปเลย ข้าจะช่วยพวกเจ้าเอง” กู้หวนจิ่นพูดขึ้น ด้วยความช่วยเหลือจากองครักษ์ทั้งสอง กู้หวนจิ่นจึงพาเด็กสาวสองคนออกมาจากห้องใต้ดิน
เมื่อเขาเอาผ้าขี้ริ้วออกจากปาก และแก้เชือกที่มัดเอาไว้ เด็กสาวสองคนจึงได้โค้งคำนับพวกเขาทั้งน้ำตา
องค์หญิงรีบพยุงพวกนางขึ้น พูดกับพวกเขาว่าไม่ต้องโขกศีรษะ
กู้หวนจิ่นถามเรื่องราวจากพวกนาง ก็เป็นเช่นเดียวกันกับที่องค์หญิงจิ้งชูได้ประสบ พวกเขาถูกเอาเปรียบจากความสงสารและเห็นอกเห็นใจ ถูกหลอกให้พาไปส่งยังบ้านเปลี่ยวไร้ร้างผู้คน ให้ดื่มน้ำผสมยาจากนั้นก็โดนขังเอาไว้ในห้องใต้ดิน
“ส่งคนเหล่านี้ไปให้ศาลต้าหลี่” กู้หวนจิ่นหันไปพูดกับองค์หญิง นางพยักหน้า ต้องรีบส่งตัวพวกเขาไปยังศาลต้าหลี่ให้เร็วที่สุดเผื่อว่าอาจจะมีเหยื่อรายอื่นอีก พวกเขาเดินทางไปยังศาลต้าหลี่เพื่อส่งตัวนักโทษด้วยกัน
เมื่อเดินออกจากศาลต้าหลี่ องค์หญิงจิ้งชูอดไม่ได้ที่จะตื่นเต้นและรู้สึกว่าตนเองโชคดีไม่น้อย นางได้มีโอกาสช่วยศาลต้าหลี่ไขคดีบราวนี่ออนไลน์
ดูเหมือนจะเป็นเรื่องแปลกใหม่ที่ไม่เคยได้สัมผัสมาก่อน
กู้หวนจิ่นเอาพัดเคาะหัวนาง
“อย่าชะล่าใจให้มากนัก ต่อไปต้องระวังให้มากกว่านี้เข้าใจไหม? อย่าโง่เขลาเช่นนี้อีก!”
องค์หญิงจิ้งชูแลบลิ้นออกมาแล้วพูดว่า
“ข้าเข้าใจแล้ว”
หลังจากเกิดเรื่องขึ้น นางเสียเวลาไปทั้งวันเพื่อจัดการ กว่าจะได้เข้าวังจึงช้าไปกว่าปกติมาก ระหว่างทางกลับวัง องค์หญิงจิ้งชูเฝ้าแต่คิดถึงภาพของกู้หวนจิ่น ยามที่เขาต่อสู้กับคนเลว ยามที่เขาสอนสั่งดุนางให้ระวังตัว ยามที่เขาส่งนางขึ้นรถม้า …เมื่อคิดถึงภาพเหล่านั้นหัวใจของนางเต้นรัวเร็ว เกิดความผิดปกติในร่างกายของตน
องค์หญิงจิ้งชูกลับไปยังวังหลวง นางไปเข้าเฝ้าฮ่องเต้ เพื่อกราบทูลว่านางไม่อยากแต่งงานกับกัวฮั่นเสวี่ย!
“อาจื่อ เจ้าตัดสินใจอย่างเด็ดขาดเช่นนี้ เป็นเพราะมีคนที่เจ้าชอบอยู่ในใจแล้วหรือ?” ฮ่องเต้ตรัสพลางแย้มสรวลหยอกล้อพระธิดา
สีพระพักตร์ของนางแดงระเรื่อ “ไม่เพคะ เสด็จพ่อท่านอย่าเย้าหยอกลูกเช่นนี้ ไม่เช่นนั้นต่อไปลูกจะไม่สนใจท่านอีกแล้ว” นางแสร้งทำเป็นกริ้วโกรธ
ฮ่องเต้แย้มสรวล “เอาล่ะ..ในเมื่ออาจื่อไม่ชอบเขาก็ช่างเถิด พ่อจะเลือกคู่ครองให้ลูกใหม่เอง”
เรื่องราชบุตรเขยของฮ่องเต้จึงได้เงียบลงไปด้วย เมื่อพระสนมหวังกุ้ยเฟยได้ทูลถาม ฮ่องเต้จึงเอ่ยพระโอษฐ์ว่าพระองค์ยังไม่อยากตรัสถึงเรื่องนี้แต่อย่างใด
พระสนมหวังกุ้ยเฟยคิดว่ามีบางอย่างผิดปกติแปลกออกไป เมื่อสองสามวันก่อนฝ่าบาทได้เอ่ยว่าองค์หญิงจิ้งชูมีท่าทีชอบพอกับหลานชายของนาง ทว่ายามนี้กลับไม่มีการเคลื่อนไหวต่อ …เป็นเพราะเหตุใด? นางจึงส่งข้อความไปแจ้งให้กัวฮั่นเสวี่ยขอให้เขาเร่งมือให้เร็วขึ้น …เรื่องนี้จะได้กล่าวถึงในภายหลัง
………….
เมื่อโอสถขวดแรกที่ได้ถวายให้แก่ไทเฮาหมดลง เว่ยฉิงยังหาโอกาสที่จะให้ท่านหมอซูเข้าพบองค์ไทเฮาไม่ได้เลย เขาวิตกกังวลเรื่องนี้มาก หากเขายังแก้ปัญหาเรื่องนี้ไม่ได้ เขาก็ยังไม่สบายใจอยู่เช่นนั้น
เว่ยฉิงคิดถึงยามที่เขาเป็นเด็กเล็ก เขาทำผิดถูกลงโทษ ไทเฮาพระราชทานยาให้เขา แม้แต่ของล้ำค่าที่เป็นบรรณาการจากต่างแคว้น ท่านก็พระราชทานให้เขาไม่ได้ขาด พระนางชอบลูบศีรษะเขา ตรัสชมเขาอยู่เสมอว่าเขาเป็นเด็กดี พระนางมีพระจริยาวัตร อ่อนโยนนุ่มนวล แต่ทั้งหมดก็ได้หายไปในฤดูร้อนปีนั้น
เมื่อได้เจอกันอีกครั้งพระนางก็ได้กลายเป็นเช่นนี้ไปแล้ว
เว่ยฉิงสูญเสียคนที่รักเขามากเกินไป เขาหวาดกลัวที่จะสูญเสียอีกครั้ง บางครั้งเขามีความฝัน เขาฝันว่าพระนางได้แต่บรรทมอยู่เงียบๆ
ถังหลี่รู้ดีถึงความกังวลของสามี นางคิดว่าจะเสี่ยงพาไทเฮาหลบออกจากวังหลวงดีหรือไม่?
หมอซูมาหาพวกเขาในตอนนั้นเอง เขาบอกว่าตนเองอยากเข้าวังไปเป็นหมอหลวง
“อีกไม่กี่วันจะมีการคัดเลือกหมอหลวง ข้าได้ลงทะเบียนไปแล้ว” หมอซูเอ่ยขึ้นมา
ทั้งเว่ยฉิงและถังหลี่รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย หมอซูทำเรื่องนี้ลงไปโดยไม่เอะอะบอกใครเลย
“หมอซู…” ถังหลี่ขมวดคิ้ว
“โอ้…ตอนที่ข้ายังเป็นเด็ก ข้ามีความใฝ่ฝันที่จะได้เป็นหมอหลวงอยู่แล้วล่ะ…ประกอบกับมีเรื่องเช่นนี้เกิดขึ้น…”
ตอนนี้เขาเป็นได้แต่หมอเล็กๆ ที่ไม่มีตำแหน่งอะไรและอยู่ไกลจากเมืองหลวง
ที่จริงแล้วหมอซูไม่ได้สนใจเรื่องชื่อเสียงยศถาบรรดาศักด์อย่างเขาเอ่ยออกมา ตราบใดที่เขาได้อยู่กับภรรยาแล้ว เรื่องเหล่านี้ไม่มีความหมายสำหรับเขาเลย ทว่าถังหลี่ได้ช่วยชีวิตภรรยาเขาเอาไว้ สำหรับเขาแล้วนั่นเป็นของขวัญ ชีวิตของเขาสามีภรรยาจึงเป็นของถังหลี่และเว่ยฉิง
เขารู้ดีว่าเว่ยฉิงต้องการช่วยเหลือไทเฮา แต่ไม่มีทางติดต่อกับตนในวังได้ การที่จะเข้าไปเป็นหมอหลวงเป็นวิธีที่ง่ายที่สุด
“อยู่นอกวังหรืออยู่ในวังก็เหมือนกัน” ฮูหยินซูพูดพลางหัวเราะ “คนที่จะได้เป็นหมอหลวงต้องผ่านการคัดเลือก เขาอาจจะไม่ผ่านก็เป็นได้”
นี่เป็นการพููดที่ออกจะเกินจริงไปสักหน่อย หมอซูเป็นหมอเทวดา เขาจะไม่ผ่านการคัดเลือกได้อย่างไร?
หมอซูกับฮูหยินซูได้ตัดสินใจแล้ว เมื่อถังหลี่และเว่ยฉิงคิดจะคัดค้าน ก็ไม่อาจเปลี่ยนความคิดของพวกเขาได้
เมื่อหมอซูกับฮูหยินกลับไป ถังหลี่จึงได้พิงแขนสามี เอ่ยปากว่า
“เหตุใดหมอซูจึงอยากจะเป็นหมอหลวง เป็นเพราะเขาต้องการช่วยเหลือพวกเราหรือ?” เว่ยฉิงพยักหน้า เขาต้องปกป้องหมอซูให้ดี
ไม่กี่วันต่อมา หมอซูได้เข้าร่วมการคัดเลือกหมอหลวง ทักษะในการแพทย์ของหมอซูนั้นย่อมไม่เป็นที่กังขาใดๆ เขาผ่านการคัดเลือกหมอหลวงไปอย่างสบายๆ
……………….