บทที่ 564 นางถูกทอดทิ้งหรือ?
สวี่เจียวหยุดพูดชั่วคราวก่อนจะพูดต่อ
“ข้าได้แต่รอเขาอยู่ที่บ้าน คนอื่นๆ ที่ไปสอบเมืองหลวงก็เริ่มทยอยกลับมา พวกเขามีหนังสือรับรองการแต่งตั้งเป็นเจ้าหน้าที่ของทางการ แต่สามีของข้าก็ยังไม่กลับมา ต่อมาข่าวลือก็ค่อยๆ แพร่ไปทั่ว พวกเขาร่ำลือกันว่าสามีของข้าถูกบุตรสาวของขุนนางระดับสูงต้องตา จึงแต่งงานกับนาง พ่อแม่ของสามีข้าเสียชีวิตแล้ว ครอบครัวเขาที่เหลืออยู่ก็มีแต่ข้า ….ข้าไม่เชื่อว่าเขาจะเป็นคนแบบนั้น ข้าจึงได้เข้ามาหาเขาที่เมืองหลวง จนเงินที่มีก็ร่อยหรอไปจนหมดสิ้น ข้าได้แต่อาศัยอยู่ริมถนนเท่านั้น จนพวกอันธพาลนั่นมาเจอข้า หากไม่ได้ฮูหยินล่ะก็…”
สวี่เจียวมองไปที่ถังหลี่ด้วยแววตาซาบซึ่งขอบคุณ
“ขอบคุณฮูหยินมาก ขอบคุณเจ้าค่ะ” หลังจากที่ได้ฟังเรื่องราวทั้งหมดแล้ว ถังหลี่ถอนหายใจ หญิงสาวคนนี้ไม่มีที่ไป
“สามีของเจ้าชื่ออะไร?” ถังหลี่ถาม
“เสิ่งชิงหลิวเจ้าค่ะ” นางกล่าว
เมื่อนางพูดชื่อนี้หัวใจของนางก็มีแต่ความเปรี้ยวอมหวาน เมื่อชื่อนี้ถูกกล่าวในสิบลี้แปดตำบลใครๆ ก็ย่อมรู้จักเขาดี พวกเขาต่างบอกว่าชายคนนี้มีพรสวรรค์ หลายคนเดินทางมาหลายสิบลี้เพื่อพบหน้าเขา สามีของนางเป็นคนหน้าตาดีเรียนเก่ง หาตัวจับยาก นับเป็นโชคของนางที่ได้แต่งงานกับเขา แม้จะดูหอมหวานเมื่อนึกถึง แต่กระนั้นก็เต็มไปด้วยความฝาดเฝื่อนอยู่ในหัวใจ
ตอนนี้เขาอยู่ที่ไหน..ยังสบายดีอยู่หรือไม่?
“ฮูหยินเสิ่น ดูแลรักษาตัวเจ้าให้ดี เรื่องนี้ข้าจะสืบให้เจ้าเอง” ถังหลี่กล่าว
สวี่เจียวค้นหาไปทั่วเมืองราวกับไก่ไร้หัว เหมือนกับการงมเข็มในกอหญ้ายากที่จะประสบความสำเร็จ ฮูหยินอู่น่าจะทำได้ดีกว่านาง
สวี่เจียวคุกเข่าเพื่อขอบคุณในความช่วยเหลือ
“ขอบคุณเจ้าค่ะฮูหยิน”
ถังหลี่ออกจากที่พักของสวี่เจียวและกลับไปที่ห้องของตน ถังหลี่เรียกฉื่อซื่อ ให้เขาตรวจสอบเรื่องของชายที่ชื่อเสิ่นชิงหลิว เพื่อดูว่าเขาได้เข้าร่วมในการสอบเมื่อสามปีที่แล้วหรือไม่ ฉื่อซื่อทำงานได้ดีและรวดเร็วมาก
“ฮูหยินขอรับ เสิ่นชิงหลิวไม่ได้อยู่ในรายชื่อของคนที่สอบผ่านเมื่อสามปีที่แล้วขอรับ”
ถังหลี่มีท่าทีหดหู่ เสิ่นชิงหลิวไม่ได้เข้าร่วมการสอบ? หรือเขาสอบไม่ผ่าน? หากเป็นในกรณีแรกเขาอาจเกิดอุบัติเหตุ แต่อย่างหลังก็คือเขายังมีความรู้ไม่มากพอ เป็นไปได้ทั้งสองอย่าง
แม้สวี่เจียวจะพูดชมว่าเสิ่นชิงหลิวเป็นคนที่มีความรู้ความสามารถที่ไม่มีใครเทียบได้ แต่นั่นคือในสายตาของคนนอก ความจริงแล้วเขาอาจจะไม่ได้เก่งกาจถึงเพียงนั้น นอกจากนี้การสอบในเมืองหลวงเป็นการรวบรวมบัณฑิตจากทั่วทั้งแผ่นดินจึงเป็นปกติที่เสิ่นชิงหลิวจะสอบไม่ผ่าน
“เอารายชื่อมาให้ข้า” ถังหลี่กล่าว ฉื่อซื่อรีบส่งรายชื่อในถังหลี่ทันที นางมองดูแล้วรู้สึกได้ถึงความผิดปกติ
“มีคนสามร้อยคนที่ผ่านการสอบ คนเหล่านี้จะเข้าร่วมในการสอบหน้าพระที่นั่งอีกครั้งใช่ไหม?”
“ขอรับนายหญิง” ฉื่อซื่อพูด
“แต่ในนี้มีเพียงสองร้อยเก้าสิบเก้ารายชื่อเท่านั้น”บราวนี่ออนไลน์
“เป็นไปได้ว่าผู้เข้าสอบอาจจะมีโรคประจำตัวหรือมีปัญหาเกี่ยวกับกระดาษคำตอบขอรับจึงถูกตัดสิทธิ์” ฉื่อซื่อพูด นี่เป็นเรื่องที่เป็นไปได้
แต่…
“นายหญิง ข้าจะไปตรวจสอบรายชื่อของคนที่เข้าสอบเมื่อสามปีที่แล้วให้ขอรับ” ถังหลี่พยักหน้า เขาหายไปในทันที
หลังจากนั้นไม่นานฉื่อซื่อก็กลับมาอีกครั้งและพบว่ารายชื่อผู้เข้าสอบเมื่อสามปีที่แล้วมีเสิ่นชิงหลิวอยู่!
“นายหญิงขอรับคนที่หายไปคือเสิ่นชิงหลิวขอรับ” ฉื่อซื่อพูด
“แต่เหตุผลที่เขาถูกลบหายออกไปจากรายชื่อไม่ระบุชัด ทั้งๆ ที่คนอื่นจะระบุไว้ขอรับ” ถังหลี่ประหลาดใจ
เกิดอะไรขึ้นเสิ่นชิงหลิวก่อนที่เขาจะผ่านการสอบกันแน่ ชื่อของเขาจึงไม่ได้ถูกบรรจุในการสอบหน้าพระที่นั่ง เสิ่นชิงหลิวหายไปไหน?
ถังหลี่จึงเลือกที่จะบอกเรื่องนี้กับสวี่เจียว เมื่อนางได้ยินก็เกิดความกังวลขึ้นมาเป็นอย่างมาก
“สามีข้า…เกิดอะไรขึ้นกับเขากันแน่”
นางรู้สึกวิงเวียนจนต้องเกาะเสาเพื่อให้ยืนอยู่ได้ นางกังวลมาก ความคิดไม่ดีต่างหลั่งไหลเข้ามาจนนางตัวสั่น
“ฮูหยินเสิ่น อาจจะไม่ได้มีเรื่องเกิดขึ้นแต่เป็นเพราะเหตุผลอื่นก็ได้” ถังหลี่ปลอบโยน แต่แล้วนางกลับเหลือบไปเห็นภาพวาดบนโต๊ะ หมึกบนนั้นยังเปียกอยู่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งถูกวาดขึ้นได้ไม่นาน
ภาพวาดเป็นบุรุษผู้หนึ่งสวมชุดสีขาวเขาดูรูปงามมาก ถังหลี่มองชายในภาพนางรู้สึกคุ้นเคยกับชายคนนี้อย่างน่าประหลาด
“ฮูหยินเสิ่น นี่คือสามีของเจ้าหรือ?” ถังหลี่ถาม สวี่เจียวพยักหน้าทันที ถังหลี่เดินไปดูบุคคลในภาพแล้วนิ่งเงียบ ในพริบตาเดียวนางก็จำได้ทันทีว่าเหตุใดจึงคุ้นเคย เพราะคนในภาพเหมือนกับคุณชายลิ่วเยว่เป็นอย่างมาก!
ความคิดมากมายของถังหลี่ประมวลขึ้นทันที เสิ่นชิงหลิว…ลิ่วเยว่…
สองคนนี้หน้าเหมือนกันมาก อาจจะเป็นคนๆ เดียวกันก็เป็นได้
ถังหลี่มองสวี่เจียว
“ข้าเหมือนเคยเห็นบุรุษที่ดูเหมือนคนในภาพ”
สวี่เจียวมองถังหลี่ราวกับว่านางคือฟางเส้นสุดท้ายที่จะยื้อชีวิตตนเอาไว้ ได้
“ฮูหยิน เขามีชีวิตอยู่หรือไม่? ท่านช่วยพาข้าไปหาเขาได้ไหมเจ้าคะ” สวี่เจียวมองไปที่ถังหลี่ด้วยแววตาเว้าวอน ถังหลี่พยักหน้า
เป็นไปไม่ได้ที่นางจะพาไปที่วังขององค์หญิงใหญ่ สถานที่ๆ สามารถพบลิ่วเยว่ได้คือเสี่ยวหงโหลว แต่ถังหลี่ไม่รู้ว่าคุณชายลิ่วเยว่จะมาเมื่อไหร่ นางจึงพาสวี่เจียวไปดักรอแถวโรงน้ำชาบริเวณนั้น นางจองห้องที่หันหน้าไปทางเสี่ยวหงโหลว สวี่เจียววางหมอนสองสามใบบนเก้าอี้ก่อนจะช่วยให้ถังหลี่นั่งลง
“ฮูหยิน ข้าขอโทษจริงๆ ที่ทำให้ท่านลำบากใจเจ้าคะ” สวี่เจียวรู้สึกละอายใจ ทั้งๆ ที่นางกำลังตั้งครรภ์ สวี่เจียวก็ยังปล่อยให้นางออกมาข้างนอกเช่นนี้
“ไม่ใช่เรื่องใหญ่” ถังหลี่ส่ายหัว
ทั้งสองนั่งในโรงน้ำชาด้วยกัน มองไปที่ตึกสีแดงนั่น สวี่เจียวรู้สึกกังวลใจ นางมองอย่างกระตือรือร้น ไม่กล้าแม้แต่จะกระพริบตา
“วันนี้เขาอาจจะไม่มา” ถังหลี่เตือน
คำพูดของถังหลี่แม่นนัก เพราะวันนั้นคุณชายลิ่วเยว่ไม่ได้มาที่เสี่ยวหงโหลวและอีกไม่กี่วันต่อมา พวกนางก็มารอใหม่ วันนั้นลิ่วเยว่ก็ปรากฏตัวขึ้น
สวี่เจียวเห็นรถม้าจอดอยู่ที่ด้านนอกของเสี่ยวหงโหลว บุรุษที่มีใบหน้าเย็นชาในชุดสีขาวก้าวลงมา เมื่อนางเห็นใบหน้าของเขาท่าทีของสวี่เจียวเปลี่ยนไปทันที นางเผลอกลั้นหายใจโดยไม่รู้ตัว หัวใจของนางสั่นใจอย่างรุนแรง
ตึก ตึก
นางได้ยินเสียงหัวใจของตนเองเต้น! นั่นคือสามีของนาง! สามีของนางยังมีชีวิตอยู่!
แต่แล้วนางก็ต้องชะงักเมื่อเห็นสตรีอีกผู้หนึ่งที่ลงมาจากรถม้า สตรีผู้นั้นสวมชุดหรูหราท่วงท่าสง่างาม เมื่อนางลงมาก็จับมือกับชายในชุดสีขาวทันที ทั้งสองเดินเข้าไปในอาคารเสี่ยวหงโหลวด้วยท่าทีสนิทสนม
ใบหน้าของสวี่เจียวซีดเผือดจนไม่เหลือสีสันใดๆ เลย
ความดีใจของนางแปรเปลี่ยนเป็นความเศร้าทันที! สวี่เจียวมองพวกเขาจนลับหายตา
สตรีผู้นั้นคือใคร?
เหตุใดสามีของนางจึงสนิทสนมกับหญิงผู้นั้น หรือเขาจะแต่งงานกับบุตรสาวคนชั้นสูงและทิ้งนางไปแล้วจริงๆ