เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ – บทที่ 596 ทำตัวให้ชาญฉลาด

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

บทที่ 596 ทำตัวให้ชาญฉลาด

“ฝ่าบาท คนในคณะราชทูตของข้าถูกคนของต้าโจวสังหาร ได้โปรดให้ความยุติธรรมแก่กระหม่อมด้วย มิเช่นนั้นกระหม่อมคงอดคิดไม่ได้ว่าต้าโจวไม่มีความจริงใจในมิตรภาพนี้!” ราชทูตจากฮั่นกล่าวด้วยความหนักแน่น น้ำเสียงของเขานั้นเต็มไปด้วยความไม่พอใจ พระพักตร์ของฮ่องเต้โจวฉายแววจริงจังขึ้น

“ข้าให้ความร่วมมือกับเผ่าซยงหนูด้วยความเต็มใจ..ท่านราชทูตอย่าคิดเป็นอื่น”

“ฮูหยินอู่สังหารหนึ่งในคณะราชทูต..” ราชทูตคนนี้กัดถังหลี่ไม่ปล่อย ฮ่องเต้โจวขมวดคิ้วทันที

“ท่านราชทูตไม่ต้องกังวล ข้าจะจัดการเรื่องนี้และให้คำอธิบายแก่พวกท่านแน่นอน” ราชทูตชาวซยงหนูคำนับถอยหลังกลับไป เมื่อเขาจากไปแล้วสีพระพักตร์ของฮ่องเต้โจวเปลี่ยนไปทันที เขาปาจอกน้ำชาลงไปที่พื้น

“พวกมันกล้าดีอย่างไรถึงมากำแหงในแผ่นดินต้าโจวเช่นนี้!” เขาพูดอย่างเกรี้ยวกราด

ชาวซยงหนูและต้าโจวมีเรื่องบาดหมางกันมาช้านาน พวกซยงหนูหรือฮั่นนั้นหวังครอบครองต้าโจวด้วยความละโมบ พวกมันปล้นสดมภ์ราวกับสุนัขป่าที่หิวโหย การได้ทำลายพวกซยงหนูเป็นเรื่องที่ต้าโจวปรารถนามาตลอด แต่ทว่าตอนนี้สืบเนื่องจากต้าฉีและต้าฉู่เข้าร่วมเป็นพันธมิตรกัน ซยงหนูในตอนนี้จึงหยิ่งยโสขึ้นมาได้ ทำให้ฮ่องเต้โจวคับแค้นพระทัยเป็นอย่างมาก พวกนั้นกำลังบังคับให้เขาจัดการกับฮูหยินอู่และหาคำอธิบายให้แก่พวกมัน….

ฮูหยินอู่เป็นชาวต้าโจว แม้ว่านางจะฆ่าชาวฮั่นแล้วอย่างไร? การที่คนเหล่านั้นเหิมเกริมเช่นนี้ทำให้พระองค์มีโทสะมากยิ่งขึ้น

“ฝ่าบาท รุ่ยอ๋อง ใต้เท้าอู่และฮูหยินอู่ขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ” ข้ารับใช้กล่าว ทำให้ฮ่องเต้โจวควบคุมพระสติให้สงบลง

“เชิญ”

ทั้งสามคนเดินเข้ามา หลังจากที่ถังหลี่ทำความเคารพ นางก็เล่าถึงเหตุการที่เกิดขึ้นเมื่อวานนี้ นางไม่ได้ทุบตีคนอย่างไร้เหตุผล หลังจากเหตุการณ์ทุกอย่างจบลง ชายคนนั้นยังคงมีชีวิตอยู่ ฮ่องเต้โจวพยักหน้า ไม่มีใครคาดเดาอารมณ์ของพระองค์ได้

“ฮูหยินอู่ประมาทเกินไป ตอนนี้การเจรจาของราชทูตจากฮั่นได้เกือบจะบรรลุข้อตกลงไปตามเป้าหมายแล้ว แต่จากเรื่องราวที่เกิดขึ้น …ทำให้การเจรจาที่ผ่านมานั้นไร้ประโยชน์ หากเป็นเรื่องอื่นฮูหยินอู่จะระบายความโกรธของตัวเองก็คงไม่ผิดกระไร แต่เรื่องนี้เป็นความมั่นคงของแค้วนต้าโจว…” จ้าวชูเปิดปาก คำพูดที่ออกมาประหนึ่งวางหม้อน้ำเดือดใบใหญ่ไว้บนศีรษะของถังหลี่

“รุ่ยอ๋องทรงไม่ได้ยินหรือว่าคนของซยงหนูเข้ามาคุกคามฮูหยินของข้าก่อน? เหตุใดข้าจำต้องทนอัปยศให้คนเหล่านั้นรังแก? ไฉนแคว้นต้าโจวที่ยิ่งใหญ่จะต้องทนให้แคว้นเล็กเช่นนั้นดูหมิ่นย่ำยีศักดิ์ศรีของแคว้นเราด้วย?”

เว่ยฉิงถามอย่างเย็นชา

“ใต้เท้าอู่ ข้าไม่ได้หมายความเช่นนั้น ข้าเพียงแค่อยากให้รอจนกว่าการเจรจาจะสิ้นสุดลง” จ้าวชูกล่าว

แม้ใบหน้าของจ้าวชูซีดเผือดแต่หัวใจของเขากลับลิงโลดอย่างมีความสุข

“ในเมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้แล้ว เจ้าคิดว่าควรทำเช่นไรต่อไป?” ฮ่องเต้โจวมองไปที่จ้าวชู

“ฝ่าบาท กระหม่อมคิดว่าฮูหยินอู่และใต้เท้าอู่ควรไปสารภาพความผิดกับราชทูตซยงหนู เพื่อให้คณะราชทูตสงบลงพะย่ะค่ะ” จ้าวชูพูด

“แล้วถ้าพวกมันยังคงเรียกร้องต่อไปอีกเล่า” ฮ่องเต้โจวที่ยังคงตรัสถามต่อ

“ต้องอดทนพะย่ะค่ะ ในเวลานี้ต้าโจวสำคัญที่สุด” จ้าวชูพูดด้วยความเกรงขามบราวนี่ออนไลน์

“เพื่อความมั่นคงของต้าโจว การเสียสละเป็นเรื่องจำเป็น”

“การที่ราชทูตของฮั่นเรียกร้องให้ชีวิตชดใช้ด้วยชีวิต เช่นนั้นเราควรจ่ายให้พวกเขาหรือไม่เล่า?” เว่ยฉิงพูดอย่างเย็นชา

“ใต้เท้าอู่ไม่ต้องกังวล ข้าจะไม่ให้ฮูหยินอู่ตกอยู่ในอันตรายแน่นอน” จ้าวชูพูดพลางมองไปที่ถังหลี่ด้วยความอ่อนโยน

“ฮูหยินอย่ากังวลเลย”

ทักษะการแสดงของจ้าวชูนับได้ว่ายอดเยี่ยม แต่ถังหลี่เป็นคนช่างสังเกต นางรู้สึกได้ถึงความภาคภูมิใจในสายตาของจ้าวชู เขาคิดว่าการเสียสละเช่นนี้จะเป็นการเอาพระทัยฮ่องเต้ได้

แม้ภายนอกจ้าวชูอาจจะคิดว่าวาจาที่กราบทูลฝ่าบาทเป็นความฉลาดปราดเปรื่องของตน แต่ในสายตาของถังหลี่ นางกลับเห็นเขาเป็นตัวตลก หญิงสาวชำเลืองมองฮ่องเต้โจวก่อนจะถอนสายตาหลบอย่างรวดเร็ว แม้ฮ่องเต้โจวดูจะโอนอ่อนตามจ้าวชู แต่การเคลื่อนไหวพระหัตถ์ทำให้นางรู้ได้ว่าภายในพระทัยของฝ่าบาทไม่ได้ราบเรียบเหมือนกับที่ทุกคนเห็น ทำให้ถังหลี่โล่งใจ

จ้าวชูโง่มาก เขาคิดว่ากลอุบายนี้จะทำให้นางอับอายและทำให้ฝ่าบาทพอพระทัย จ้าวชูไม่เข้าใจความคิดของบิดาตัวเองเลย ต้าโจวเป็นแคว้นใหญ่ ฮ่องเต้ไม่ได้ให้ความสำคัญกับซยงหนูมาก แต่ครั้งนี้ชาวซยงหนูมีบทบาทสำคัญ ทำให้พระอง์ไม่อาจจัดการได้ แต่อย่างไรก็ตาม ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะลดศักดิ์ศรีลงเพื่อทำให้ชาวซยงหนูพอใจ

ยิ่งกว่านั้นต้าโจวมีสิ่งที่ต้องการ ซยงหนูเองก็เช่นกัน จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่ทั้งสองฝ่ายจะนั่งคุยกันด้วยสันติ ในเมื่อพวกเขาต่างหยั่งเชิงกันอยู่ เหตุใดต้าโจวจึงต้องยอมลดศักดิ์ศรีให้ต่ำกว่าชาวฮั่นด้วย เรื่องนี้ทำให้ฮ่องเต้โจวไม่พอพระทัยการกระทำของจ้าวชูเป็นอย่างมาก พระองค์ตรัสด้วยน้ำเสียงเย็นชา

“ความผิดอะไร? ฮูหยินอู่ไม่ได้พูดหรือว่าพวกซยงหนูเป็นฝ่ายตอแยนางก่อน นางทำไปเพราะต้องการป้องกันตัว! สืบสวนคดีนี้ให้รอบคอบ หากนางผิดนางจะยอมรับ แต่หากนางถูก เหตุใดจะต้องยอมรับความผิดที่ไม่ได้ก่อ?!”

ฮ่องเต้โจวตรัส ทอดพระเนตรอย่างมีนัยไปที่ถังหลี่

“ข้าเชื่อว่านางไม่ได้พูดโกหก”

ความหมายที่ลึกซึ้งในวาจาของฝ่าบาทนั่นคือ ไม่ว่าการสืบสวนในครั้งนี้จะเป็นไปในทิศทางใด บทสรุปย่อมเป็นชาวฮั่นที่เป็นฝ่ายเริ่มก่อน!

พวกเขาทั้งสามรู้ถึงความนัยที่แฝงเอาไว้เป็นอย่างดี ถังหลี่และเว่ยฉิงลอบถอนหายใจอย่างโล่งอก ใบหน้าของจ้าวชูซีดเผือดยิ่งกว่ากระดาษ เขาไม่ได้คาดหวังให้ผลลัพธ์เป็นเช่นนี้

….

หลังจากที่สามีภรรยาเข้าไปในรถม้า ถังหลี่พูดในสิ่งที่อัดอั้นมานาน

“ช่างโง่เขลา”

เว่ยฉิงหัวเราะสำทับว่า

“โง่มากจริงๆ”

“ฮ่าวตุ้นคิดว่าตัวเองสูงส่งมาก ไม่แปลกที่เขาคิดจะกำจัดข้าด้วยวิธีนี้ แม้แต่จ้าวชูที่ควรรู้จักฮ่องเต้เป็นอย่างดีก็ยังไปคล้อยตามเขาอีก ช่างโง่เขลาจริงๆ” ถังหลี่กล่าว

หากจ้าวชูไม่ใช่คนที่สวรรค์เลือกล่ะก็เขาคงไม่ใช่ตัวเอกชายแน่นอน อีกทั้งยังมีโบนัสพิเศษเป็นความโชคดีอีกต่างหาก หากอาศัยแค่มันสมองของเขาล่ะก็คงยากที่จะเป็นฮ่องเต้ได้

เมื่อมองไปที่ใบหน้างดงามของภรรยา เว่ยฉิงถอนหายใจด้วยความโล่งอก มีหลายสิ่งหลายอย่างเกิดขึ้นในวันนี้ เว่ยฉิงจึงหยุดงานหนึ่งวันและอยู่บ้านกับภรรยา

……..

ท่าทีของฮ่องเต้โจวนั้นชัดเจนว่าเขาอยู่ข้างถังหลี่ อย่างไรก็ตาม ต้าโจวก็ต้องมีคำอธิบายให้แก่ฮั่น ดังนั้นจึงส่งผู้คุมมาล้อมไว้เพื่อสืบสวนคดี

ในเวลาเดียวกันนั้นเองในวังหลวงมีงานเลี้ยงรับรองคณะราชทูต ฮ่าวตุ้นเดินเข้ามาพร้อมกับราชทูตของฮั่น เขาเก็บรังสีอำมหิตไว้ทำให้ภายนอกดูเหมือนนักการทูตทั่วไป เขาอดไม่ได้ที่จะเปรียบเทียบราชสำนักของต้าโจวและฮั่น รู้สึกว่าเรียบง่ายเกินไป…

ทันใดนั้นเองสายตาของเขาสบเข้ากับหญิงสาวที่อยู่ไกลออกไป นางสวมชุดสีชมพูราวกับผีเสื้อที่อยู่ท่ามกลางหมู่ดอกไม้ที่ผลิบาน

“นั่นคือองค์หญิงจิ้งชูแห่งต้าโจว” ในตอนนั้นเองเสียงที่ดังขึ้นก็ทำให้หน้าอกของฮ่าวตุ้นสั่นสะท้าน เขามองไปยังคนที่มาหา ‘พระชายารุ่ยอ๋อง’

ฮ่าวตุ้นมองจิ้งชูราวกับมองเหยื่อตัวหนึ่ง ในขณะที่เขามองจินเซ่ออย่างอ่อนโยน

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

เจ้าวายร้ายทั้งสาม มาให้แม่เลี้ยงอย่างข้ากล่อมเกลาเสียดีๆ

Status: Ongoing
เธอทะลุมิติเข้าไปในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คน ซึ่งเป็นตัวร้ายสุดชั่วช้า จุดจบคือประหารอย่างน่าสังเวช เธอจะทำยังไงให้อนาคตของพวกเขาเปลี่ยนไป‘ถังหลี่’ ทะลุมิติไปเป็นตัวประกอบในนิยายที่ตนเองเคยอ่าน ถูกขายให้เป็นภรรยาของหนุ่มชาวป่า กลายเป็นแม่เลี้ยงของเด็กน้อย 3 คนแต่หนุ่มชาวป่าผู้นี้นั้น คือตัวร้ายหลักของนิยายเรื่องดังกล่าว เป็นตัวร้ายที่จิตใจอำมหิต สุดแสนจะชั่วช้าสามานย์ แถมลูกเลี้ยงทั้ง 3 ก็เป็นเหล่าวายร้าย เป็นตัวร้ายในเรื่องที่โฉดชั่วไม่ต่างกับบิดา จุดจบของพวกเขาคือถูกสั่งประหารอย่างน่าสังเวช แต่ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม ในขณะนี้ เด็กน้อยทั้ง 3 ยังคงเป็นเจ้าก้อนน่ารักนุบนิบ คอยเรียกนางอย่างแสนหวานว่า “ท่านแม่” เพียงแค่คำนี้ที่ออกมาจากปากของพวกเขา นางก็ใจอ่อนยวบ ตั้งใจว่าไม่ว่าอย่างไรก็ตาม นางจะต้องเปลี่ยนแปลงชะตากรรมของเหล่าลูกเลี้ยงให้ได้!ภารกิจถัดมาคืออะไรน่ะหรือ ก็คือทำนา ทำการค้า ทำทุกอย่างเพื่อหาเงินทองมาเลี้ยงเด็กน้อยทั้ง 3 ให้มีชีวิตที่สุขสบาย กล่อมเกลาพวกเขาให้มีชีวิตดีๆต่อมา…เหล่าวายร้ายทั้ง 3 ได้เติบโตขึ้น คนหนึ่งเป็นผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ในใต้หล้า คนหนึ่งเป็นพ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ ร่ำรวยยิ่งกว่าฮ่องเต้ คนหนึ่งเป็นแม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม…ทั้ง 3 ทั้งรักทั้งหวงถังหลี่เป็นอย่างมากผู้นำสูงสุดของสำนักปราชญ์ : บังอาจรังแกท่านแม่ของข้างั้นหรือ จับมันไปขังเดี๋ยวนี้!แม่ทัพหญิงผู้เก่งกาจสง่างาม : พี่ใหญ่ ฆ่ามันทิ้งเสียเลยง่ายกว่า!พ่อค้าผู้ยิ่งใหญ่ : น้องสาม ข้าจะยื่นดาบให้เจ้าเอง!พระปิตุลาผู้ทรงอำนาจคว้าตัวภรรยาของตนเข้าไปกอด : ภรรยาที่รักของข้า ข้าจะปกป้องเอง เจ้าพวกตัวเปี๊ยกน่ารำคาญ ถอยไปซะ!

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท