บทที่ 631 นอนด้วยกัน
เว่ยฉิงรีบเดินไปหาอย่างรวดเร็ว เขาสวมกอดนางแน่นไว้ในอ้อมแขนของตน ทั้งคู่ใกล้ชิดกันแม้ว่าจะเป็นที่สาธารณะก็ตาม
ในรถม้าอีกคันหนึ่ง มีคุณชายสี่สกุลเหยียนนั่งมองอย่างตกตะลึง พวกเขาช่างน่าไม่อาย ต่อให้เขาเป็นชายเจ้าชู้เสเพลมากเพียงใด แต่เรื่องกระทำการสนิทสนมเยี่ยงนี้กับหญิงสาวกลางถนน เห็นทีเขาจะสู้ไม่ได้
หากเหยียนเสี่ยวต้วนกลับมองเห็นเป็นปกติ เขาคุ้นชินเสียแล้ว ถ้าใครได้เจอสามีภรรยาคู่นี้สาดอาหารสุนัขเข้าใส่เป็นเวลาสามปีติดต่อกัน ยากนักที่จะไม่คุ้นชิน
ถังหลี่ไม่ได้นั่งรถม้ากับพวกเขาต่อไป นางนั่งรถไปกับเว่ยฉิง เมื่อถึงจวน พวกเขาสองคนเดินเคียงข้างกันกลับไปยังจวนอู่โหวช้าๆ
“ภรรยา เมื่อคืนข้าฝันว่าเจ้าจะกลับมา วันนี้เจ้ากลับมาจริงๆ”
เขาพูดว่าฝันเมื่อคืน แต่แท้จริงแล้วเขาฝันเช่นนี้ทุกวัน หากพอตื่นมากลับไม่เห็นภรรยา เขารู้สึกถึงความว่างเปล่าภายในหัวใจของตน
เมื่อต้องไปทำงานที่กรมอาญาสีหน้าเขาไม่ดีเลย ผู้ใต้บังคับบัญชา เห็นว่าเจ้ากรมอาญาอารมณ์ไม่ดี พวกเขารู้สึกได้ถึงเมฆหนาทึบดำทะมึน ต่างพากันระวังตัวแจเป็นพิเศษ
แต่พวกเขาไม่ได้เห็นว่าในยามนี้ท่านเจ้ากรมอาญาที่หน้าตาบึ้งตึงเย็นชา กำลังกระทำตัวราวกับเป็นเด็กกอดภรรยาแน่น ออดอ้อนนางเยี่ยงทารกน้อย
“ภรรยา..ข้าคิดถึงเจ้ามาก เจ้าคิดถึงข้าบ้างหรือไม่?” เว่ยฉิงกระซิบถาม
“แน่นอน ข้าย่อมคิดถึงท่าน”
“ข้าเป็นห่วงเจ้ามาก ภาวนาให้เจ้ากลับมาอย่างปลอดภัย”
“ข้าเป็นปลาหลี่นำโชคนะ ข้าเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นดีได้ ข้าจะเจอเรื่องเลวร้ายได้อย่างไร”
“ข้ารู้…แต่ก็อดไม่ได้นี่นะ” เขาฝังหน้าแนบกับลำคอของภรรยา ทั้งคู่ป้อนคำหวานใส่กันโดยไม่คิดจะกินข้าวปลาแต่อย่างใด
……
จวนอู่โหว…
ถังหลี่ส่งจดหมายของหมอซูให้ฮูหยินซู จากนั้นจึงได้ลุกไปเพื่ออาบน้ำ
“ภรรยา..ข้าอาบน้ำให้เจ้านะ” เว่ยฉิงเสนอ เขาแค่อยากทำตัวติดกับภรรยาของเขา เพื่อไม่ให้นางทิ้งเขาไปไหนแม้แต่ครู่เดียวก็ไม่ได้!
เว่ยฉิงพูดว่าเขาจะช่วยนางอาบน้ำ แน่นอนว่าเขาย่อมรักษาสัญญาไม่ทำสิ่งใดเกินเลยมากไปกว่านั้น ภรรยาของเขาเหนื่อยล้ามากแล้ว เขาทนไม่ได้ที่จะเห็นนางต้องเหน็ดเหนื่อยไปมากกว่านี้
ถังหลี่อาบน้ำเปลี่ยนเสื้อผ้าดีแล้วจึงได้เปลี่ยนไปดูลูกฝาแฝดทั้งสองคน ทารกทั้งคู่เพิ่งจะกินนมเสร็จ ถังเป่าเปากำลังนอนอย่างเกียจคร้าน ในขณะที่มู่เป่าเปากำลังคลานไปมาอยู่บนเตียงอย่างกระฉับกระเฉง เมื่อเห็นถังหลี่เข้ามา ถังเป่าเปารีบพุ่งตัวเข้าหามารดา ถังหลี่อุ้มร่างน้อยๆ ของบุตรสาวขึ้นมากอด มู่เป่าเปาคลานเข้าไปคว้าชายเสื้อของมารดา นางอุ้มเขาขึ้นมาชั่งน้ำหนักเด็กน้อย
“มู่เป่าเปา อ้วนขึ้นอีกแล้วนะ” ฝาแฝดทั้งสองเกาะติดมารดาแน่น พวกเขาไม่พลาดที่จะจุมจิตมารดาของเขา ถังหลี่มีความสุขมาก นางฝังศีรษะลงที่ซอกคอของถังเป่าเปา สูดลมหายใจเข้าลึกๆ จนได้กลิ่นนมโชยเข้าจมูก
“ตอนเย็น คุณหนูถังจะตามหาฮูหยินไปทุกที่ พอหามารดาไม่เจอก็ร้องไห้เพราะคิดถึงเจ้าค่ะ” พี่เลี้ยงเอ่ยขึ้น
ถังหลี่แปลกใจ หากจะบอกว่าเป็นมู่เป่าเปานางก็พอจะเข้าใจได้ แต่นี่กลับเป็นถังเป่าเปา ยามปกตินางจะเป็นเด็กไว้ตัว ไม่อ้อนใครง่ายๆ ถึงกับร้องไห้หามารดาเหมือนเด็กน้อยผู้หนึ่ง
ถังหลี่รู้สึกอิ่มเอมใจ อดไม่ได้ที่จะก้มลงจุมพิตบุตรสาวอีกครั้ง
มู่เป่าเปารีบยื่นหน้าเข้ามาใกล้มารดา เขากะพริบดวงตากลมโตอย่างมุ่งมั่นเพื่อให้มารดาจุมพิตเขาเช่นกัน ถังหลี่จูบมู่เป่าเปาสองครั้งติดๆ กัน เด็กน้อยทั้งสองยังเกาะติดมารดาไม่ปล่อย ในตอนแรกเว่ยฉิงยังมองไปที่ภรรยาและลูกน้อยของเขาทั้งสองคนด้วยหัวใจที่เปี่ยมไปด้วยความสุข แต่แล้วความไม่พอใจกลับตามมา
เด็กน้อยสองคนนี้ยังส่งเสียงดังเรียกร้องความสนใจกับมารดาไม่พออีกหรือ?
เอาภรรยาเขาคืนมานะ! ถ้าเป็นคนอื่น เขาคงจะฉกตัวภรรยารีบหนีไปแล้ว แต่นี่เป็นเด็กน้อยที่เกิดจากภรรยาเขาเอง เว่ยฉิงจึงได้แต่อดทนเข้าไว้
หลังจากให้ทารกทั้งสองเล่นกับมารดาจนเต็มอิ่มแล้ว เขาก็จูงมือของถังหลี่ออกจากห้องไป พวกเขาเห็นซานเป่าเดินมาแต่ไกล นางใส่ชุดสีแดง ใบหน้าเต็มไปด้วยรอยยิ้มอย่างมีความสุข พอเห็นบิดามารดา นางก็รีบสาวเท้าเข้ามาหาอย่างเร็ว
“ท่านแม่..” ซานเป่าร้องเรียก ถังหลี่มีความสุขมากที่ได้เห็นเด็กหญิง นางเอื้อมมือไปกอดซานเป่าตัวน้อยที่นุ่มนิ่มเข้ามาในอ้อมแขนของตน
“ท่านแม่ ข้าคิดถึงท่านแม่เหลือเกินเจ้าค่ะ คืนนี้ข้านอนกับท่านได้หรือไม่?” ซานเป่ากอดคอมารดาแน่น นางหลิ่วตา พูดอย่างยั่วเย้า
เว่ยฉิงได้ฟังก็เหมือนฟ้าผ่าเข้ากลางตัว เขาอยากจะนอนกับภรรยาของเขา!
นี่ไง..ข้อเสียของการมีบุตรมากเกินไป!
แต่ทั้งมู่เป่า ถังเป่าและซานเป่าต่างเป็นบุตรของเขาด้วยกันทุกคน เขาจะมาแบ่งแยกคงเป็นไม่ได้ ซานเป่าเห็นท่าทางตกอกตกใจของบิดา นางผุดจึงรอยยิ้มร้ายกาจขึ้นที่ใบหน้า ถังหลี่รู้ว่าซานเป่าคิดแกล้งบิดา นางจึงบีบปลายจมูกที่เชิดขึ้นของบุตรสาว
“เจ้าวายร้ายตัวน้อย” ซานเป่ากระซิบกับมารดาเบาๆ
“ท่านพ่อช่างโง่เขลานัก” ถังหลี่มองสามี เขาหลบตานางแล้วยิ้มทำท่าราวกับเป็นสุนัขตัวใหญ่
ช่างโง่จริง!
“ช่างเถอะๆ ข้าโตแล้ว นอนคนเดียวดีกว่า” ซานเป่าเอ่ย และเห็นบิดาลอบทำท่ายินดี เมื่อเห็นว่ามารดาเหนื่อยล้า ซานเป่าจึงคุยแต่เพียงชั่วครู่จากนั้นจึงขอให้มารดาพักผ่อน
ถังหลี่และเว่ยฉิงกลับไปยังห้องของตน ถังหลี่เหนื่อยมาก นางล้มตัวลงบนเตียงแล้วผล็อยหลับไปทันที
ถังหลี่ตื่นขึ้นมาภายใต้แสงจันทร์ นางเห็นสามีตะแคงตัวเท้าคาง ปล่อยผมยาวสยาย ท่าทางเย้ายวนใจ กำลังมองตนเอง
เมื่อเห็นถังหลี่ลืมตาขึ้นมา เว่ยฉิงกระเถิบเข้าไปใกล้ โน้มตัวลงขโมยจูบที่แก้มนาง
“ข้าหลับไปนานเพียงใด” ถังหลี่ถามเสียงแหบพร่า
“เกือบชั่วยาม”
“เสี่ยวต้วนกับคุณชายสี่สกุลเหยียนอยู่ที่ไหนหรือ?” ถังหลี่ถามต่อ
“ทุกอย่างเรียบร้อยดี เหยียนเสี่ยวต้วนคุ้นเคยกับจวนอู่โหวมากกว่าข้าเสียอีก “ เว่ยฉิงพูดด้วยรอยยิ้ม
“จู่ๆ เจ้าเด็กเหลือขอผู้นี้ก็กลับกลายเป็นนายน้อยสกุลเหยียนไปในพริบตา”
“เขาเป็นเด็กที่มีแต่คนคอยเอาอกเอาใจ”
“ใช่ เหมือนกับที่ข้าคาดเดาเอาไว้ ภรรยา เจ้าเป็นอย่างไรบ้างที่จวนสกุลเหยียน”
ถังหลี่อธิบายให้ฟังสั้นๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นในสกุลเหยียน ทว่าเว่ยฉิงก็สำเหนียกได้ถึงอันตรายที่ภรรยาได้เผชิญมา แม้ว่าภรรยาเขาได้กลับมาแล้วแต่เขายังหวั่นใจไม่หาย เขาคว้าเอวนางไว้ จูบที่หน้าผาก แก้มและคางของถังหลี่เขาอยากจะจูบนางทั้งตัวเพื่อให้แน่ใจว่านางปลอดภัยดี ถังหลี่จั๊กกะจี้ นางผลักเขาออกไปพร้อมกับยิ้ม
“อย่าสร้างปัญหา” เว่ยฉิงซบหน้าลงที่คอของภรรยาอย่างสงบเสงี่ยม
“ภรรยา คงจะดีมากหากข้าไปกับเจ้าด้วย..” เว่ยฉิงพูดอย่างไม่พอใจ เขาไม่อยากแคล้วคลาดพลัดพรากจากนาง มีแต่อยากจะร่วมทุกข์ร่วมสุขไปกับภรรยาเสมอ
“พวกเรามีเรื่องของตนเองที่ต้องทำไม่ใช่หรือ? เจ้าต้องดูแลลูกแฝด แล้วไหนยังจะจ้าวชูอีก ..” เมื่อพูดถึงจ้าวชูแล้วใบหน้าของถังหลี่จริงจังขึ้นมาในทันที
“เขาสร้างปัญหาหรือไม่?”
“จ้าวชูกำลังยุ่งวุ่นวายอยู่กับการผลิตอาวุธปืน ตอนนี้มีแต่ผู้คนเข้าหาจวนรุ่ยอ๋อง ข้าไม่รู้ว่าปืนใหม่ที่ว่านี่จะใช้ได้หรือไม่? หรือว่าเขาแค่โม้ไปเช่นนั้น” เว่ยฉิงเยาะหยัน เขาคิดถึงท่าทางลำพองใจของจ้าวชูแล้วอดจะรำคาญไม่ได้
“เสี่ยวต้วนและคุณชายสี่สกุลเหยียนอยู่ที่นี่แล้ว เหยียนโจวกำลังจะสิ้นชื่อ ความภาคภูมิใจของจ้าวชูกำลังจะจบสิ้นลง” ถังหลี่พูดด้วยรอยยิ้ม
“ผลักให้ตกจากที่สูงแล้วฆ่าเสีย!” เว่ยฉิงแทบจะทนรอไม่ไหวที่จะได้เห็นฉากนี้