ตอนที่ 634 ลองปืนใหม่
จวนรับรอง
ในช่วงเวลานี้ เหยียนเสี่ยวต้วนและคุณชายสี่ ได้รับการดูแลประหนึ่งแขกผู้มีเกียรติ เขาแทบไม่ได้ไปยังจวนอู่โหวอีกเลย เพราะรู้ว่ามีผู้คนหลายคนพากันจ้องมองเขาอยู่ ถ้าทุกคนรู้ว่าเขามีความสัมพันธ์ที่ดีกับเหล่าถังแล้วล่ะก็ พวกเขาคงจะไปสร้างความรำคาญใจให้กับเหล่าถังเป็นแน่ และพวกเขาคงจะสืบรู้ได้ว่าเหยียนเสี่ยวต้วนเคยเป็นบ่าวรับใช้ในจวนอู่โหวมาก่อน เหยียนเสี่ยวต้วนจึงได้แต่เพียงรักษาระยะห่างของตนกับเหล่าถัง
คุณชายสี่สกุลเหยียนเป็นคนที่เอาใจใส่และเป็นคนดี เขาชอบออกไปเที่ยวเตร่ เขาอยากเห็นความงามของต้าโจว และทุกครั้งเหยียนเสี่ยวต้วนจะไปกับเขาด้วยเสมอเนื่องจากไม่มีอะไรทำ เขาจึงได้คอยเฝ้าดูท่านอาสี่ของเขาเกี้ยวสาวงาม
ยามที่คุณชายสี่สกุลเหยียนได้เห็นหอโคมเขียวสองสามแห่ง เขารู้สึกอยากเข้าไปเที่ยวเล่น แต่ถูกผู้เป็นหลานคว้ามือของเขาไว้ทุกครั้ง ทำให้คุณชายสี่ไม่ได้มีโอกาสแม้แต่จะสัมผัสมือเล็กบอบบางของสาวงามเหล่านั้นเลย ดังนั้นเมื่อสาวงามถูกส่งมายืนเรียงแถวหน้ากระดานอยู่ตรงหน้า เขาจึงได้แต่เบิกตาจ้องมอง
“สุราดีย่อมคู่กับสาวงาม รุ่ยอ๋องเกรงว่างานเลี้ยงจะน่าเบื่อเกินไปสำหรับคุณชายสี่ เขาจึงนำสาวงามและสุราชั้นเลิศมามอบให้ท่าน หวังว่าคุณชายสี่จะยอมรับด้วยความเต็มใจ” พ่อบ้านประจำจวนอ๋องเป็นผู้ที่นำสาวงามและสุรามามอบให้ เขาพูดพลางยิ้มประจบสอพลอ
สาวงามห้าคนที่ยืนเรียงอยู่ตรงหน้าแต่ละคนมีทั้งข้อดีและข้อด้อยแตกต่างกันไป มีทั้งคนที่ดูไร้เดียงสา น่ารัก ทั้งคนสง่างามและเย้ายวน บางคนเอวบางเล็กน่าทนุถนอมยิ่งนัก เขาแทบจะจินตนาการได้ถึงคนงามในอ้อมกอดของตนเลยด้วยซ้ำ พ่อบ้านคอยสังเกตท่าทางของเขาตลอด เมื่อเห็นแววตาพึงพอใจของเขาจึงพูดด้วยรอยยิ้มว่า
“คุณชายสี่สกุลเหยียน ท่านชอบหรือไม่?”
คุณชายสี่กำลังจะอ้าปากตอบ..พลันมีเสียงดังขึ้น
“เขาไม่ชอบ!” เป็นเสียงของเหยียนเสี่ยวต้วนนั่นเอง เขาเดินตรงมาหาท่านอา จากนั้นจึงได้ยืนบังสาวงามเอาไว้จากสายตาของคุณชายสี่
“ท่านอาสี่ของข้า เขาไม่ชอบสนิทสนมกับหญิงสาว ความปรารถนาดีของท่านอ๋องพวกข้าได้รับรู้แล้วและรู้สึกซาบซึ้งในน้ำพระทัยเป็นอย่างมาก ขอให้ส่งพวกนางกลับไปเถอะ” เหยียนเสี่ยวต้วนตัดบท
“คุณชายสี่…” พ่อบ้านยังไม่ยอมแพ้ เขาเดินวนไปรอบๆ เพื่อดูปฏิกริยาของคุณชายสี่ เหยียนเสี่ยวต้วนหันไปยิ้มให้ท่านอาอย่างคุกคาม
“ท่านอาสี่! ท่านไม่ชอบสาวงามเหล่านี้ใช่หรือไม่?” คุณชายสี่ได้แต่พยักหน้าอย่างไม่เต็มใจ
“อืม..ข้าไม่ชอบ” พ่อบ้านจึงได้พาสาวงามกลับไป
“ท่านอาสี่ จ้าวชูจะติดสินบนท่าน ท่านกล้าดีอย่างไรจึงได้ยอมรับ?” เขาพูดด้วยความโกรธ เขาเข้าใจแล้วว่าเหตุใดท่านพ่อถึงได้ต้องการตอนท่านอาสี่หลายต่อหลายครั้ง คนผู้นี้เห็นสาวงามแล้วเกิดอาการเข่าอ่อนจนเดินต่อไปไม่ได้ด้วยซ้ำ!
“ที่จริงข้าแค่อยากรู้แผนของเขาเท่านั้น ข้าจะจัดการทุกอย่างให้ยุติธรรมอย่างแน่นอน” เขาอธิบายแก้ต่าง
“พอเข้าหอเหวินโหรวไปแล้ว ท่านก็ลืมที่ตนเองพูดเอาไว้” เหยียนเสี่ยวต้วนฉุน
“เจ้าเห็นท่านอาสี่ของเจ้าเป็นคนเหลวไหลนักหรือ?”
“ใช่!”
คุณชายสี่สกุลเหยียน “…..”
“หลานชาย..ในเมื่อเจ้าไล่สาวงามไปแล้วก็ไม่ต้องกังวลอะไร”
คุณชายสี่พูดพลางเอามือบีบหน้าหลานชายของตน หลังจากนั้นเขาจึงเดินเล่นไปรอบๆ ลาน แล้วเดินกลับเรือนเพื่อเตรียมตัวเข้านอน เมื่อเปิดประตูเข้าไปในห้อง กลิ่นหอมหวานโชยเข้ามาในจมูก ทำให้รู้สึกเวียนหัว เขาเดินเข้าไปที่หลังฉาก พบคนงามผู้หนึ่งนอนอยู่บนเตียงของตนเอง เป็นหญิงสาวผมดำยาวสลวย ดวงตาเมล็ดซิ่งดูงดงาม ผิวขาว เครื่องหน้าสมบูรณ์แบบ นางมองเขาพลางขยิบตาให้ ! แขนเรียวขาวยื่นออกมาจากผ้าห่ม ราวกับไร้อาภรณ์สวมใส่ ทำให้จินตนาการได้ถึงความงามภายใต้ผ้าผืนนั้น คุณชายสี่กลืนน้ำลายที่ออกมาแทบจะล้นปาก แต่เมื่อนึกถึงหลานชายตัวน้อยของเขา ความมุ่งมั่นใจแข็งก็บังเกิดขึ้น เป็นไปได้ว่ามีคนส่งสาวงามมาเป็นบรรณาการให้เขาถึงในห้องนอน เรียกได้ว่ารับของผู้อื่นแล้วมืออ่อน ต่อไปย่อมกลายเป็นว่าไม่กล้าปฏิเสธคำขอร้องหรือไม่เช่นนั้นอาจจะต้องช่วยเขาทำงานอีกด้วย !
อดทน! ต้องอดทนเข้าไว้
ฝีเท้าของเขาชะงักหยุดลง แต่กลิ่นของเครื่องหอมที่ถูกจุดขึ้นมาได้ถูกเขาสูดดมเข้าไปบางส่วนแล้ว ทำให้หัวใจของเขาเต้นเร็วขึ้น วิงเวียนศีรษะ เขาเดินตรงไปหาคนงามอย่างห้ามตนเองไม่อยู่ คุณชายสี่นั่งลงที่ข้างเตียง สาวงามเอนกายเข้ามาหา ร่างกายของนางอ่อนนุ่ม
“คุณชาย..” นางเอ่ยเสียงแผ่วหวาน คุณชายสี่สกุลเหยียนมองคนงามในอ้อมแขนของตน ทันใดนั้นเขารู้สึกถึงใบหน้าของสาวงามเปลี่ยนไปจากดวงตาเมล็ดซิ่งกลายเป็นดวงตาดอกท้อ ดั้งจมูกโด่งขึ้น ริมฝีปากบางลง กลายเป็นใบหน้าที่โดดเด่นสวยงามจนยากที่จะลืม! แต่นั่นกลับทำให้หลังเขาชาวาบ จนอยากจะยกผ้าห่มขึ้น
แต่แล้วหลังของคุณชายสี่พลันแข็งทื่อ เมื่อหวนคิดถึงสิ่งที่อยู่ใต้ผ้าห่มนั้น หากเขายกผ้าห่มขึ้น สิ่งที่เขาเห็นจะเป็น…
เขาเด้งตัวออกไปราวกับแมวที่ตกใจจนกระโดดตัวลอย หนีออกไปข้างนอกห้องทันที
คุณชายสี่วิ่งออกไปข้างนอก เผอิญสะดุดชนเข้ากับคนผู้หนึ่ง
“ท่านอาสี่! ท่านเป็นอะไรไปหรือ?” เหยียนเสี่ยวต้วนจับแขนเขาเอาไว้
“เป่ยเหยียน..เป่ยเหยียน..” เขาชี้มือไปที่ห้องของตน เป่ยเหยียนอยู่ในห้องของเขารีบพาเขาออกไป! สมองของเขามึนงง ทิศทางที่เขาชี้ไปส่งๆ ไม่ใช่ห้องของเขาแต่กลับกลายเป็นทิศของประตู เหยียนเสี่ยวต้วนชะงัก ใบหน้าของอาสี่แดงก่ำดูผิดปกติ เขามีไข้หรือ? เขาเป็นอะไรไป? ท่านอาสี่ยังคงคิดถึงเป่ยเหยียน…?
ตอนที่เขาเป็นไข้และหมดสติไป คิดว่าอาสี่และเป่ยเหยียนจะทะเลาะจนตัดความสัมพันธ์กันไปแล้ว ไม่คิดว่าเลยว่าท่านอาสี่จะชอบเป่ยเหยียนมาก จนอดคิดถึงเขาไม่ได้ …
พี่น้องบางคนก็เป็นเช่นนี้ ดูผิวเผินเหมือนว่าพวกเขาไม่ชอบหน้ากัน แต่แท้จริงแล้วพวกเขามีความสัมพันธ์ที่ดีแต่ก็พร้อมที่จะคอยทิ่มแทงกันทั้งสองฝ่าย!
เหยียนเสี่ยวต้วนผู้ถูกขังอยู่นานในห้องคุมขัง ไม่ได้รู้เรื่องความขุ่นข้องเคืองใจระหว่างท่านอาสี่กับเป่ยเหยียนเลย เขาจึงบังเกิดความคิดบางอย่างขึ้น
“ไปเรียกเป่ยเหยียนมา” เขาสั่งบ่าวรับใช้
เมื่อคุณชายสี่ตื่นขึ้นมาแล้วเห็นเป่ยเหยียนยืนมองดูเขาด้วยสีหน้ากึ่งยิ้มกึ่งไม่ยิ้ม ดวงตาเขาถึงกับเบิกกว้างในทันที
“ไสหัวไป!”
………
ในที่สุดสิบวันก็ผ่านไปอย่างรวดเร็ว ในวันนี้ฮ่องเต้แห่งต้าโจว เสด็จออกจากวังไปที่กองอาวุธปืนในเมืองเหว่ยฝู
เหยียนเสี่ยวต้วนและคุณชายสี่ก็รีบไปเช่นกัน โดยมีถังหลี่และเว่ยฉิงรอฟังข่าวอย่างกระวนกระวายใจ
ปืนใหญ่ได้ถูกเข็นออกมาบริเวณพื้นที่เปิดโล่ง เหยียนโจวและช่างฝีมือหลายคนยืนอยู่รอบๆ ปืนใหญ่ สีหน้าของพวกเขาเต็มไปด้วยความวิตกกังวล
ต้องขอบคุณในความพยายามของพวกเขา เมื่อวานนี้ปืนใหญ่ยิงกระสุนได้สำเร็จ เต็มไปด้วยอานุภาพ แต่พวกเขาไม่มีความแน่ใจว่าในการทดลองยิงครั้งต่อไปจะประสบความสำเร็จอีกหรือไม่
ฮ่องเต้โจว จ้าวชู เหยียนเสี่ยวต้วน และคุณชายสี่ รวมตัวกันมายังพื้นที่เปิดโล่งกว้างแห่งนี้
จ้าวชูพูดขึ้นว่า “นายท่านเหยียน ท่านทำงานหนักแล้ว” เหยียนโจวใบหน้าซีดเซียว แรงของเขาแทบจะสูญสิ้นไปหมดแล้ว!
แต่กระนั้นเขายังมีรอยยิ้มบนใบหน้า
“ตอนนี้ปืนใหญ่ได้สร้างสำเร็จลุล่วงไปด้วยดีแล้ว การทำงานหนักย่อมได้รับผลตอบแทนที่ดี นับว่าเป็นคุ้มค่ากับการที่ได้ทุ่มเทความเหนื่อยยากลงไป”
มีช่างฝีมือที่ยืนอยู่ข้างๆ บางคนทำสีหน้าไม่พอใจ นายท่านเหยียนไม่ได้ช่วยอะไร เห็นๆ กันอยู่ว่าเป็นความพยายามของพวกเขาแทบทั้งนั้น แต่เขากลับรับความดีความชอบแต่เพียงผู้เดียว
“เอาล่ะ อย่าเพิ่งพูดให้ใหญ่โตมากนัก ทดลองให้เห็นก่อนเถอะ” เหยียนเสี่ยวต้วนขัดขึ้น
ฮ่องเต้โจวผงกพระเศียร ทุกคนต่างพากันถอยห่างออกไป เหยียนโจวและช่างฝีมือเริ่มดำเนินการ ผู้คนต่างพากันจ้องมองไปที่ปืนใหญ่ พวกเขาเห็นควันพุ่งออกมาจากปากกระบอกปืน กระสุนปืนกำลังจะพุ่งตามออกมา ทุกคนกลั้นหายใจ แต่กลับไม่มีกระสุนปืนออกมาแต่อย่างใด
ทันใดนั้นกลับมีเสียงดังโครม! ปืนใหญ่ทั้งกระบอกแตกเป็นเสี่ยง !
เหยียนโจวที่อยู่ใกล้สุดปลิวกระเด็นไปไกล ใบหน้าของจ้าวชูแข็งทื่อไปในทันที!