บทที่ 9 จิ้งจอกอสูร
บทที่ 9 จิ้งจอกอสูร
ด้วยความตื่นเต้นยินดีในหัวใจ อู๋ฝานไปยังบ้านของ ‘ผู้เฒ่าหลี่’
“ปู่หลี่ ผมมาแล้ว มีอะไรให้ผมช่วยบ้างไหม?” อู๋ฝานเคาะประตูด้วยความกระตือรือร้น หัวหน้าหมู่บ้านเฒ่าชราเรียกหาอีกฝ่ายเป็นตาแก่หลี่ แต่อู๋ฝานไม่กล้าที่จะเรียกแบบนั้น
“เจ้าเองหรือ? เข้าใจแล้ว ป้าใหญ่หวังบอกว่าเจ้าเป็นเด็กจิตใจโอบอ้อมอารี” อาจารย์ปรุงยาหลี่ยิ้มทักทายอู๋ฝาน “บังเอิญว่าข้าต้องการให้เจ้าช่วยอะไรอยู่พอดี”
ดูเหมือนว่าการเป็นคนดีจะได้รับรางวัลตอบแทนที่ดี เมื่อวานนี้ที่ช่วยป้าใหญ่หวังจับพวกไก่ แม้ว่าสุดท้ายได้ไก่มาชามหนึ่งเป็นรางวัล แต่ชื่อเสียงความดีงามก็ได้ป้าใหญ่อู๋ช่วยขยับขยายแก่คนในหมู่บ้านให้เกิดความถือ นับได้ว่าเป็นอีกหนึ่งรางวัลอันดีงาม
“ถ้าต้องการอะไร ก็บอกผมมาได้เลย” อู๋ฝานตบหน้าอกตนเองเป็นการตอบรับ
อย่างไรแล้วที่นี่ก็เป็นหมู่บ้านมือใหม่ ภารกิจย่อมไม่ใช่ยากจนเกินไป ดังนั้นอู๋ฝานจึงแทบไม่ต้องกังวลว่าตนเองจะไม่อาจทำสำเร็จ
“เรื่องมันเป็นแบบนี้ ข้ากำลังศึกษาค้นคว้ายาห้ามเลือดตัวใหม่ขึ้นมา ทำให้ยังขาดสมุนไพรบางชนิด ข้าก็แก่แล้ว ขาแข้งก็ไม่ดีเหมือนเคย ดังนั้นเลยต้องการคนมาช่วยเก็บรวบรวมสมุนไพร สมุนไพรที่ต้องการก็อยู่ตรงป่าทางด้านโน้น” อาจารย์ปรุงยาหลี่บอก
“ไว้ใจผมได้เลย จะไปเก็บสมุนไพรพวกนั้นมาให้เอง” อู๋ฝานตอบรับโดยไม่ลังเล
“งั้นก็คงต้องรบกวนด้วยแล้ว ช่างเป็นเด็กจิตใจโอบอ้อมเหมือนที่ป้าใหญ่หวังบอกเสียจริง” อาจารย์ปรุงยาหลี่รับคำพร้อมมองอู๋ฝานด้วยความโล่งอก
“มีเรื่องหนึ่ง” อู๋ฝานเอ่ยคำขึ้น ถัดจากนั้นจึงเผยสีหน้าของความสงสัยเอ่ยคำออก “ผมไม่รู้เรื่องสมุนไพรสักเท่าไหร่ กลัวว่าจะจำแนกสมุนไพรที่คุณกำลังหาไม่ได้”
“ก็จริง แม้ว่าสมุนไพรพวกนั้นไม่ใช่ของหายากอะไร แต่คนที่ไม่รู้ก็ไม่อาจหาพวกมันได้” อาจารย์หลี่กล่าว “ก็ได้ งั้นข้าจะสอนวิชาจำแนกยาให้เจ้า เช่นนี้เจ้าจะได้รู้จักสมุนไพรทำยาพวกนั้น”
อีกหนึ่งทักษะ!
อู๋ฝานพลันนึกยินดี แม้ว่าเป็นเพียงการจำแนกยา มันไม่คล้ายว่าจะได้ใช้อะไรมากมายนัก แต่การมีทักษะที่มากขึ้นแม้เพียงหนึ่งย่อมเป็นเรื่องดีกว่า ดีกว่าตอนต้องการจะใช้แล้วไม่มี
ภายหลังเรียนรู้วิชาจำแนกยาจากอาจารย์ปรุงยาหลี่ อู๋ฝานจึงออกเดินทางพร้อมพลั่วขุดสมุนไพรในกระเป๋าหลัง มันเป็นอุปกรณ์ที่อาจารย์ปรุงยาหลี่เคยใช้ขุดสมุนไพร
ป่าที่เป็นจุดหมายอยู่ไม่ไกลจากหมู่บ้าน ที่นั่นมีสัตว์ป่าอยู่ไม่ใช่น้อย เนื่องจากถูกโลกอสูรเข้ารุกราน ทำให้สัตว์ป่ามากมายกลายเป็นสัตว์อสูรที่ดุร้าย ดังนั้นก่อนอู๋ฝานจะออกเดินทาง อาจารย์ปรุงยาหลี่จึงย้ำบอกให้อู๋ฝานระมัดระวัง หากว่าซ่อนตัวจากสัตว์อสูรได้ ก็จงซ่อนตัว แต่หากซ่อนไม่ได้ก็ให้รีบกลับ
อู๋ฝานภาวนาในใจว่าอย่าได้พบเจอสัตว์อสูรพวกนั้น กระต่ายอสูรยังคงฝากความประทับใจฝังลึกให้ แม้ว่าเป็นเพียงสัตว์อสูรระดับต่ำที่สุด แต่สำหรับอู๋ฝานมันไม่ใช่ภัยคุกคามอันเล็กจ้อย ใครกันสร้างสัตว์อสูรระดับนี้ขึ้นมา? ในฐานะมือใหม่ถอดด้าม เมื่อตัวเขาทำเพียงเดินเตร่สำรวจไปเรื่อย ไม่ได้พัฒนาด้านใด ตอนนี้ได้รับภารกิจที่อันตรายพอสมควรมา จึงทำอู๋ฝานเกิดรู้สึกนึกเสียดายที่เมื่อวานไม่ได้เพิ่มเลเวลตัวเอง
“เราคงไม่โชคร้ายขนาดนั้นมั้ง? ไม่น่าจะพบเจอหรอกมั้ง?” อู๋ฝานครุ่นคิดกับตัวเอง
กระนั้นแล้ว สิ่งที่กลัวมักเป็นจริง ไม่นานหลังอู๋ฝานเข้าป่า จึงได้เห็นสุนัขจิ้งจอกสองตัวที่กำลังขวางเส้นทางตรงหน้า จิ้งจอกทั้งสองพบเห็นอู๋ฝานในช่วงเวลาที่อู๋ฝานพบเห็นพวกมันเช่นเดียวกัน
อู๋ฝานส่งวิชาตรวจสอบออกไป ข้อมูลคุณลักษณะส่วนหนึ่งของสุนัขจิ้งจอกจึงปรากฏให้เห็นตรงหน้าสายตา
[จิ้งจอกอสูร : เลเวล 2]
[มอนสเตอร์ที่โจมตีก่อน มีความว่องไวสูง ป้องกันต่ำ ไม่มีทักษะ]
มันสวนทางกับที่อู๋ฝานนึกคิดเอาไว้ การตรวจสอบจิ้งจอกอสูร มันไม่ได้เผยคุณลักษณะที่เจาะจงใดให้เห็นแม้แต่น้อย ไม่แน่ใจว่ามันเป็นแบบนี้อยู่แล้ว หรือเป็นเพราะอู๋ฝานอ่อนแอกว่าคู่ต่อสู้กันแน่
แม้แบบนั้น อู๋ฝานในเวลานี้ก็ไม่มีเวลามากังวลเรื่องราวดังกล่าว เพราะจิ้งจอกอสูรทั้งสองพุ่งเข้ามาหาตัวเขาแล้ว อู๋ฝานย่อมได้เห็นถึงความว่องไวที่ข้อมูลเมื่อครู่กล่าวถึงกับตา
สองจิ้งจอกอสูรเคลื่อนที่รวดเร็ว วัชพืชและพุ่มไม้ในป่าไม่อาจส่งผลกระทบต่อความเร็วของพวกมัน พวกมันพุ่งเข้าหารวดเร็ว จนปรากฏตัวตรงหน้าอู๋ฝานในเพียงแค่ชั่วพริบตา
อู๋ฝานไม่กล้าหย่อนความระวัง มือต้องเร่งร้อนนำเอาพลั่วขุดสมุนไพรออกมา เพื่อใช้เป็นอาวุธ
พลั่วขุดสมุนไพรของหลี่ก่วงเต๋อ : ระดับทองแดง เป็นพลั่วขุดสมุนไพรที่หลี่ก่วงเต๋อเคยใช้งานเมื่อครั้งยังเป็นนักปรุงยาวัยหนุ่ม เพิ่มอัตราความสำเร็จการขุดสมุนไพร พลังโจมตี 3 ความว่องไว 1
ตอนแรกอู๋ฝานคิดว่าพลั่วขุดสมุนไพรสนิมเขรอะนี้อาจารย์ปรุงยาหลี่จะไปคุ้ยมาจากที่ไหนสักที่ เป็นแค่พลั่วขุดสมุนไพรธรรมดา หาได้นึกคิดไม่ว่าพลั่วขุดสมุนไพรจะไม่เพียงแค่ขุดสมุนไพร แต่ยังใช้งานเป็นอาวุธได้ เป็นอุปกรณ์ระดับทองแดง และยังเพิ่มทั้งพลังโจมตีและความว่องไว เรียกได้ว่าดีกว่าแท่งไม้ผุพังที่อู๋ฝานเคยใช้ก่อนหน้ามากมาย
โดยไม่มีเวลาให้ชื่นชม อู๋ฝานที่เพิ่งนำพลั่วขุดสมุนไพรออกมา สองจิ้งจอกอสูรก็มาถึงตรงหน้า หนึ่งกระโดดเข้าหาโจมตีอู๋ฝานทางด้านบน อีกหนึ่งโจมตีจากทางพื้นด้านล่าง มุ่งโจมตีไปยังขาของอู๋ฝาน พวกมันทั้งสองผสานกำลังร่วมมือกันเป็นอย่างดี
อู๋ฝานพบเห็นโอกาส จึงยกพลั่วขุดสมุนไพรขึ้น ตบมันเข้ากับจิ้งจอกอสูรกลางอากาศ แม้ความสามารถของจิ้งจอกอสูรค่อนข้างสูง แต่เมื่ออยู่กลางอากาศ มันจะไม่อาจเปลี่ยนทิศทางการเคลื่อนที่ ดังนั้นจึงถูกตบตีอย่างจัง อู๋ฝานยังลงพลั่วต่อเนื่อง จนได้ยินเพียงเสียง ‘ตึง’ สุดท้ายจิ้งจอกอสูรกระเด็นออกไปด้วยความเร็วยิ่งกว่าตอนมันพุ่งตัวเข้ามา อู๋ฝานจึงได้เห็นรอยเลือดบนพลั่วขุดสมุนไพร สันนิษฐานได้ว่าจิ้งจอกอสูรถูกพลั่วตบตาย
“อ๋า!”
อู๋ฝานไม่มีเวลาให้ดีใจ แม้ว่าจิ้งจอกอสูรตัวหนึ่งถูกตบเดี้ยงกลางอากาศไปแล้ว แต่อีกหนึ่งที่ขายังอยู่ กรงเล็บอันแหลมคมของมันฉีกกระชากกางเกงของอู๋ฝานได้ง่ายดาย ขณะเดียวกับที่ตัดกางเกงขาขวาของอู๋ฝาน มันก็ทิ้งรอยแผลปรากฏไว้บนขา
“ไปให้พ้นเลยไอ้เวร!” ความเจ็บปวดสมจริงทำเอาอู๋ฝานลืมเลือนว่าที่แห่งนี้คือโลกในเกม ภายหลังถูกจิ้งจอกอสูรเล่นงานบาดเจ็บ เขาจึงบังเกิดโทสะ เตะเข้าใส่ร่างจิ้งจอกอสูรอย่างแรง ร่างของมันกระเด็นออก ตอนนี้เองที่พลั่วส่งลงเข้าไปทิ่มยังหัวของจิ้งจอกอสูร สุดท้ายมันจึงกระทบพื้น กระตุกดิ้นอยู่สองครั้ง จนกระทั่งแน่นิ่งไป
ส่วนจิ้งจอกอสูรอีกตัวหนึ่ง ภายหลังถูกตบกลางอากาศ มันก็แน่นิ่งไร้การเคลื่อนไหวไปนาน สันนิษฐานว่าตายทันทีตั้งแต่โดนเล่นงาน
แม้อู๋ฝานเพียงเลเวลสอง อีกทั้งค่าสถานะไม่ได้สูงอะไรมากนัก ทว่าพลั่วขุดสมุนไพรได้ช่วยเพิ่มค่าพลังโจมตีถึงสามหน่วย จิ้งจอกอสูรที่เลเวลเพียงแค่สอง ก็พอจะเข้าใจได้หากว่าจะสังหารพวกมันได้ทันทีที่เล่นงานตรงศีรษะ
มันจึงทำอู๋ฝานเข้าใจโลกใบนี้ดียิ่งขึ้น แม้ว่าเป็นโลกในเกม แต่มันใกล้เคียงความจริงอย่างถึงที่สุด การโจมตีเล่นงานจุดตายเช่นศีรษะหรือหัวใจ มันย่อมสร้างความเสียหายได้สูงกว่าตำแหน่งอื่น หรืออาจกระทั่งเป็นการสังหารในพริบตาก็ทำได้
“หือ ร่างของจิ้งจอกอสูรนี่ไม่รีเฟรชงั้นเหรอ?” อู๋ฝานที่กำลังจะเดินจากไป พลันมองยังร่างจิ้งจอกอสูรที่ตายบนพื้นพร้อมกล่าวกับตนเองด้วยความประหลาดใจ