บทที่ 35 สายโทรที่ไม่คาดคิด
บทที่ 35 สายโทรที่ไม่คาดคิด
มันจบแล้ว!
คำพูดของช่างตีเหล็กซุนดับฝันกอบโกยผลกำไรก้อนโตของอู๋ฝาน!
ถ้ำในภูเขามีแร่จำนวนมาก คุณภาพก็ถือว่าดี เพียงแต่พวกมันเป็นแค่แร่ หากต้องการใช้ทำเงิน ก็ต้องนำพวกมันออกขาย ทว่าตอนนี้เกิดปัญหา นอกจากจะไม่สามารถหาทางอธิบายที่มาของแร่ แต่ยังยากที่จะหาคนรับซื้อแร่จำนวนมากอีกด้วย
ในชั่วระยะเวลาอันสั้น อู๋ฝานยังไม่จำเป็นต้องกังวลปัญหาเหล่านั้น อย่างไรแล้วช่างตีเหล็กซุนก็ยังพอมีความต้องการซื้ออยู่ แต่ในระยะยาว เขาจำเป็นต้องหาผู้ซื้อรายอื่น
ยามครุ่นคิดเรื่องนี้ อู๋ฝานนำเอาออบซิเดียนออกมาจากกระเป๋าหลังและส่งให้ช่างตีเหล็กซุนแล้วถามว่า “อาจารย์ ก้อนนี้ขายได้เท่าไหร่กันครับ?”
ยามอู๋ฝานนำก้อนแร่ออกมา ช่างตีเหล็กซุนหันขวับมองทันที หลังจากเห็นออบซิเดียน เขายิ่งแสดงท่าทีตื่นเต้นยิ่งกว่าเมื่อครู่ เขายื่นมือคว้ามาก่อนจะเอ่ย “ออบซิเดียนงั้นรึ? ออบซิเดียนจริงหรือนี่? ออบซิเดียนคุณภาพสูงเสียด้วย! ไม่เคยพบเห็นออบซิเดียนคุณภาพเช่นนี้มาหลายปีดีดักแล้ว! ข้าใช้มันสร้างอุปกรณ์ทองดำได้แน่ หรือจะเป็นอุปกรณ์ระดับตำนานก็ได้!”
ช่างตีเหล็กซุนมีท่าทีราวกับว่าออบซิเดียนก้อนนี้เป็นแร่ที่ดีของจริง เพียงแต่สิ่งที่อู๋ฝานกังวลในตอนนี้คือมันจะขายได้เท่าไหร่
“ข้าอยากได้แร่ก้อนนี้” ช่างตีเหล็กซุนกล่าวออกโดยไม่ลังเล “ข้าจ่ายให้ 300 เหรียญทอง เจ้าว่ายังไง?”
300?!
อู๋ฝานรู้สึกยินดี เขาคิดว่าขายได้สักหลายสิบเหรียญทองก็น่าพอใจมากแล้ว แต่หาได้คาดคิดไม่ว่าช่างตีเหล็กซุนจะเสนอราคาให้ถึง 300 เหรียญทอง
แร่เหล็กคุณภาพสูงได้ราคาแค่ 10 เหรียญทอง ขณะที่ออบซิเดียนคุณภาพสูงขายได้ 300 เหรียญทอง ช่างแตกต่างกันมาก!
ในถ้ำแห่งนั้น แม้ว่าออบซิเดียนจะเป็นแร่หายากและมีไม่มากเหมือนแร่เหล็ก ทว่ามันก็ไม่ได้หายากจนเกินไป
เรียบร้อย ถือว่ามีเงินไหลมาเทมาแล้ว!
หากต้องการคิดสร้างผลกำไรจริง ก็ต้องขายพวกมันไป
“ตกลงครับ ไม่มีปัญหา” อู๋ฝานตอบรับ เพราะอีกฝ่ายคือบุคคลหนึ่งเดียวในหมู่บ้านที่พร้อมจะรับซื้อแร่ แม้ว่าจะยังมีเถ้าแก่หลิวที่ร้านขายของชำรับซื้อนอกจากช่างตีเหล็กซุน แต่ราคาที่อีกฝ่ายเสนอไม่สูงเท่าที่ช่างตีเหล็กซุนเสนออย่างแน่นอน
“เจ้าพบแร่นี่ในเหมืองนั่นงั้นหรือ?” ช่างตีเหล็กซุนมองมายังอู๋ฝานพร้อมเอ่ยคำถาม
“ใช่ครับ” อู๋ฝานตอบรับ
“เจ้าคงจะเป็นคนโชคดีไม่น้อย” ช่างตีเหล็กซุนมองอู๋ฝานพร้อมพยักหน้ารับ “เจ้าได้รับแร่คุณภาพระดับนี้มา บางทีอาจพบแร่อื่นในป่าด้วยก็ได้ หากพบแร่อื่นเพียงเล็กน้อย เจ้าสามารถนำมาให้ข้าได้ ข้ายินดีรับซื้อ แต่หากว่ามีจำนวนมาก ทางที่ดีเจ้าควรไปยังเมืองรองหรือไม่ก็ไปเมืองหลักเพื่อขายพวกมัน ที่นั่นมีกำลังซื้อจำนวนมาก รวมถึงให้ราคาดีด้วย”
ช่างตีเหล็กซุนดูจะสงสัยที่มาของแร่ที่อู๋ฝานนำมา เพียงแต่เขาไม่คิดเปิดโปงอู๋ฝาน แต่เลือกที่จะช่วยโดยให้คำชี้แนะว่าควรนำแร่เหล่านี้ไปที่ใด
“รับทราบครับ ขอบคุณอาจารย์มากเลยครับ” อู๋ฝานกล่าวคำขอบคุณ ปัจจุบันตัวเขายังเลเวลต่ำเตี้ย ยังไม่มีแผนคิดไปจากที่นี่ในเร็ว ๆ นี้ ยิ่งไปกว่านั้น ตัวเขายังมีแผนเพาะปลูกที่ด้านหลังของภูเขา เขาเพิ่งจะเริ่มลงมือได้ไม่นาน ดังนั้นในช่วงเวลานี้ เขาจึงยังไม่คิดไปจากที่นี่อย่างแน่นอน แผนขายแร่คงต้องหยุดลงก่อนเป็นการชั่วคราว
ช่างตีเหล็กซุนพยักหน้ารับ “ตกลงตามนั้น ถือว่าข้าบอกเรื่องที่ควรทราบแล้ว ตรงมุมนั้นมีกระบี่อยู่หลายเล่ม เจ้าเลือกกระบี่สักเล่มที่ชอบไปสักเล่มแล้วกัน อาจารย์คนนี้ขอมอบให้แก่เจ้า”
เมื่อครู่อู๋ฝานเข้าไปดูกระบี่ยาวเหล่านั้นด้วยความอยากได้ มีหรือช่างตีเหล็กซุนจะไม่เห็น
“ขอบคุณอาจารย์มากครับ!” อู๋ฝานตอบรับด้วยความยินดี
หากต้องการให้คนงานทำงานด้วยดี ก็ต้องหาเครื่องไม้เครื่องมือที่เหมาะสม กระบี่ยาวในมือเล่มนี้คงช่วยให้เขาสังหารมอนสเตอร์ในป่าได้ง่ายมากขึ้น
ก่อนหน้านี้เขาต้องใช้เวลาอยู่นานกว่าจะขุดโพรงได้ ทันทีที่อู๋ฝานออกจากร้านของช่างตีเหล็กซุน เขาก็เทเลพอร์ตกลับไปยังโลกแห่งความจริง
แม้ว่าไม่อาจขายแร่จำนวนมากให้แก่ช่างตีเหล็กซุน แต่อู๋ฝานก็พึงพอใจกับผลลัพธ์ที่ได้จากร้านตีเหล็ก
แร่ทั้งหลายที่อยู่ด้านหลังของภูเขาไม่วิ่งหนีหายไปไหน ต่อให้ยังขายไม่ได้ในตอนนี้ แต่การเก็บเอาไว้ก่อนก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ช่องทางทำเงินอีกทางก็คงต้องเป็นจากหัวหน้าหมู่บ้าน คงต้องออกไปล่าพวกมอนสเตอร์ในป่าเสียแล้ว” อู๋ฝานครุ่นคิดกับตัวเอง
มันเป็นหนทางหาเงินที่ปลอดภัยโดยไม่มีใครเกิดความสงสัย อีกทั้งยังสามารถชำแหละร่างของมอนสเตอร์ขายโดยไม่ต้องกังวลเรื่องกำลังซื้อแต่อย่างใด
อู๋ฝานเพิ่งได้รับอาวุธชั้นดีมาชิ้นหนึ่ง การจะฆ่ามอนสเตอร์ในป่าย่อมเป็นเรื่องง่ายมากขึ้น
หลังจากหลับไปสักพัก อู๋ฝานจึงลุกขึ้นมาเตรียมไปออกกำลังกาย แต่ก่อนจะออกกำลังกาย เขาได้รับสายโทรเข้าที่ชวนให้ต้องประหลาดใจ บุคคลที่โทรหาเขาเป็นชายวัยกลางคนจากเมื่อวาน
[คุณอู๋ฝานใช่ไหมครับ? หลังหารือกันแล้ว เราตัดสินใจจ้างคุณเป็นอาจารย์พละของสถาบันเรา ถ้ามีเวลาเมื่อไหร่ก็มาพบได้นะครับ ทำตามพิธีหน่อยคงไม่เป็นไรใช่ไหมครับ?] เสียงของชายวัยกลางคนดังมาจากปลายสาย
เร็วขนาดนี้เชียว?
ตอนแรกอู๋ฝานคิดว่าเรื่องราวไม่น่าจะเป็นแบบนี้ เพราะคิดว่าชายวัยกลางคนล้อเล่นไปเรื่อย อีกอย่าง ตัวเขาก็ไม่มีคุณสมบัติและประสบการณ์ด้านการเป็นครู การเป็นครูโรงเรียนประถมไม่ใช่เรื่องง่าย ยิ่งกับนักศึกษามหาวิทยาลัยยิ่งแล้วใหญ่ อีกทั้งยังเป็นถึงอาจารย์ของมหาวิทยาลัยติดอันดับหนึ่งในห้าของประเทศ มันจึงยิ่งเป็นไปไม่ได้
แต่ตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น? ทำไมเรื่องราวราบรื่นเช่นนี้ เรียกได้ว่าเร็วมากด้วยซ้ำ
หรือว่าชายวัยกลางคนยังคงล้อเล่นไม่เลิก?
“ผมอยู่ที่สถาบันอยู่แล้ว พร้อมไปทุกเมื่อครับ” อู๋ฝานตัดสินใจลองไปดูก่อนแล้วค่อยว่ากัน
[ตกลงตามนั้นครับ มาที่อาคารของอาจารย์ได้เลยครับ ผมจะรอที่ออฟฟิศนะครับ] ชายวัยกลางคนกล่าวตอบกลับมา
อู๋ฝานไม่คิดมาก่อนว่าอีกฝ่ายจะติดต่อมาเช้าขนาดนี้ ช่วงนี้ไม่ใช่เวลาที่นักศึกษาทั้งหลายตื่นแล้วด้วยซ้ำ แต่รองอธิการบดีกลับตื่นแล้ว ทั้งยังไปถึงออฟฟิศแล้วเสียด้วย
“ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้เลยครับ” อู๋ฝานตอบรับ
เงื่อนไขการเป็นอาจารย์ของมหาวิทยาลัยเจียงโจวนั้นถือว่าดีเยี่ยม ไม่เพียงแต่มีอาคารใช้ในการเรียนการสอนเท่านั้น แต่ยังมีหอสมุด อาคารแล็บทดลอง อาคารเฉพาะอาจารย์ และอื่น ๆ อีกหลากหลาย อู๋ฝานไปยังชั้นเก้าของอาคารสำหรับอาจารย์ตามคำแนะนำ เพื่อไปพบอีกฝ่ายที่ด้านในของออฟฟิศ
“รองอธิการบดีจริงด้วย” อู๋ฝานมองป้ายที่แขวนไว้ด้านนอกของออฟฟิศพลางพึมพำกับตัวเอง
หรือนี่จะไม่ใช่เรื่องล้อกันเล่น?
อู๋ฝานกระชับเสื้อผ้าตนเองให้เรียบร้อย เป็นเวลาเกินกว่าปีแล้วที่เขาไม่มีประสบการณ์การทำงาน แต่ก็ใช่ว่าประสบการณ์สัมภาษณ์งานนั้นจะขาดแคลน เขาจึงไม่รู้สึกกระวนกระวายแต่อย่างใด
ก๊อก ๆ
“เข้ามาได้”
อู๋ฝานผลักประตูเข้าไป ด้านในเป็นออฟฟิศกว้างขวาง เขาพบชายวัยกลางคนที่ได้เจอเมื่อวานอีกครั้งหนึ่ง
“ขอแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ผมชื่อว่าเยวี่ยหลินซาน เป็นรองอธิการบดีของมหาวิทยาลัยเจียงโจว” ชายวัยกลางคนยื่นมือออกมาพร้อมกับแนะนำตัวเอง
“ผมอู๋ฝานครับ” อู๋ฝานยื่นมือออกไปตอบรับอีกฝ่าย