บทที่ 76 วิชาว่ายน้ำของนักศึกษาหญิง
บทที่ 76 วิชาว่ายน้ำของนักศึกษาหญิง
“บาสเก็ตอะไร? บาสเกตบอลหรือ?” พบเห็นอู๋ฝานชะงัก อาจารย์ซุนเยวี่ยจึงต้องถาม
“สอนบาสเกตบอลงั้นหรือ ทั้งเตี้ยทั้งผอมบางแบบนี้ ไม่คล้ายจะสอนบาสเกตบอลได้เลยสักนิด” หลี่ปิงไม่ลืมที่จะแวะจิกกัดอู๋ฝาน
ร่างกายของอู๋ฝานย่อมไม่เตี้ย เดิมเขาสูง 175 เซนติเมตร และช่วงเวลาที่ผ่านมา ไม่ทราบว่าเป็นเพราะการเทเลพอร์ตหรือไม่ ตัวเขาได้สูงขึ้นมาจนเกือบจะถึง 180 เซนติเมตร
“ไม่ใช่บาสเกตบอลแล้วครับ” อู๋ฝานส่ายศีรษะ
“ให้ฉันเดานะ นายสอนบาสเกตบอลไม่ได้หรอก อันที่จริง ฉันไม่คิดว่านายจะสอนอะไรได้ด้วยซ้ำ” หลี่ปิงพูดขึ้นมาอย่างวางท่า
“งั้นคุณสอนอะไรกัน?” เกิ่งหย่าเฟยเกิดสงสัยขึ้นมาเช่นเดียวกัน
“ว่ายน้ำ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ว่ายน้ำ? ก็ไม่เลวนะ” เกิ่งหย่าเฟยตอบรับ
การเรียนว่ายน้ำของนักศึกษา ย่อมแตกต่างไปจากมืออาชีพ ต่อให้อู๋ฝานไม่ได้เชี่ยวชาญเก่งกาจ ขอเพียงรู้พื้นฐานก็มากพอ ถึงเวลาก็เพียงแค่คอยจับตาดูไม่ให้เกิดอุบัติเหตุระหว่างการเรียนการสอน
“วิชาว่ายน้ำของนักศึกษาหญิงครับ” อู๋ฝานตอบกลับด้วยสีหน้าอันซับซ้อน เขาก็ไม่ทราบว่าตอนนี้ควรยินดีหรือว่าเสียใจกันแน่
“นักศึกษาหญิง?!” ทุกคนในออฟฟิศต่างตะโกนออกมาเป็นเสียงเดียว รวมถึงหลี่ปิงด้วย ทั้งยังเผยสีหน้าตกใจอย่างน่าเหลือเชื่อ
คาบเรียนว่ายน้ำแตกต่างไปจากคาบเรียนพละศึกษาตามปกติ ในคาบเรียนพละศึกษาวิชาอื่น มันไม่มีปัญหาหากว่านักศึกษาชายและหญิงเข้าเรียนพร้อมกัน แม้เกิ่งหย่าเฟยสอนคาบเรียนยิมนาสติก ก็มีทั้งผู้ชายและผู้หญิงเรียนปนกัน
เพียงแต่มันไม่ใช่กับวิชาว่ายน้ำ วิชาว่ายน้ำจะแบ่งออกเป็นส่วนของผู้ชายและผู้หญิง ในมหาวิทยาลัยยังมีการแบ่งสระว่ายน้ำสำหรับผู้ชายและผู้หญิง เป็นการแยกจากกันโดยเด็ดขาด เมื่อไรก็ตามที่นักศึกษาชายและหญิงมีคาบเรียนว่ายน้ำ พวกเขาจะไม่เข้ารับการเรียนการสอนพร้อมกัน ขณะที่สถานศึกษาอื่นอาจมีการเรียนการสอนร่วมกันระหว่างชายหญิง เพียงแต่มหาวิทยาลัยเจียงโจวนั้นมีการแยกเอาไว้อย่างชัดเจน
คาบเรียนว่ายน้ำของผู้หญิง ตามปกติจะมีอาจารย์ผู้หญิงคอยรับผิดชอบสอนมาโดยตลอด ส่วนคาบเรียนว่ายน้ำของผู้ชาย ก็จะมีอาจารย์ผู้ชายเป็นผู้รับผิดชอบการสอน ทั้งหมดก็เพื่อหลีกเลี่ยงข้อครหาและปัญหาที่อาจเกิดขึ้น อย่างไรนักศึกษามหาวิทยาลัยก็ไม่ใช่เด็กน้อยที่ไม่ประสีประสาอีกต่อไปแล้ว
แต่แล้ว ขณะนี้อู๋ฝานบอกว่ามีคาบเรียนว่ายน้ำของนักศึกษาหญิง มีหรือเกิ่งหย่าเฟยและอาจารย์คนอื่นจะไม่ประหลาดใจ
“อาจารย์อู๋ อ่านอะไรผิดหรือเปล่า?” เกิ่งหย่าเฟยอดไม่ได้ที่จะต้องถาม “เท่าที่ฉันทราบ มหาวิทยาลัยเจียงโจวไม่เคยให้อาจารย์ชายไปสอนคาบเรียนว่ายน้ำของนักศึกษาหญิงนะ”
“ผมก็คิดว่าผิดเหมือนกัน แต่ก็ไม่ใช่ครับ” อู๋ฝานเผยยิ้มปั้นยากออกมา
ถัดจากนั้น อู๋ฝานจึงแสดงข้อมูลบนหน้าจอโทรศัพท์ให้เกิ่งหย่าเฟยได้อ่าน เธอต้องอ่านทวนถึงสองครั้ง ก่อนจะยืนยันได้ ว่าอู๋ฝานถูกจัดแจงให้เข้าสอนคาบเรียนว่ายน้ำของนักศึกษาหญิงจริง
“คุณ…” เกิ่งหย่าเฟยมองอู๋ฝานราวกับคิดอยากพูดอะไรบางอย่าง เพียงแต่ชั่วขณะก็ไม่ทราบว่าควรพูดอะไร สุดท้ายจึงทำได้เพียงตอบไป “ถือว่าได้รับพรก็แล้วกัน”
จบคำพูด เกิ่งหย่าเฟยจึงออกจากออฟฟิศไปเป็นคนแรก
อาจารย์คนอื่นต่างมองอู๋ฝานอย่างนึกอิจฉา พวกเขาปรารถนาจะเข้าแทนที่อู๋ฝาน เพื่อจะได้เข้าไปสอนคาบเรียนว่ายน้ำของนักศึกษาหญิง เพียงแต่โชคร้าย มันเป็นการจัดการของทางมหาวิทยาลัย ไม่ใช่อำนาจการตัดสินใจของพวกเขา
ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ทำได้เพียงก้าวเดินออกไปจากออฟฟิศด้วยความอิจฉาริษยา
“มันเรื่องอะไรกัน?” อู๋ฝานยืนอยู่คนเพียงในออฟฟิศด้วยสีหน้าปั้นยาก
อู๋ฝานเพิ่งนึกขึ้นมาได้ ว่าเมื่อครั้งไปพบเยวี่ยหลินซานเพื่อพูดคุย อีกฝ่ายถามเขาประมาณว่าว่ายน้ำได้หรือไม่ เขาไม่ได้คิดว่าจะจริงจังอะไร จึงตอบไปตามตรงว่าว่ายน้ำได้ กระทั่งว่าเพื่อสร้างความประทับให้แก่เยวี่ยหลินซาน ยังอวดไปว่ามีฝีมือว่ายน้ำดีเยี่ยมเสียด้วยซ้ำ
หากทราบว่าเรื่องราวมันจะเป็นอย่างนี้ เขาคงไม่บอกว่าตนเองว่ายน้ำได้ ใครจะคาดคิดกัน ว่าเยวี่ยหลินซานจะคลุ้มคลั่งขนาดจัดคาบเรียนว่ายน้ำมาให้เขาสอน ทั้งยังเป็นคาบเรียนว่ายน้ำของนักศึกษาหญิง
ไปหรือว่าไม่ไป มันไม่ใช่คำถาม!
ขณะนี้ถึงเวลาคาบเรียนแล้ว นักศึกษาย่อมไปรอคอยกันที่สระน้ำเป็นที่เรียบร้อย ดังนั้นเขาจึงไม่อาจหนีหาย มีแต่ต้องกัดฟันและเข้าสอนตามที่ได้รับมอบหมาย
“เหวินถิง หุ่นเธอดีจังนะ” ที่ข้างสระน้ำ เสี่ยวอวิ๋นกำลังมองเรือนร่างรูมเมทของตนเองด้วยความอิจฉา
ที่หอพักของเยี่ยเฟยเฟย
เยี่ยเฟยเฟยและเสี่ยวหรูเลือกเรียนแอโรบิกในคาบพละศึกษา ขณะที่เสี่ยวอวิ๋นและหวังเหวินถิงเลือกเรียนว่ายน้ำ
แม้หวังเหวินถิงมักชอบพูดจาที่ไม่ชวนน่ายินดี และเสี่ยวอวิ๋นก็ไม่ค่อยชอบเธอนัก เพียงแต่เสี่ยวอวิ๋นเกิดอิจฉาเรือนร่างของหวังเหวินถิงโดยแท้จริง เพราะในทางกลับกัน เสี่ยวอวิ๋นมีเรือนร่างที่ดูค่อนข้างเรียบแบนกว่า
คำชมจากรูมเมทจึงยิ่งทำหวังเหวินถิงมีความมั่นใจแรงกล้ามากขึ้น ตลอดมาเธอมั่นใจในเรือนร่างและรูปลักษณ์ของตัวเอง นับตั้งแต่เด็กจนเป็นผู้ใหญ่เธอมักจะเป็นที่ดึงดูดสายตาอยู่เป็นประจำ เพียงแต่ภายหลังได้พบกับเยี่ยเฟยเฟยที่มหาวิทยาลัย ก็ราวกับเธอพบเจอดาวข่มเข้าให้ แม้ว่าไม่ยินดียอมรับ แต่เยี่ยเฟยเฟยโดดเด่นกว่าเธอทั้งในแง่ของเรือนร่างและรูปลักษณ์ มันจึงทำหวังเหวินถิงไม่ค่อยยินดีเท่าใดนัก
เมื่อเสี่ยวอวิ๋นพูดชม หวังเหวินถิงจึงคว้าเอาความมั่นใจและภาคภูมิที่เคยมีแต่เดิมกลับคืนมา
“บางเรื่องก็ไม่ควรอิจฉานะ” หวังเหวินถิงตอบกลับเสียงเบา พร้อมกับเปรยสายตามองหน้าอกเสี่ยวอวิ๋น “คนอย่างฉันน่ะ เกิดมาก็ได้รับความสนใจอยู่แล้ว อิจฉาไปก็เท่านั้น แต่พูดก็พูดเถอะนะ บางครั้งสายตาของพวกผู้ชายน่ะ ก็เหลือทนเกินไปจริง ๆ”
พบเห็นหวังเหวินถิงที่กำลังแสร้งทำเป็นกังวลออกมา เสี่ยวอวิ๋นก็คิดอยากอาเจียน ทั้งยังเกิดนึกเสียใจที่เมื่อครู่พูดออกไป คนอย่างหวังเหวินถิงไม่ควรเปิดโอกาสให้มีแสงส่องกระทบตัวเธอ
“ก็มีอะไรที่เธอไม่ควรจะอิจฉาจริงแหละนะ” เสี่ยวอวิ๋นตอบกลับ “ก็เหมือนอย่าง เฟยเฟยที่เหนือกว่าเธอในทุกด้าน ทั้งรูปลักษณ์ เรือนร่าง และการวางตัว ไม่ควรไปอิจฉาเลยจริง ๆ”
“เธอ…” หวังเหวินถิงผู้กำลังแสร้งทำเป็นกังวล กลับต้องเกิดหงุดหงิดขึ้นมาทันใด “เธอเองก็อ่อยผู้ชายเหมือนกันนั่นแหละ! ดูว่าเธอบริสุทธิ์ไร้เดียงสาแบบนั้นแต่ที่จริงแล้วไม่รู้ด้วยซ้ำว่าผ่านผู้ชายมาแล้วกี่คน”
“หวังเหวินถิง เธอกล้าใส่ร้ายคนอื่นแบบนั้นได้ยังไง” เสี่ยวอวิ๋นเริ่มโกรธ “เฟยเฟยไม่ใช่คนแบบนั้น”
“คนเรารู้หน้าไม่รู้ใจ ใครกันจะรู้ว่าแท้จริงแล้วเธอเป็นคนยังไงกันแน่?” หวังเหวินถิงตอบกลับ “ก็เหมือนกับแฟนหนุ่มของเธอ พวกเราต่างก็ได้เห็นกับตา แต่เธอก็ยังไม่ยอมรับ ทั้งยังเป็นคนนอกมหาวิทยาลัยด้วยซ้ำ ไม่รู้เลยว่าที่นอกรั้วมหาวิทยาลัยแห่งนี้ แท้จริงแล้วเธอไปมีแฟนหนุ่มเอาไว้กี่คนกันบ้าง”
เสี่ยวอวิ๋นถึงกับไม่รู้จะพูดอะไรไปชั่วขณะ และเธอก็ไม่ทราบว่าควรปฏิเสธอย่างไร เพราะเธอเองก็เชื่อว่าอู๋ฝานเป็นแฟนของเยี่ยเฟยเฟย
ผ่านไปชั่วครู่ เสี่ยวอวิ๋นจึงพูดขึ้นมา “เฟยเฟยเป็นคนขี้อาย เพราะงั้นก็เลยอายที่จะยอมรับ แต่ฉันเชื่อ ว่าเธอไม่ใช่คนที่ไปมั่วกับคนไม่เลือก พวกเราที่เป็นทั้งเพื่อนร่วมชั้นและรูมเมทไม่ควรใส่ร้ายกันแบบนี้”
“ฉันก็ไม่ได้ใส่ร้ายสักหน่อย” หวังเหวินถิงหรี่ดวงตาลง “คร้านจะเอาตัวเองไปเทียบกับเธอด้วยซ้ำ”
ทันใดนี้เอง ที่เด็กสาวหลายคนบริเวณทางเข้าสระว่ายน้ำต่างส่งเสียงกรีดร้อง ถัดจากนั้น ร่างอันคุ้นเคยจึงเดินเข้ามายังทัศนการมองเห็นของหวังเหวินถิงและเสี่ยวอวิ๋น
“ทำไมเขามาอยู่ที่นี่ล่ะ?!” หวังเหวินถิงและเสี่ยวอวิ๋นถึงกับร้องออกมาเป็นเสียงเดียว