บทที่ 101 สมาคมยิงธนู
บทที่ 101 สมาคมยิงธนู
คันธนูและลูกธนู สำหรับหมวดอาวุธโบราณถือว่ามีตำแหน่งค่อนข้างสูง มันสามารถใช้เพื่อโจมตีศัตรูจากระยะไกล และลดอัตราการเผชิญอันตรายของตัวเองลงได้ อีกทั้งมันยังสามารถสร้างความเสียหายได้มาก พลังอำนาจทำลายล้างรุนแรง ภายในระบบกองทัพมักเป็นตำแหน่งหน้าที่สำคัญ นักธนูทุกคนจะถือเป็นสมบัติของกองทัพ พวกเขาถือเป็นผู้มีพรสวรรค์ที่ผู้บังคับบัญชามักให้ความสำคัญ
เพียงแต่การเป็นนักธนูถือเป็นเรื่องยาก ยังไม่กล่าวถึงนักธนูมือฉมัง แค่คุณสมบัติการเป็นนักธนูก็ต้องผ่านการฝึกฝนยาวนานหลายปี มันไม่ใช่อะไรที่สามารถฝึกฝนได้โดยอาศัยช่วงเวลาเพียงข้ามคืน
สำหรับอู๋ฝาน ตัวเขาไม่เคยสัมผัสกับทั้งคันธนูและลูกธนูมาก่อน และไม่มีความรู้ใดเกี่ยวข้องกับธนูทั้งสิ้น ดังนั้นจึงวางแผนฝึกฝนให้หนัก หากว่าตัวเขาสามารถฝึกฝนได้ด้วยดี ย่อมมีคุณสมบัติพอเป็นนักธนู ถึงตอนนั้นภายในเกมจะถือว่ามีทักษะต่อสู้เพิ่มเติมให้พร้อมใช้งาน
อู๋ฝานโดยสารแท็กซี่ จึงมาถึงสมาคมยิงธนูที่มีชื่อว่าซิงเยวี่ยโดยง่ายดาย
สมาคมยิงธนูที่อู๋ฝานสำรวจหาพบ นับได้ว่าขนาดใหญ่ที่สุดในเจียงโจว จากข้อมูลที่ระบุเอาไว้บนอินเทอร์เน็ต ที่นี่มีพื้นที่กว้างใหญ่ อุปกรณ์ครบครัน และมีโค้ชมืออาชีพพร้อมสอน
“ยินดีต้อนรับค่ะ มาที่นี่เพื่อเล่นธนูหรือคะ?”
ทันทีที่อู๋ฝานมาถึง ปรากฏสาวงามเข้ามาต้อนรับลูกค้า โดยจะเป็นฝ่ายทักทายและสอบถาม
เรียกได้ว่ามีความเป็นมืออาชีพ
“ใช่ครับ” อู๋ฝานพยักหน้ารับ “มีค่าบริการอย่างไรครับ?”
“สองร้อยหยวนต่อหนึ่งชั่วโมงค่ะ” สาวงามยิ้มการค้าต้อนรับลูกค้า “แน่นอนว่ายังสามารถสมัครบัตรสมาชิก โดยจ่ายเป็นค่ารายเดือนหรือว่ารายปี หากว่ามีความสนใจด้านการยิงธนู ดิฉันก็ขอแนะนำค่ะ เพราะการถือบัตรสมาชิกจะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายที่ต้องใช้ประจำได้ค่ะ”
แน่นอนว่าระบบบัตรสมาชิกเช่นนี้มีไปทั่วทุกหนแห่ง
“ราคาค่อนข้างสูงอยู่นะครับ” อู๋ฝานตอบรับ
หนึ่งชั่วโมงมีค่าบริการสองร้อยหยวน เล่นสักหลายชั่วโมงต่อวันย่อมเป็นมูลค่าหลายร้อยหยวน และแน่นอนว่า การยิงธนูไม่ใช่งานอดิเรกที่คนทั่วไปส่วนใหญ่มักเล่น
“คุณผู้ชาย สถานที่ของพวกเรามีสภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยมค่ะ ทั้งยังมีคันธนูและลูกธนูหลากหลายชนิดและประเภท รวมถึงมีโค้ชมืออาชีพคอยช่วยชี้แนะอีกด้วยค่ะ ดังนั้นแล้วค่าใช้จ่ายที่เรียนแจ้งไปนั้นจึงสมเหตุสมผลค่ะ” หญิงสาวตอบรับกลับมา
“ผมขอลองเล่นสักไม่กี่ชั่วโมงเป็นการเปิดประสบการณ์ก่อนแล้วกันครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
“ยินดีค่ะ ตามแต่คุณผู้ชายสะดวกค่ะ ดิฉันนำทางให้นะคะ” หญิงสาวให้การต้อนรับเป็นอย่างดี
ด้วยหญิงสาวผู้งดงามนำทาง อู๋ฝานจึงเดินเข้าสู่ด้านในสมาคม ถัดจากนั้นจึงมีอีกคนรับช่วงต่อ โดยการนำพาอู๋ฝานไปเลือกคันธนูและลูกธนู ถัดจากนั้นจึงไปยังสนาม ภายหลังทราบว่าอู๋ฝานเป็นมือใหม่ เขาจึงช่วยแนะนำรายละเอียดให้อู๋ฝานได้ทราบ ถึงเอกลักษณ์ของคันธนูและลูกธนูแต่ละอย่าง เพื่อให้อู๋ฝานได้เลือกอย่างเหมาะสม
“เลือกสักอันก็แล้วกัน!” อู๋ฝานสำรวจมองคันธนูมากมายอยู่ชั่วระยะหนึ่ง จนสุดท้ายเลือกคันธนูแบบดั้งเดิมที่ดูเรียบง่ายมาอันหนึ่ง
“คุณผู้ชาย เลือกคันธนูเขาวัวนี้แน่ใจแล้วใช่หรือไม่ครับ?” ผู้แนะนำราวกับประหลาดใจกับการเลือกของอู๋ฝาน “คันธนูเขาวัวต้องใช้แรงค่อนข้างมาก และใช้งานยากระดับหนึ่ง ตามปกติแล้ว ผู้คนส่วนใหญ่ที่มาที่นี่ มักจะเลือกคันธนูทดรอบ หรือไม่ก็คันธนูทดกำลัง ลองพิจารณาดูอีกครั้งไหมครับ?”
“ไม่คิดแล้วครับ เอาอันนี้” อู๋ฝานตอบกลับ
ที่นี่มีคันธนูสมัยใหม่มากมายให้เลือกใช้งาน มีทั้งที่งดงามและช่วยทดแรงได้มาก เพียงแต่ สำหรับอู๋ฝาน พวกมันค่อนข้างไร้ประโยชน์ เพราะในอีกโลกหนึ่งที่ใกล้เคียงกับจีนยุคโบราณ มันมีธนูอยู่จริง แต่เป็นคันธนูแบบดั้งเดิม ดังนั้นไม่ว่าปัจจุบันเขาจะลองเล่นคันธนูสมัยใหม่เพียงใด มันก็ไม่อาจส่งผลช่วยในอีกโลกหนึ่ง
ได้เห็นอู๋ฝานยืนยันแน่ชัด ทางผู้แนะนำจึงไม่คัดค้านใดอีก
ภายหลังเลือกคันธนู รวมถึงลูกธนู อู๋ฝานจึงตามอีกฝ่ายไปยังพื้นที่ยิงธนู
“ตรงนี้เป็นทางธนูห้าเมตรครับ เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นฝึกฝน” ผู้แนะนำกล่าวบอก
ห้าเมตร นับได้ว่าเป็นระยะใกล้ที่สุดของทางธนูที่สมาคมแห่งนี้มี
เพราะอู๋ฝานไม่เคยสัมผัสคันธนูและลูกธนูมาก่อน เขาจึงไม่อาจมองระดับที่เกินตัว ดังเช่นสิบเมตร หรือว่าสิบแปดเมตรได้
“ฝึกฝนตรงนี้ก่อนสักครู่นะครับ รอสักครู่โค้ชจะมาทำการแนะนำให้ครับ” ภายหลังพนักงานแนะนำพูดจบ เขาจึงหันกลับและจากไป เพื่อไปแจ้งให้โค้ชมารับช่วงต่อ
ภายหลังอีกฝ่ายไปแล้ว อู๋ฝานจึงยกคันธนูขึ้น เล็งไปยังเป้าที่อยู่ห่างออกไปห้าเมตร
“ฟึ่บ!”
ทันทีที่อู๋ฝานปล่อยมือขวา ลูกธนูจึงลอยลิ่ว พุ่งเข้าปะทะกับเป้าธนูอย่างแม่นยำ
“โอ้!”
ลูกธนูที่ยิงครั้งแรกเข้าเป้า ไม่แปลกหากอู๋ฝานเกิดตื่นเต้น
“ยิงเป้าระยะห้าเมตรเข้า มีอะไรให้น่ายินดีขนาดนั้นกัน อีกทั้ง ที่ยิงเข้ายังไม่ใช่กลางเป้าด้วยซ้ำ” ตอนนี้เองที่ชายหนุ่มคนหนึ่งผ่านมาพบเห็นอู๋ฝาน จึงเอ่ยคำเย้ยหยันออกมาอย่างไม่คิดปิดบัง
อู๋ฝานหันกลับไปมองยังอีกฝ่าย บุคคลที่พูดนั้นมีอายุรุ่นราวคราวเดียวกับตัวเขา เพียงแต่สวมใส่ชุดอย่างพิถีพิถัน แบรนด์ของชุดก็เป็นแบรนด์ดังต่างชาติที่อู๋ฝานเคยได้เห็นและรู้จัก เห็นได้ชัดว่าอีกฝ่ายเป็นคนหนุ่มที่ร่ำรวย
อู๋ฝานเมินเฉยอีกฝ่าย ขณะหันกลับมาและเริ่มยิงต่อไป
เพียงแต่ว่า การที่เขาเมินเฉยอีกฝ่าย กลับทำอีกฝ่ายแสดงพฤติกรรมก้าวร้าวออกมาเสียแทน
“เป็นมือใหม่ไม่ผิดแน่ ท่าการโน้มสายธนูก็ไม่ได้เชี่ยวชาญอะไร ไม่แปลกใจที่จะมาเล่นแค่เป้าระยะห้าเมตร” ชายหนุ่มพูดขึ้นมา
“เคยมีใครบอกคุณหรือไม่ครับ ว่าพูดเยอะเกินไป?” อู๋ฝานหันกลับมองอีกฝ่าย “ผมเล่นอย่างไรก็เรื่องของผม ไม่ใช่เรื่องที่คุณต้องใส่ใจครับ”
“นายคิดว่าฉันจะอยากมารับชมมือธนูเด็กประถมอย่างนี้หรือยังไง?” ชายหนุ่มเผยยิ้มแสยะเหยียดหยันตอบกลับ ก่อนจะหันกลับและจากไป ขณะที่ปากยังคงพึมพำไม่หยุด
“สมาคมนี้ก็เหลือกิน ปล่อยให้ใครก็ได้เข้ามาเล่น มือใหม่ขนาดนี้ยังให้ใช้อุปกรณ์เสียดิบดี เสียของแท้”
แม้ว่าอีกฝ่ายพึมพำกับตัวเอง แต่เสียงนั้น มันดังมากพอให้อู๋ฝานได้ยินอย่างชัดเจน
อู๋ฝานแทบอดใจรอไม่ไหวที่จะได้ส่งคำท้าแข่งขันกับอีกฝ่าย เพียงแต่เขาทราบดีว่าตนเองตอนนี้ยังเป็นเพียงมือใหม่ พิจารณาจากรูปลักษณ์ของอีกฝ่าย แม้ไม่ทราบความแข็งแกร่งที่แน่ชัด แต่อย่างไรก็ต้องฝีมือดีกว่าตัวเขาในปัจจุบัน หากว่าท้าแข่ง ก็ถือว่าตัวเขากำลังแสวงหาความอับอายแก่ตนเอง
ฝึกฝน ต้องฝึกฝนต่อไป!
อู๋ฝานหันกลับและเริ่มยิงต่อ แม้ว่าทุกครั้งจะลงตรงเป้าธนู แต่ไม่ใช่ว่าจะมีอารมณ์ที่ดีขึ้น ตัวเขาไม่อาจปรับสภาพอารมณ์ได้ จนกระทั่งโค้ชมาถึง เขาจึงค่อยปรับสภาพอารมณ์ได้
“โค้ช ผมอยากฝึกที่เป้าสิบเมตรครับ” อู๋ฝานเอ่ยคำขึ้นมา
คำขอของอู๋ฝาน มันไม่ใช่เพราะคำกล่าวของชายหนุ่มคนเมื่อครู่ แต่เขาเพิ่งรู้สึกว่าเป้าระยะห้าเมตรมันใกล้จนเกินไป สำหรับมือใหม่ ตัวเขามีอัตราการยิงเข้าเป้าที่สูงแล้ว แต่หากไปอยู่ที่สมรภูมิสู้รบ กับฝีมือการยิงธนูระยะเพียงแค่ห้าเมตร เห็นชัดว่ามันไม่อาจใช้งาน
“สิบเมตร?” โค้ชทวนคำ “คุณน่าจะเป็นมือใหม่ใช่ไหม? ระยะสิบเมตรค่อนข้างยากเกินไปสำหรับมือใหม่ หากต้องยิงพลาดซ้ำหลายครั้ง สุดท้ายจะกลายเป็นการทำให้ประสบการณ์การเล่นเลวร้ายไป”
โค้ชไม่ได้คิดเปรียบเทียบอู๋ฝานกับใคร เพียงแต่มองว่าอู๋ฝานยังเป็นมือใหม่เพิ่งหัดเล่น ดังนั้นจึงไม่ควรเปิดประสบการณ์กับเป้าระยะสิบเมตร อย่างไรแล้ว หากว่ายิงไม่เข้าเป้าบ่อยจนเกินไป สุดท้ายจะส่งผลต่ออารมณ์ความรู้สึก
“ถ้าหากผมยิงพลาดเป้า ก็แค่ฝึกจนยิงเข้าเป้าครับ” อู๋ฝานตอบกลับ
อู๋ฝานไม่ได้มาที่นี่เพียงเพราะต้องการหาความสนุก สำหรับเขาผู้ซึ่งยังมีฐานะไม่ได้ดีเด่น การจ่ายเงินสองร้อยหยวนต่อหนึ่งชั่วโมง เรียกได้ว่าเป็นการสิ้นเปลือง หากไม่ใช่เพราะช่วงนี้กิจการขายบาร์บีคิวค่อนข้างดี เขาก็คงไม่คิดมาเล่นธนูที่นี่ เพียงแต่ในเมื่อมาแล้ว เขาก็ไม่ใช่มาเล่น แต่มาเพื่อฝึกฝนความสามารถ
ส่วนประสบการณ์การเล่นจะเป็นอย่างไร อู๋ฝานไม่คิดใส่ใจแต่อย่างใด