บทที่ 148 คุณพลาดแล้ว
บทที่ 148 คุณพลาดแล้ว
“สหายน้อยคนนี้ก็สนใจของโบราณเหมือนกันหรือ?” ชายชรามองอู๋ฝานพลางถาม
“ก็นิดหน่อยครับ” อู๋ฝานตอบกลับ ชายชราหยิบยื่นความช่วยเหลือ เขาจึงประทับใจและนึกขอบคุณอีกฝ่าย
“วงการของเก่าต้องพึ่งพาประสบการณ์และสายตา ฉันเองก็คลุกคลีอยู่ในวงการนี้มานานหลายปี เลยพอจะมีประสบการณ์อยู่บ้าง แต่ก็น้อยครั้งที่จะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนกับคนอื่น” ชายชราบอกกับอู๋ฝาน
ชายหนุ่มสังเกตว่าฝ่ายนั้นดูค่อนข้างมั่นใจในฝีมือ แต่แล้วอะไรดลใจให้มองจานเครื่องเคลือบของปลอมที่เลียนแบบอย่างแนบเนียนอยู่นานถึงขนาดนั้น?
อู๋ฝานได้แต่นึกสงสัยอยู่ในใจ
“เข้าใจแล้วครับ หากว่ามีโอกาสผมคงต้องขอคำชี้แนะสักหน่อย” เขาตอบรับ
“ขอคำชี้แนะเป็นเรื่องยาก แต่การเรียนรู้ซึ่งกันและกันนั้นเป็นเรื่องง่าย” ชายชรายิ้มตอบรับ วิเคราะห์จากท่าทีมั่นใจของเขาแล้ว เรียกได้ว่าค่อนข้างมั่นใจในฝีมือของตนเองพอสมควรเลย
“อย่างนั้นก็ผมขอถามเลยก็แล้วกัน เห็นคุณดูจานเครื่องเคลือบนี้อยู่นานแล้ว พอจะบอกได้หรือเปล่าว่าสนใจจะซื้อหรือว่าไม่ซื้อ” เถ้าแก่ร้านเห็นชายชราและอู๋ฝานพูดคุยกันราวไม่มีคนอื่นอยู่ใกล้เคียง จึงอดไม่ได้ที่จะเอ่ยคำถามขึ้นมาด้วยความไม่พอใจ
“รีบร้อนอะไรขนาดนั้น?” ชายชราคล้ายไม่พอใจที่เถ้าแก่ร้านเร่งเร้า กระทั่งรบกวนบทสนทนาที่เขากำลังให้ความสนใจ “ฉันมาซื้อของโบราณ ไม่ใช่ผักในตลาดสด การต้องพิจารณาให้ดีเป็นสิ่งที่ควรทำไม่ใช่หรือ? ตอนนี้ที่แสดงท่าทีรีบร้อนอยากขายให้เห็น อยากจะขายจริง ๆ หรือมีอะไรนอกเหนือจากนั้น? หรือกลัวว่าถ้าฉันตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนแล้วจะพบปัญหาอะไรเข้าหรือยังไง?”
“ร้านนี้มีแต่ของแท้ ผมจะมีอะไรอื่นนอกเหนือจากที่ว่ามาได้อย่างไรกันล่ะ?” เถ้าแก่ร้านตะโกนตอบ “หากว่าไม่คิดซื้อ ก็อย่ามาทำลายชื่อเสียงส่งเดช”
เวลานี้เอง ที่ชายวัยกลางคนคนหนึ่งนั่งยองลงข้างชายชรา สายตานั้นเผยประกายขณะพบเห็นจานเครื่องเคลือบในมือของอีกฝ่าย สุดท้ายจึงเอ่ยคำถาม “เถ้าแก่ ขอดูของชิ้นนี้ได้หรือไม่?”
“ได้แน่นอนครับ” เถ้าแก่ตอบรับ ก่อนจะบอกกับชายชรา “หากว่าไม่ซื้อก็ขอให้วางลงด้วยครับ คุณลูกค้าท่านนี้พร้อมจะซื้อ”
สิ้นคำพูด เขาจึงคว้าจานเครื่องเคลือบจากมือของชายชรา และส่งต่อให้กับชายวัยกลางคน
ชายชราเกิดร้อนใจขึ้นมาจนเอ่ยคำขึ้น “ใครบอกว่าฉันไม่ซื้อ? ของพวกนี้ใครมาก่อนก็ได้ก่อนไม่ใช่หรือยังไง? ฉันเป็นคนดูจานใบนี้ก่อน และไม่ได้บอกสักคำว่าไม่ซื้อ ตอนนี้จะขายให้คนอื่นได้ยังไง?”
“ถ้าอย่างนั้นคุณจะซื้อหรือไม่ซื้อกันครับ? ผมมองว่าจานใบนี้ค่อนข้างดี หากว่าคุณไม่ซื้อ ผมก็จะซื้อเอง” ชายวัยกลางคนที่เพิ่งมาถึง ใช้สายตาจับจ้องจานเครื่องเคลือบในมืออยู่หลายครั้ง คล้ายว่าจะถูกใจมันเข้าแล้วจริง ๆ
“ใช่แล้ว เห็นตรวจสอบดูอยู่นาน ตอนนี้ขอให้แสดงความชัดเจนด้วย หากไม่ซื้อก็ไม่ซื้อ เรื่องแบบนี้ต้องรีบบอก ไม่ใช่ปล่อยให้ผมเสียโอกาสทำการค้า” เถ้าแก่ร่วมเห็นพ้อง
ภายใต้แรงกดดันของคนทั้งสอง ชายชราราวกับร้อนใจเล็กน้อย เขาเกรงว่าเถ้าแก่จะขายจานใบนี้ให้กับคนอื่น ดังนั้นจึงเร่งร้อนเอ่ยขึ้น “แปดแสนใช่ไหม? ฉันซื้อ!”
ได้ยินคำของชายชรา เถ้าแก่ร้านเผยสีหน้ายิ้มแย้มตอบรับ “ตกลง!”
กระทั่งชายวัยกลางคนที่อยู่ข้างชายชรา ยังเผยท่าทียินดีออกมา
“เดี๋ยวครับ!”
ตอนนี้เอง อู๋ฝานที่เดิมรับชมเรื่องราวอยู่พลันเอ่ยคำขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“ยังมีอะไรอีก? หรือสนใจจานใบนี้ด้วย? ถ้าอย่างนั้นคุณปู่ท่านนี้เสนอแล้วแปดแสน หากว่าเสนอราคามากกว่า จานนี้ก็เป็นของคุณลูกค้า” เถ้าแก่ร้านนึกคิดว่าอู๋ฝานเกิดหลงใหลไปกับจานเครื่องเคลือบนี้เข้าแล้ว ดังนั้นจึงพร้อมขายตัดหน้าชายชรา
สำหรับเขาแล้ว จะขายให้ใครก็เหมือนกัน ขอเพียงให้ราคาดีกว่าก็พอ
“ทำแบบนี้ได้ยังไง? ตกลงขายจานนี่ให้ฉันแล้วไม่ใช่เหรอ?” ชายชราเร่งร้อน ราวกับเขาค่อนข้างชอบในจานเครื่องเคลือบนี้อย่างแรงกล้า สายตาจึงหันมองอู๋ฝานอีกครั้งพร้อมพูดขึ้น “สหายน้อย จานนี้ฉันตกหลุมรักตั้งแต่แรกพบเห็น ดังนั้นอย่าได้พลัดพรากของรักจากคนที่ชอบพอเลย”
“ผมไม่ได้จะซื้อจานนี่” อู๋ฝานส่ายศีรษะ
ได้ยินคำของอู๋ฝาน ชายชราจึงเกิดโล่งใจ
กลับกัน เถ้าแก่ที่ได้ยินคำของอู๋ฝาน อารมณ์ยินดีทางสีหน้าเมื่อครู่ก็เลือนหาย กลายเป็นจริงจังในชั่วพริบตา “ก็พอจะรู้อยู่ว่าไม่มีเงิน ถ้าหากว่าไม่มีเงิน ก็อย่ามาสร้างปัญหาแถวนี้ จะไปไหนก็รีบไป”
อู๋ฝานเมินเฉยเถ้าแก่ร้าน แต่มองยังชายชราพร้อมเอ่ยคำขึ้น “คุณปู่ครับ ไม่เพียงผมไม่ซื้อ แต่คุณเองก็ไม่ควรซื้อ”
“เพราะอะไร?” ชายชราเอ่ยถาม
“เพราะมันเป็นของปลอม” อู๋ฝานตอบกลับ
“ไอ้หนู ขอเตือนเอาไว้เลยนะ อย่ามาพูดจาไร้สาระแถวนี้ จานเครื่องเคลือบลายครามของฉันใบนี้มาจากราชวงศ์ชิง ขายแปดแสนก็ถือว่าถูกแล้ว ถ้าหากไม่เข้าใจอะไร ก็อย่ามาพูดจาไม่รู้ความที่นี่” เถ้าแก่บอกกับอู๋ฝาน
“ถูกต้องแล้ว สหายน้อย หลังจากฉันวิเคราะห์ดีแล้ว มันเป็นของจริงอย่างแน่นอน คุณอาจจะประเมินผิดไป” ชายชราพูดราวกับค่อนข้างมั่นใจฝีมือการประเมินของตนเอง
“คุณต่างหากที่ประเมินผิด” อู๋ฝานเผยยิ้มบาง “นี่ไม่ใช่เครื่องเคลือบลายครามจากราชวงศ์ชิง แต่ทำขึ้นจากร้านช่างฝีมือหลี่ในเจ้อเจียงเมื่อเดือนก่อน อาจารย์คนที่ทำจานเครื่องเคลือบลายครามนี้ชื่อว่าหลี่กู่เฟย เป็นคนที่ทำของเลียนแบบได้แทบไม่ต่างจากของจริง แม้ว่าพวกมันเป็นของหลอม แต่ผลงานการสร้างถือว่าอยู่ระดับสูงมาก บ่อยครั้งที่ของปลอมแบบนี้จะถูกจำสับสนกับของจริง น้อยคนที่จะแยกพวกมันออกได้”
อู๋ฝานเอ่ยถึงตรงนี้ เขาพลันหยุดไปครู่ก่อนจะเอ่ยต่อ “โชคร้าย ที่ผมเป็นหนึ่งในไม่กี่คนที่มองเห็นความต่างนั้นออกได้!”
อู๋ฝานกล่าวคำออกเสียงเบา ทว่าเปี่ยมด้วยความมั่นใจ
“พูดจาไร้สาระ!” เถ้าแก่ร้านอดกลั้น สายตาแดงก่ำ แม้เขาไม่ทราบชื่อคนทำเครื่องเคลือบลายครามใบนี้ แต่ทราบดีแก่ใจว่าจานใบนี้เป็นของปลอมที่ทำขึ้นโดยอาจารย์แซ่หลี่ที่เจ้อเจียง และมันถูกทำขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมาจริง ไม่ใช่ของโบราณจากราชวงศ์ชิงแต่อย่างใด
เพียงแต่น้อยคนที่จะทราบเรื่องราวเหล่านี้ ยกเว้นตัวเขา มีคนไม่มากที่รู้ว่าตนไปหาเครื่องเคลือบลายครามนี้มาจากที่ไหน แต่แล้วเพราะเหตุใดชายหนุ่มจึงทราบได้?
หรือจะมีคนใกล้ตัวปล่อยความลับหลุดรั่วออกไป?
หรืออู๋ฝานเคยเห็นจานลายครามที่คล้ายคลึงกันนี้มาก่อน?
ความจริง คือการที่อู๋ฝานมีวิชาตรวจสอบ เรื่องนี้เถ้าแก่ร้านไม่มีทางทราบ
สินค้าจากร้านทำของเลียนแบบ ขนาดนักประเมินมีประสบการณ์ยังมองไม่ออก แต่แล้วคนหนุ่มคนนี้มองออกได้อย่างไร? หรืออีกฝ่ายจะเป็นนักประเมินยอดฝีมืออัจฉริยะ?
เรื่องราวนี้ เขาเชื่อไม่ลง
“เรื่องจริงหรือนี่?” ชายชราเกิดลังเลยามได้ยินคำบอกเล่าละเอียดยิบของอู๋ฝาน
“อย่าไปฟังคำพูดไร้สาระของชายคนนี้ ของที่เห็นนี่เป็นของแท้อย่างแน่นอน” เห็นชายชราเกิดความสงสัย เถ้าแก่ก็เกิดร้อนใจขึ้นมา กระทั่งขยิบตาส่งสัญญาณให้ชายวัยกลางคนข้างชายชรา
ชายวัยกลางคนจึงเข้าใจว่าควรต้องทำอย่างไรต่อ “เด็กหนุ่มขนยังไม่ขึ้นจะรู้เรื่องอะไร? หากว่าคุณไม่ซื้อ ผมซื้อเอง แปดแสนใช่ไหม? ผมจ่ายเดี๋ยวนี้แหละ”
สิ้นคำกล่าว ชายวัยกลางจึงทำท่าทางจะจ่ายเงิน
ชายชราที่เกิดความสงสัยขึ้นมาบ้างจากคำกล่าวของอู๋ฝาน ยามพบเห็นเช่นนี้ เขาเกิดไม่ยินดีปล่อยวางขึ้นมา
อู๋ฝานส่ายศีรษะเล็กน้อย หากว่าไม่ใช่เพราะชายชราเพิ่งช่วยเขาจากเถ้าแก่ที่นิสัยแย่ เขาก็คงไม่คิดเข้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องราวพวกนี้
แต่สุดท้ายอู๋ฝานก็ไม่อาจปล่อยผ่านไปได้
เพราะท่าทีของเถ้าแก่ยิ่งทำให้เขานึกโมโห!