จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์ – ตอนที่ 691-695

ตอนที่ 691-695

บทที่ 691 : ตัวปลอม (3)
  เด็กสาวรีบมาหาด้วยสายตาที่เปี่ยมไปด้วยความยินดีนางเดินมาด้านหน้าเหอซุ่ยซุ่ยอย่างรวดเร็ว
  ”แม่นางหวนหยิน”เหอซุ่ยซุ่ยกระแอมล้างคอ “เป็นหน้าที่ของข้าอยู่แล้วที่จะต้องช่วยเจ้า เจ้าไม่จำเป็นที่จะต้องคำนับข้า”
  ในความคิดของเหอซุ่ยซุ่ยผู้ที่จะเป็นคนเหนือคนได้จะต้องเย่อหยิ่งมีมาด ในฐานะผู้มีพระคุณช่วยชีวิตหวนหยิน นางจะต้องไม่ทำตัวอ่อนแอต่อหน้าหวนหยิน หาไม่แล้ว การปลอมตัวเป็นผู้มีคุณของนางจะต้องถูกจับได้อย่างแน่นอน
  หวนหยินนิ่งงันพลันชะงักฝีเท้าลงโดยไม่ได้ตั้งใจ
  นางมาคำนับเมื่อไหร่กัน? เหตุใดนางถึงไม่รู้เลย ?
  ”แม่นางเหอเจ้าไม่สบายหรือไม่? ไยข้าถึงได้รู้สึกเหมือนน้ำเสียงของเจ้าเปลี่ยนไป ?” นางถามพร้อมกับจิกริมฝีปาก
  ใบหน้าของเหอซุ่ยซุ่ยแข็งค้างโชคดีที่ใบหน้าของนางมีผ้าคลุมหน้าปิดบัง หวนหยินจึงไม่อาจแลเห็นสีหน้าของนางได้ชัดเจนนัก
  วันนี้เสียงของข้าไม่ดีนัก ธรรมดาที่เสียงของข้าจะเปลี่ยนไปบ้าง
  ครั้นหวนหยินรู้นางก็เอ่ยถามออกมาทันที “ข้าพกยาติดตัวมาด้วย ไม่ทราบว่าแม่นางต้องการหรือไม่ ?”
  ”เอ่อ…ไม่จำเป็นหรอก” เหอซุ่ยซุ่ยส่ายศีรษะอย่างรวดเร็ว “ด้วยความแข็งแกร่งของข้า ความเจ็บป่วยแค่นี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก ว่าแต่แม่นางหวนหยินมาหาข้าด้วยเหตุใด ?
  หวนหยินเกิดความสงสัยขึ้นในใจนางรู้สึกเหมือนว่ามีบางสิ่งที่ไม่ถูกต้องนัก
  ทว่านางก็ไม่ได้คิดอะไรมากนางระบายยิ้มบนใบหน้าที่งดงาม
  ”แล้วจิ้งจอกน้อยของเจ้าล่ะแม่นางเหอ”
  ”จิ้งจอก?” นัยน์ตาของเหอซุ่ยซุ่ย เบิกกว้าง นางมองหวนหยินด้วยความสงสัย
  เดิมทีหวนหยินก็รู้สึกแปลกๆ แต่ครั้นได้ยินถ้อยคำของเหอซุ่ยซุ่ย นางก็ยิ่งสงสัยมากขึ้น
  ”ก็จิ้งจอกเงินที่เจ้าอุ้มตอนอยู่บนเรือมังกรไงล่ะ”
  จิ้งจอกเงิน?
  ร่างของไป๋เสี่ยวเฉินพลันปรากฏขึ้นในใจของเหอซุ่ยซุ่ยทันทีทันใดนั้นนางก็รู้สึกไม่สบายใจนัก หลังจากนั้นชั่วครู่หนึ่ง นางก็กดความรู้สึกไม่สบายใจนั้นลง พลางกล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้า ๆ ว่า “จิ้งจอกน้อยของข้าถูกมังกรกินไปแล้ว”
  ”เป็นเช่นนี้นี่เอง”หวนหยินต้องการถามต่อ แต่ครั้นเห็นความโศกเศร้าบนใบหน้าของเหอซุ่ยซุ่ย นางก็กลืนคำพูดทั้งหมดลงคอ “แม่นางเหอ ข้ามาที่นี่ก็เพื่อขอบคุณเจ้าที่ช่วยชีวิตข้าไว้ นอกจากนี้หากเจ้าหายดีเมื่อไหร่ รบกวนเจ้าไปที่บ้านสกุลหวนจะได้หรือไม่ ? บิดาของข้าต้องการขอบคุณเจ้าเป็นการส่วนตัว เช่นนั้นตอนนี้ข้าไม่รบกวนการพักผ่อนของเจ้าแล้วล่ะ”
  ”อา!”
  ครั้นเหอซู่ซู่เห็นว่าหวนหยินกำลังจะจากไปนางก็เอื้อมมือออกไปพยายามจะคว้าตัวหวนหยิน หากแต่ผู้ใดจะรู้ว่าหวนหยินเคลื่อนไหวได้รวดเร็วมาก นางหันหลังกลับ และเดินออกจากคฤหาสน์ไปทันที
  เหอซุ่ยซุ่ยมองตามหลังหวนหยินไปพร้อมกับถอนหายใจ “แม่นางหวนหยินใจดีกับข้ามาก เห็นได้ชัดว่านางมีหลายอย่างที่จะพูดกับข้า ทว่านางกลับจากไปเพราะเห็นข้ากำลังบาดเจ็บอยู่”
  ดูเหมือนว่านางจะประสบความสำเร็จในการเสแสร้งป็นผู้มีคุณของหวนหยินหาไม่แล้วหวนหยินคงจะไม่เชื้อเชิญให้นางไปบ้าน
  *****
  ด้านนอกประตูบ้านสกุลมู่ทันทีที่เห็นหวนหยินเดินออกมา สาวใช้ตัวน้อยที่ติดตามนางด้วยความอดกลั้นก็เอ่ยถามขึ้นว่า “คุณหนู ท่านต้องการหาตัวผู้มีคุณมาตลอดมิใช่หรือ ? แล้วเหตุใดเมื่อครู่นี้ …? ”
  หวนหยินก้าวออกไปอีกก้าวก่อนจะหันหลังกลับไปมองประตูบ้านสกุลมู่ ดวงตาของนางเหมือนครุ่นคิด “แม่นางเหอผู้นี้ ไม่น่าใช่แม่นางผู้นั้น”
  ”กระไรนะเจ้าคะ?” สาวใช้เอ่ยถามด้วยความประหลาดใจ
  “ข้าก็ไม่รู้ว่าด้วยเหตุใดหากแต่ข้ารู้สึกว่ามิใช่นาง ถึงแม้ว่าข้าจะเพิ่งพบกับหญิงผู้นั้นแค่เพียงครั้ง ทว่านางก็ให้ความรู้สึกที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับเหอซุ่ยซุ่ย !” หวนหยินกัดริมฝีปาก “เรื่องนี้ข้าต้องกลับไปรายงานท่านพ่อ แล้วให้ท่านพ่อสืบหาความจริง !”
  หวนหยินเป็นแม่นางน้อยจากตระกูลใหญ่นางจึงมิใช่คนโง่ เช่นนั้นนับแต่ประโยคแรกที่หลุดจากปากเหอซุ่ยซุ่ย นางก็สังเกตได้ถึงบางสิ่งที่ผิดปกติแล้ว
  ***จบบทตัวปลอม (3)***

บทที่ 692 : ตัวปลอม (4)
  คาดว่ามู่เหลงเองก็คงคิดไม่ถึงว่าหวนหยินจะมาถึงบ้านสกุลมู่ยิ่งไปกว่านั้นสมองของเหอซุ่ยซุ่ยก็ทึ่มทื่อมาก ! เช่นนั้นถ้อยคำที่นางต้องการให้เหอซุ่ยซุ่ยบอกกล่าวจึงไม่มีโอกาสหลุดออกมา
  ไป๋หยานไม่พบไป๋เสี่ยวเฉินในแม่น้ำหลงเฮอนางจึงเดินหาไปเรื่อย ๆ อีกครั้ง
  ทว่าก็ยังไม่มีร่องรอยของไป๋เสี่ยวเฉิน
  คิ้วของไป๋หยานขมวดหรือว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นกับเฉินเอ๋อ ?
  ขณะเดียวกันนี้ด้านหลังต้นไม้เบื้องหน้านางมีเสียงการเคลื่อนไหวจากนั้นก็เงียบ ไป๋หยานตกตะลึง นางเดินอย่างระมัดระวังไปทางด้านหลังต้นไม้ จึงได้เห็นชายอ้วนยืนพิงต้นไม้เลือดโซมกาย
  ชายอ้วนกำลังพยายามดึงดาบออกจากท้องของตนทันทีที่เขาเห็นไป๋หยานมายืนข้าง ๆ เขาก็กลัวจนแทบกระโดด เขาพยายามหลบไปด้านข้าง
  อย่างไรก็ตาม
  ชายอ้วนที่อยู่ห่างออกไปเพียงไม่กี่ก้าวก็ต้องชะงักกึก
  เบื้องหน้าเขาสตรีในอาภรณ์สีแดงมองเขาพร้อมรอยยิ้มในแววตา
  “เจ้าสามารถหลบหนีมาได้ทั้งที่บาดเจ็บสาหัสถึงเพียงนี้ ดูท่าว่าเจ้าจะมีความอดทนมากผิดปกติ”
  ชายอ้วนหวาดกลัวจนลนลานเขาคุกเข่าลงพลางกล่าวว่า “ท่านป้า ได้โปรดปล่อยข้าไปเถอะ คิดเสียว่าข้าเป็นเพียงลมตด ปล่อยข้าไปเถิดนะ”
  ”เหตุใดเจ้าต้องหนีเมื่อเห็นข้าทั้งยังขอให้ข้าปล่อยเจ้าไป ?” ไป๋หยานกระชากคอเสื้อของเขาขึ้นมาด้วยมือทั้งสองข้าง พลางฉีกยิ้ม
  ชายอ้วนมองนางด้วยความประหลาดใจแล้วเขาก็เข้าใจว่าหญิงผู้นี้ยังไม่ทราบว่าเกิดอะไรขึ้น
  ”เป็นเจ้าที่ขอซื้อบัตรเชิญจากข้าเพื่อเข้าเรือมังกรหลังจากนั้นก็เกิดเรื่องขึ้น บ้านสกุลมู่ส่งคนมาตามหาข้า ทั้งบังคับให้ข้าบอกว่าผู้ใดที่เข้าไปในเรือมังกร ยามนั้นข้ากลัวมาก ข้าจึงเปิดเผยรูปลักษณ์ของแม่นางไป”
  ก่อนที่เขาจะพบไป๋หยานเขาคิดว่าตำหนักเซียนพยับหมอกพยายามตามหาไป๋หยานเพื่อจะคิดบัญชี เช่นนั้นไป๋หยานจึงมาหาเขาด้วยความโกรธแค้น
  หากแต่ตอนนี้ดูเหมือนว่าไป๋หยานจะไม่รู้อะไรเลย
  ”แล้วเกิดอะไรขึ้นไยเจ้าถึงได้รับบาดเจ็บ ?” ไป๋หยานถามพร้อมกับเลิกคิ้ว
  เดิมทีนางก็เพียงสงสัยว่าการมีคนเสแสร้งเป็นนางนั้นเป็นความคิดของมู่เหลงหรือไม่ ? หากแต่ตอนนี้เมื่อได้ยินคำพูดของชายอ้วน นางก็มั่นใจเต็มร้อยแล้วว่า สตรีที่ถูกช่วยขึ้นมาจากแม่น้ำหลงเฮอเป็นคนที่มู่เหลงส่งมาจริง ๆ
  “ก็พวกสกุลมู่นั่นแหละ”ชายอ้วนกล่าวพลางเบะปาก “คนเหล่านั้นคงกลัวว่าข้าจะเปิดเผยเรื่องนี้ต่อผู้อื่น เช่นนั้นพวกเขาจึงส่งคนมาฆ่าปิดปากข้า โชคดีที่หัวใจของข้าอยู่ข้างซ้าย ดังนั้นข้าจึงรอดชีวิตมาได้”
  ”เจ้าต้องการแก้แค้นหรือไม่?” น้ำเสียงของไป๋หยานเย็นยะเยือก
  ”แก้แค้น?” ชายอ้วนชะงัก เขาส่ายศีรษะพลางกล่าวว่า “อย่าล้อเล่นไปน่า นั่นน่ะเป็นลูกศิษย์ของท่านมู่เจินเลยนะ ผู้อาวุโสมู่เจินเป็นใคร ? ข้าโชคดีมากแล้วที่สามารถรอดชีวิตมาได้ ผู้อาวุโสยิ่งใหญ่มาก อย่าได้พูดถึงเรื่องแก้แค้นอีกเลย”
  ”อ้อ”ไป๋หยานพยักหน้า “หากเจ้าไม่ต้องการแก้แค้น เช่นนั้นข้าก็จะไม่บังคับ แต่เจ้าเป็นผู้บอกมู่เหลงถึงรูปลักษณ์ของข้า ดังนั้นข้าจะให้เจ้าใช้ชีวิตของเจ้าเป็นการชดเชย”
  ครั้นชายอ้วนที่กำลังโล่งใจได้ยินคำขู่ของไป๋หยานใบหน้าอ้วนกลมของเขาพลันซีดเผือด สีหน้าของเขาราวกับจะร้องไห้โดยไร้น้ำตา
  ”ท่านพยายามบีบบังคับข้าใช่หรือไม่? ท่านขู่เอาชีวิตข้า ไม่เรียกว่าบังคับข้าหรือ ?”
  ไป๋หยานกล่าวด้วยท่าทางจริงจัง”ข้าไม่ได้บังคับเจ้า ข้าเพียงอยากแก้แค้น ผู้ใดใช้ให้เจ้าเปิดเผยเรื่องของข้าล่ะ”
  ชายอ้วนร้องไห้อย่างขมขื่นเขาเช็ดน้ำตา พลางกล่าวอย่างน่าสงสารว่า “ท่านต้องการใช้ให้ข้ากระทำสิ่งใด ?”
  ”ให้เจ้าแสดงตัวในช่วงเวลาสำคัญเพื่อเปิดเผยแผนการของมู่เหลง” ไป๋หยานเชิดริมฝีปากขึ้น “แต่เพื่อความปลอดภัยในชีวิตของเจ้า จากนี้ไปเจ้าจะต้องติดตามข้า”

บทที่ 693 : ตัวปลอม (5)
  ชายอ้วนรู้สึกว่าการติดตามไป๋หยานนั้นอันตรายเสียยิ่งกว่าการถูกฆ่าปิดปากอีก?
  ถึงตอนนี้ชายอ้วนรู้สึกเสียใจหากเขารู้เขาจะไม่ขายบัตรเชิญให้กับนางปีศาจคนนี้ เพื่อแลกกับเงินเพียงเล็กน้อยนั่นเลย
  ”หากเจ้าเดินไหวก็ตามข้ามา”
  ไป๋หยานกวาดสายตาผ่านชายอ้วนไปก่อนจะบ่ายหน้าเดินไปทางบ้านสกุลจง
  นางออกมานานกว่าหนึ่งชั่วยามแล้วบางทีหากนางกลับถึงบ้านอาจพบเฉินเอ๋อแล้วก็เป็นได้ เช่นนั้นนางจึงกลับไปที่บ้านสกุลจงก่อน
  ชายอ้วนอยากจะขัดขืนหากแต่เขาก็รู้ว่า เขามิใช่คู่ต่อสู้ของผู้หญิงผู้นี้ เขาทำได้เพียงตามนางเข้าเมืองไปเรื่อย ๆ เท่านั้น
  หลังจากที่เขาเดินเข้าไปในบ้านสกุลจงพร้อมไป๋หยานเขาก็ตกตะลึง เขาเอ่ยถามขึ้นอย่างโง่เง่าว่า “นี่เจ้าอยู่บ้านผู้อาวุโสจงงั้นหรือ ?”
  ไป๋หยานพยักหน้า”จงหนานและจงเป่ยเป็นท่านอาจารย์ของข้า”
  ”เอ่อ…”
  ชายอ้วนตกใจอยู่เพียงครู่หากหญิงผู้นี้มาจากบ้านผู้อาวุโสเหตุใดนางจึงไม่ได้รับบัตรเชิญเข้าร่วมงานในวันนั้น
  เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ชายอ้วนก็ลังเลอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวขึ้น: “ข้าไม่รู้ว่าผู้อาวุโสทั้งสองมีลูกศิษย์ ข้ารู้เพียงว่ายี่สิบปีที่ผ่านมาลูกศิษย์เพียงคนเดียวของพวกเขาตายไป และนับแต่นั้นมาผู้เฒ่าทั้งสองก็โศกเศร้าเกินกว่าที่จะยอมรับผู้ใดเป็นลูกศิษย์อีก”
  ”ข้าจะล้างแค้นแทนท่านอาจารย์และศิษย์พี่ของข้า !” ไป๋หยานกล่าว
  ชายอ้วนมองหญิงสาวเบื้องหน้าพลันรู้สึกสะดุดใจขึ้นมา “ผู้ที่ฆ่าศิษย์พี่ของเจ้าก็คือคนของมู่เจินใช่หรือไม่ ?”
  หาไม่แล้วเหตุใดนางต้องจัดการมู่เจินและมู่เหลงด้วย
  ไป๋หยานเหลือบตามองเขาอย่างเย็นชา”ยิ่งเจ้ารู้มาก เจ้าก็จะยิ่งตายเร็วขึ้น”
  ด้วยประโยคนี้ทำให้ชายอ้วนเกือบจะปัสสาวะรดกางเกงที่สุดเขาก็เข้าใจแล้วว่า เขาตกลงไปในถ้ำหมาป่า ทั้งไม่มีทางหนีรอดได้แล้ว
  ”แม่นางไป๋ข้าต้องขอตัวก่อน ข้ามีเรื่องอื่นที่ต้องทำ”
  เขาไม่ต้องการมีส่วนร่วมในความบาดหมางระหว่างผู้อาวุโสทั้งสองฝ่าย
  หากแต่เขายังไม่ทันได้ออกไปเขาก็เห็นชายร่างใหญ่สองคนยืนขวางอยู่เบื้องหน้า เขากลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ขณะหันไปมองไป๋หยาน พลางร้องถามว่า “ปล่อยข้าไปได้หรือไม่ ? แม่นางไป๋หยาน”
  ไป๋หยานตบไหล่ชายอ้วนเบาๆ “ไม่ต้องกังวล ข้าบอกแล้วว่า ข้าจะรักษาชีวิตของเจ้าเอาไว้ ต่อไปชายทั้งสองคนนี้จะรับผิดชอบในการปกป้องความปลอดภัยของเจ้า หากเจ้าต้องการอยู่อย่างปลอดภัย อย่าได้ออกห่างข้าเกินกว่าร้อยก้าว”
  ยิ่งได้ยินไป๋หยานพูดมากเท่าไหร่เขาก็ยิ่งรู้สึกว่าเขาคงจะมีชีวิตอยู่ได้ไม่นานแล้ว
  ”แม่นางไป๋หยานข้าเองก็แก่แล้ว ทั้งยังมีลูกหมาตัวเล็ก ๆ อีกสองตัวที่ต้องคอยให้อาหาร ท่าน … ”
  ”ขืนเจ้าพูดอีกหนึ่งคำข้าจะให้เจ้าตายเสียเดี๋ยวนี้เลย” ไป๋หยานหรี่ตา พลางทำเสียงเย็นเยือกข่มขู่
  ชายอ้วนปิดปากทันทีทั้งไม่กล้ากล่าวคำใดขึ้นอีกด้วยความหวาดกลัว
  ”ข้ายังมีเรื่องอื่นที่ต้องทำเจ้าจะเดินเล่นที่ไหนก็ได้ตามใจเจ้า แต่ห้ามออกจากบ้านสกุลจง”
  ไป๋หยานขยิบตาให้ผู้คุ้มกันทั้งสองก่อนจะบ่ายหน้าเดินไปทางลานหลังบ้าน
  นางคิดว่าไป๋เสี่ยวเฉินน่าที่จะรอนางอยู่ที่ลานหลังบ้านทว่านางพยายามเดินค้นหาทั่วลานหลังบ้านแล้ว ก็ยังไม่พบไป๋เสี่ยวเฉิน นางพยายามสงบใจให้เย็นลงอีกครั้ง
  ”เฉินเอ๋อ…ไปที่ใดนะ? ปกติหากเขากลับช้า เขาจะต้องบอกข้า”
  ในขณะที่ไป๋หยานใจเต้นระส่ำอยู่นั้นผู้คุ้มกันก็รีบเข้ามารายงานว่า “แม่นางไป๋มีคนมาขอพบท่าน ตอนนี้รออยู่ด้านนอก”
  ขอพบนางงั้นหรือ?
  ”ให้เขาเข้ามา”นางกล่าวพลางขมวดคิ้ว
  ”ขอรับ”
  ผู้คุ้มกันรับคำสั่งแล้วถอยออกไป
  ชั่วอึดใจต่อมาชายผู้หนึ่งในชุดเสื้อคลุมสีทองก็เดินผ่านประตูเข้ามา สายตาของเขากวาดมองโดยรอบ เต็มไปด้วยความอยากรู้ เมื่อเขาเห็นไป๋หยานกำลังรออยู่ในคฤหาสน์ ท่าทางเขาแลดูมีความสุข เขารีบก้าวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
  ***จบบทตัวปลอม (5)***

บทที่ 694 : ตัวปลอม (6)
  ”นาย…”
  เขาคิดจะเรียกนางว่านายหญิงเช่นเดียวกับชิงอี้หากแต่เขาคิดได้ว่าที่นี่เป็นสถานที่สาธารณะ เขาจึงกลืนคำพูดลงคอพลางกล่าวว่า “ข้าเอง เจ้าทอง”
  เจ้าทอง?
  ไป๋หยานนิ่งงันพลางชำเลืองมองผู้คุ้มกัน กับสาวรับใช้ที่อยู่ในลานบ้าน “พวกเจ้าออกไปได้แล้ว”
  ”ขอรับ”
  เนื่องจากไป๋หยานเป็นลูกศิษย์ของอาวุโสสกุลจงนางจึงมีฐานะสูงส่งมากในบ้านสกุลจง หลังจากได้ยินถ้อยคำของนางทุกคนก็ถอยออกไป
  เมื่อทุกคนออกไปหมดแล้วไป๋หยานจึงหันไปหาเจ้าทองพลางเอ่ยถามว่า “เจ้ามาได้อย่างไร ?”
  ”นายหญิงนายน้อยส่งข้อความมาหาข้า เขาบอกว่า เขาจะจากไปสักสองสามวัน แล้วก็จะกลับมาเอง”
  ไป๋หยานย่นคิ้ว”เฉินเอ๋อจะไปไหนสองสามวันกัน ?”
  ไป๋เสี่ยวเฉินไม่เคยเต็มใจที่จะออกจากอกนางเหตุใดตอนนี้ เขาถึงจะจากหลายวัน ?
  ”ข้าเองก็ไม่รู้นายน้อยขอให้ข้าบอกท่านว่า เขาปลอดภัยดี และเขาจะกลับมาในอีกไม่กี่วัน”
  ”ข้าเข้าใจแล้ว”ไป๋หยานค่อย ๆ ผ่อนคลาย “เจ้ากลับไปก่อนเถอะ”
  แม้นางจะไม่รู้ว่าเฉินเอ๋อกำลังทำอะไรทว่าไป๋หยานก็ไว้วางใจไป๋เสี่ยวเฉินเสมอ การที่เขาเลือกจากไป เขาย่อมต้องมีเหตุผล ! อย่างไรเสียเขาก็ไม่ตกอยู่ในอันตรายแน่ ๆ
  ”นายหญิง”เจ้าทองคำบิดไปบิดมา “ท่านชิงอี้ บอกให้ข้าอยู่ปกป้องท่าน เพราะแค่เจ้าเงินก็เพียงพอแล้วที่จะอยู่ดูแลนาง”
  ไป๋หยานมองเจ้าทองพลางไตร่ตรองอยู่ชั่วครู่”เช่นนั้นเจ้าก็อยู่ที่นี่ต่อแล้วกัน ว่าแต่เฉินเอ๋อ ติดต่อเจ้าได้อย่างไร?”
  ”เรื่องนี้… ” เจ้าทองเกาหัวพลางยิ้ม “เมื่อครั้งที่ท่านและนายน้อยจากมา ข้าได้ให้ศิลาเสียงก้อนหนึ่งไว้กับนายน้อย ศิลาเสียงก้อนนี้ข้าเก็บมาได้ มันสามารถส่งผ่านเสียงได้ นายน้อยจึงใช้ศิลาเสียงนั้นบอกข้า”
  ”เฉินเอ๋อพูดไม่ได้เจ้าจะได้ยินเสียงเขาได้อย่างไร ?”
  ”แค่เพียงเขาคิดเขาก็สามารถส่งข้อความให้ข้าได้”
  คำบอกกล่าวของเจ้าทองทำให้ดวงตาของไป๋หยานสดใสขึ้น”เจ้าจำได้หรือไม่ว่าเจ้าพบศิลานั่นที่ใด ?”
  ”ที่เผ่ามังกร”
  เผ่ามังกร?
  ไป๋หยานลูบคางไม่ช้าก็เร็ว นางจะต้องไปที่เผ่ามังกรให้ได้
  ”เอาล่ะข้าจะให้คนไปจัดห้องพักให้เจ้า เจ้าก็ไปพักที่นั่นก่อน”
  ”ขอรับ”
  เจ้าทองยิ้มรูปลักษณ์ของเขานั้นดูเรียบง่าย และซื่อ ๆ ไม่เหมือนมังกรที่แสนดุร้ายนั่นเลย
  *****
  ในเวลาเดียวกันไม่ไกลจากป่าบนภูเขา จิ้งจอกน้อยก็เอาก้อนหินออกมาอย่างเงียบ ๆ แล้วก็ค่อย ๆ ถอนหายใจด้วยความโล่งอก
  เจ้าทองคงนำคำพูดของเขาไปบอกหม่ามี้แล้วเช่นนั้นนางคงจะไม่ต้องเป็นห่วงเขาอีก
  ในขณะที่จิ้งจอกน้อยกำลังยินดีอย่างลับๆ นั้น ร่างสูงบดบังแสงอาทิตย์ก็มาอยู่เบื้องหน้าเขา ทำให้ร่างเล็ก ๆ ของเขาแข็งทื่อ
  ”หยานเอ๋ออยู่ที่นี่จริงงั้นหรือ ?” ชายหนุ่มเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงต่ำ ๆ แหบแห้ง
  จิ้งจอกน้อยพยักหน้าอย่างน่าเอ็นดูเขากระพริบนัยน์ตากลมโต ยิ่งดูยิ่งน่าสงสัย
  ทว่า…
  ริมฝีปากของตี้คังโค้งขึ้นเล็กน้อยนัยน์ตากลมโตมีแสงกะพริบวิบวับ
  เจ้าตัวน้อยเจ้าคิดว่า ข้าไม่ได้ยินข้อความนั่นจริง ๆ หรือ ? ในสถานที่นี้ ไม่มีข้อมูลใดที่เขาไม่สามารถดักจับได้หรอก
  เพียงแต่เขาเชื่อว่ามีสิ่งกีดขวางในหัวใจของเด็กน้อย หากสิ่งกีดขวางไม่ได้ถูกขจัดออก เด็กน้อยจะไม่พาเขาไปพบหยานเอ๋อ
  “เฉินเอ๋อเจ้าหิวหรือไม่ ข้าเพิ่งจับไก่ฟ้ามาได้ ข้าย่างให้เจ้ากินจะดีหรือไม่ ?”
  จิ้งจอกน้อยกระพริบตาพลันเขาก็หวนคิดถึงฉากที่ตี้คังเผาครัวคราก่อน เขารีบส่ายหัวทันที
  ดูเหมือนตี้คังจะไม่ใส่ใจท่าทางของบุตรชายเขาจัดกองไม้พลันมีเสียงระเบิดดังขึ้นจากแขนเสื้อของเขา ไฟถูกจุดขึ้นในทันที
  ***จบบทตัวปลอม (6)***

บทที่ 695 : ตัวปลอม (7)
  จิ้งจอกน้อยไม่มั่นใจในฝีมือของตี้คังทว่าไม่นานนักก็มีกลิ่นหอมกรุ่นของไก่ย่างลอยมา ยั่วยุพยาธิในท้องของเขา
  เขามองไก่ฟ้าย่างน้ำลายอดไม่ได้ที่จะไหลยืด เขารีบใช้อุ้งเท้าน้อย ๆ ของตัวเองเช็ดออกอย่างรวดเร็ว พลางหันหัวไปอีกด้านหนึ่งอย่างจงใจ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะลอบมองตี้คังด้วยปลายหางตา
  หลังจากผ่านไปสองเค่อ(ครึ่งชั่วโมง) ตี้คังก็โยนไก่ฟ้าย่างให้จิ้งจอกน้อย
  จิ้งจอกน้อยใช้อุ้งเท้าทั้งสองรับไก่ฟ้าทันทีจากนั้นก็กัดอย่างแรง ปากของเขากรุ่นไปด้วยกลิ่นหอมอันโอชะ
  เขาคิดนิดนึงก่อนจะฉีกขาไก่ย่างแล้วโยนไปให้ตี้คัง
  ตี้คังไม่คาดคิดว่าจิ้งจอกน้อยจะนึกถึงเขาเขาหยิบขาไก่ขึ้นมาสะบัดมือเล็กน้อย นัยน์ตาเรียวคมของเขามองจิ้งจอกน้อยซึ่งอยู่ไม่ไกลนัก พลางกล่าวว่า “ผู้ที่ตามล่าเจ้าคนนั้นไม่ใช่ข้าจริง ๆ ทั้งข้าก็ได้จัดการคนเหล่านั้นเรียบร้อยแล้วด้วย”
  จิ้งจอกน้อยสนใจแต่อาหารในมือของเขาเท่านั้นเขาจะฟังตี้คังได้อย่างไร ?
  แม้ว่าฝีมือของตี้คังจะด้อยกว่าไป๋หยานหากคาดว่าสำหรับจิ้งจอกน้อยผู้ซึ่งหิวมานานแล้ว ยามนี้เขาสามารถกินได้แม้แต่ของดิบ ๆ
  ”เจ้าจะพาข้าไปพบหยานเอ๋อได้หรือไม่? ไม่ว่าเจ้าต้องการสิ่งใดข้ายอมทุกอย่าง” ตี้คังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน
  จิ้งจอกน้อยนิ่งเงียบอยู่นานก่อนจะส่ายหัว เขาไม่กล้าพาพ่อไปหาแม่ของเขา หาไม่แล้วนางอาจจะตีเขาก็เป็นได้
  และ…
  เขายังไม่ให้อภัยพ่อตัวเองด้วย
  ”เฉินเอ๋อหากข้าเข้าใจไม่ผิด ก่อนหน้านี้เจ้าได้เข้าสู่อุปสรรคเวทใช่หรือไม่ ?”
  อุปสรรคเวท?
  จิ้งจอกน้อยกระพริบตาปริบๆ มันคืออะไร ?
  เขารู้แต่ต้องปกป้องแม่ของเขาเท่านั้นนอกจากนี้เขายังฆ่าคนที่ทำร้ายนางอีกด้วย
  ทว่าเขาไม่รู้อะไรเลย
  ”ตอนแรกข้าเห็นแล้วว่ามีพลังบางอย่างวนเวียนอยู่ในโลหิตของเจ้า ข้าคิดว่าน่าที่จะใช้เวลาอีกหลายปีกว่าพลังนี้จะระเบิดออกมาได้ ทว่าเจ้าคงไม่อาจรอเวลานั้นได้”
  ตี้คังอุ้มจิ้งจอกน้อยไว้ในอ้อมแขนเขายืนเอนอิงพิงร่างกับต้นไม้ด้านหลังอย่างเนือย ๆ เส้นผมสีเงินยวงของเขายังมีเสน่ห์เหมือนเดิมช่างดึงดูดใจเสียเหลือเกิน
  หลังจากดิ้นรนหลายครั้งจิ้งจอกน้อยก็ไม่สามารถหนีออกจากอ้อมแขนของตี้คังได้ เขาขมวดคิ้วอย่างน่าเอ็นดู พลางจ้องชายหนุ่มอย่างไม่พอใจ
  ”อย่าขยับ”นิ้วของตี้คังสว่างขึ้นตรงหว่างคิ้วของจิ้งจอกน้อย
  ชั่วขณะหนึ่งพลังอันเยือกเย็นก็พุ่งเข้าสู่หน้าผากของจิ้งจอกน้อย ทำให้เขารู้สึกสดชื่นและสบาย
  พลังนี้กินเวลาอยู่นานจิ้งจอกน้อยหลับตาลงอย่างสบายใจพลันหายใจฟึดฟัดอย่างมีความสุข
  ในขณะที่เขากำลังเพลิดเพลินอย่างต่อเนื่องจู่ ๆ พลังก็ขาดหายไป เขาลืมตาขึ้นมองตี้คังอย่างสงสัย
  ชั่วเวลานี้สีหน้าของตี้คังแลดูไม่ดีนัก หากแต่ยังมีรอยยิ้มที่มุมปาก เสียงของเขาไม่ได้ดูข่มอีกต่อไป ทว่ากลายเป็นอ่อนแอ
  ”เดิมทีข้าต้องการที่จะช่วยเจ้าสะกดพลังนั้นไว้จนกว่าความแข็งแกร่งของข้าจะกลับคืนมาเป็นปกติทว่าตอนนี้ไม่อาจรอได้แล้ว หากแต่ข้าก็สามารถช่วยเจ้าสะกดพลังนั้นไว้ได้แค่สองปี ภายในสองปีนี้เจ้าต้องพัฒนาความแข็งแกร่งของตน เพื่อหลีกเลี่ยงธาตุไฟแตกซ่าน”
  จิ้งจอกน้อยมองหน้าตี้คังพลางครางออกมาสองครั้ง เขามองตี้คังด้วยนัยน์ตากลมโตและฉ่ำวาว
  ”ข้าไม่เป็นไรแค่ใช้พลังมากไปหน่อย ได้พักผ่อนสักครู่ก็น่าจะเพียงพอ”
  เขาวางจิ้งจอกน้อยลงจากนั้นก็นั่งขัดสมาธิข้างต้นไม้ นัยน์ตาเรียวคมหลับลงช้า ๆ ภายใต้ร่มเงาของตะวันตกดิน ใบหน้าของเขายิ่งแลดูหล่อเหลาไร้ที่ติกว่าเดิม
  ในเวลานี้ด้วยความสามารถของจิ้งจอกน้อย เขาสามารถหลบหนีไปได้แน่ แต่ไม่รู้ด้วยเหตุใด ที่สุดเมื่อเขาได้เห็นชายผู้นี้เหนื่อยล้า เขาก็ตัดสินใจอยู่ต่อมิอาจตัดใจผละจากไปได้
  ***จบบทตัวปลอม (7)***

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

จิ้งจอกจอมซ่าส์ กับหม่ามี้หมอเทวดาพลิกสวรรค์

นางกลับชาติมาเกิดเป็นทายาทในตระกูลขุนนางจีนที่ทรงเกียรติ ทว่าในเวลานั้นนางไม่มีทางเลือกอื่นใด นอกจากต้องคว้าตัวชายสักคนมาปลดปล่อยความทรมานที่กำลังพุ่งถึงจุดที่ไม่สามารถอดทนได้

ไม่คาดคิดไม่เพียงแต่นางต้องถูกพร่าพรหมจรรย์อย่างไม่ตั้งใจคาเตียง นางยังต้องอุ้มท้องทั้งที่ไม่ได้แต่งงานอีกด้วย

มิหนำซ้ำ…ลูกที่นางอุ้มท้องมาถึงสิบเดือนกลับกลายเป็นสุนัขจิ้งจอกตัวเล็ก ๆ ที่ร้องเรียกนางว่า “หม่ามี้” ตั้งแต่เกิด โชคดีที่ลูกของนางเลี้ยงง่าย และหวงแม่มาก

ในโลกนี้ย่อมมีทั้งคนดี และคนชั่วมากมายให้ผจญ หม่ามี้กับบุตรชายคู่นี้จึงต้องร่วมมือกันทำลายล้างศัตรู ไหนจะพวกญาติ ๆ ที่ชอบสบประมาทดูหมิ่นพวกเขาอีกล่ะ คนพวกนี้จะต้องได้รับผลกรรมให้สาสมกับสิ่งที่พวกมันกระทำกับพวกเขาสองแม่ลูก

แต่ทว่า จุ๊ ๆ วันหนึ่งป๊ะป๋าจิ้งจอกก็ปรากฏตัวขึ้น ไม่เพียงแต่คิดจะลักพาตัวจิ้งจอกน้อยเท่านั้น ทว่าเขายังคิดจะชิงหม่ามี้ของเจ้าจิ้งจอกน้อยอีกด้วย ชะช้า ป๊ะป๋าผู้โง่เขลากล้าดียังไง ? จะทำอะไรไม่ถามไม่ไถ่ความเห็นของจิ้งจอกน้อยสักคำ…

จิ้งจอกน้อยเท้าสะเอวพลางกล่าวว่า “ท่านอยากเป็นป๊ะป๋าของข้ากระนั้นรึ ? เช่นนั้นก็ต้องจ่ายค่าลงทะเบียนมา แล้วก็เดินไปต่อแถวหลัง ๆ โน่น เอ่อ หม่ามี้… ท่านลุงหวังที่อยู่บ้านถัดไปนั่นมีฐานะมั่งคั่งมาก ข้าว่าท่านควรไปเป็นลูกสะใภ้เขาจะดีกว่านะ”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท