บทที่ 274 ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
บทที่ 274 ตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
“ฉันยอมรับคำท้า!” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตอบกลับมาด้วยน้ำเสียงสงบเยือกเย็น
ตอนนี้เองที่อู๋ฝานไม่อาจทนได้ไหวอีกต่อไป เขาเดินไปตรงหน้าพร้อมบอกกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ “ไม่ควรตกลงนะครับ วันนี้เป็นเพียงการแข่งขันระหว่างคุณกับเหอเหลียง และมันจบลงแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องสู้แข่งขันกับใครอีก”
สาเหตุที่อู๋ฝานออกมาห้าม ก็เพราะเขาได้ทราบจากวิชาตรวจสอบ ว่าชายหนุ่มผู้มาจากประเทศอาทิตย์อุทัย แท้จริงเป็นยอดฝีมือขอบเขตสว่างขั้นสูง หากเปรียบเทียบด้านพละกำลังกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ก็เกรงกว่าหญิงสาวจะเป็นฝ่ายเสียเปรียบ
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์มองอู๋ฝาน ถัดจากนั้นจึงมองถังอวี่เฟยที่อยู่ด้านหลัง แต่สุดท้ายก็ไม่ได้เอ่ยคำใด
เห็นได้ชัด ว่าเธอไม่คิดเปลี่ยนความตั้งใจ
“ชื่อของผมคือโนซาวะ ชูอิจิ ขอความกรุณาด้วย!” ชายหนุ่มจากประเทศอาทิตย์อุทัยบอกกับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ สีหน้าของเขามาดมั่นและสงบนิ่ง
“หลิ่วเหยียนเอ๋อร์!” หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตอบกลับอย่างไม่ยี่หระ
ทั้งสองฝ่ายต่างตั้งท่า เพื่อเตรียมพร้อมแข่งขัน
ใบหน้าของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่ได้มีทีท่าผ่อนคลายเหมือนครั้งประลองกับเหอเหลียงก่อนหน้านี้ ราวกับเธอได้ตระหนักถึงความแข็งแกร่งของโนซาวะ ชูอิจิ ตอนนี้จึงแสดงอาการจริงจังเพื่อเตรียมรับมือ
“หลิ่วเหยียนเอ๋อร์สู้เขา!”
“เทพธิดา สู้เขานะ เอาชนะไอ้เตี้ยนั่นให้ได้!”
“เอาชนะมัน ให้มันได้รู้ว่าพวกเราชาวจีนแข็งแกร่งแค่ไหน!”
กลุ่มคนที่รับชมในที่นี้ต่างเชียร์ให้กับหลิ่วเหยียนเอ๋อร์กันถ้วนหน้า การแข่งขันครั้งนี้ พวกเขาพร้อมใจกันเชียร์หลิ่วเหยียนเอ๋อร์อย่างไร้ข้อกังขา ไม่ใช่เพียงเพราะเธองดงาม แต่ยังเพราะเธอกำลังเป็นตัวแทนชาวจีน!
แม้ว่าอู๋ฝานกังวลใจห่วงหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ แต่ในเมื่ออีกฝ่ายไม่ยินดียอมปล่อยผ่านเรื่องราว เขาก็ไม่อาจพูดอะไรได้มาก ทำได้เพียงยืนด้านหลังเพื่อรับชมด้วยความกังวล
ราวกับรับรู้ถึงสายตาเป็นกังวลของอู๋ฝาน สีหน้าของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ในตอนนี้ไม่ได้เยือกเย็นเท่าก่อนหน้าแล้ว
“กังวลเหรอคะ? หลิ่วเหยียนเอ๋อร์แข็งแกร่ง เธอจะไม่เป็นไรค่ะ” ถังอวี่เฟยเดินมาหยุดยืนข้างอู๋ฝานพลางบอก
“ครั้งนี้ต่างออกไปครับ” อู๋ฝานส่ายหน้า พลางตอบกลับ “เหอเหลียงนั่นเป็นแค่คนธรรมดา หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ต่อสู้กับเขา ผมเลยไม่ได้กังวลอะไร แต่โนซาวะ ชูอิจิจากประเทศอาทิตย์อุทัยคนนั้น เขาเป็นผู้ฝึกตน ทั้งยังเป็นขอบเขตสว่างขั้นสูง พละกำลังไม่เลวเลยทีเดียว”
“เขาเป็นผู้ฝึกตนเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยมองโนซาวะ ชูอิจิด้วยอาการประหลาดใจ แม้เธอทราบว่าอีกฝ่ายไม่ได้อ่อนแอ และเป็นยอดฝีมือคาราเต้ที่แท้จริง แต่ก็ไม่ได้คาดคิดว่าอีกฝ่ายจะเป็นผู้ฝึกตน
“ครับ” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ
และครั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้เริ่มประลองกันเรียบร้อยแล้ว โนซาวะ ชูอิจิบุกด้วยลูกเตะแนวขวาง เขาไม่ได้ปรามาสหลิ่วเหยียนเอ๋อร์เหมือนเหอเหลียง และไม่ได้มีเจตนาจะออมมือให้อีกฝ่ายด้วย ขณะนี้สบโอกาสบุกโจมตี เขาจึงลงมืออย่างไม่ยั้งแรง
มันเป็นเพราะ เขาเองก็ได้ทราบแล้วว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่ธรรมดา และตระหนักถึงความรู้สึกกดดันที่หญิงสาวส่งออกมา
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์มีจิตใจที่นิ่งสงบ ตอนที่โนซาวะ ชูอิจิเตะเท้าขวาออกมา เธอก็เบี่ยงตัวหลบเล็กน้อยเป็นการหลบเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่าย
เพียงแต่ก่อนที่หลิ่วเหยียนเอ๋อร์จะตอบโต้ โนซาวะ ชูอิจิกลับเตะออกมาอีกครั้ง มันพุ่งตรงเข้าหาใบหน้าของหญิงสาว ทั้งยังออกแรงเต็มที่ กระทั่งบรรดาผู้ที่รับชมอยู่ ยังรับรู้ได้ถึงความแข็งแกร่งที่อัดแน่นในเท้าดังกล่าว หากเป็นพวกเขาที่ถูกเตะ คงไม่อาจลุกขึ้นมาได้อีกนาน
หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่มีทางเลือก ต้องทิ้งการตอบโต้ ขยับเท้าเล็กน้อยเพื่อหลบเลี่ยงการโจมตีของอีกฝ่าย แม้ว่าการโจมตีพลาดไม่โดนหญิงสาว แต่ก็ทำให้ปอยผมที่หน้าผากของเธอพลิ้วไปกับสายลมที่เท้านั้นเตะเข้าหา
เมื่อเตะลมอีกครั้ง โนซาวะ ชูอิจิก็ไม่ได้ท้อถอย เขายังคงโจมตีอย่างต่อเนื่อง ราวกับไม่ทราบว่าความเหนื่อยล้าคืออะไร เขายังคงออกการโจมตีเช่นนั้นต่อไป การโจมตีแต่ละครั้งล้วนแล้วแต่ดุดัน บีบบังคับให้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ไม่อาจตอบโต้ ทำได้เพียงแค่หลบเลี่ยง
ผู้คนที่รับชมต่างก็มองเรื่องที่เกิดขึ้นอย่างนึกทึ่ง พวกเขาไม่คาดคิดว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ ผู้ดุดันที่สามารถเล่นงานเหอเหลียงจนไร้หนทางชนะได้ จะไม่มีโอกาสได้ตอบโต้ยามเผชิญหน้ากับการโจมตีของชายหนุ่มจากแดนอาทิตย์อุทัย สถานการณ์ตอนนี้ไม่มีใครคาดคิด พวกเขานึกไปว่าหญิงสาวจะสามารถเอาชัยได้เหมือนครั้งเล่นงานเหอเหลียง ต่อให้เป็นชายหนุ่มจากแดนอาทิตย์อุทัยก็ไม่มีข้อยกเว้นเสียอีก
เหอเหลียงยังคงนอนอยู่กับพื้น สายตาจับจ้องสองคนที่กำลังประลองกันบนเวที เพราะลูกเตะสุดท้ายของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์หนักมาก ทำให้เขายังไม่ฟื้นจากอาการมึนงง ดังนั้นจึงทำได้เพียงนอนพักอยู่บนพื้นเฉย ๆ
ทว่าตอนนี้ ขณะได้เห็นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์กำลังตกเป็นรองให้แก่โนซาวะ ชูอิจิ เขาก็รู้สึกอิ่มเอมสุขสันต์ขึ้นมาทันที ราวกับตนได้แก้แค้นแล้วก็ไม่ปาน
หลังพ่ายแพ้หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ เขาก็ทราบดี ว่าความสัมพันธ์ของตนเองและหญิงสาวนั้นไม่มีทางเป็นไปได้อีก หากเขาไม่ได้ เขาก็ต้องหาทางทำลายมัน! ดังนั้นเขาจึงยั่วยุหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ให้ประลองกับโนซาวะ ชูอิจิ เพื่อที่จะได้เห็นความพ่ายแพ้ของอีกฝ่าย ก่อนหน้านี้เธอทำตัวเย็นชาใช่หรือไม่? ถ้าเมื่อไหร่ที่เธอพ่ายแพ้โนซาวะ ชูอิจิ ตอนนั้นเขาก็อยากจะดูว่าเธอยังวางตัวสูงส่งเย็นชาได้อีกสักแค่ไหน และหากหญิงสาวไม่ยอมตกลงเป็นแฟนกับโนซาวะ ชูอิจิ เธอจะกลายเป็นที่ขบขันของทั้งมหาวิทยาลัย มันคือการทำลายชื่อเสียงของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์!
เห็นได้ชัดว่าการพ่ายแพ้แก่หลิ่วเหยียนเอ๋อร์ต่อหน้าผู้คน ทั้งยังเป็นความพ่ายแพ้อันน่าอนาถ มันทำให้ใจของเหอเหลียงมีเพียงความเกลียดชังต่อหญิงสาว เขาจึงคิดอยากเห็นเธอพ่ายแพ้อย่างน่าสังเวชยิ่งกว่าตนเอง มีแค่การทำเช่นนั้นใจเขาจึงจะพอระงับความเจ็บปวดได้
“นั่นเธอคงไม่ได้กำลังจะแพ้ให้กับคนจากประเทศอาทิตย์อุทัยใช่ไหมคะ?” ถังอวี่เฟยเอ่ยคำถามด้วยความเป็นกังวล
แม้ว่าถังอวี่เฟยและหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ บ่อยครั้งจะดูไม่ค่อยลงรอยกัน แต่ระหว่างคนทั้งสอง มันเป็นเพราะบุคลิกนิสัยที่แตกต่างกันจึงเป็นเช่นนั้น ไม่ใช่ว่ามีความขัดแย้งอะไรกันเป็นการส่วนตัว และทั้งสองต่างก็เป็นโฉมงาม ในใจส่วนลึกแล้วก็ยังคงมีความรู้สึกเห็นใจต่อกันในบางเรื่อง
ดังนั้นถังอวี่เฟยจึงไม่อยากเห็นหลิ่วเหยียนเอ๋อร์แพ้ โดยเฉพาะกับความพ่ายแพ้ต่อคนต่างชาติ
และเพราะเหตุผลดังกล่าว เธอที่เห็นว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์คล้ายจะไม่มีแรงจะสู้กลับ ทำให้ตอนนี้ใจของถังอวี่เฟยเกิดความกังวลขึ้นมา
“ไม่หรอกครับ” อู๋ฝานที่อยู่ข้างกายเอ่ยขึ้นมา
“แต่ว่าช่วงที่ผ่านมาเธอถูกสะกดเอาไว้ตลอด ไม่มีโอกาสให้ตอบโต้เลยนะคะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ
“ก็เพียงแค่ภายนอกครับ” อู๋ฝานตอบรับ ความแข็งแกร่งของเขาก็ไม่เลวร้าย ชายหนุ่มเองก็ถูกจัดอยู่ในหมวดที่ไม่ใช่คนธรรมดาเช่นเดียวกัน ดังนั้นเขาย่อมมองเห็นลึกลงไปมากกว่าที่คนธรรมดาในที่นี้เห็น “แม้ว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์คล้ายจะตกเป็นรองอยู่ ทั้งยังไม่มีโอกาสโต้กลับ แต่จริง ๆ แล้วเธอไม่ได้ตกเป็นรองอย่างที่เห็น แค่คู่ต่อสู้ของเธอเป็นฝ่ายชิงบุก และเธอก็เลี่ยงการโจมตีของคู่ต่อสู้ในเสี้ยววินาทีเพื่อหาโอกาสตอบโต้ ถ้าเมื่อไหร่คู่ต่อสู้เผยช่องว่างสักครั้ง ตอนนั้นเธอจะพร้อมตอบโต้อย่างแน่นอนครับ”
“เป็นแบบนั้นเหรอคะ?” ถังอวี่เฟยไม่ได้มองเหมือนที่อู๋ฝานเห็น เธอไม่สามารถดูได้ถึงขนาดนั้น เธอก็คล้ายคนอื่นในที่แห่งนี้ ที่รู้สึกว่าหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ตกเป็นรองโนซาวะ ชูอิจิอย่างไร้ทางโต้กลับ จะพ่ายแพ้เมื่อไหร่ก็ขึ้นอยู่กับเวลา
“ครับ” อู๋ฝานตอบรับอย่างหนักแน่น “ตอนแรกผมเองก็กังวลห่วงเธออยู่ กลัวว่าเธอจะไม่สามารถสู้กับคนของประเทศอาทิตย์อุทัยได้ แต่ตอนนี้เหมือนว่าประสบการณ์ต่อสู้ของเธอจะสูงกว่า วิธีการที่เธอใช้เพื่อเผชิญหน้ากับศัตรูตอนนี้ ดีเกินกว่าที่ผมคิดเอาไว้มากครับ”
อู๋ฝานในตอนนี้ยิ่งสงสัยในตัวตนของหลิ่วเหยียนเอ๋อร์ รวมถึงเบื้องหลังของเธอ สงสัยว่าครอบครัวเช่นไรที่ฝึกฝนคนที่เก่งกาจอย่างหญิงสาวขึ้นมาได้