บทที่ 292 คิดอะไรอยู่
บทที่ 292 คิดอะไรอยู่
“ไม่เป็นไร ฉันไม่ได้ส่งอาหารกับไวน์พวกนั้นไปเพราะเจาะจงให้เธออยู่แล้ว” อู๋ฝานปฏิเสธไปตามตรง “แล้วก็ช่วงนี้ฉันยังมีเรื่องยุ่ง ๆ ต้องจัดการ เลยไม่ค่อยมีเวลาสักเท่าไหร่”
ความรู้สึกดี ๆ ที่อู๋ฝานมีให้เจ้าเสวี่ยอี๋มันผ่านไปนานแล้ว เขาไม่ได้อยากเข้าไปเกี่ยวข้องอะไรกับอีกฝ่ายมากไปกว่านี้ ดังนั้นคำเชิญของหญิงสาวในครั้งนี้ ตนจึงเลือกที่จะปฏิเสธไปอย่างชัดเจน
“ถ้าไม่มีอะไรแล้ว ฉันวางสายก่อนนะ” เมื่ออู๋ฝานพูดจบ ก็ไม่รอให้เจ้าเสวี่ยอี๋มีโอกาสตอบอะไรอีก เขาวางสายไปทั้งแบบนั้น
“ตอบผู้หญิงแบบนั้นไม่ค่อยเป็นสุภาพบุรุษเลยนะคะ” ถังอวี่เฟยเผยยิ้ม
“เรื่องอะไรแบบนี้ การตัดให้ชัดเจนก็เป็นเรื่องควรทำครับ ไม่จำเป็นต้องปล่อยไว้จนลำบาก” อู๋ฝานตอบกลับ
ในเมื่ออู๋ฝานไม่ได้ต้องการให้มีอะไรระหว่างตนเองและเจ้าเสวี่ยอี๋ เขาก็ต้องไม่เข้าไปเกี่ยวข้องจนเกินเลย
“คุณไม่อยากไปเกี่ยว แต่เธอไม่ได้คิดแบบนั้นน่ะสิคะ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ
“ไม่น่านะครับ ผมก็ปฏิเสธชัดเจนดีแล้ว เธอน่าจะเข้าใจความหมายที่ผมต้องการสื่อ” อู๋ฝานตอบกลับ
“คะ? ไม่เชื่อที่ฉันเดาเหรอคะ เหมือนจะลืมที่ฉันบอกไว้ก่อนหน้านี้แล้วล่ะสิ” ถังอวี่เฟยตอบกลับ
อู๋ฝานชะงักไป เมื่อกี้ถังอวี่เฟยเพิ่งบอกว่าเจ้าเสวี่ยอี๋จะเป็นฝ่ายติดต่อหาด้วยตัวเอง ทว่าเขามองว่าเป็นไปไม่ได้ แต่ก็ได้พิสูจน์เร็วกว่าที่คาด ว่าคำพูดของอีกฝ่ายแม่นยำแค่ไหน
จะบอกว่าเจ้าเสวี่ยอี๋จะยังติดต่อมาอีกครั้ง แม้ได้รับท่าทีแบบนั้นกลับไปแล้วเนี่ยนะ?
“เชื่อฉันเถอะค่ะ เธอจะเป็นฝ่ายติดต่อหาคุณอีกแน่” ถังอวี่เฟยตอบกลับด้วยความมั่นใจ
อีกฝั่งหนึ่ง เจ้าเสวี่ยอี๋ชะงักค้างขณะมองโทรศัพท์ที่ถูกวางสายใส่
อู๋ฝานวางสายใส่? เธออุตส่าห์เป็นฝ่ายชวน แต่กลับถูกปฏิเสธอย่างแล้งน้ำใจถึงขนาดนี้?
การถูกทำแบบนี้เป็นเรื่องที่เจ้าเสวี่ยอี๋ไม่เคยเจอมาก่อน ไม่ว่าจะสมัยยังเรียนมหาวิทยาลัย หรือตอนทำงาน หญิงสาวก็ไม่เคยขาดคนที่เข้ามาจีบ ผู้คนเหล่านั้นกระหายจะเข้าหาเธอ ต่อให้ไม่ได้ไล่ตามจีบ ก็ไม่เคยมีใครทำกับเธอแบบนี้มาก่อน
ดังนั้นหลังถูกอู๋ฝานวางสายใส่ เจ้าเสวี่ยอี๋จึงชะงักไป กระทั่งนึกสงสัยว่าฝันอยู่หรือไม่
แต่ความจริงก็คือความจริง อู๋ฝานปฏิเสธคำเชิญของเธอ ทั้งยังวางสายโดยไม่รอให้เธอตอบแม้ครึ่งคำ
“นี่มันเรื่องอะไร? อู๋ฝานไม่ได้เคยชอบเราเหรอ? ทำไมตอนนี้ทำแบบนี้?” เจ้าเสวี่ยอี๋เผยสีหน้างงงวย “หรือว่า เพราะเรื่องสมัยเรียนมหาวิทยาลัย เราไม่ได้ตอบหรือแก้ต่าง เขาเลยไม่กล้าเสนอตัวอีกอย่างนั้นเหรอ?”
เจ้าเสวี่ยอี๋ยังคงมีความมั่นใจในตัวเองอยู่พอสมควร อู๋ฝานเคยชอบเธอ แม้เขาอธิบายด้วยตัวเองแล้วว่ามันเป็นเรื่องเข้าใจผิด แต่หญิงสาวไม่เชื่อ กลับกันเธอคิดว่าถึงชายหนุ่มแสดงออกเช่นนั้น แต่ใจจริงยังคงมีความรู้สึกดี ๆ ให้กับเธออยู่
“บางทีเขาอาจจะเสียหน้าไม่ได้” เจ้าเสวี่ยอี๋ครุ่นคิดกับตัวเอง
แม้ถูกอู๋ฝานปฏิเสธ แต่เจ้าเสวี่ยอี๋ก็ไม่ได้หยุดความตั้งใจลงเพียงแค่นี้ ถึงรอบตัวเธอจะมีคนคอยตามจีบมากมาย ทว่าคนอย่างอู๋ฝานที่มีทั้งอำนาจและศักยภาพอันโดดเด่น กระทั่งนำหม่าอิงเฟยมาเทียบยังดีเท่าอีกฝ่ายไม่ได้ ชายหนุ่มในตอนนี้ เธอจะไม่มีทางปล่อยไปง่าย ๆ อย่างแน่นอน
หลังกลับมาบ้าน อู๋ฝานก็ลืมเรื่องในโลกความเป็นจริงไปชั่วคราว พร้อมกับเทเลพอร์ตไปยังโลกแห่งเกม
ขณะที่อู๋ฝานมาถึงลานกว้างอีกครั้ง ก็ได้พบว่าหนิวเอ้อกำลังนำกลุ่มคนไปฝึกซ้อม ชายหนุ่มสำรวจกลุ่มคนที่เข้าร่วมและรับการฝึก มีจำนวนราวห้าสิบคน ทั้งหมดยังเป็นคนหนุ่ม แต่เพราะไม่ได้รับการบำรุงที่ดี ทำให้แต่ละคนค่อนข้างผอมอย่างเด่นชัด โดยเฉพาะเมื่อยืนร่วมกับคนแข็งแรงเช่นหนิวเอ้อ
“นายท่านมาแล้ว พวกเขาเป็นคนที่ข้าเลือกจากกลุ่มผู้อพยพขอรับ และพวกเขาก็ยินดีเข้าร่วมหน่วยรักษาการณ์” เห็นอู๋ฝานมาถึง หนิวเอ้อจึงเร่งเข้ามาบอก
“ดี” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับ “จำนวนคนค่อนข้างน้อย น่าจะต้องเลือกคนมาเพิ่มอีก จำนวนของหน่วยรักษาการณ์ที่น่าจะดี ควรจะสักหนึ่งร้อยคนขึ้นไป”
“ขอรับนายท่าน” หนิวเอ้อตอบรับ “บังเอิญว่าวันนี้ลั่วหยางนำกลุ่มคนกลับมาเพิ่มด้วยพอดี สักพักข้าจะไปทางด้านนั้นเพื่อดูว่าใครที่พอมีแววบ้างขอรับ”
“อืม” อู๋ฝานพยักหน้าตอบรับบราวนี่ออนไลน์
ถัดจากนั้น อู๋ฝานจึงมองกลุ่มคนที่เข้ารับการฝึกซ้อมพร้อมกับเอ่ย “ทุกคนทราบกันดีอยู่แล้ว ใกล้เทศมณฑลชิงหยวนของพวกเรา กองทัพกบฏกำลังออกอาละวาดอยู่ และพวกเขาอาจมาถึงที่นี่ได้ทุกเมื่อ ดังนั้นพวกเราอาจมีเวลาเหลือไม่มาก เพื่อชีวิตของทุกคน เพื่อความปลอดภัยของหมู่บ้าน ข้าจะให้หนิวเอ้อฝึกความแข็งแกร่งให้เพิ่มขึ้นเท่าที่จะเป็นไปได้! ขอพวกท่านวางใจ ตราบใดที่รับการฝึกซ้อมอย่างจริงจัง ข้าจะดูแลพวกท่านอย่างดีเท่าที่ทำได้ อาหารสามมื้อไม่ขาด ทั้งทุกมื้อจะมีเนื้อให้ได้ทานเป็นปกติ ขอให้ทานกันจนกว่าจะอิ่มท้องด้วย อีกทั้งพวกท่านจะยังได้สิ่งที่คล้ายรางวัลของกองทัพจากราชสำนัก นั่นคือการจ่ายด้วยเสบียงอาหารและเงินในทุกเดือน เมื่อใดเริ่มสู้รบ ก็ขอให้สู้อย่ากล้าหาญ หลังจบศึก ข้าจะมอบรางวัลตามความเหมาะสม ไม่ว่าจะเป็นเงินทอง หรืออาจจะเป็นที่ดิน!”
คำพูดของอู๋ฝาน ทำให้กลุ่มคนที่รับฟังต่างเนื้อเต้นด้วยความยินดี
ก่อนที่พวกเขาจะมายังหมู่บ้านเร้นลับ พวกเขาไม่เคยได้ทานอาหารที่ดีมานาน นับประสาอะไรกับการได้ทานเนื้อ พวกเขาน่าจะไม่เคยได้ทานมาหนึ่งหรือว่าสองปีแล้วด้วยซ้ำ ตอนนี้อู๋ฝานมอบความเป็นอยู่ที่ดีให้อย่างเปิดเผย มีเนื้อให้กินในทุกมื้ออาหาร การดูแลระดับนี้ สำหรับพวกเขาแม้กระทั่งฝันยังเป็นเรื่องยากที่จะได้รับ
คำพูดของอู๋ฝานที่กล่าวถึงอาหารและเงินเดือน รางวัลเช่นเงินทองและที่ดินหลังทำความดีความชอบในการสู้รบยิ่งเป็นขวัญกำลังใจให้พวกเขา โดยเฉพาะที่ดิน!
พวกเขาที่เคยเป็นเพียงชาวไร่ชาวนาธรรมดา ชาวไร่ชาวนาย่อมมีความรู้สึกพิเศษกับที่ดิน หากไร้ซึ่งที่ดิน พวกเขาก็เปรียบดังต้นไม้ไร้ราก ความวางใจไม่เคยเกิดขึ้น
ตอนนี้อู๋ฝานรับปากพวกเขา ว่าตราบใดที่ต่อสู้อย่างกล้าหาญ พวกเขาจะมีโอกาสได้รับรางวัลเป็นที่ดิน ไม่แปลกหากพวกเขาจะตื่นเต้นกันขึ้นมา กระทั่งอดใจรอที่จะได้เข้าร่วมสนามรบสังหารศัตรูเสียเดี๋ยวนี้!
“ฝึกซ้อมกันต่อไป” อู๋ฝานค่อนข้างพึงพอใจที่เห็นท่าทีตอบรับของพวกเขา เขาไม่อยากให้คนเหล่านี้อ่อนปวกเปียกยามต้องจับอาวุธสู้รบจริง หากเป็นเช่นนั้น มันจะส่งผลร้ายต่อหมู่บ้านเร้นลับ สุดท้ายอาจถึงขั้นไม่สามารถป้องกันเอาไว้ได้
หนิวเอ้อนำกลุ่มคนฝึกซ้อมต่อ ขณะที่ลั่วหยางและหลี่ว์ปินก็เดินทางกลับมาถึง
ยามนี้คนทั้งสองรับผิดชอบหน้าที่เพิ่มมากขึ้น นั่นคือการเดินทางไปเทศมณฑลเพื่อขายวัตถุดิบที่ได้รับจากทางหมู่บ้าน และสืบหาข่าวจากที่นั่น อีกทั้งพวกเขายังต้องแวะไปรอบนอกเทศมณฑลเพื่อคัดเลือกผู้อพยพ
มีแต่ต้องให้พวกเขาทำเช่นนี้อู๋ฝานจึงจะสามารถรู้ถึงสถานการณ์ของโลกภายนอกได้ ดังนั้นทุกครั้งที่พวกเขาเดินทางกลับมาถึง ชายหนุ่มจะเรียกพวกเขาเข้ามาพูดคุยถึงสถานการณ์ที่เกิดขึ้นในแต่ละวัน
“เป็นยังไงบ้าง มีข่าวของกองทัพกบฏหรือไม่?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
อู๋ฝานค่อนข้างกังวลเรื่องที่กองทัพกบฏจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย ที่นี่ไม่ใช่ยุคใหม่ การติดต่อสื่อสารยังไม่ได้รับการพัฒนาที่ดี ดังนั้นการที่กองทัพจะซ่อนตัวปิดซ่อนร่องรอยก็ไม่ใช่เรื่องยากจนเกินไป
“ยังไม่มีขอรับ” หลี่ว์ปินตอบกลับ “ทางเทศมณฑลเพิ่มมาตรการป้องกันให้แน่นหนามากขึ้น แต่ก็ไม่ได้มีท่าทีจะตรวจสอบสถานการณ์ของฝั่งกองทัพกบฏเลยแม้แต่น้อยขอรับ”
“เหมือนจะพึ่งพาทางเทศมณฑลไม่ได้เสียแล้ว ต้องให้ทางพวกถังซานจับตามองอย่างใกล้ชิดมากยิ่งขึ้น” อู๋ฝานตอบรับ