บทที่ 312 อาจารย์ของไหน่ไช
บทที่ 312 อาจารย์ของไหน่ไช
“ครับ ขอบคุณนายน้อยอู๋มากครับ” ติงอวิ๋นกล่าวคำด้วยความตื้นตัน
การที่อู๋ฝานตอบกลับมาเช่นนี้ ก็ถือว่าเห็นแก่หน้าเขามากแล้ว หากอีกฝ่ายยืนยันปฏิเสธ เขาก็ไม่อาจทำอะไรอื่นได้ อย่างไรแล้วชายหนุ่มก็ไม่ใช่ลูกน้องของเขา กระทั่งว่ามีสถานะสูงส่งกว่าด้วยซ้ำ
หลังวางสายติงอวิ๋น อู๋ฝานจึงเตรียมเดินทางไปที่คลับ ขณะไปได้ครึ่งทาง เขาก็ได้รับสายจากหวังจื่อหมิง
“อู๋ฝาน ติงอวิ๋นติดต่อนายเหรอ?” ทันทีที่รับสาย หวังจื่อหมิงก็ตรงเข้าประเด็น
“ครับ” อู๋ฝานตอบรับ “พี่หวังทราบเรื่องนี้ด้วยเหรอครับ?”
“ต้องรู้อยู่แล้วสิ” หวังจื่อหมิงตอบกลับ “อู๋ฝาน ฟังฉัน อย่าเข้าไปเกี่ยวกับเรื่องนี้ ถ้านายไม่ไป ติงอวิ๋นก็ทำอะไรนายไม่ได้อยู่แล้ว ต่อให้เป็นเถ้าแก่ที่อยู่เบื้องหลังคลับ ก็ไม่มีความกล้าถึงขนาดนั้น”
หวังจื่อหมิงและอู๋ฝานแตกต่างกัน ชายหนุ่มไม่ได้สนใจเรื่องการต่อยมวย แต่ครั้งก่อนที่ไปเพราะหวังจื่อหมิงพาไป นับตั้งแต่นั้นก็ไม่เคยไปอีก ดังนั้นเขาจึงไม่รู้แน่ชัดว่าที่นั่นมันเกิดเรื่องราวใดขึ้น
แต่ไม่ใช่กับหวังจื่อหมิง ตนไปที่นั่นเพื่อดูอยู่บ่อยครั้ง ทำให้รู้เรื่องดีกว่าอู๋ฝาน แม้ทราบเช่นกันว่าอาจารย์ของไหน่ไชพูดถึงชายหนุ่ม แต่เขาก็ยังไม่บอกให้อีกฝ่ายรู้ เพราะไม่ต้องการให้เขาเข้ามาข้องเกี่ยวจนเสี่ยงชีวิต
“พี่หวังเคยไปดูการแข่งขันมาแล้วใช่ไหมครับ อาจารย์ของเขาแข็งแกร่งขนาดไหนครับ?” อู๋ฝานเอ่ยถาม
“ฉันเห็นแล้วจริง ๆ นั่นแหละ” หวังจื่อหมิงตอบรับ “อาจารย์ของไหน่ไชชื่อว่าปาซง แข็งแกร่งกว่าไหน่ไชพอสมควรเลย จะใช้หนึ่งกระบวนท่าล้มคู่ต่อสู้บ่อย ๆ ในบรรดาคนที่แพ้ ก็มีผู้ฝึกตนขอบเขตสว่างขั้นสูงรวมอยู่ด้วย!”
“มีผู้ฝึกตนด้วยเหรอครับ? และยังเป็นขอบเขตสว่างขั้นสูง?” อู๋ฝานประหลาดใจไปครู่หนึ่ง
“ใช่ ปาซงคนนี้ค่อนข้างอวดดีและโหดเหี้ยม บังเอิญว่ามีผู้ฝึกตนขอบเขตสว่างขั้นสูงคนหนึ่งรู้เรื่อง เลยคิดจะมาสั่งสอนบทเรียนให้ปาซงสักครั้ง แต่เขากลับเป็นฝ่ายพิการซะเอง สภาพเลวร้ายกว่าไหน่ไชตอนนั้นเยอะ” หวังจื่อหมิงตอบกลับ “อู๋ฝาน ฟังฉัน ครั้งนี้นายไม่ต้องออกหน้าหรือไปเกี่ยวข้อง ปาซงจะสร้างเรื่องหรือปัญหาแค่ไหน ก็ไม่ต้องรู้สึกผิดจนเอาตัวเองไปเสี่ยง”
ในใจของหวังจื่อหมิงนั้น แม้อู๋ฝานจะไม่ได้อ่อนแอ แต่ก็น่าจะเป็นคนที่อยู่ขอบเขตสว่างขั้นสูง เอาชนะไหน่ไชนั้นได้ แต่ไม่ใช่กับอาจารย์ของไหน่ไชอย่างปาซง นอกจากนี้อีกฝ่ายยังโหดเหี้ยม และยังมุ่งเป้ามาที่ชายหนุ่มอย่างเต็มที่ หากอู๋ฝานขึ้นสังเวียน ก็เป็นเรื่องยากที่จะสามารถรอดกลับมาได้ครบสามสิบสอง
“ผมรับปากกับติงอวิ๋นแล้วว่าจะลองไปดูก่อนครับ แต่ไม่ได้บอกว่าจะขึ้นสังเวียน” อู๋ฝานตอบรับ “ไม่ต้องห่วงครับ ผมไม่โง่ขนาดขึ้นสังเวียนที่รู้ว่าอีกฝ่ายแข็งแกร่งกว่าตัวเองแน่นอน”
อู๋ฝานครอบครองวิชาตรวจสอบ เขาสามารถสำรวจได้ว่าปาซงคนนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าแข็งแกร่งกว่าเขามาก เช่นนั้นตนย่อมไม่เอาตัวไปเสี่ยงขึ้นสังเวียน อย่างไรเขาก็ไม่ได้มีสัมพันธ์สนิทชิดเชื้ออะไรกับติงอวิ๋นและเถ้าแก่ของคลับ
“ก็ได้ ได้ยินนายพูดแบบนี้ค่อยวางใจได้หน่อย” หวังจื่อหมิงตอบกลับ “นายกำลังไปที่คลับงั้นเหรอ?”
“ครับ” อู๋ฝานตอบรับ
“เดี๋ยวฉันตามไป” หวังจื่อหมิงตอบกลับมา
ใจหวังจื่อหมิงยังกังวลว่าอู๋ฝานอาจทนไม่ไหวจนขึ้นสังเวียน หลังได้ทราบว่าอีกฝ่ายกำลังเดินทางไปที่คลับ เขาจึงเตรียมเดินทางไปเช่นเดียวกัน
“ไว้เจอกันที่คลับครับ” อู๋ฝานตอบรับ
ผ่านไปครึ่งชั่วโมง อู๋ฝานก็ได้พบกับหวังจื่อหมิงที่คลับ คนทั้งสองเดินเข้าไปด้านในพร้อมกัน ขณะที่ติงอวิ๋นที่ทราบข่าวอยู่ก่อนแล้วจึงกำลังรอที่จะได้พบ
“นายน้อยหวัง นายน้อยอู๋ มาถึงกันแล้วเหรอครับ เชิญด้านในเลยครับ” ติงอวิ๋นบอกด้วยความสุภาพ
“ติงอวิ๋น คุณกล้าดีไม่น้อยเลยนะ ฉันเตือนแล้วว่าอย่าโทรหาอู๋ฝาน ถึงฉันจะพูดแบบนั้นไปแล้ว ก็ยังไม่ฟังคำพูดของฉันงั้นสินะ?” ทันทีที่เจอ หวังจื่อหมิงก็ตั้งคำถามรุกไล่ติงอวิ๋นอย่างไม่ไว้หน้า
“นายน้อยหวังใจเย็นก่อนครับ” ติงอวิ๋นเร่งเผยสีหน้าขื่นขมเอ่ยขออภัย “ผมไม่มีทางเลือกจริง ๆ ครับ เพราะอย่างนั้นผมถึงได้โทรหานายน้อยอู๋ อีกอย่างนายน้อยอู๋ก็แค่มาดูสถานการณ์ ส่วนจะตัดสินใจยังไงนั้นก็ไม่ใช่อำนาจที่ผมสามารถตัดสินใจครับ”
“เรื่องนี้ไม่ควรบอกให้อู๋ฝานรู้ด้วยซ้ำ!” หวังจื่อหมิงยังคงตะคอกใส่
ติงอวิ๋นทำได้เพียงต้องขอโทษอีกครั้ง
“ไม่เป็นไรครับ ตอนนี้พวกเราเข้าไปดูสถานการณ์ก่อนแล้วกัน” อู๋ฝานตอบกลับ
“ท่านทั้งสอง เชิญด้านในครับ” ติงอวิ๋นเร่งร้อนตอบรับ
ด้วยเหตุนี้หวังจื่อหมิงจึงเข้าไปด้านในพร้อมกับอู๋ฝาน
คนทั้งสามเข้าไปด้านในของห้องส่วนตัว พร้อมดูศึกที่กำลังดำเนินบนสังเวียน อู๋ฝานเอ่ยถาม “ปาซงมาหรือยังนะครับ?”
“มาแล้วครับ หลังแมตช์นี้เสร็จ ก็ถึงตาของเขาแล้วครับ คู่ต่อสู้ของเขาครั้งนี้ผมตามหาตัวมาอย่างยากลำบาก ตอนนี้เหลือไม่กี่คนที่จะยินดีสู้กับเขาครับ” ติงอวิ๋นตอบกลับ “ปาซงค่อนข้างโหดเหี้ยม เขาประกาศชัดว่าถ้าหากนายน้อยอู๋ไม่มาปรากฏตัว เขาจะสู้อยู่ที่นี่ต่อไม่ไปไหน ถ้าพวกเราไม่ช่วยจัดการหาคู่ประลองให้ เขาจะลงจากสังเวียนแล้วเล่นงานทุกคนที่เห็นหน้า”
อู๋ฝานขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาไม่คิดมาก่อนว่าปาซงคนนี้จะตั้งใจมาทำให้เป็นเรื่องใหญ่ถึงขนาดนี้ แต่พอคิดว่าอีกฝ่ายเห็นศิษย์ของตนถูกทุบตีไปเช่นไร กระทั่งเรียกได้ว่าเกือบพิการเป็นผัก ก็คล้ายจะเข้าใจโทสะของอีกฝ่ายขึ้นมาแล้วบราวนี่ออนไลน์
ตอนนี้เองที่แมตช์บนสังเวียนตัดสินแพ้ชนะกันเรียบร้อยแล้ว ผู้ชนะได้รับเสียงเชียร์จากผู้ชม ทว่าอู๋ฝานก็ได้เห็นว่าในบรรดาผู้ชมเหล่านี้ ไม่ได้คล้ายจะมีความกระตือรือร้นกันสักเท่าไหร่
ติงอวิ๋นก็เห็นเช่นเดียวกัน เขาจึงอธิบาย “ผู้ชมที่นี่กำลังรอคอยปาซงอยู่ครับ หลายวันมานี้ ชื่อเสียงของปาซงดังมากเลยทีเดียว ขึ้นสู้ทุกครั้งคว้าชัยชนะมาได้ทุกครั้ง คล้ายเป็นรถบดถนน แล้วยังมีความโหดเหี้ยมที่แสดงออกนั่นอีก มันกลายเป็นการสร้างความรื่นเริงให้กับบรรดาผู้ชมครับ”
ผู้ชมเหล่านี้ที่มาเพื่อรับชมแมตช์ในแต่ละนัด ย่อมต้องมาเพราะอยากดูความตื่นเต้น ความดุร้ายของปาซงและกลยุทธ์อันต่ำช้าที่แสดงออกมาให้ชมนั้น มันกลายเป็นตัวกระตุ้นความตื่นเต้นให้พวกเขาอยากดู
“ให้ฉันเดานะ คลับคงไม่ลังเลที่จะให้ปาซงอยู่ที่นี่ถาวร แต่ก็มีเงื่อนไขที่ว่าต้องมีคนยอมสู้ด้วยตลอดใช่ไหมล่ะ” หวังจื่อหมิงมองกลุ่มคนที่อยู่นอกห้องส่วนตัว ที่กำลังจดจ่อรอคอยปาซงขึ้นสังเวียน เห็นดังนั้นเขาจึงอดไม่ได้ที่จะต้องหันไปเหน็บแนมติงอวิ๋น
ติงอวิ๋นในเวลานี้ยิ่งอับอาย หวังจื่อหมิงพูดถูก วิธีการป่าเถื่อนของปาซง ทว่าเมื่อรวมกับความแข็งแกร่งที่เหนือชั้น มันกลับถูกใจบรรดาผู้ชม หากฝั่งของพวกเขาสามารถหาคนมาต่อสู้กับปาซงได้ทุกวัน มันก็สามารถใช้เป็นจุดขายดึงดูดให้คนมาชมได้ ไม่ว่าอะไรก็เป็นผลดีกับคลับทั้งสิ้น
แต่เพราะปาซงแข็งแกร่งเกินไป ทั้งยังลงมืออย่างดุร้าย ทำให้นักสู้หลายคนไม่อยากเสี่ยงไปสู้กับปาซง และหากอีกฝ่ายแวะมาที่นี่ทุกวัน มันก็ไม่ใช่เรื่องดีกับทางคลับเช่นเดียวกัน
อีกทั้งปาซงแข็งแกร่งเกินไป หากคลับไม่สามารถหาคู่ต่อสู้ที่ทัดเทียมกันได้ บรรดาผู้ชมจะเอาแต่ซื้อเดิมพันข้างปาซงชนะ ทำให้ทางคลับไม่อาจมีกำไร
ดังนั้นปัญหาจึงอยู่ที่ทางคลับจำเป็นต้องหาคนที่แข็งแกร่งทัดเทียมปาซงเป็นมาอย่างเร่งด่วน โดยต้องไม่ใช่แค่เป็นคนที่ได้รับความนิยม แต่ต้องได้เปรียบอีกฝ่าย และมีโอกาสที่จะทำเงินได้ด้วย
เห็นได้ชัดว่าอู๋ฝานเป็นตัวเลือกที่ดี ทั้งยังเป็นเป้าหมายของปาซงตั้งแต่แรก เขาที่แทบจะสามารถเอาชนะไหน่ไชได้ในเวลาไม่นาน พละกำลังต้องแข็งแกร่งอย่างไม่ต้องสงสัย หากจับคู่คนทั้งสองลงแมตช์เดียวกันได้ ก็จะถือว่าดีที่สุด
แต่เพราะอู๋ฝานมีสถานะค่อนข้างพิเศษ ติงอวิ๋นจึงไม่กล้าบังคับ ที่ทำได้ก็เพียงแค่คาดหวังให้ชายหนุ่มเล่นด้วย