บทที่ 173 เปิดเผยต่อหน้าสาธารณชน สุนัขกัดกัน
อีกทั้งไท่ซ่างหวงยังเห็นดีเห็นงามด้วย!
พวกเขายังไม่ได้ทำอะไรเลย! เหตุใดตื่นขึ้นมาตำแหน่งก็หายไปเสียแล้ว!
เช่นนั้นต่อไปพวกเขาจะไปทำอะไร ที่ดินยังมีอยู่หรือไม่? ร้านค้ายังมีอยู่หรือไม่? พวกเขาจะเอาอะไรทำมาหากิน? คงไม่ใช่ว่าต้องไปทำปุ๋ยมูลสัตว์ที่หมู่บ้านจริง ๆ หรอกกระมัง!
แล้วจะมีชีวิตอยู่เช่นไร ไม่สู้ตายไปเสียยังดีกว่า!
จี้คังซื่อรีบโขกหัวและเอ่ยขึ้นมา “ไท่ซ่างหวงเพคะ หากท่านต้องการจะระบายความโกรธได้โปรดสั่งมาได้เลยเพคะ หม่อมฉันจะไม่บ่นอย่างแน่นอน เพียงแต่เรื่องนี้มีการเข้าใจผิดกันหรือไม่เพคะ หม่อมฉันจะได้ตามตัวลูกหลานอกตัญญูผู้นั้นมาขออภัยกับพระองค์เองเพคะ”
“ขออภัย? คนที่พวกเจ้าควรขออภัยไม่ใช่ข้า”
ฟางจวิ่นเหมยที่ไปคว้าถั่วลิสงจากห้องโถงใหญ่ของจวนจี้กั๋วกงมา เมื่อกลับมาได้ยินดังนั้นก็รีบเอ่ยขึ้น “นี่ เคยดูงิ้วบ้างหรือไม่ กษัตริย์ตรัสแล้วไม่คืนคำน่ะ คนบ้านนอกยังรู้เลย ไท่ซ่างหวงทรงตรัสออกมาแล้ว จะถอนคำพูดได้อย่างไรกัน?”
“ใช่ เช่นนั้นไท่ซ่างหวงของพวกเราจะกลายเป็นคนเช่นไร?”
“ตอนนี้เจ้าก็เหมือนกับพวกเราแล้ว ล้วนเป็นชาวบ้านธรรมดา ไม่มีใครสูงส่งกว่าใคร”
คนหมู่บ้านตระกูลเฉินต่างก็พูดกันไม่หยุด ทำให้คนของจวนจี้กั๋วกงอยากจะกระโดดขึ้นมาสู้ตายกับพวกเขาสักตั้ง
จี้คังซื่อไม่อยากจะเชื่อ ตนเองแก่ขนาดนี้แล้ว จนฝาโลงแทบจะดึงขึ้นมาถึงคออยู่แล้ว จวนจี้กั๋วกงกลับต้องมาหายไปเช่นนี้ นี่มันทรมานกว่าการฆ่าพวกนางเสียอีก
“จือฮวน เจ้าต้องการสิ่งใดกันแน่ เจ้าบอกย่ามา ย่าจะรับปากเจ้าทุกอย่าง พวกเราเป็นครอบครัวเดียวกัน จะทำเช่นนี้ไม่ได้นะ” จี้คังซื่อตอนนี้ทำได้เพียงขอร้องจี้จือฮวน
ในอดีตเด็กคนนี้ขี้ขลาด นางพูดคำสองคำก็สามารถเกลี้ยกล่อมได้แล้ว
จี้จือฮวนกำลังกินผลมันฮ่อที่อาอินบีบออกมา ได้ยินดังนั้นก็พยักหน้าแล้วเอ่ยขึ้นมา “มีเรื่องหนึ่งที่ต้องแจ้งพวกท่านจริง ๆ”
คนของจวนจี้กั๋วกงดวงตาเป็นประกายขึ้นมาทันที ต่อให้พวกเขาฝันอยู่ก็คิดไม่ถึงว่าวันหนึ่งจะต้องมาคุกเข่าอยู่บนพื้น และขอร้องจี้จือฮวนโดยพร้อมเพรียงกันเช่นนี้
นางค่อย ๆ เอ่ยออกมา “ข้าจะเป็นตัวแทนท่านแม่หย่ากับจี้เม่าซวิน ป้ายวิญญาณของนางข้าก็จะเอาไปด้วย ของของตระกูลเซี่ยพวกเจ้าล้วนไม่คู่ควรที่จะได้ไป”
คนของจวนจี้กั๋วกงต่างก็ตกตะลึง!
จี้จือฮวนมาเพื่อกำจัดพวกเขาให้สิ้นซากจริง ๆ! ของเหล่านั้นของตระกูลเซี่ย พวกเขาใช้จนเกือบหมดไปตั้งนานแล้ว ยังจะมีของอะไรอีก!!!
…
ขณะเดียวกัน ไป๋อี๋เหนียงมองหญิงรับใช้ที่มาเรียกนางด้วยความตกใจ
“เจ้าบอกว่าอะไรนะ จะเอารายการสินเดิม? เป็นของเก่าเก็บแล้ว ข้าจะไปหาที่ใดกัน” เห็นได้ชัดว่าไป๋อี๋เหนียงยังไม่ได้ตระหนักถึงความร้ายแรงของเรื่องนี้
หญิงรับใช้เอ่ยด้วยความร้อนใจ “พวกไท่ซ่างหวงรออยู่ด้านนอก ท่านยังไม่รีบออกไปอีก บ่าวเองก็จนปัญญาแล้วเจ้าค่ะ”
หญิงรับใช้เอ่ยจบก็ไม่สนใจไป๋อี๋เหนียงอีก สะบัดแขนเสื้อจากไปทันที นางไม่อยากตายไปกับผู้หญิงคนนี้ด้วย
ไป๋อี๋เหนียงชะงักไปครู่หนึ่ง ไท่ซ่างหวง? จี้จือฮวนผู้นั้นไม่แน่อาจจะใช้กลอุบายอะไรหลอกคนอยู่ก็เป็นได้ นางไม่เชื่อว่าสองแม่ลูกตระกูลเซี่ยนั่นจะมีความสามารถทำอะไรได้
ตอนนั้นนางสามารถตั้งท้องตอนที่เซี่ยชิงหรูท้องได้สามเดือน และคลอดหมิงซูออกมาหลังจากนั้นไม่นาน ยังต้องกลัวนางเด็กคนนี้ด้วยอย่างนั้นหรือ?
จี้หมิงซูกินยาไปและกำลังนอนหลับอยู่ ไป๋อี๋เหนียงห่มผ้าห่มให้นางเสร็จ ประตูห้องก็ถูกคนถีบเข้ามาทันที
คนที่มาก็คือซาน ซื่อ อู่ ลิ่ว ที่รอจนหมดความอดทน
ไป๋อี๋เหนียงย่อมจำพวกเขาได้ นางขมวดคิ้วและเอ่ยขึ้นทันที “พวกเจ้าช่างกล้าดียิ่งนัก ห้องของคุณหนูใช่ที่ที่พวกชั้นต่ำเช่นพวกเจ้าจะเข้ามาได้อย่างนั้นหรือ?”
ซาน ซื่อ อู่ ลิ่วขี้เกียจจะสนใจว่านางตะโกนอะไร เข้ามาได้ก็จับตัวไป๋อี๋เหนียงและหิ้วออกไปทันที ส่วนจี้หมิงซูพวกเขาใช้ผ้าห่มห่อเอาไว้และหามออกมา
จี้หมิงซูกำลังนอนอยู่ ตอนที่ครึ่งหลับครึ่งตื่นอยู่นั้นก็เห็นว่าตัวเองกำลังถูกผู้ชายสองถึงสามคนหามอยู่ จึงกรีดร้องออกมาด้วยความตกใจ
“เหตุใดจึงเป็นพวกเจ้า พวกเจ้าบ้าไปแล้วหรือ?”
พลพรรคตัวเลขเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เฮอะ พวกเราบ้าหรือเปล่าไม่รู้ แต่อีกเดี๋ยวพวกเจ้าสองแม่ลูกต้องเป็นบ้าอย่างแน่นอน”
ใครจะรู้ว่าพวกเขาประสบกับอะไรที่หมู่บ้านตระกูลเฉินมาบ้าง เช่นนั้นก็ควรให้สตรีสารเลวสองคนนี้ได้ไปเจอกับตัวเองดูบ้าง
วัน ๆ เอาแต่ให้พวกเขาไปทำเรื่องชั่ว ๆ ไม่อย่างนั้นพวกเขาจะตกต่ำจนตอนนี้ถูกเปลี่ยนชื่อเป็นซาน ซื่อ อู่ ลิ่วอย่างนั้นหรือ?!
รอจนกระทั่งไป๋อี๋เหนียงและจี้หมิงซูถูกลากมาถึงหน้าประตูแล้ว บรรดาคนในจวนจี้กั๋วกงก็เริ่มกัดกันเองทันที
“เหลวไหล ตอนที่เซี่ยชิงหรูแต่งเข้ามา ก็เป็นเจ้าที่บอกว่านางเสแสร้ง ขัดหูขัดตา ตั้งใจให้นางทำผิดต่อหน้าฮูหยินผู้เฒ่าไม่ใช่หรือ?”
“ข้าหรือ? ไม่ใช่เจ้าหรอกหรือที่บอกว่าเซี่ยชิงหรูหน้าตางดงาม ดูแล้วต้องไม่ใช่คนดีเป็นแน่”
พี่สะใภ้กับน้องสะใภ้สองครอบครัวกำลังกัดกัน
เมื่อพวกเขารู้ว่าจี้จือฮวนจะมาล้างแค้นให้ตระกูลเซี่ย จึงคิดจะปัดความผิดของตัวเอง อย่างไรเสียเรื่องในตอนนั้น คนที่รู้เรื่องก็มีไม่มากนัก
เมื่อรู้ว่าคนนี้เป็นตัวตั้งตัวตี อีกคนก็ไม่เกรงใจเช่นกัน
จึงเริ่มโยนความผิดให้กันไปมา
ไป๋อี๋เหนียงถูกพลพรรคตัวเลขลากมาตรงหน้าจี้เม่าซวิน
ไป๋อี๋เหนียงเป็นคนเจียงหนาน เดิมก็เกิดมาพร้อมความงามและมีเสน่ห์อยู่แล้ว รูปร่างอรชร ปกติยามปรากฏตัวต่อหน้าผู้อื่น นิสัยก็มักจะอ่อนโยนเป็นที่สุด ไม่แก่งแย่งกับใคร ที่จี้เม่าซวินชอบก็เพราะนิสัยเช่นนี้ของนาง
ต่อให้นางไม่มีลูกชาย แต่หลายปีมานี้เพราะจี้หมิงซู นางจึงได้รับความโปรดปรานไม่ขาด
ไป๋อี๋เหนียงรู้ว่าตัวเองเอาชนะใจผู้อื่นได้ด้วยความงาม ดังนั้นทุกครั้งที่ปรากฏตัวนางมักจะแต่งกายเรียบร้อย ต่อให้จะนอนกับจี้เม่าซวิน ก็ไม่เคยที่จะไม่แต่งหน้าเลย
เวลานี้เมื่อถูกคนฉุดกระชากออกมา ไหนเลยจะทันได้แต่งเนื้อแต่งตัวเช่นยามปกติ ผมเผ้าและเสื้อผ้าจึงยุ่งเหยิง ราวกับผู้หญิงบ้าข้างถนนอย่างไรอย่างนั้น
นิสัยที่ดีของไป๋อี๋เหนียง นั่นล้วนเป็นแค่การแสดงต่อหน้าจี้กั๋วกงเท่านั้น ตอนนี้เมื่อถูกปฏิบัติเช่นนี้และเห็นจี้เม่าซวินกำลังร้องห่มร้องไห้ จึงเอ่ยออกมาทันที “นายท่านเจ้าคะ พวกมันเป็นพวกกินบนเรือนขี้รดบนหลังคาเจ้าค่ะ”
จี้จือฮวนหัวเราะเบา ๆ พลพรรคตัวเลขจึงได้สติขึ้นมา และเอ่ยกับบรรดาชาวบ้านที่กำลังมุงดู “ต้นสายปลายเหตุของเรื่อง ก่อนหน้านี้ทุกคนก็ได้ยินกันไปแล้ว จวนจี้กั๋วกงหน้าไม่อาย ละโมบอยากได้สมบัติของตระกูลภรรยาเอก”
ซานรีบชี้แจง “ส่วนพวกเราเป็นใครนั้น ขอบอกทุกท่านตามตรง ก่อนหน้านี้พวกเราเป็นคนที่ทำงานให้ไป๋อี๋เหนียงผู้นี้และจี้หมิงซูในจวนจี้กั๋วกง”
ซื่อช่วยเสริม “ตอนนั้นพวกเราได้รับคำสั่งให้ไปที่ตำบลที่แม่นางจี้อาศัยอยู่ในตอนนี้ เพื่อพังร้านของแม่นางจี้และต้องฆ่าแม่นางจี้ด้วย นี่ล้วนเป็นคำสั่งของจี้หมิงซู”
อู่สำทับ “นี่เป็นเพียงเรื่องเล็กน้อยเท่านั้น เพื่อให้บรรลุเป้าหมาย จวนจี้กั๋วกงก่อกรรมทำชั่วทุกอย่าง ไม่ว่าจะเผาทำลาย ทำร้าย ปล้น ชิง! ก่อนหน้านี้จี้กั๋วกงโปรดปรานสาวใช้ผู้หนึ่ง ถึงกับมีเด็กในท้องแล้ว ไป๋อี๋เหนียงภายนอกทำเป็นห่วงใยสาวใช้คนนั้น แต่ลับหลังกลับให้พวกเราพี่น้องลักพาตัวคนไปกลางดึก และเอาไปขายที่หยางโจว”
ลิ่วกล่าวปิดท้าย “จี้หมิงซูเมื่อเห็นใครมีกวี กลหมาก บทเพลงใหม่ ๆ หากเป็นคนที่ไม่มีอำนาจหรืออิทธิพล นางก็จะส่งพวกเราไปแย่งชิงมา จากนั้นก็จ่ายเงินปิดปากคนเหล่านั้นเสีย ความสามารถของนางล้วนเป็นเรื่องโกหกทั้งสิ้น!”
จี้จือฮวนเพียงแค่ให้พวกเขาสารภาพ แต่คิดไม่ถึงว่าจะเล่าได้สนุกเพียงนี้ ดูท่าคราวหน้าควรต้องเตรียมไม้เคาะให้พวกเขาเสียแล้ว…
บรรดาชาวบ้านต่างตกตะลึงด้วยความตกใจ จวนจี้กั๋วกงช่างไร้ยางอายขึ้นทุกวันจริง ๆ
“จวนแห่งนี้ช่างยอดเยี่ยมยิ่งนัก ทุกครั้ง ข้ามักคิดว่าพวกเขาทำเช่นนี้ถือว่าไร้จิตสำนึกแล้ว แต่กลับยังทำเรื่องไร้ยางอายได้มากกว่านี้อีก”
“ไท่ซ่างหวงทรงพระปรีชายิ่งนัก! คนประเภทนี้ยังคู่ควรเป็นกั๋วกงอีกอย่างนั้นหรือพ่ะย่ะค่ะ?”