บทที่ 177 ทหารเกราะเหล็กกลับมา ความลับของชาติกำเนิด
จี้เม่าซวินกัดฟันกรอด เรื่องนี้เป็นความอัปยศในชีวิตของเขา เขาไม่สามารถให้ใครรู้ได้ว่าถูกเซี่ยชิงหรูสวมเขา
แต่จี้จือฮวนรู้ได้อย่างไร?
จี้จือฮวนหยิบจดหมายหย่าขึ้นมา แล้วยัดเข้าในคอเสื้อของเขา “นี่เป็นกฎแห่งกรรม สุดท้ายแล้วก็เป็นข้าที่ทำลายจวนจี้กั๋วกงของพวกเจ้า นับแต่นี้ไปชีวิตดี ๆ ของเจ้ามันจบลงแล้ว”
จี้เม่าซวินกระอักเลือดออกมา “เจ้าไม่อยากรู้หรือว่าใครเป็นคนฟ้องตระกูลเซี่ยกับศาลต้าหลี่? บางทีเบาะแสพ่อแท้ ๆ ของเจ้าอาจจะอยู่ที่นั่นก็ได้”
จี้จือฮวนมองสายตาที่เต็มไปด้วยความมุ่งร้ายของจี้เม่าซวิน ก่อนจะเอ่ยอย่างไม่แยแส “ขอเพียงไม่ใช่เจ้า ข้าคิดว่าใครก็ดีทั้งนั้น”
จี้เม่าซวินเห็นเงาเซี่ยชิงหรูบนตัวของนาง ผู้หญิงคนนั้นมักมองเขาด้วยสายตาที่เย็นชาและรังเกียจเสมอ ไม่เคยมองว่าเขาเป็นสามีเลยสักครั้ง ตอนนี้แม้แต่ลูกสาวของนางก็ยังมองเขาด้วยสายตาเช่นนี้อีก จี้เม่าซวินถูกความเกลียดชังกัดกิน จึงพูดออกมาด้วยความชั่วร้าย “เป็นแม่ของเผยยวน ท่านหญิงซ่างหยางเป็นคนไปฟ้องตระกูลเซี่ยกับศาลต้าหลี่ เจ้าจะแก้แค้นแม่สามีเจ้าหรือไม่? จริงสิ ไม่แน่เจ้ากับเผยยวนอาจจะเป็นพี่น้องกันก็เป็นได้!”
จี้จือฮวนรู้สึกประหลาดใจอยู่ครู่หนึ่งว่าสองคนนี้ไปเกี่ยวข้องกันได้อย่างไร แต่นางก็ไม่ใช่คนที่จะตื่นตระหนกไปเอง
เผยยวนเห็นจี้จือฮวนคุยกับจี้เม่าซวินมาพักใหญ่ ก็กลัวว่าจี้จือฮวนจะเสียใจ ตอนที่เขาเดินมาหยุดที่ข้างกายของนาง จี้จือฮวนก็ลุกขึ้นแล้ว อาศัยตอนที่เผยยวนไม่ได้สนใจดึงผมของเขามาหนึ่งเส้น
นางดึงเผยยวนออกไปด้วยมือข้างหนึ่ง พลางหันไปมองจี้เม่าซวินแล้วเอ่ยขึ้นมา “เรื่องของข้าคงไม่ต้องให้เจ้ามาเป็นกังวลหรอก แต่ข้าขอให้เจ้าขาดลูกสิ้นหลาน ตายอย่างไร้ศพ”
ภายใต้สายตาที่โกรธแค้นของจี้เม่าซวิน จี้จือฮวนได้ดึงเผยยวนกลับไปนั่งที่เดิม และโยนเส้นผมของเขาลงไปในกล่องยาน้อย
เจตนาของจี้เม่าซวินเมื่อครู่ เห็นได้ชัดว่าต้องการสร้างความเคลือบแคลงใจให้นาง และตั้งใจทำให้นางกับเผยยวนแตกคอกัน
ท่านหญิงซ่างหยางเป็นคนฟ้องตระกูลเซี่ย เหตุใดนางต้องทำเช่นนั้นด้วย?
หรือว่าคนรักของเซี่ยชิงหรูในตอนนั้นก็คือเผยเกอ ส่วนท่านหญิงซ่างหยางได้แต่งกับเผยเกอเพราะได้รับการพระราชทานสมรสจากราชวงศ์ ส่วนเซี่ยชิงหรูก็ถูกจี้เม่าซวินใช้แผนชั่วบังคับให้นางแต่งงานด้วย
และเขายังรู้อีกว่าท่านหญิงซ่างหยางเซี่ยฉงฟางเป็นคนฟ้องตระกูลเซี่ย
เช่นนั้นมีความเป็นไปได้หรือไม่ว่าตั้งแต่เริ่ม เซี่ยฉงฟางกับจี้เม่าซวินก็ร่วมมือกัน ทำให้คู่รักคู่หนึ่งต้องแยกจากกัน
หรือตอนนี้เนื้อเรื่องได้เดินทางมาถึงจุดที่นิยายต้องมี : คนรักกันกลายเป็นพี่น้องกัน อย่างนั้นหรือ?
จี้จือฮวนคิดถึงตรงนี้ กล่องยาน้อยก็เปิดออกเงียบ ๆ นางมองไปที่กากบาทสีแดงที่ทั้งหนาทั้งใหญ่ก็เข้าใจได้ในทันที
นางกับเผยยวนไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด เช่นนั้นขอเพียงได้พบท่านหญิงซ่างหยางก็จะยืนยันได้ว่าเผยยวนใช่ลูกของนางหรือไม่ หรือรอได้พบกับคนในครอบครัวของเผยเกอค่อยทำการพิสูจน์อีกที
ก็จะสามารถรู้ได้ว่านางกับเผยยวน ใครกันแน่ที่เป็นลูกของเผยเกอ
“เจ้าไม่เป็นอะไรใช่หรือไม่?” เผยยวนถามด้วยความกังวล
จี้จือฮวนจึงได้สติขึ้นมา ก่อนจะมองหน้าเขาและเอ่ยออกมา “ข้าไม่เป็นอะไร”
เผยยวนจึงลองเอ่ยปลอบดู “มีพ่อเช่นนี้ไม่ใช่ความผิดของเจ้า เจ้าอย่าเสียใจไปเลย”
จี้จือฮวนส่ายหน้า “เขาไม่ใช่พ่อของข้า เมื่อครู่ข้ากำลังคิดว่าจะใช้เงินของจวนจี้กั๋วกงอย่างไรดีก็เท่านั้น”
เผยยวนอึ้งไป ก็จริง ฮวนฮวนเป็นเทพธิดา ไม่ใช่จี้จือฮวนคนเดิม เขาคงคิดมากไปเอง
“เมื่อคำนวณชัดเจนแล้ว เช่นนั้นทุกอย่างของจวนจี้กั๋วกงล้วนเป็นของจี้จือฮวน เด็ก ๆ แม้แต่ไก่ในครัวก็อย่าให้เหลือ เอาไปให้หมด!” ไท่ซ่างหวงกำลังรอสิ่งนี้อยู่
คนของจวนจี้กั๋วกงกำลังมองดู ‘โจร’ เหล่านี้ ขนของที่พวกเขาทำงานหนักมาทั้งชีวิตออกไป นี่เจ็บปวดกว่าการฆ่าพวกเขาเสียอีก
มีคนเริ่มร้องไห้อย่างขมขื่นออกมา ส่วนยอดฝีมือที่ไท่ซ่างหวงพามารวมกับพวกผู้หญิงในหมู่บ้านตระกูลเฉินแล้วมีไม่ถึงสามสิบคน การจะย้ายของในจวนจี้กั๋วกงไปให้หมดในคราเดียวนั้นเป็นเรื่องที่ยากจริง ๆ
ไท่ซ่างหวงกำลังคิดว่าจะไปเรียกกองกำลังทหารมาช่วย แต่ทำเช่นนี้จะเอิกเกริกเกินไปหรือไม่ ขณะที่เขากำลังครุ่นคิดอยู่นั้น จู่ ๆ ก็รู้สึกถึงแรงสั่นสะเทือนบนพื้น
ไกลออกไปราวกับได้ยินเสียงเกราะเหล็กกระทบกัน เหมือนว่ามีคนจำนวนมากกำลังมุ่งมาทางนี้ เสียงฝีเท้าเป็นระเบียบ แม้แต่เสียงเกือกม้าก็เป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน
ทุกคนต่างก็มองไปยังที่มาของเสียงด้วยความสงสัย
มีเพียงเผยยวนเท่านั้นที่หลังจากตกใจในตอนแรกแล้ว เขาก็ยืนขึ้นอย่างไม่อยากจะเชื่อ และมองไปยังทางแยกที่ไกลออกไป
และอีกหนึ่งที่รู้สึกไม่สงบก็คือจ้านอิ่ง มันเหมือนสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างจึงเงยหน้าขึ้น
เสียงฝีเท้าใกล้เข้ามาเรื่อย ๆ กระชั้นขึ้นเรื่อย ๆ จนกระทั่งธงทหารสีดำโผล่ออกมา เผยยวนก็ไม่อาจควบคุมตัวเองได้อีกต่อไป
เผยจี้ฉือดวงตาเบิกโพลง พลางพึมพำออกมา “ธงกองทัพทหารเกราะเหล็ก”
ตอนที่จี้จือฮวนอ่านนิยาย ไม่เคยเห็นกองทัพทหารเกราะเหล็กตอนที่เผยยวนยังมีชีวิตอยู่ นางเคยเห็นเพียงกลุ่มทหารที่สูญเสียจิตวิญญาณในการต่อสู้ และใช้ชีวิตในค่ายทหารไปวัน ๆ ทหารที่ถูกละเลยวันแล้ววันเล่าเพราะคำว่ากองทัพทหารเกราะเหล็ก หลังจากแม่ทัพตายจากไป
แต่เวลานี้นางเพิ่งเข้าใจอย่างแท้จริง ถึงสิ่งที่เรียกว่ากองทัพที่ไร้พ่ายในนิยายว่าเป็นเช่นไร
ภายใต้แสงอาทิตย์ ธงของพวกเขาโบกสะบัด ถูกลมพัดจนเกิดเสียงดังพึ่บพั่บ เกราะเหล็กบนกายของพวกเขาเป็นสีดำสนิทจนยากที่จะบอกได้ว่าเป็นเลือดที่เปื้อนหรือเป็นสีดั้งเดิม ยิ่งถูกแสงอาทิตย์สาดส่อง มันจึงเปล่งแสงอันเย็นยะเยือกออกมา
พวกเขาสวมหมวกและเสื้อเกราะ สัญลักษณ์หมาป่าบนนั้นดูดุร้ายและน่าเกรงขาม ต่อให้ไม่เคยผ่านสนามรบมาก่อน ทันทีที่เห็นพวกเขาก็สามารถรับรู้ได้
พวกเขาคือทหารที่แท้จริง เมื่อพวกเขาสวมเครื่องแบบทหาร พวกเขาก็คือวีรบุรุษของชาติที่คอยปกป้องบ้านเมือง พวกเขาใช้เลือดเนื้อต่อสู้กับทหารม้านับพันนับหมื่นของศัตรู
พวกเขาทุกคนล้วนมีค่าที่จะได้รับความรักและความเคารพ
และพวกเขาจะให้ความเคารพยำเกรงเพียงวีรบุรุษของพวกเขาเท่านั้น แม่ทัพที่พาพวกเขาต่อสู้ในสนามรบมานับครั้งไม่ถ้วน
เวลานี้ไม่ต้องการคำพูด ไม่ต้องการเสียงอื่นใด
บรรดาชาวบ้านที่เคยเห็นความรุ่งโรจน์ของกองทัพทหารเกราะเหล็กมาก่อน ต่างเอามือปิดปากด้วยความเหลือเชื่อ
ในที่สุดพวกเขาก็ได้เจอแม่ทัพของตัวเองแล้ว
ทหารม้าที่แข็งแกร่งเข้ามาใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ เผยยวนถึงขนาดไม่กล้าจะจินตนาการว่าการที่พวกเขาออกมาอย่างรีบร้อนเช่นนี้ ต้องแลกกับอะไรมาบ้าง แต่เขารู้แค่ว่าต่อให้เวลานี้จะต้องบุกเข้าวังหลวงเขาก็ยินดีทำ
“ทหารม้าของกองพันทหารม้าที่สี่กองทัพทหารเกราะเหล็กกลับเข้าทัพ! ขอท่านแม่ทัพตรวจสอบด้วยขอรับ”
“พลธนูของกองพันธนูที่สิบแปดกองทัพทหารเกราะเหล็กกลับเข้าทัพ! ขอท่านแม่ทัพตรวจสอบด้วยขอรับ!”
“กองพาหนะที่หกกองทัพทหารเกราะเหล็กกลับเข้าทัพ! ขอท่านแม่ทัพตรวจสอบด้วยขอรับ!”
……
ทหารม้าที่แข็งแกร่งก้าวเข้ามา ความอึดอัดโจมตีหัวใจของทุกคน เผยยวนมองไปยังพวกเขาเนิ่นนาน ก่อนจะรับธงของกองทัพทหารเกราะเหล็กด้วยตัวเอง
“แม่ทัพของกองทัพทหารเกราะเหล็กเผยยวนกลับเข้าทัพ”
“ขอแสดงความยินดีกับการกลับมาของท่านแม่ทัพ กองทัพทหารเกราะเหล็ก จิตวิญญาณของทหารยังอยู่ กองทัพทหารเกราะเหล็กจะคงอยู่ตลอดไป! จิตวิญญาณของกองทัพทหารเกราะเหล็กจงเจริญ!”
จี้จือฮวนได้เป็นประจักษ์พยานทั้งหมดนี้ หัวใจของนางเต้นแรงเพราะความตื่นเต้น ครั้งแรกที่นางเห็นเผยยวนก็รู้ว่าเขาเป็นนักรบที่แท้จริง และควรกลับไปอยู่ในที่ที่เขาควรปกป้อง แทนที่จะนอนอยู่บนเตียงและตายจากไปเช่นนั้น
เขาต้องการให้ฮ่องเต้เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ของราษฎร แต่เกรงว่าเหล่าพี่น้องของกองทัพทหารเกราะเหล็กที่ติดตามเขาก็จะกลายเป็นทหารที่หนีทัพเพราะเลือกเขา แต่พวกเขาก็ยังยอมที่จะมาต่อสู้เคียงข้างเขา นี่แหละคือสหายร่วมรบที่แท้จริง
“ท่านแม่ทัพ ระหว่างทางที่มาพวกเรารู้แล้วว่าช่วงที่ผ่านมาเกิดอะไรกับท่านบ้าง พวกเราเชื่อเสมอว่าท่านจะไม่ทอดทิ้งพวกเรา ในที่สุดท่านก็กลับมาหาพวกเราแล้ว” มีชายหนุ่มหลายคนขอบตาแดงก่ำอย่างอดกลั้นไม่ไหว
และตอนนี้บรรดาราษฎรในเมืองหลวงต่างก็กระจายข่าวที่ว่าเผยยวนเป็นตัวแทนพ่อหย่าภรรยาออกไปจนทั่วแล้ว ยิ่งเพิ่มความมั่นใจให้กับพวกเขาว่าตัดสินใจไม่ผิด