บทที่ 208 มอบของขวัญชิ้นใหญ่ให้ฮ่องเต้
ที่ว่าการอำเภอ
นายอำเภอเจียงกำลังงีบหลับโดยมีแมวของตัวเองอยู่ในอ้อมแขนด้วย ตอนที่ได้ยินคนมารายงาน ยังคิดว่าตัวเองฝันไปเสียอีก
“เจ้าบอกว่าใครนะ?”
“ไท่…ไท่ซ่างหวงขอรับ”
นายอำเภอเจียงชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะโยนแมวในอ้อมแขนออกไป แล้วกระเด้งตัวลุกขึ้นยืนทันที “เจ้าบอกข้าอีกครั้งสิ ใครนะ?”
“ไท่ซ่างหวงขอรับ! นายอำเภอเจียง ไท่ซ่างหวงเป็นคนส่งมา บอกให้ท่านไปที่หมู่บ้านตระกูลเฉินขอรับ!”
หลังจากนายอำเภอเจียงนิ่งงันไปครู่หนึ่ง ก็ย่ำเท้าและเอ่ยขึ้นมาทันที “เช่นนั้นเจ้ายังรออะไรอยู่เล่า! ยังไม่รีบไปเตรียมรถม้าอีก?!”
“รถม้าฮูหยินเอาออกไปซื้อของแล้วขอรับ ตอนนี้ที่จวนมีเพียงลาแคระตัวนั้นขอรับ”
“เช่นนั้นก็ไปจูงลาแคระตัวนั้นออกมาให้ข้า จริงสิ จะไปเข้าเฝ้าไท่ซ่างหวง จับลาแคระแต่งตัวให้ข้าด้วย! อย่าให้ไท่ซ่างหวงไม่พอพระทัยได้!!”
หลังจากนั้นหนึ่งเค่อ
นายอำเภอเจียงที่สวมเครื่องแบบขุนนาง ก็ขี่ลาแคระตัวน้อยที่มีผ้าและดอกไม้หลากสีห้อยอยู่บนคอ ที่หางก็ผูกเป็นเปียเล็ก ๆ มีกระดิ่งทองแดงติดกับจี้พู่ เดินหนึ่งก้าวก็จะมีเสียงกระดิ่งดังขึ้น พร้อมกันนั้นก็นำเจ้าหน้าที่ของที่ว่าการสองคนมาด้วย ทั้งหมดเดินทางไปตามถนนที่จะไปหมู่บ้านตระกูลเฉิน
…
ไท่ซ่างหวงที่เพิ่งลงมาจากภูเขาด้านหลัง ก็เห็นไป๋จิ่นอุ้มโถหลายใบออกมาจากศาลบรรพชน
“เมื่อครู่ทำอะไรหรือ?” ไท่ซ่างหวงเอ่ยถาม
ไป๋จิ่นสะบัดผมที่หยิกเป็นลอน พลางเอ่ยขึ้น “พวกท่านป้าบอกให้ข้าเอาพิษที่ใช้ในการทรมานเพื่อรีดคำสารภาพออกมา ข้าจึงเพิ่งเอาของเข้าไปส่งมาขอรับ”
ไท่ซ่างหวงดวงตาเป็นประกาย “เจ้าเอาของรักของหวงออกมาหรือไม่? เจ้าอย่าขี้เหนียวเชียวนะ เพราะเจ้ากินผักดองของคนอื่นเข้าไปก็ไม่น้อยแล้ว”
ไป๋จิ่นเอ่ยด้วยน้ำเสียงดูแคลน “เห็นข้าเป็นคนขี้งกอย่างนั้นหรือขอรับ?”
ไท่ซ่างหวงคิดว่าเจ้าเด็กนี่คงจะวางท่าเป็นผู้สูงส่งอีกแล้วกระมัง จึงไม่อยากพูดมาก และกำลังจะเดินจากไป ไป๋จิ่นก็หยิบของรักของหวงของตัวเองออกมาจากโถ
งู แมงป่อง คางคก ตะขาบ แมงมุม ครบทั้งห้าพิษ
“แม้ว่าจะสู้งูราชาพิษที่ถูกต้มเป็นน้ำแกงไปแล้วของข้าไม่ได้! แต่พลานุภาพนั้นกลับเหลือล้น ท่านดูตะขาบตัวนี้สิ สีและความมันวาวของผิวด้านนอก ดวงตาคมปลาบ เท้าที่ว่องไวนี่ ข้าจะบอกท่านให้ว่าลักษณะเช่นนี้หากเป็นถ้ำพิษของพวกเรา ก็ถือว่าเป็นตะขาบที่ดีที่สุดในบรรดาตะขาบ รับรองว่าสตรีผู้นั้นต้องอยากตายอย่างแน่นอน!”
ไป๋จิ่นเมื่อได้พูดถึงเรื่องพิษก็จะพูดไม่จบไม่สิ้น
“ส่วนแมงมุมตัวนี้ อย่าเห็นว่ามันมีขนาดเล็ก เพราะมันมีพิษร้ายแรงที่สุด แรงในการกระโดดนั้นน่าทึ่งมาก แค่สัมผัสโดนใยของมันก็สามารถตายได้แล้ว”
ไป๋จิ่นเอ่ยจบก็เท้าเอวและยืดตัวตรง รอไท่ซ่างหวงเอ่ยชม
ดูสิ ๆ ข้าไม่ได้กินข้าวเป็นอย่างเดียวเท่านั้นนะ!
ไท่ซ่างหวงมองดูสมบัติในโถที่ตอนนี้มาอยู่ในมือของไป๋จิ่น พวกมันดูน่ารักเป็นอย่างมาก เขาลูบคางตัวเองเล็กน้อย ตั้งใจจะเลือกให้เซี่ยเจินด้วยตัวเองสักตัว ไม่ทำให้เขาตายก็ต้องทรมานให้เขาอาเจียนและท้องเสียให้ได้!
“ไม่เลว ที่เจ้าทำวันนี้นับว่าใช้ได้ คืนนี้ข้าจะเพิ่มน่องไก่ให้เจ้าสองน่อง อีกสองวันจะมีเชลยอีกกลุ่มหนึ่งมา เจ้าอย่าขี้เหนียวของพวกนี้ล่ะ”
ไป๋จิ่นเอ่ยด้วยสีหน้าไม่พอใจขึ้นมา “เหตุใดถึงมาที่หมู่บ้านตระกูลเฉินอีกแล้ว ต่อไปหากมีมาอีก คงออกสํามะโนครัวให้ไม่ได้แล้ว”
เมื่อมีคนเยอะเข้า ความรู้สึกของยอดฝีมือที่เร้นกายจากโลกภายนอกยังจะหลงเหลืออยู่อีกอย่างนั้นหรือ!
ไท่ซ่างหวงคิดว่าคำพูดนี้ของเสี่ยวไป๋นับว่าถูกต้อง สำมะโนครัวของตระกูลเฉินใช่ว่าใครก็สามารถเข้ามาอยู่ได้อย่างนั้นหรือ? ถึงเวลารอเหมืองทองสร้างเสร็จ เกรงว่าคงมีคนแห่มาที่นี่อีกไม่รู้เท่าใด!
ในตอนนั้นเอง ก็มีเสียงกรีดร้องที่โหยหวนของสตรีดังออกมาจากห้องเล็กในศาลบรรพชน พร้อมกันนั้นยังมีเสียงเล็บข่วนประตูอีกด้วย ไท่ซ่างหวงและไป๋จิ่นจึงชะโงกหัวออกไปเพื่อแอบสังเกตการณ์
ก็เห็นมือคู่หนึ่งยื่นออกมาจากช่องของประตู จากนั้นก็ถูกองค์หญิงใหญ่หิ้วตัวกลับไป และประตูก็ถูกปิดลงตามมาด้วยเสียงดัง ‘ปัง’
ไท่ซ่างหวงและไป๋จิ่นสั่นสะท้านขึ้นมาพร้อม ๆ กัน ต่างก็คิดว่าจะเอาพิษไปอีกทำไมกัน? บนโลกนี้ยังมีพิษที่น่ากลัวกว่าองค์หญิงใหญ่อีกอย่างนั้นหรือ?
นายอำเภอเจียงขี่ลาอย่างเร่งรีบมาตลอดทาง ในที่สุดก็มาถึงหมู่บ้านตระกูลเฉิน ทหารเกราะเหล็กที่หน้าประตูตรวจสอบอยู่สองรอบ จึงให้เขาเข้ามา
ตอนที่นายอำเภอเจียงเพิ่งเข้ารับตำแหน่งใหม่ ๆ เขาเคยมาที่หมู่บ้านตระกูลเฉินครั้งหนึ่ง ทว่านานเข้าหากไม่พูดถึงเขาก็นึกภูเขาเล็ก ๆ ที่ห่างไกลนี้ไม่ออกอีก
ไม่รู้ว่าดวงของหมู่บ้านตระกูลเฉินปีนี้เป็นอย่างไรกันแน่ เหตุใดทั้งแม่นางจี้กับไท่ซ่างหวงต่างก็มาอยู่ที่นี่ได้กัน
นายอำเภอเจียงเดินเข้ามาด้านในราวกับนกกระทาตัวเล็ก ๆ ส่วนเจ้าหน้าที่สองคนนั้นไม่มีสิทธิ์จะเข้ามาในหมู่บ้าน ทำได้เพียงรออยู่ด้านนอก
นายอำเภอเจียงก็ไม่รู้ว่าจะไปหาไท่ซ่างหวงที่ไหน ขณะที่เขากำลังเหมือนแมลงวันหัวขาด ชายชราที่กำลังต้อนเป็ดคนหนึ่งก็ตบลงที่บ่าของเขาหนึ่งที “นายอำเภอหรือ?”
นายอำเภอเจียงกะพริบตาปริบ ๆ กำลังจะตะคอกเขาไปว่าไม่มีมารยาท แต่เมื่อคิดว่าที่นี่คือหมู่บ้านตระกูลเฉิน พูดจาอะไรต้องระวังหน่อย จึงกระแอมเล็กน้อยแล้วเอ่ยขึ้นมา “ขอรับ ท่านคือ?”
“เซี่ยยง”
นายอำเภอเจียงแข้งขาพลันอ่อนแรงลงทันที “ไท่…ไท่ซ่าง…”
“อ๊ะ ๆ ๆ เจ้ายืนตัวตรง ๆ เดี๋ยวนี้นะ อย่าทับเป็ดข้าเข้าล่ะ”
เมื่อได้ยินพูดนี้ นายอำเภอเจียงต่อให้ต้องฝืนยืนก็ต้องฝืนเอาไว้ให้ได้!
“มิกล้าพ่ะย่ะค่ะ นี่เป็น เป็น เป็ดองครักษ์! กระหม่อมไม่กล้าแตะต้องอย่างแน่นอน ขนเป็ดหายไปสักเส้น ล้วนเป็นความผิดของกระหม่อม!”
การประจบสอพลอเป็นความสามารถอย่างหนึ่ง เห็นได้ชัดว่าไท่ซ่างหวงพอใจกับท่าทีนี้ของเขามากทีเดียว
“เอาล่ะ เลิกเล่นได้แล้ว ตามข้ามา”
“พ่ะย่ะค่ะ!”
นายอำเภอเจียงเดินไปพลาง ก็เอ่ยกับเป็ดองครักษ์ฝูงนั้นพร้อมรอยยิ้มไปพลาง “ท่านเดินทางนี้ขอรับ เดินทางนี้ ระวังอย่าหกล้มนะขอรับ”
ไท่ซ่างหวงจึงค่อย ๆ เอ่ยออกมา “นายอำเภอเจียง”
“กระหม่อมอยู่นี่พ่ะย่ะค่ะ”
“ที่นี่เจ้าเห็นว่าเป็นเช่นไรบ้าง?”
“กระหม่อมเกิดมาทั้งชีวิต ยังไม่เคยเห็นสถานที่ใดดีกว่าหมู่บ้านตระกูลเฉินมาก่อนเลยพ่ะย่ะค่ะ”
ไท่ซ่างหวงฟังแล้วก็อยากจะหัวเราะออกมา ปากของเจ้าคนพวกนี้ ตายไปก็ยังสามารถพูดได้จริง ๆ
“รู้หรือไม่ว่าเหตุใดข้าถึงเรียกเจ้ามา?”
สิ่งที่นายอำเภอเจียงกลัวก็คือเรื่องนี้นี่แหละ ไม่รู้ว่าตัวเองจะพลอยซวยเพราะเจ้าจางจู่ปู้สารเลวนั่นไปด้วยหรือไม่ แต่ช่วงที่ผ่านมาเขาก็ไม่ได้ทำอะไรนี่นา
“กระหม่อม…กระหม่อมยังคิดอยู่พ่ะย่ะค่ะ”
ไท่ซ่างหวงแค่นเสียงเย็นออกมา นายอำเภอเจียงถึงกับจะชนเข้ากับฝูงเป็ดองครักษ์เสียแล้ว
“กระหม่อมจะพยายามทบทวนความผิดของตนเองพ่ะย่ะค่ะ…”
“พอได้แล้ว ไม่เกี่ยวกับเจ้า ข้ามีเวลาสนใจเจ้าที่ใดกัน เคยพบฮ่องเต้หรือไม่?”
นายอำเภอเจียงชะงักไปครู่หนึ่ง “เคยพบพ่ะย่ะค่ะ”
“อืม ได้รับเอกสารด่วนจากเบื้องบนแล้วหรือยัง?”
นายอำเภอเจียงพยักหน้ารับ เพียงแต่เอกสารด่วนนั่นมาถึงตอนที่เขาเตรียมขี่ลาออกมาพอดี เขารีบมาเข้าเฝ้าไท่ซ่างหวง ไหนเลยจะมีเวลาว่างอ่านเอกสารนั่น
“ได้รับแล้วพ่ะย่ะค่ะ แต่ยังไม่ได้อ่าน…” นายอำเภอเจียงกำลังครุ่นคิดว่า เป็นเพราะตนไม่ได้ดูเอกสารนั่นทันทีจึงทำให้ไท่ซ่างหวงโมโหหรือไม่!
“ไม่ได้ดูก็ดีแล้ว มีแต่เรื่องไร้สาระทั้งนั้น ไม่คู่ควรที่จะเสียเวลาดู!” ไท่ซ่างหวงเอ่ยจบก็กระดิกนิ้ว “เอกสารนั่นเจ้าเอาไปเผาซะ นอกจากนี้ข้ามีภารกิจให้เจ้าทำ”
นายอำเภอเจียงมีสีหน้ายินดีขึ้นมาทันที ยังคิดว่าตนเองจะจบสิ้นแล้วเสียอีก คิดไม่ถึงว่าจะได้รับภารกิจ
“ไท่ซ่างหวงทรงรับสั่งมาได้เลยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมจะบุกน้ำลุยไฟ แม้ตายก็ไม่ย่อท้อพ่ะย่ะค่ะ”
“ไม่ต้องจริงจังเพียงนั้น เจ้าแค่ต้องขัดขวางเจ้าสารเลวเซี่ยเจินที่อยู่นอกอำเภอของเจ้า แค่นี้คงไม่ยากกระมัง”
รอยยิ้มของนายอำเภอเจียงพลันแข็งค้างไปทันที
อะไรนะ?
“ไม่ต้องตกใจขนาดนั้น นี่เป็นจดหมายลายมือของข้า ขุนนางเก่าแก่ของราชสำนักล้วนยืนยันได้ เจ้าเอาสิ่งนี้ไป พยายามทรมานเขาเพื่อข้า เข้าใจหรือไม่?”
นายอำเภอเจียงอยากจะร้องไห้ นี่…นี่สู้ให้เขาไปตายเสียยังดีกว่า ความตายเป็นเรื่องง่ายนิดเดียว
“ดูเจ้าทำหน้าทำตาเข้า! วางใจเถอะ ภายภาคหน้าเซี่ยเจินทำอะไรเจ้าไม่ได้หรอก แผ่นดินนี้ไม่ใช่ของเขาแล้ว เจ้าของที่แท้จริงชื่อ เซี่ยฉือ เจ้าเข้าใจหรือไม่?”
เซี่ยฉือ? นั่นไม่ใช่พระนามของพระราชนัดดาหรอกหรือ?
.
.
.