บทที่ 263 รอดตายหวุดหวิด เจ๊ฮวนมาแล้ว
ตอนเด็ก ๆ ฮวาเซียงเซียงมักอยู่แต่บนเรือหาปลา ดังนั้นจึงไม่ค่อยคุ้นเคยกับป่าเช่นนี้เท่าไรนัก นางมองไปทางใดล้วนมีแต่อันตราย
เซียวเย่เจ๋อกำลังครุ่นคิดว่าไป๋จิ่นคงไม่ได้ถูกคนฆ่าตายไปแล้วกระมัง พลันนั้นก็ได้ยินเสียงดังขึ้นมาจากทางด้านหลังเบา ๆ ฮวาเซียงเซียงกำลังจะถามเขาว่าหิวหรือไม่ จะหาผลไม้กินก่อนหรือไม่ กลับถูกเซียวเย่เจ๋อปิดปากเอาไว้เสียก่อน
“ชู่ เจ้าฟังสิ”
ฮวาเซียงเซียงกลั้นหายใจ หันหน้าไปมองเล็กน้อยพลางสำรวจไปรอบ ๆ
ลมหายใจของเซียวเย่เจ๋อพ่นอยู่ที่หลังหูของนาง แฝงไว้ด้วยความสั่นเทาเล็กน้อย แต่น่าเสียดายที่ในสถานการณ์เช่นนี้ ไม่มีใครนึกถึงบรรยากาศที่ชวนใจสั่นเช่นนั้น
“เถ้าแก่เนี้ยฮวา”
“หืม?”
“มีคนมา และไม่ใช่แค่คนสองคนด้วย” เซียวเย่เจ๋ออย่างไรเสียก็เคยฝึกวรยุทธ์มา แค่ฟังจากเสียงฝีเท้าของคนเหล่านั้นก็สามารถตัดสินได้แล้ว
ฮวาเซียงเซียงตื่นตระหนกขึ้นมา จึงจับมือของเขาแล้วเอ่ยขึ้น “เช่นนั้นจะทำอย่างไร? ตอนนี้พวกเราจะไปหลบที่ใดกัน”
แถวนี้แม้แต่กองฟางก็ยังไม่มีด้วยซ้ำ
เซียวเย่เจ๋อมองไปที่ยอดไม้เล็กน้อย “ล่วงเกินแล้ว”
เอ่ยจบมือของเขาก็โอบรอบเอวของนาง และดึงนางเข้ามาไว้ในอ้อมแขน ฮวาเซียงเซียงเกาะไหล่ของเขาเอาไว้ตามสัญชาตญาณ จากนั้นเซียวเย่เจ๋อก็เหาะขึ้นไป ก่อนจะโรยตัวลงบนกิ่งไม้เบา ๆ โชคดีที่ในเวลานี้มีลมพัด ต้นไม้ล้วนสั่นไหวไปตาม ๆ กัน จึงไม่ได้ผิดสังเกตแต่อย่างใด
คิดไม่ถึงว่าซื่อจื่อนักกินผู้นี้จะมีวิชาตัวเบาที่ไม่เลวเลย
เซียวเย่เจ๋อเลือกกิ่งไม้ที่ใหญ่เป็นพิเศษ และจับกระโปรงของฮวาเซียงเซียงไว้ในมืออย่างเงียบ ๆ ก่อนจะให้นางพิงกับต้นไม้ ส่วนตัวเขาเองอยู่ด้านนอก มือข้างหนึ่งคอยประคองด้านหลังเพื่อปกป้องนาง
ทั้งคู่ไม่กล้าส่งเสียง ได้แต่จ้องไปที่เส้นทางบนภูเขาเขม็ง
ผ่านไปสักพักก็มีคนมาจริง ๆ แต่ดูท่าทางแล้วไม่เหมือนมาลาดตระเวน เหมือนตั้งใจมาฆ่าคนมากกว่า
เซียวเย่เจ๋อรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดีขึ้นมาทันที
“ไหนว่าลักพาตัวลูกสาวของฮวาเส้าจงมา เหตุใดถึงตายกันหมด!”
“คนที่ฆ่าพวกเขาต้องยังอยู่แถวนี้เป็นแน่ ไม่แน่อาจเป็นยอดฝีมือที่ฮวาเส้าจงส่งมาคอยปกป้องลูกสาวของเขาก็เป็นได้ อย่าให้ข้าหานางเจอเชียว!”
“เช่นนั้นสินค้าจะทำอย่างไร?”
“เจ้าร้อนใจอะไรกัน สินค้าจะหนีไปได้หรืออย่างไร ไปค้นภูเขาก่อน! กล้าฆ่าพี่น้องของเราในพื้นที่ของเรา ต้องทำให้พวกมันไม่สามารถกลับออกไปได้อีก!”
ถ้ามีคนน้อยกว่านี้เซียวเย่เจ๋อลงไปยังสามารถสู้กับพวกเขาได้ แต่นี่มากันทีสามสิบกว่าคน เขาลงไปยังอาจจะพอหนีไปได้ แต่เถ้าแก่เนี้ยฮวาจะไม่ถูกพวกมันจับไปอย่างนั้นหรือ?
เซียวเย่เจ๋อกระวนกระวายใจจนเหงื่อออกเต็มหน้าผาก แต่คนกลุ่มนี้ก็ยังคุยกันอยู่ที่ด้านล่างไม่หยุด
เขาไม่เคยคิดถึงไป๋จิ่นมากเช่นนี้มาก่อนเลย
ไป๋จิ่นไม่มาให้หลัวอะไรนั่นมาแทนก่อนก็ได้ ปล่อยหนอนกัดพวกเขาให้ตายไปเลย
ฮวาเซียงเซียงมองลงไปที่ด้านล่าง แข้งขาพลันรู้สึกอ่อนแรง เซียวเย่เจ๋อจึงจับเอวของนางเอาไว้เพื่อช่วยให้นางทรงตัวได้อย่างมั่นคง ทั้งคู่มุ่งความสนใจไปที่ด้านล่าง
เดิมทีทั้งสองคนอยู่นิ่ง ๆ เช่นนี้ก็อาจจะทนได้สักระยะจนคนเหล่านี้จากไปได้ แต่ใครจะไปคิดว่าจะมีงูตัวหนึ่งเลื้อยลงมาจากบนต้นไม้ ทั้งตัวมันยังเป็นสีเดียวกันกับต้นไม้แห้งต้นนั้น มันแลบลิ้นออกมาอยู่ใกล้กับข้อมือของฮวาเซียงเซียง
เซียวเย่เจ๋อกลืนน้ำลายลงคอ ด้านล่างมีโจรไล่ล่า ด้านบนมีสัตว์มีพิษ คราวนี้ต้องตายแน่แล้ว
“เถ้าแก่เนี้ยฮวา” เซียวเย่เจ๋อเข้าไปใกล้นางและพูดด้วยเสียงหอบ ๆ แต่ดวงตากลับจ้องเขม็งไปที่งูตัวนั้น
“ฮะ?” ฮวาเซียงเซียงไม่กล้าขยับแม้แต่น้อย แต่จู่ ๆ เซียวเย่เจ๋อกลับเข้ามาใกล้เช่นนี้ นางจึงรู้สึกไม่คุ้นชินเท่าไรนัก
“อีกเดี๋ยวกอดข้าให้แน่น เป็นตายอย่างไรก็อย่าปล่อยมือเด็ดขาดนะ”
ฮวาเซียงเซียงไม่รู้ว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่ แต่ในตอนนี้คนเดียวที่นางไว้ใจได้ก็คือเขา “ได้! ไม่ปล่อยมือ”
เซียวเย่เจ๋อกระชากกระดุมบนปกเสื้อออก แล้วยิงไปที่โจรที่อยู่ไกลที่สุด จากนั้นก็กอดฮวาเซียงเซียงไว้ในอ้อมแขน และเหาะไปอีกทางหนึ่งอย่างรวดเร็ว ที่ข้อมือรู้สึกเจ็บขึ้นมา เพราะงูตัวเมื่อครู่ฉกมาจริง ๆ เขาจึงเอาตัวเองขวางฮวาเซียงเซียงเอาไว้
หวังว่าเหล่าไป๋จะกลับมาทันก่อนที่เขาจะตายเพราะพิษงู!
“มีคน! ตามไป!”
พวกโจรภูเขาได้สติขึ้นมา ก็รีบตามไปติด ๆ
ฮวาเซียงเซียงเกาะอยู่บนร่างของเซียวเย่เจ๋อ นางเอามือคล้องคอเขาเอาไว้แน่น เสียงลมหวีดหวิวข้างหูของนาง และสามารถได้ยินเสียงหัวใจเต้นระรัวของกันและกันได้
นางกลัวจนมือและเท้าเย็นเฉียบไปหมดแล้ว
ฟิ้ว!
อาวุธลับเฉียดผ่านใบหูของนางไป ฮวาเซียงเซียงเกือบจะกรีดร้องออกมา นางกัดริมฝีปากแน่นและไม่กล้าขยับ
ลมหายใจของเซียวเย่เจ๋อกระชั้นขึ้น ความเร็วก็ลดลงเรื่อย ๆ พิษงูที่มือเริ่มแพร่กระจายแล้ว เมื่อเขาวิ่งไปถึงทางแยกข้างหน้าเขาก็ล้มลง ทำให้ฮวาเซียงเซียงกลิ้งลงทางลาดไปพร้อมกับเขาหนึ่งตลบ ถูกก้อนกรวดและวัชพืชขีดข่วนจนทำให้มีบาดแผลไปทั่วร่างกาย
โชคดีที่ฮวาเซียงเซียงถูกเขากอดไว้ในอ้อมแขนตลอดเวลา กระแทกจนเวียนหัวแต่ก็ไม่ได้ทรมานมากนัก
“ไป เจ้ารีบหนีไป!” เซียวเย่เจ๋อขยับออกจากร่างของนาง “ข้าจะขวางพวกเขาเอง ไปเร็วเข้า!”
เขาเป็นบุรุษอย่างมากก็แค่ถูกคนฆ่าตายเท่านั้น แต่นางเป็นสตรีหากตกอยู่ในเงื้อมมือของพวกมัน เช่นนั้นก็ไม่อาจคิดเป็นอย่างอื่นได้อีก
ดวงตาของฮวาเซียงเซียงเอ่อคลอไปด้วยน้ำตา เมื่อเห็นคนใกล้จะตามมาทันแล้ว นางก็กระโจนเข้าไปและใช้ปากดูดแผลที่เซียวเย่เจ๋อถูกงูฉก เพื่อดูดพิษออกให้เขาอย่างสุดกำลัง “เจ้าถูกงูฉกเพราะข้า พ่อข้าเคยบอกว่าคนเราต้องมีศีลธรรม หากข้าตายพร้อมกับเจ้า ก็นับว่าเราเป็นสหายกันแล้ว!”
เซียวเย่เจ๋อโมโหจนระเบิดเสียงหัวเราะออกมา “เถ้าแก่เนี้ยฮวา เช่นนั้นก็นับว่าพวกเราตายวันเดียว เดือนเดียว ปีเดียวกันแล้ว!”
น้ำตาของฮวาเซียงเซียงไหลลงมา “ข้าอยากตายพร้อมกับเสี่ยวไป๋หลงมากกว่า แต่ถือว่าเจ้าโชคดีแล้ว!”
เซียวเย่เจ๋อได้ยินเสียงพวกโจรตามมาใกล้แล้ว แต่ก่อนตายก็ยังอยากถามให้ชัดเจน “ใครคือเสี่ยวไป๋หลง? ข้ารู้จักแต่เหล่าไป๋”
“เป็นนักแสดงงิ้วในหอเยว่ถิงที่เจียงหนานของเรา หน้าตาหล่อเหลาเป็นอย่างมาก! ฮือ ฮือ ฮืออออ เหตุใดข้ายังไม่พิษกำเริบอีก!”
เซียวเย่เจ๋อกอดนางเอาไว้ในอ้อมแขนและพูดอย่างอ่อนแรงขึ้นมา “ได้ รอข้ากลายเป็นผีแล้ว ข้าจะพาเจ้าไปหาเสี่ยวไป๋หลงอะไรนั่น”
เซียวเย่เจ๋อยึดหลักการที่ว่า คนสองคนถูกกำหนดให้ตายพร้อมกัน ดังนั้นก่อนตายก็อย่าเป็นผีชอบร้องไห้
โจรภูเขาตามมาทันแล้ว แต่เมื่อดูดี ๆ แล้วกลับเป็นฮวาเซียงเซียงและชายอีกคนที่พวกเขาไม่รู้จัก พวกเขาจึงคิดว่าเป็นคนรักของฮวาเซียงเซียง คนที่ฆ่าพี่น้องของพวกเขาเมื่อครู่ต้องเป็นชายคนนี้อย่างแน่นอน
“เถ้าแก่เนี้ยฮวา ดูท่าจะยังอยากใช้เวลากับคนรักก่อนตายกระมัง”
ฮวาเซียงเซียงปากร้ายมาทั้งชีวิต ยามใกล้ตายยังมาถูกโจรภูเขาพูดจาดูถูกเหยียดหยามเช่นนี้อีก นางจึงเงยหน้าขึ้นด่าทันที “พวกเราเป็นคู่กิ่งทองใบหยก ภูตผีปีศาจอย่างเจ้าอย่าพูดมาก อย่างเจ้านับเป็นตัวอะไรกัน! หากวันนี้ข้าตายอยู่บนภูเขาของพวกเจ้า ต่อให้ต้องข้ามน้ำข้ามทะเลพ่อข้าก็ต้องมาเด็ดหัวของพวกเจ้าอย่างแน่นอน”
“ถุย คิดว่าพวกกองเรือยังจะมายุ่มย่ามในเขตแดนของเราได้อย่างนั้นหรือ? แยกพวกมันสองคนออกจากกัน และฆ่าผู้ชายทิ้งได้เลย!”
ฮวาเซียงเซียงพุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของเซียวเย่เจ๋อ “ข้าไม่อนุญาตให้พวกเจ้าแตะต้องเขา! เจ้าคนสารเลว พ่อข้าไม่มีทางปล่อยเจ้าไปอย่างแน่นอน!”
“เจ้าไม่ต้องร้อนใจไป ไม่มีคนรักแล้วแต่ในหมู่บ้านของพวกเรายังมีบุรุษอีกมาก ไม่ทำให้เจ้าผิดหวังอย่างแน่นอน ฮ่า ฮ่า ฮ่า!!!!”
ฮวาเซียงเซียงแค้นใจเป็นอย่างมาก ขณะที่นางเตรียมที่จะสู้ตายกับพวกเขานั้น บุรุษตรงหน้าที่ยังจองหองอยู่เมื่อครู่ก็ถูกลูกธนูดอกหนึ่งยิงทะลุลำคอ ดวงตาพลันเบิกกว้างขึ้นก่อนจะล้มลงไป
เซียวเย่เจ๋อและฮวาเซียงเซียงพลิกตัวหลบทันที ก่อนพบว่าไกลออกไปผมหางม้าของหญิงสาวผู้หนึ่งกำลังปลิวไสวไปตามสายลม นางมีใบหน้าที่เย็นชาทว่างดงามยิ่ง ชุดสีเขียวที่สวมใส่เกือบจะทำให้นางกลมกลืนไปกับผืนป่า
“ลูกพี่ฮวน!” เซียวเย่เจ๋อรู้สึกว่าสถานการณ์ที่สิ้นหวังในตอนนี้มีทางรอดแล้วจริง ๆ ด้วย! ในที่สุดก็มาแล้ว!
.
.
.