บทที่ 323 เว่ยเจ๋อเซิง
ทันทีที่ฮวาเซียงเซียงนั่งลง ก็สั่งอาหารจานพิเศษทั้งหมดของหอเต๋อเยว่มา เผยยวนกับจี้จือฮวนดูการตกแต่งภายในของอาคารอยู่ข้างนอก ยังไม่ได้เข้ามา
เซียวเย่เจ๋อเอ่ยด้วยรอยยิ้ม “เจ้าจะกลับตำบลฉาซู่อีกหรือไม่? ซื้อภัตตาคารแล้ว เถ้าแก่เนี้ยอย่างเจ้าคงต้องมาดูการตกแต่งเองกระมัง”
ฮวาเซียงเซียงปรายตามองเขาเล็กน้อย ก็รู้ว่าเขาคิดอะไรอยู่ “ข้าต้องกลับไปอยู่แล้ว อย่างมากก็แค่ไป ๆ มา ๆ”
“เช่นนั้นคงลำบากแย่ หรือไม่ข้าส่งคนไปดูแลสาขาที่ตำบลฉาซู่แทนเจ้า ส่วนเจ้าก็มาอยู่ที่เมืองหลวงเถอะนะ”
ฮวาเซียงเซียงที่กำลังกินอาหาร เลิกคิ้วขึ้นพลางเอ่ยออกมา “อย่ามาใช้ไม้นี้นะ”
ทั้งสองคนกำลังคุยกันอยู่ เผยยวนก็เข้ามาพอดี ทันทีที่เข้ามาเขาก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย ส่งสัญญาณให้ทั้งสามคนเงียบ
ฮวาเซียงเซียงเพิ่งคีบเนื้อเป็ดชิ้นหนึ่งเข้าปาก เพียงพริบตาจะกลืนก็ไม่ได้ จะคายออกมาก็ทำไม่ได้
“มีอะไรหรือ?” นางทำปากบุ้ยใบ้ถามจี้จือฮวน
ขณะที่กำลังจะตอบคำถามของฮวาเซียงเซียง ก็มีเสียงของความโกลาหลดังขึ้นมาจากชั้นล่าง ตามด้วยเสียงคนกรีดร้อง
“เรามาจับกากเดนสำนักเทพพยากรณ์ ทุกคนยืนขึ้นอย่าขยับ!”
“โอ๊ย นายท่าน พวกเราเป็นภัตตาคารที่มีคุณธรรม จะมีกากเดนของสำนักเทพพยากรณ์ได้อย่างไรกัน นักพรตสักคนก็ยังไม่เห็นเลยนะขอรับ!!”
“หลบไป ไปค้นเดี๋ยวนี้!”
บัดซบ ราชครูนั่นเข้าวังไปครู่เดียว กลับมาก็เอาขนไก่ไปทำลูกศร* บีบให้พวกเขาปิดล้อมสถานที่โดยไม่ต้องหลับต้องนอน ทั้งยังให้ไล่ไปทีละบ้านอีก
* เอาขนไก่ไปทำลูกศร (拿着鸡毛当令箭) หมายถึง การเอาอำนาจของผู้ที่สูงกว่ามาบีบบังคับ
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถเข้าไปตรวจค้นจวนผู้สูงศักดิ์ได้ ทำได้เพียงมาลงกับภัตตาคารและร้านน้ำชาเหล่านี้
เซียวเย่เจ๋อหมดความอดทน “ฮึ่ม เจ้าราชครูสารเลวนี่ยังไม่จบอีกหรือ?”
ทางด้านนี้ เผยยวนเปิดตู้วางของภายในห้องส่วนตัว ด้านในมีคนนอนอยู่คนหนึ่ง ชุดสีน้ำเงินเปื้อนไปด้วยเลือด ใบหน้าหล่อเหลาแดงก่ำคงจะได้รับบาดเจ็บและป่วยหนัก
จี้จือฮวนเดินผ่านฉากบังลมเข้ามาก็เจอกับคนผู้นี้
ริมฝีปากของเว่ยเจ๋อเซิงสั่นเทา หลับตาลงราวกับยอมจำนนต่อชะตากรรม เมื่อได้ยินเสียงวุ่นวายที่ชั้นล่าง เขาจึงเอ่ยขึ้น “ทุกท่าน ผู้น้อยคือเว่ยเจ๋อเซิงคนที่ทหารองครักษ์ด้านล่างตามหา พวกท่านรีบไปเถอะขอรับ ไม่อย่างนั้นจะติดร่างแหไปด้วย”
เจียงเช่อเป็นศิษย์น้องของเขา เขาจึงรู้นิสัยใจคอของเจียงเช่อดี
ต่อให้คนในห้องไม่รู้จักเขา ทว่าแค่เดินผ่านเขา คนเหล่านี้ก็จะถูกกำจัดอยู่ดี
เขาเพียงแค่ต้องการหลบอยู่ที่นี่ แต่ไม่อยากทำให้ผู้บริสุทธิ์ต้องพลอยลำบากไปด้วย
จี้จือฮวนคิดออกทันที นางย่อตัวลงแล้วเอ่ยขึ้น “เจ้าเป็นคนของสำนักเทพพยากรณ์อย่างนั้นหรือ? เจียงเช่อเป็นอะไรกับเจ้า?”
เว่ยเจ๋อเซิงคิดไม่ถึงว่าแม่นางตรงหน้าจะเอ่ยถามออกมาเช่นนี้ เขาจึงกระแอมเล็กน้อย “ข้าเป็นศิษย์เอกของสำนักเทพพยากรณ์ เจียงเช่อเป็นศิษย์น้องเล็กของข้า เมื่อไม่นานมานี้เขาได้ขโมยแผนภาพคำนวณที่สำคัญของสำนักเทพพยากรณ์ไป อาจารย์โมโหมากจึงทำลายดวงตาของเจียงเช่อ ทว่าเขากลับหนีออกมาจากสำนัก พวกเราจึงตามมาถึงเมืองหลวงเพื่อจะพาเขากลับสำนัก เพื่อขอให้อาจารย์ให้อภัย แต่ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเจียงเช่อถึงกลายเป็นราชครูได้ ศิษย์พี่ศิษย์น้องของเราหลายคนถูกจับตัวไป บัดนี้ฮ่องเต้ยังมีราชโองการปิดล้อมและปราบปรามคนของสำนักเทพพยากรณ์ทั่วแคว้น เห็นได้ชัดว่าการแก้แค้นของเจียงเช่อเพิ่งจะเริ่มต้นขึ้นเท่านั้น”
เว่ยเจ๋อเซิงเอ่ยถึงตรงนี้ก็เงยหน้าขึ้นเอ่ย “ทุกท่าน อย่าหาว่าข้าทำให้ตื่นตระหนกเลยนะขอรับ พวกท่านรีบไปจากที่นี่เถอะขอรับ คนที่รู้จักพวกเราล้วนมีจุดจบที่ไม่ดี หรือไม่พวกท่านก็ตะโกนเรียกทหารขึ้นมา แล้วส่งตัวข้าให้พวกเขาไป บางทีอาจจะรอดไปได้อยู่นะขอรับ”
ฮวาเซียงเซียงกับเซียวเย่เจ๋อสบตากันเล็กน้อย สวรรค์ บาดเจ็บขนาดนี้ยังมีคุณธรรมเพียงนี้อีก หากส่งตัวเจ้าให้พวกเขาไปพวกเราจะยังเป็นคนอยู่อีกหรือ!?
ข้าเป็นลูกสาวของราชาโจรสลัดนะ! คุณธรรมย่อมมาก่อน
ข้าเป็นลูกเขยของราชาโจรสลัดนะ! สามีย่อมเชื่อฟังภรรยา!
“เปิดประตู! รีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้!” ฟังจากการเคลื่อนไหวด้านนอก คงขึ้นมาถึงชั้นสองแล้ว
เผยยวนจึงเอ่ยออกมา “ข้าจะออกไปไล่คนข้างนอกก่อน”
จี้จือฮวนหยิบกล่องยาน้อยออกมา “อืม”
เผยยวนเดินอ้อมฉากบังลมออกไปด้านนอก จี้จือฮวนจึงเอ่ยกับเซียวเย่เจ๋อ “ช่วยหน่อย ประคองเขาออกมา”
“ได้”
เว่ยเจ๋อเซิงถึงกับพูดไม่ออก “ทุกท่าน”
“เลิกพูดได้แล้ว วันนี้เจ้าได้พบพวกเรานับว่าเจ้าโชคดีแล้ว”
เซียวเย่เจ๋อลากคนออกมาจากในตู้ ก่อนจะนั่งลงบนตั่งกุ้ยเฟยข้าง ๆ จี้จือฮวนบอกให้พวกเขาออกไปก่อน จึงได้ตรวจอาการให้เว่ยเจ๋อเซิง โชคดีที่มีเพียงบาดแผลภายนอกและมีไข้เล็กน้อยเท่านั้น
“แม่นาง ข้าไม่ได้ต้องการทำให้ท่านตื่นตกใจ ตอนนี้เจียงเช่อได้รับความไว้วางใจจากฮ่องเต้อย่างมาก บวกกับมีแผนภาพคำนวณอยู่ในมือ จึงมีโอกาสสูงที่เขาจะทำเรื่องที่ผู้ใดก็คาดไม่ถึง”
จี้จือฮวนเอ่ยด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ถอดเสื้อออก ข้าจะทายาให้”
เว่ยเจ๋อเซิงใบหน้าแดงก่ำยิ่งกว่าเดิม “เอ่อ…”
“ข้าเป็นหมอ เจ้าจะอายทำไมกัน?” จี้จือฮวนดึงเสื้อของเขาจนหลุดจากไหล่ ผ่านไปสักพักเว่ยเจ๋อเซิงจึงเอ่ยด้วยใบหน้าแดงก่ำ “แม่นาง ผู้น้อยกลัวว่าศิษย์น้องของผู้น้อยจะไม่ปล่อยพวกท่านไปจริง ๆ นะขอรับ”
คนผู้นี้หัวโบราณจริง ๆ แต่ก็นับว่าเป็นสุภาพบุรุษคนหนึ่ง จี้จือฮวนส่ายหน้าและตบบ่าของเขาเบา ๆ “เจ้าไม่ต้องกังวล แผนการของศิษย์น้องเจ้า ทำอะไรพวกเราไม่ได้หรอก”
เว่ยเจ๋อเซิงประหลาดใจ “อย่างนี้นี่เอง บุญคุณที่ช่วยชีวิตในวันนี้ วันหน้าเจ๋อเซิงจะตอบแทนอย่างแน่นอน”
จี้จือฮวนเอ่ยด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง “ไม่ต้องหรอก แต่เรื่องที่เกี่ยวกับเจียงเช่อ เจ้าสามารถเล่าให้ข้าฟังมากกว่านี้จะได้หรือไม่?”
ด้านนอก เผยยวนยืนอยู่ตรงทางเดิน ทันทีที่ทหารองครักษ์พวกนั้นขึ้นมาถึงก็หันหน้าหนีต้องการจะกลับไป พวกเขาอยากจะเตะเสี่ยวเอ้อที่ตามขึ้นมาให้กลิ้งลงไปจริง ๆ
ที่นี่มีใครอยู่เหตุใดถึงไม่รีบบอกเล่า
ตีให้ตายพวกเขาก็ไม่มีทางปะทะกับเผยยวน อย่าว่าแต่สำนักเทพพยากรณ์ไม่อยู่ที่นี่ ต่อให้อยู่พวกเขาจะสามารถเข้าไปได้หรืออย่างไรกัน?!
ให้ราชครูนั่นมาค้นเองเถอะ!
“ท่านโหว…”
เผยยวนเงยหน้าขึ้น “อืม รบกวนชาวบ้านอีกแล้วหรือ?”
คำพูดนี้…
“เปล่าขอรับ พวกเราแค่ทำตามหน้าที่ขอรับ”
“อ่อ เช่นนั้นจะค้นห้องของข้าด้วยหรือไม่ เผื่อข้าจะซ่อนคนที่ราชครูของพวกเจ้าต้องการเอาไว้ และอาจสร้างความเดือดร้อนให้พวกเจ้าได้”
“ท่านโหวอย่าล้อพวกเราเล่นสิขอรับ ที่นี่พวกเราค้นจนทั่วแล้ว จะถอนกำลังเดี๋ยวนี้ ไม่รบกวนชาวบ้านแน่นอนขอรับ”
“ข้าว่าทหารองครักษ์อย่างพวกเจ้าช่วงนี้คงว่างมากกระมัง เพราะแม้แต่งานลาดตระเวนในเมืองหลวงพวกเจ้าก็ยังเอาไปทำ หากว่าว่างมากก็บอกข้าได้ ข้าสามารถหางานให้พวกเจ้าได้”
ฮวาเซียงเซียงมองลอดช่องหน้าต่างออกไปดู พลางส่งเสียงชิชะไปด้วย “ดูสิ เมื่อครู่ยังวางมาดใหญ่โตอยู่เลย ก็แค่ไม่มีคนที่ร้ายกาจมาจัดการพวกเขาก็เท่านั้น ข้าว่าขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป ตำแหน่งฮ่องเต้ของเซี่ยเจินเกรงว่าคงจะสั่นคลอนเป็นแน่”
เซียวเย่เจ๋อไม่ได้เอ่ยค้าน “จะว่าไปแล้วช่วงนี้ราษฎรเกิดความคับข้องใจจริง ๆ ต่างพูดกันว่าหากองค์ชายสามได้เป็นฮ่องเต้ก็คงดี”
“จริงหรือ?”
“อืม”
ฮวาเซียงเซียงส่งเสียงชิชะอย่างไม่พอใจออกมาอีกครั้ง “เช่นนั้นองค์ชายสามต่อไปคงจะซวยแล้ว ฮ่องเต้ยังมีร่างกายที่แข็งแรง มีข่าวลือเช่นนี้แพร่ออกไปองค์ชายสามจะไม่ตกเป็นเป้าให้คนโจมตีอย่างนั้นหรือ ข้าว่าอาจเป็นองค์ชายรองหรือองค์ชายห้าที่ให้คนแพร่ข่าวนี้ออกมาก็เป็นได้”
“เซียวเย่เจ๋อ มาช่วยข้าที” จี้จือฮวนเดินออกมาจากฉากบังลม ให้เขาเข้าไปช่วยเว่ยเจ๋อเซิงสวมเสื้อผ้า ทางด้านเผยยวนก็กลับเข้ามาแล้ว ฮวาเซียงเซียงจึงให้คนนำอาหารไปใส่กล่องให้หมด เพื่อกลับไปชิมต่อที่คฤหาสน์แทน
.
.
.