บทที่ 335 เหลือทางหนีทีไล่เอาไว้
หลานชายเอี๋ยนเฉารีบนำหีบที่อัดแน่นไปด้วยทองคำและเงินมากมายออกมา และใช้ก้อนหินกับฟางมาอำพรางเอาไว้ ก่อนจะออกเดินทางไปภายใต้การคุ้มกันของเหล่ายอดฝีมือ
ย้อนคิดถึงสภาพตัวเองที่ตกอับตอนเข้ามาเมืองหลวงครั้งก่อน ๆ เอี๋ยนเฉาก็รู้สึกว่าครั้งนี้เป็นการกลับมาพร้อมศักดิ์ศรีแล้ว
ตอนที่แม่ทัพเผยรบชนะแล้วกลับมาเมืองหลวงในปีนั้น ที่แท้ความรู้สึกมันดีอย่างนี้นี่เอง!
“นายน้อย ท่านเก็บน้ำลายของท่านหน่อยเถอะขอรับ” อาควนเห็นแล้วก็อยากจะเช็ดให้เขา
เอี๋ยนเฉาเช็ดไปหนึ่งที “ไป พวกเราต้องรีบเอาของไปส่ง”
เขารอที่จะเห็นคนพวกนี้เจ็บจนร้องห่มร้องไห้ไม่ไหวแล้ว!!!
ว่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า ฮ่า (เสียงหัวเราะของตัวโกง)
…
“พวกเจ้าคงมาจากต่างถิ่นกระมัง? จวนจี้กั๋วกงน่ะหรือ? บนโลกนี้ยังมีจวนจี้กั๋วกงที่ใดกัน ถูกยกไปหมดแล้ว” เสี่ยวเอ้อเอ่ยอย่างดูแคลน
หากไม่ใช่เพราะคนพวกนี้จ่ายหนัก คนสวมชุดผ้าป่านอย่างคนพวกนี้ เขาไม่อยากจะดูแลจริง ๆ
“ถูกยกไปแล้ว?” พวกเขาที่ไม่ได้ออกมาข้างนอกเสียนาน ตามสถานการณ์ปัจจุบันไม่ทันจริง ๆ
“ใช่แล้ว หากไม่เชื่อพวกเจ้าก็ไปเดินดูบนถนนจูเชว่ก็ได้ เหลือเพียงประตูบานใหญ่เท่านั้น ด้านในว่างเปล่าไปหมดแล้ว มีสระน้ำอยู่หนึ่งสระ แม้แต่กระเบื้องปูพื้นก็ถูกขุดไปจนหมด นั่นก็คือจวนจี้กั๋วกงเดิม ใครใช้ให้พวกเขาทำเรื่องชั่วช้ากันเล่า สรุปก็คือ หากพวกเจ้าจะไปหาคนที่นั่น หาไม่เจอหรอก”
“คุณหนู จะทำเช่นไรต่อไปดีเจ้าคะ?”
เย่จิ่งฝูจิบชาโสมที่ตัวเองเอามาด้วยไปหนึ่งอึก ก่อนจะหลับตาลงและเอ่ยขึ้นมา “ในเมื่อฟ้ากำหนดให้เป็นเช่นนี้ เราก็ไปที่อื่นต่อเถอะ”
มาเยือนสองตระกูล ตระกูลหนึ่งก็โดนตีออกมา ส่วนอีกตระกูลก็ไม่มีแล้ว
เย่จิ่งฝูรู้สึกว่าวันนี้ตัวเองคงจะก้าวเท้าผิดเสียแล้ว แต่คนเป็นหมอควรหลีกเลี่ยงการโกรธ ดื่มชาโสมเก๋ากี้ให้มากหน่อย หวังว่าองค์ชายรองที่เชิญพวกนางมาที่นี่จะยังน่าเชื่อถืออยู่บ้าง
ตำหนักขององค์ชายรองนั้นหาง่ายมาก เพียงแต่ดูเงียบเหงาไปสักหน่อย ดูแล้วยังสู้จวนคหบดีทั่วไปไม่ได้ด้วยซ้ำ แต่ในสายตาของตระกูลหมอเทวดา สิ่งก่อสร้างที่ดีกว่านี้ก็ยังสู้เรือนยาของนางเขาไม่ได้ ไม่ว่าจะตกแต่งดีเพียงใดก็เทียบกับสมุนไพรของพวกนางไม่ได้
ดังนั้นภายนอกเป็นเช่นไร พวกนางไม่ได้สนใจ
แต่เพราะเรื่องที่ประสบจากจวนถังกั๋วกง ครั้งนี้ตอนที่พวกนางเอาเทียบเชิญไปให้ จึงกังวลและระมัดระวังอย่างมาก
“ตระกูลหมอเทวดา ที่แท้ก็พวกท่านนี่เอง องค์ชายรอพวกท่านมานานแล้ว เชิญเข้าไปด้านในขอรับ”
ได้ยินดังนั้นบรรดาผู้ติดตามก็ถอนหายใจด้วยความโล่งอก คิดว่าคนด้านนอกจะไม่มีเหตุผลแล้วจะไล่พวกเขาไปเสียอีก ในที่สุดก็เจอคนที่ปกติแล้ว
ตอนที่เย่จิ่งฝูลงมาจากรถม้า คนของตำหนักองค์ชายรองยังกลัวว่าอิฐทางเดินใต้ชายคาจะเปียกฝน จึงปูหญ้าแห้งให้อีกชั้นหนึ่ง ระมัดระวังและรอบคอบเป็นอย่างมาก
“องค์ชายของเรากำลังรอท่านหมอเทวดาอยู่ด้านในขอรับ”
นางเงยหน้าขึ้นเล็กน้อยก็เห็นสตรีสวมชุดขาวคนหนึ่งเดินออกมาจากภายในห้อง พลางชำเลืองมองนางเล็กน้อยก่อนจะเดินจากไป
“ท่านหมอเทวดาเชิญขอรับ”
เย่จิ่งฝูหลุบตาลง พลางเดินเข้าไปด้านในอย่างไม่ใส่ใจ
ภายในห้อง ใบหน้าของเซี่ยหยางดูอ่อนแรง ขณะนอนอยู่บนตั่ง มีกลิ่นยาที่รุนแรงโชยออกมา
เย่จิ่งฝูสูดดมเบา ๆ ก็รู้ได้ทันทีว่าเซี่ยหยางเรียกนางมาทำไมบราวนี่ออนไลน์
“นำเข็มทองของข้าออกมา”
เซี่ยหยางชะงักเล็กน้อย “ท่านหมอเทวดายังไม่ได้ดูบาดแผลของข้า…”
“ไม่ต้องดูหรอก เส้นเอ็นของท่านขาดหมดแล้ว การจะทำให้กลับมาเป็นปกตินั้นคงเป็นไปไม่ได้แล้ว แต่ข้าสามารถทำให้ท่านกลับมาดูเหมือนคนปกติได้”
ง้างธนูล่าสัตว์อะไรพวกนั้น อย่าแม้แต่จะคิด
เย่จิ่งฝูเป็นคนป่าคนดอย พูดจาอ้อมค้อมไม่เป็น ยิ่งไม่มีทางรับปากผู้ป่วยว่าตัวเองสามารถรักษาเขาได้ถึงระดับไหน รับได้หรือไม่ก็เป็นเรื่องของอีกฝ่าย
รับเงินแล้วทำงาน เป็นหลักการพื้นฐานของตระกูลหมอเทวดา
“หมายความว่าอย่างไร?”
“ความหมายตามที่พูด ไม่มีทางหายเป็นปกติเหมือนเมื่อก่อนแล้ว หากดูแลอย่างดีอาจหายได้ถึงสี่ส่วน องค์ชายรองยังจะรักษาอยู่หรือไม่? แต่ข้าขอบอกเอาไว้ก่อน หากแม้แต่ข้ายังรักษาไม่ได้คิดว่าอาจารย์ข้าก็คงไม่ต่างกัน ท่านสามารถปฏิเสธการรักษาได้”
เซี่ยหยางอดไม่ได้ที่จะกำผ้าห่มเอาไว้แน่น แต่เขาไม่สามารถปฏิเสธได้ เพราะตระกูลหมอเทวดาคือความหวังสุดท้ายของเขาแล้ว
“เชิญท่านหมอเทวดาฝังเข็มเถอะ”
“ได้”
…
อีกด้านหนึ่ง จี้หมิงซูที่เพิ่งออกมาจากตำหนักขององค์ชายรองก็ขึ้นไปบนรถม้า
“ท่านธิดาเทพ องค์ชายสามรออยู่แล้วที่สือหลี่พอที่ชานเมืองเจ้าค่ะ”
“รู้แล้ว”
คาดว่าตอนนี้ยังไม่มีใครรู้ว่านางเองก็มีส่วนร่วมกับการซื้อสมุนไพรมากักตุนไว้ในครั้งนี้
ถึงเวลานั้นก็ใช้ชื่อของธิดาหงส์บัญชาสวรรค์แจกจ่ายยาวิเศษ ฐานะของนางกับเจียงเช่อก็จะมั่นคงยิ่งขึ้น คิดถึงภาพที่ราษฎรกราบไหว้ จี้หมิงซูก็รู้สึกว่าชัยชนะอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว
เพียงแต่บาดแผลของเซี่ยหยางยังไม่หายดี ชาติก่อนเขาเป็นฮ่องเต้ แต่เซี่ยเซวียนไม่ได้ถูกกำหนดมาให้เป็นคู่ต่อสู้ของเขา ดูท่าเรื่องที่นางร่วมมือกับเซี่ยเซวียนคงต้องปิดบังเขาไปก่อน หวังว่าเขาคงจะเข้าใจความตั้งใจดีของนาง นางล้วนทำเพื่ออนาคตของพวกเขาทั้งสองคน
ตอนมาถึงสือหลี่พอ องค์ชายสามก็ออกมาต้อนรับนางด้วยตัวเอง
จะว่าไปแล้วพวกเขาล้วนเป็นลูกชายของฮ่องเต้เซี่ยเจิน หน้าตาของเซี่ยเซวียนกับเซี่ยหยางย่อมคล้ายกันอยู่หลายส่วน เพียงแต่เซี่ยเซวียนเหมือนเต๋อเฟยมากกว่า เครื่องหน้าจึงดูธรรมดาไปหน่อย
“ในที่สุดท่านธิดาเทพก็มาแล้ว”
จี้หมิงซูไม่อ้อมค้อม “สมุนไพรกับข้าวสาร องค์ชายจัดการเรียบร้อยหรือไม่เพคะ?”
เซี่ยเซวียนจึงรีบเอ่ยออกมา “ท่านธิดาเทพโปรดวางใจได้”
จี้หมิงซูจึงถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก “เช่นนั้นก็ดีเพคะ เมื่อถึงเวลาหม่อมฉันกับท่านราชครูต้องช่วยองค์ชายได้อย่างแน่นอน เพียงแต่…”
“ท่านธิดาเทพเชิญกล่าวมาได้เลย”
“ที่องค์ชายสามเคยบอกว่าสมุนไพรที่ได้มานั้น หากหม่อมฉันกับท่านราชครูพูดสิ่งดี ๆ ของท่านต่อพระพักตร์ฝ่าบาท ผลงานของเราสองคนจะแบ่งกันคนละครึ่ง องค์ชายอย่าลืมนะเพคะ ว่าการแจกจ่ายยานอกเมืองต้องให้พวกเราเป็นคนทำ”
แน่นอนว่าเซี่ยเซวียนไม่มีความคิดที่จะแย่งชิงเรื่องนี้กับนาง ขอเพียงสมุนไพรเป็นของเขาก็พอ
“ท่านธิดาเทพวางใจ ในเมื่อข้ารับปากแล้ว ไม่มีทางกลับคำอย่างแน่นอน เพียงแต่ทางด้านหลูโจวตอนนี้ยังไม่มีข่าวคราว เกรงว่ายังต้องรอไปก่อน”
“องค์ชายทรงรอมาได้ตั้งนาน ตั้งแต่ตำหนักบูรพาว่างลงพระองค์ก็อยู่เงียบ ๆ มาได้ตั้งหลายปี รออีกหน่อยจะเป็นอะไรไปเพคะ”
เซี่ยเซวียนลูบถ้วยชา น้ำเสียงแฝงเลศนัยเล็กน้อย “ที่ข้ารอหาใช่แค่ตำหนักบูรพาที่ใดกัน?”
จี้หมิงซูเห็นเขายื่นมือออกมาก็ก้มหน้าลงยิ้ม ๆ แล้วเอ่ยขึ้น “หากองค์ชายสามารถเข้าไปอยู่ในตำหนักบูรพาได้ ธิดาหงส์บัญชาสวรรค์ย่อมต้องช่วยพระองค์อยู่แล้วเพคะ”
เซี่ยเซวียนดวงตาเป็นประกาย “เช่นนั้นท่านธิดาเทพบอกความจริงกับข้าได้หรือไม่ หากหลูโจวมีผู้เสียชีวิตจำนวนมาก และไม่มีความจำเป็นต้องใช้ยาสมุนไพร ข้าควรคิดบัญชีนี้เช่นไร?”
ความจริงแล้วตอนแรกเซี่ยเซวียนไม่ได้ตั้งใจจะซื้อสมุนไพร หลูโจวอยู่ไกลเพียงนั้น หากมีอะไรเกิดขึ้นจริง ใช้วิธีการเดิม ๆ สังหารหมู่ยกเมืองก็จบแล้ว ยังจะปล่อยให้พวกเขาเข้ามาถึงเมืองหลวงอีกอย่างนั้นหรือ?
ซื้อยาสมุนไพรไปก็เสียเงินเปล่า ทว่าธิดาหงส์บัญชาสวรรค์ผู้นี้กลับมาหาเขาด้วยตัวเอง บอกว่าจะวางแผนให้เขา
ตอนนี้เงินก็จ่ายไปแล้ว ของก็ถูกคนปล้นไปแล้ว แม้เซี่ยเซวียนจะให้ตระกูลเมิ่งนิ่งเอาไว้ แต่เขากลับไม่มั่นใจเท่าใดนัก ได้แต่หวังว่าสตรีผู้นี้จะมีข่าวที่เป็นประโยชน์บ้าง
จี้หมิงซูยกยิ้มขึ้นมาช้า ๆ “เช่นนั้นก็ปั้นน้ำเป็นตัว”
เซี่ยเซวียนเงยหน้ามองนาง ก่อนจะสูดลมหายเข้า “ปั้นน้ำเป็นตัว? ท่านหมายถึงสร้างเรื่องขึ้นมาหรือ? นี่มัน…นี่มันเสี่ยงเกินไปแล้ว หมอคนใดก็สามารถตรวจเจอได้ทั้งนั้น”
“เช่นนั้นก็ต้องทำให้พวกเขาตรวจไม่เจอ ตอนนี้เรื่องของหลูโจวยังไม่ต้องสนใจ เพราะต้องจัดการเรื่องในเมืองหลวงให้ได้เสียก่อน ไม่ว่าจะวางยาพิษก็ดี ทำลายแหล่งน้ำก็ช่าง ในเมื่อละครเรื่องนี้เริ่มต้นขึ้นแล้ว ก็ต้องแสดงต่อไป และต้องแสดงให้ดีอีกด้วย”
แน่นอนว่าหากหลูโจวเกิดโรคระบาดขึ้นมาจริง ๆ เช่นนั้นก็เดินตามแผนเดิม จะได้ไม่ต้องเปลืองแรงให้มาก เพื่อใช้เรื่องนี้สร้างชื่อเสียงให้นาง