บทที่ 358 มอบของขวัญชิ้นใหญ่
เรื่องตลกเอาใจมวลชนจบลง พร้อมกับการตายท่ามกลางฝูงชนของคนทั้งสอง
คนตายไปแล้ว ต่อให้จะคิดเล็กคิดน้อยอย่างไร จะสามารถคิดได้ถึงแค่ไหนกัน
สิ่งที่ตามมาก็คือความตื่นตระหนกครั้งใหญ่
“ภายในของพวกเรามีพิษอยู่ เช่นนั้นใครจะถอนพิษให้ได้ นี่ไม่เท่ากับว่าพวกเราต้องอยู่รอความตายหรอกหรือ?”
พิษน่ากลัวกว่าการเจ็บป่วย ป่วยยังมีหมอ แต่ว่าหมอบางคนก็ไม่แน่ว่าจะสามารถถอนพิษได้
มีคนเอ่ยเตือนขึ้นมา “หย่งอันถังแจกยาให้โดยไม่คิดเงินไม่ใช่หรือ!”
“ใช่แล้ว ฝีมือการแพทย์ของหย่งอันถังเชื่อถือได้!”
ในที่สุดพวกเขาก็คิดถึงหย่งอันถังขึ้นมาแล้ว จึงรีบร้อนไปต่อแถวทันที ส่วนศพของสองคนนั้นจะมีใครสนใจกัน ฮ่องเต้ชื่นชอบราชครูเพียงนี้ ก็ให้พระองค์มาเก็บศพเองก็แล้วกัน
กฎหมายเอาผิดคนหมู่มากไม่ได้ ดังนั้นเพื่อราชครูผู้นี้จะสั่งฆ่าราษฎรอย่างพวกเขาทั้งหมดเลยหรืออย่างไร?
เหล่าทหารองครักษ์มองด้วยสายตาเย็นชา อย่างไรเสียนี่เป็นคำสั่งของไท่ซ่างหวง ราชครูผู้นี้ต่อให้ไม่ตายวันนี้ ไท่ซ่างหวงก็ไม่มีทางไว้ชีวิตเขา
การตายเช่นนี้ในสายตาของพวกเขากลับง่ายเกินไปด้วยซ้ำ เพราะหากตกอยู่ในมือพวกเขา ทั่วร่างของเจียงเช่อผู้นี้อย่าหวังว่าจะมีเนื้อดี ๆ เหลือแม้แต่ชิ้นเดียว
มีคนไม่ยอมไป ยังคุกเข่าทำความเคารพไปยังทิศทางที่มังกรปรากฏเมื่อครู่อย่างเลื่อมใส แต่บางคนกลับรีบตามคนส่วนใหญ่ไปขอยาที่หย่งอันถัง ต่อให้ไม่ได้ผลแต่หากทำให้ร่างกายแข็งแรงขึ้นสักหน่อยก็ยังดี
จนกระทั่งศพนั่นใกล้จะเย็นชืดแล้ว จึงได้ถูกคนลากไป
ฮ่องเต้เซี่ยเจินจ้องมองท้องฟ้าอยู่พักใหญ่ “มังกรเล่า?”
เมื่อครู่มังกรตัวนั้นทะยานอยู่บนท้องฟ้า เหตุใดผ่านไปไม่นานก็หายไปเช่นนี้เล่า?
ต้าจิ้นปรากฏมังกรเทพขึ้นนี่นับเป็นลางดี พูดออกไปคงมีแต่ทำให้คนอิจฉา ยิ่งพิสูจน์ให้เห็นถึงพระปรีชาสามารถของฮ่องเต้อย่างเขา สามารถบันทึกลงในประวัติศาสตร์ได้
“สั่งให้ราชครูรีบกลับมาเล่าให้ข้าฟัง ว่ามังกรเทพพูดอะไรกับราชครูบ้าง”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินไม่เคยสงสัยในอิทธิฤทธิ์ของเจียงเช่อเลยแม้แต่น้อย
เจียงเต๋อเองก็ดีใจมากเช่นกัน เพราะในวังไม่ได้มีเรื่องมงคลมานานแล้ว เมื่อก่อนหานกุ้ยเฟยเป็นที่โปรดปราน ฮ่องเต้เซี่ยเจินยังพอผ่อนคลายบ้าง แต่หลังจากกลับจากหมู่บ้านตระกูลเฉิน แม้แต่วังหลังฮ่องเต้เซี่ยเจินก็ไม่ไปอีก เนื่องจากนอนไม่หลับจึงมีอาการเลอะเลือน ในฝันก็เห็นแต่ใบหน้าของอดีตองค์รัชทายาท
วันนี้มังกรเทพลงมาบนโลกมนุษย์ มิเท่ากับเป็นการบอกว่าบ้านเมืองสงบสุขและเจริญรุ่งเรือง ฝ่าบาทมีความดีความชอบหรอกหรือ?
ดูสิว่าบรรดาขุนนางที่คอยชี้แนะกับขุนนางเก่าแก่เหล่านั้นยังจะพูดอะไรได้อีก
“พ่ะย่ะค่ะ อีกเดี๋ยวกระหม่อมจะไปเชิญท่านราชครูกลับมาด้วยตัวเองพ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินพยักหน้าให้ด้วยความยินดี “ให้คนรีบเตรียมงานเลี้ยง ทำของที่ราชครูชอบ ข้าจะดื่มสังสรรค์และสนทนากับเขา”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินสั่งการเสร็จ กำลังจะกลับเข้าไปรอเจียงเช่อในตำหนัก ก็เห็นว่ามีคนรับใช้เข้ามาอย่างรีบร้อน จากนั้นก็คุกเข่าลงตรงหน้าฮ่องเต้เซี่ยเจิน ด้านหลังของเขาก็คือหัวหน้าทหารองครักษ์หวังชิง
ฮ่องเต้เซี่ยเจินขมวดคิ้ว “มีอะไรอย่างนั้นหรือ?”
คนรับใช้เงยหน้าขึ้นเอ่ยด้วยท่าทางอึกอัก “ทูลฝ่าบาท ไท่ซ่างหวงพระราชทานของมาพ่ะย่ะค่ะ”บราวนี่ออนไลน์
ฮ่องเต้เซี่ยเจินชะงักไปเล็กน้อย “ไท่ซ่างหวง? ส่งมาจากหมู่บ้านตระกูลเฉินอย่างนั้นหรือ?”
หรือว่าหลายวันมานี้เขาไม่ได้ไปคารวะที่หมู่บ้านตระกูลเฉิน เสด็จพ่อจึงทรงไม่พอพระทัยอีกแล้ว?
แต่เขาป่วยจริง ๆ นี่นา
ในปากของฮ่องเต้เซี่ยเจินขมปร่า “ของอะไร เอามาให้ข้าดู”
คนรับใช้ก้มหน้าลง ร่างกายสั่นเทา
สีหน้าของหวังชิงเองก็ไม่สู้ดีนัก แต่คำสั่งของไท่ซ่างหวงเขาเองก็ไม่กล้าขัด จึงคุกเข่าลงและยกกล่องนั้นขึ้นเหนือหัว รอฮ่องเต้เซี่ยเจินเปิดออก
“ไปเปิดสิ” ฮ่องเต้เซี่ยเจินสั่งเจียงเต๋อ
เจียงเต๋อสะบัดไม้ปัดฝุ่นหนึ่งที เดินตรงเข้าไปเปิดกล่องนั่น แม้ว่าเจียงเต๋อจะเตรียมใจเอาไว้แล้ว แต่ก็ไม่คาดคิดว่าจะมีหัวของเจียงเช่ออยู่ข้างใน
“อ๊าก!!” เจียงเต๋อร้องออกมาเสียงดังลั่นจนเสียมารยาทต่อพระพักตร์ ก่อนจะรีบคุกเข่าลงด้วยความตกใจ แม้แต่ไม้ปัดฝุ่นก็กลิ้งไปกับพื้น
ฮ่องเต้เซี่ยเจินกำลังจะตะคอกเขา หากว่าท่าทางเช่นนี้ของเจียงเต๋อถูกไท่ซ่างหวงรู้เข้า เขาจะไม่ถูกด่าอีกรอบอย่างนั้นหรือ?บราวนี่ออนไลน์
แต่เมื่อฮ่องเต้เซี่ยเจินเดินไปดูของในกล่องนั้นด้วยตัวเอง ก็ต้องถอยหลังหนึ่งก้าวด้วยความตกใจ จากนั้นดวงตาก็แดงก่ำ อารมณ์ว้าวุ่นขึ้นทันที!
ไท่ซ่างหวงทำเช่นนี้หมายความว่าอย่างไรกัน กำลังเตือนเขาอย่างนั้นหรือ?
ฮ่องเต้เซี่ยเจินชี้ไปที่หวังชิง “ไท่ซ่างหวงให้เจ้าเอามาส่งหรือ!? เขาตรัสอะไรอีกหรือไม่”
หวังชิงเอ่ย “ไท่ซ่างหวงตรัสว่าฝ่าบาททรงสนิทสนมกับนักต้มตุ๋น และโยนบ้านเมืองของบรรพบุรุษเอาไว้ด้านหลัง ไม่สนใจชีวิตของราษฎร จึงให้พระองค์ทรงทบทวนตัวเอง หากยังไม่รู้จักกลับตัว เช่นนั้นคงทำได้เพียงให้คนแก่อย่างไท่ซ่างหวงมาจัดการกับพระองค์แล้วพ่ะย่ะค่ะ”
หลังจากที่เซี่ยเจินขึ้นครองบัลลังก์ อำนาจส่วนใหญ่ก็อยู่ในมือของเขา แต่ขุนนางเก่าแก่ในราชสำนักล้วนรู้ดีว่า สิ่งที่สำคัญที่สุดยังคงอยู่ในมือของไท่ซ่างหวง
ไม่ใช่ว่าไท่ซ่างหวงไม่วางพระทัย แต่เซี่ยเจินเดิมก็ไม่ใช่ลูกชายที่ไท่ซ่างหวงทรงโปรดปรานและถูกใจที่สุดอยู่แล้ว
น่าเสียดายที่เซี่ยเจินโชคดี ด้วยใบหน้านี้ทำให้ไท่ซ่างหวงนึกถึงบุตรชายของภรรยาเอกอย่างเซี่ยฉี จึงทำให้เขาได้เป็นฮ่องเต้อย่างทุกวันนี้ อีกทั้งตอนที่ขึ้นครองบัลลังก์ในตอนแรก ไท่ซ่างหวงยังเกิดความลังเลว่าจะให้เซี่ยเจินว่าราชการเองดีหรือไม่ หลังจากผ่านไปหลายปีจึงได้ค่อย ๆ วางมือลง
ไหนเลยจะคิดว่าทันทีที่ปล่อยมือ เซี่ยเจินกลับคิดว่าทั้งใต้หล้าไม่มีผู้ใดสามารถควบคุมเขาได้อีก
และทำเรื่องเหลวไหลมากมายถึงเพียงนี้!
เรื่องสำคัญของบ้านเมืองกลับไม่รู้อะไรเลยสักอย่าง และยังถูกนักต้มตุ๋นคนหนึ่งหลอกปั่นหัวเอาได้
เป็นถึงกษัตริย์ของบ้านเมืองแต่กลับไม่เป็นที่นับถือของราษฎร ลูกชายที่เลี้ยงออกมาแต่ละคนก็ใจดำไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน มอบบ้านเมืองให้คนเช่นนี้ ไท่ซ่างหวงจะวางพระทัยได้อย่างไรกัน?
อีกทั้งตอนที่อยู่หมู่บ้านตระกูลเฉิน เขาเองก็เคยให้โอกาสเซี่ยเจินแก้ตัวมาแล้วครั้งหนึ่ง
คิดว่าหากเขากลับไปแล้วจะสามารถทุ่มเทกายใจพัฒนาบ้านเมือง ชดเชยความผิดพลาดที่ได้ทำกับเผยยวน อยู่ใกล้ขุนนางปราชญ์ ถอยห่างจากคนชั่ว
ไหนเลยจะรู้ว่าครั้งนี้เขาจะทำผิดมากกว่าเดิม
หากไม่ใช่เพราะไท่ซ่างหวงทรงกริ้วอย่างมาก จะใช้วิธีการที่รุนแรงเช่นนี้ได้อย่างไร?
ฮ่องเต้เซี่ยเจินมองใบหน้าซีดขาวของเจียงเช่อในกล่อง ก็อยากจะอาเจียนออกมา ก่อนจะเดินราวกับคนสติหลุดเข้าไปในตำหนัก “นำราชครูออกไป…”
“ฝ่าบาท เรื่องของราชครูวันนี้ พระองค์ยังไม่ทรงทราบใช่หรือไม่พ่ะย่ะค่ะ”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินหันหน้าไปจ้องเขา “เรื่องราชครูอะไร เมื่อครู่ราชครูสนทนากับเทพมังกรบนฟ้า แล้วก็ถูกเสด็จพ่อตัดหัว…”
คำพูดขุ่นเคืองของฮ่องเต้เซี่ยเจินยังเอ่ยไม่ทันจบ หวังชิงก็รีบเอ่ยขัดขึ้นมาทันที “ฝ่าบาท เทพมังกรนั่นราชครูไม่ได้เป็นผู้เรียกมาพ่ะย่ะค่ะ!”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินชะงักไปเล็กน้อย “เช่นนั้นผู้ใดเป็นคนเรียกมา ไม่ใช่ราชครูแล้วยังจะมีผู้ใดที่มีอิทธิฤทธิ์เช่นนี้อีก?”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินยังเสียดายกับการตายของเจียงเช่ออยู่! เจียงเช่อตายแล้ว ต่อไปใครจะทำให้เขานอนหลับได้กัน?
หวังชิงอธิบายเรื่องที่เกิดขึ้นที่ประตูอู่เหมินทั้งหมดอีกครั้ง และมองดูสีหน้าของฮ่องเต้เซี่ยเจินที่ย่ำแย่ลงเรื่อย ๆ ก่อนจะเอ่ยอย่างยากลำบากออกมา “ตอนนี้ราษฎรล้วนพูดกันว่าราชสำนักปกป้ององค์ชายสาม และยังสงสัยว่าองค์ชายรองกับราชครูมีความเกี่ยวข้องกัน ยกให้จี้หมิงซูผู้นั้นเป็นธิดาหงส์บัญชาสวรรค์ จึงต้องการให้ราชสำนักออกมาอธิบายพ่ะย่ะค่ะ”
“วางยา? ผู้ใดหาญกล้าเพียงนี้!” ฮ่องเต้เซี่ยเจินตะคอกออกมาด้วยความโมโห
หวังชิงลอบตำหนิอยู่ในใจ ข้าจะรู้ได้อย่างไรกัน
อย่างไรเสียข้าก็ไม่ได้เป็นคนทำก็แล้วกัน
ร่างของฮ่องเต้เซี่ยเจินพลันโงนเงน เจียงเต๋อจึงรีบลุกขึ้นประคอง ฮ่องเต้เซี่ยเจินยังคงชี้ไปทางหวังชิง “ไปเรียกองค์ชายรองเข้าวัง ยังมีร่างของธิดาหงส์บัญชาสวรรค์ผู้นั้นด้วย เจ้าดูแล้วหรือยัง ใช่จี้หมิงซูจริงหรือ?”
“ไม่น่ามีอะไรผิดพลาดพ่ะย่ะค่ะ โครงหน้ายังมีเค้าโครงของเมื่อก่อนอยู่”
ฮ่องเต้เซี่ยเจินคิดไม่ถึงจริง ๆ ว่าจะเป็นจี้หมิงซู แม้แต่เจียงเช่อก็เป็นนักต้มตุ๋นด้วย ลูกชายของเขาเหล่านี้ช่างดีจริง ๆ แต่ละคนล้วนวางแผนร้ายลับหลังเขาทั้งนั้น
แต่เขากลับไม่รู้อะไรเลย
.