Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! – บทที่ 13 ได้ชื่อบริษัทแล้ว!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

บทที่ 13 ได้ชื่อบริษัทแล้ว!

เช้าวันรุ่งขึ้น เฉินโม่ลงจากรถตู้ เขาจ่ายค่าโดยสารกับคนขับรถแล้วลากกระเป๋าใบใหญ่ใบเล็กไปที่ Experience Store

ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป เฉินโม่จะอาศัยอยู่ที่ Experience Store

การตกแต่งภายใน Experience Store ถูกจัดไปตามความต้องการของเฉินโม่ ชั้นหนึ่งเป็นแบบร้านอินเทอร์เน็ตคาเฟ่ที่ค่อนข้างสบายๆ มีคอมพิวเตอร์ เก้าอี้นวด โซฟา ของว่าง ตู้จำหน่ายเครื่องดื่ม และอื่นๆ

เฉินโม่ย้ายข้าวของทั้งหมดของตนไปที่ชั้นสอง หลังจากเก็บของเรียบร้อยแล้ว เขาก็ซื้อของใช้จำเป็น ในชีวิตประจำวันอื่นๆ ทางออนไลน์

หลังจากจัดการทุกอย่างเสร็จสิ้น เฉินโม่ก็เดินสำรวจรอบๆ อย่างสบายใจ ตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป Experience Store แห่งนี้เป็นของเขาแล้ว ถึงแม้ว่าเขาจะมีแค่สิทธิ์ใช้เท่านั้น แต่ที่นี่ก็ดีกว่าห้องที่เขาเช่าก่อนหน้านี้มาก

ตอนเที่ยงเฉินโม่ได้รับข้อความจากเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขัน

“เรียนคุณเฉินโม่ สวัสดีครับ การตกแต่ง Experience Store เสร็จสมบูรณ์แล้วเมื่อคืนนี้ โปรดทำการตรวจสอบ และทำการยอมรับ ในเรื่องการบำรุงรักษาภายในร้านและการทำความสะอาดประจำวัน โปรดวางใจได้ครับ เพราะจะมีเจ้าหน้าที่พิเศษเดินทางไปให้บริการเป็นประจำ หลังจากที่คุณตั้งชื่อบริษัทได้แล้วสามารถติดต่อผมได้อีกครั้ง พวกเราจะจัดทำป้ายหน้าร้านให้กับคุณ นอกจากนี้ทุนวิจัยและพัฒนาจำนวนสามแสนหยวนได้ถูกโอนเข้าบัญชีของคุณเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โปรดตรวจสอบด้วยครับ”

เฉินโม่อ่านข้อความบนโทรศัพท์ของเขา และพบว่าเงินสามแสนหยวนถูกโอนไปยังบัญชีของเขาแล้ว

ผู้จัดการแข่งขันครั้งนี้ค่อนข้างเป็นมืออาชีพ เฉินโม่แทบไม่มีปัญหาอะไรเลย

หลังจากตอบกลับเจ้าหน้าที่แล้วเฉินโม่ลงไปทดลองอุปกรณ์ที่ชั้นหนึ่ง คอมพิวเตอร์ เก้าอี้นวด โทรศัพท์มือถือ แท็บเล็ต และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์อื่นๆ ได้รับการสุ่มตรวจสอบแล้วซึ่งทั้งหมดไม่มีปัญหา ล้วนเป็นของใหม่ทั้งหมด มีการตั้งค่าขั้นสูงทำให้สามารถรันเกมส่วนใหญ่ในตลาดได้

การตั้งค่านี้เพียงพอสำหรับเฉินโม่แล้ว เนื่องจากความสามารถของเขาในตอนนี้มีจำกัดจึงยังไม่สามารถสร้างเกม ที่จำเป็นต้องตั้งค่าขั้นสูงถึงจะสามารถรันเกมได้

เฉินโม่ปิดประตูและกลับไปที่สตูดิโอของเขาบนชั้นสอง มีกล้องวงจรปิดตรงทางเข้าชั้นหนึ่ง เฉินโม่ยังสามารถดูสถานการณ์ในชั้นหนึ่งจากชั้นสองได้อีกด้วย แต่ Experience Store ของเฉินโม่ ยังไม่ได้เปิดอย่างเป็นทางการ ถึงตอนนี้จะมีผู้เล่นเข้ามาก็ยังไม่มีเกมให้เล่น ดังนั้นจนกว่าเฉินโม่จะพัฒนาเกมแรกเสร็จ Experience Store จึงยังเหมือนปิดทำการอยู่

เฉินโม่เปิดคอมพิวเตอร์เวอร์ชัน pro ในสตูดิโอและเปิดซอฟต์แวร์ตัดต่อเกม

การตั้งค่าคอมพิวเตอร์เวอร์ชัน pro นั้นสูงกว่าแล็ปท็อปของเขามาก ในเรื่องของประสิทธิภาพ มันสามารถพัฒนาเกม VR ขนาดใหญ่พิเศษได้ทุกประเภท แต่ก็ตามที่บอกไปตอนนี้เฉินโม่ไม่สามารถ ใช้การกำหนดค่าที่สูงขนาดนี้ได้…

เพราะเฉินโม่พัฒนาเกม ‘flappybird’ ระดับนักออกแบบเกมของเขาจึงเปลี่ยนไป

‘เฉินโม่ : นักออกแบบเกม (ระดับ D)’

‘ความคิดสร้างสรรค์ : 16’

‘ระบบ : 8’

‘มูลค่า : 8’

‘ระดับเกม : 5’

‘โครงเรื่อง : 10’

‘Animation Art : 9’

‘3D Art : 1’

‘พื้นที่ที่ใช้ไปของเดือนนี้ : 300MB/800MB’

สถานะของเฉินโม่กลายเป็นนักออกแบบระดับ D โดยอัตโนมัติ และการประเมินข้อมูลต่างๆ ก็เปลี่ยนไปเช่นกัน

ข้อมูลต่างๆ ในซอฟต์แวร์ตัดต่อเกมไม่ใช่ความสามารถที่แท้จริงของเฉินโม่ แต่เทียบเท่ากับการตัดสิน ความสามารถที่หลากหลายของเฉินโม่ผ่านเกมที่เฉินโม่พัฒนา

หลังจากพัฒนาเกม ‘flappybird’ คะแนน ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ของเฉินโม่เพิ่มขึ้นมาถึงสิบหกคะแนน ส่วนคะแนนระบบ ค่า และระดับเกมก็เพิ่มขึ้นมาเล็กน้อย แม้แต่ ‘Animation Art’ ก็ดีขึ้นเช่นกันเนื่องจากภาพนกในเกม ‘flappybird’ ถูกยกระดับขึ้น

อย่างไรก็ตาม ระดับที่แท้จริงของเฉินโม่ไม่ปรากฏขึ้นในซอฟต์แวร์ตัดต่อเกม เนื่องจากคะแนนของซอฟต์แวร์ตัดต่อเกมขึ้นอยู่กับคะแนนเกมที่นักออกแบบได้พัฒนาขึ้นซึ่งเป็นไปไม่ได้ ที่จะอ่านสมองของนักออกแบบเกมได้โดยตรง

ระดับที่แท้จริงในตอนนี้ของเฉินโม่ หากเขาต้องประเมินด้วยตัวเอง คะแนน ‘ความคิดสร้างสรรค์’ ก็คงจะได้เต็มร้อยคะแนน เพราะเขามีความคิดสร้างสรรค์ในเรื่องของเกมคลาสสิกมาจากชีวิตก่อน การโยนเกมประเภทนี้ออกมาคงสร้างความฮือฮาในโลกนี้ได้

คะแนนระบบคงประมาณเจ็ดสิบ คะแนนโครงเรื่องหกสิบ คะแนนระดับเกมสามสิบ คะแนนมูลค่ายี่สิบ นี่คือประสบการณ์ที่เฉินโม่สั่งสมมาในการออกแบบเกมในชีวิตที่แล้วของเขา เพียงแต่ว่าข้อมูลเหล่านี้ ซอฟต์แวร์ตัดต่อเกมไม่สามารถอ่านได้

นอกจากนี้ หลังจากที่ได้เป็นนักออกแบบเกมระดับ D แล้ว จำนวนพื้นที่ที่เฉินโม่สามารถ ใช้ได้ในแต่ละเดือนเพิ่มขึ้นจาก 300MB เป็น 800MB ซึ่งถือว่าเป็นข่าวดีสำหรับเฉินโม่

ยิ่งไปกว่านั้นหลังจากได้เป็นนักออกแบบเกมระดับ D แล้ว เฉินโม่ก็เริ่มคิดถึงการตั้งบริษัทเป็นของตัวเอง

แน่นอนว่าบริษัทเกมในโลกนี้ไม่เหมือนกับโลกก่อน บริษัทเกมในโลกนี้แตกต่างจากบริษัทอื่นๆ อย่างชัดเจน พวกเขาไม่ต้องการทุนจดทะเบียน ไม่ต้องการแม้แต่พื้นที่สำนักงาน ไม่ต้องการขั้นตอนที่ซับซ้อนมากมาย

บริษัทเกมในโลกนี้ถือได้ว่าเป็นตัวส่งเสริมตัวตนของนักออกแบบเกม ในการก่อตั้งบริษัทเกม จะต้องได้รับการรับรองจากนักออกแบบเกมระดับ D เท่านั้น แล้วการตั้งบริษัทเกมมีประโยชน์ยังไง

ตามทฤษฎีแล้วเกมทั้งหมดที่ออกแบบโดยนักออกแบบเกมจะต้องวางจำหน่ายในนามของบริษัท ในตอนดาวน์โหลดเกมจะต้องมีโลโก้ของบริษัท ไม่อย่างนั้น appstore จะไม่ยอมรับ

หากนักออกแบบเกมไม่ได้ตั้งบริษัทของตัวเองเช่นนั้นจะต้องนำเกมไปเข้าร่วมกับบริษัทอื่นถึงจะวางจำหน่ายได้

และหลังจากที่เกมนี้เปิดตัวใน appstore แล้ว รายได้จะเข้าบัญชีบริษัทและจ่ายภาษีที่จำเป็น

หากนักออกแบบเกมมีข้อพิพาทกับบริษัทอื่นเนื่องจากละเมิดสิทธิและเหตุผลอื่นๆ ทางบริษัทต้องจ่ายค่าชดเชย

ดังนั้นบริษัทเกมในโลกนี้สามารถเข้าใจได้ว่าเป็นองค์กรขนาดเล็ก ลงทะเบียนง่าย เป็นธุรกิจที่รับประกันด้วย สถานะของนักออกแบบเกม นอกจากนี้ยังเป็นก้าวแรกสำหรับนักออกแบบเกมระดับ D ในการเข้าสู่ตลาดเกม

เฉินโม่พบทางเข้าลงทะเบียนของบริษัทเกมโดยตรงในซอฟต์แวร์ตัดต่อเกม

การลงทะเบียนนั้นง่ายมากหลังจากกรอกข้อมูลระบุตัวตนและข้อมูลบริษัทแล้วจะต้องตั้งชื่อบริษัท และโลโก้บริษัทเพื่อส่งเข้ารับการตรวจสอบ

เฉินโม่คิดอยู่ครู่หนึ่ง และในที่สุดก็ป้อนชื่อบริษัท

Thunder Entertainment

ผ่านการตรวจสอบแล้วบนโลกนี้ไม่มีการใช้ชื่อบริษัทซ้ำกัน

เหตุผลที่เฉินโม่เลือกชื่อนี้นั้นเรียบง่ายมาก ในความคิดของเขานั้นเกมของตนจะเป็นสายฟ้าฟาด ในแวดวงเกมโลกซึ่งทำให้นักออกแบบเกมและผู้เล่นทุกคนต้องตกตะลึง

อีกอย่างเฉินโม่ยังเชื่อด้วยว่าบริษัทเกมควรทำตัวเหมือนสายฟ้าแลบ บริษัทเกมที่ขาดประสิทธิภาพ ห่วงหน้าพะวงหลัง ลังเลไม่เด็ดขาดจะไม่สามารถอยู่รอดจากการแข่งขันที่ดุเดือดได้

หลังจากตั้งชื่อบริษัทเสร็จแล้วเฉินโม่ก็เริ่มลงมือวาดโลโก้ด้วยตัวเอง

คอมพิวเตอร์เวอร์ชัน pro นี้มาพร้อมกับกราฟิกและซอฟต์แวร์ที่มีประสิทธิภาพต่างๆ ดังนั้นเฉินโม่จึงสามารถใช้งานได้โดยตรง

ความสามารถในการวาดภาพของเฉินโม่ในตอนนี้คือเก้า ถึงจะต่ำแต่ก็ไม่มีปัญหาในการออกแบบ โลโก้ที่เรียบง่าย ยิ่งไปกว่านั้นในโลกก่อนเฉินโม่เคยเห็นโลโก้มากมายรวมถึงโลโก้ของบริษัทเกมต่างๆ หรือแม้กระทั่งทีมเกมรายใหญ่ เขาจึงมีองค์ประกอบสำเร็จรูปมากมายที่สามารถใช้อ้างอิงได้

ในที่สุดโลโก้บริษัทของเฉินโม่ก็เป็นลวดลายฟ้าคำรามที่ไม่เหมือนใคร ฟอนต์หนังสือคำว่า ‘Thunder Entertainment’ เข้ากับลวดลายเป็นอย่างดี

หลังจากตรวจสอบรายละเอียดทั้งหมดแล้วพบว่าไม่มีปัญหา เฉินโม่ยื่นหนังสือและรอตรวจสอบ ภายในสองถึงห้าวันทำการถึงจะเสร็จสิ้นสมบูรณ์

หลังจากการตรวจสอบชื่อบริษัทและโลโก้เสร็จสิ้นแล้วก็สามารถติดต่อเจ้าหน้าที่จัดการแข่งขันเพื่อจัดทำป้ายหน้าร้าน แต่ตอนนี้เฉินโม่ไม่รีบร้อนเพราะสิ่งที่สำคัญที่สุดสำหรับเขาในตอนนี้คือต้องคิดว่าเกมต่อไปเขาจะทำอะไรดี

……………………………

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Status: Ongoing
เมื่อนักออกแบบเกมทะลุมิติมายังโลกคู่ขนานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนา ถ้างั้นเขานี่แหละจะเป็นผู้พลิกโฉมวงการเกมเอง!++นักออกแบบเกมผู้ชอบเพ้อฝัน ‘เฉินโม่’ ถูกส่งมายังโลกคู่ขนานและได้รับภารกิจจากระบบเพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเขามาอยู่ในร่างของเฉินโม่ของโลกนี้ที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อหาเลี้ยงชีพประทังชีวิต เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเกมแทนเฉินโม่คนก่อนโลกคู่ขนานแห่งนี้มีเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมเกมเป็นที่ยอมรับแต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนาจนน่าเศร้าเฉินโม่จึงคิดจะใช้ความสามารถในฐานะนักออกแบบเกมที่ติดตัวมาและประสบการณ์เกี่ยวกับเกมในชีวิตก่อน มาปฏิวัติวงการเกมของโลกนี้!...“Game loading…”“เป้าหมายหลัก: เพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคู่ขนาน”“นับถอยหลังสู่การสลับโลกคู่ขนาน…”“3…”“2…”“1…”“Game Start!”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท