Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! – บทที่ 16 ความคิดสร้างสรรค์บางอย่าง

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

บทที่ 16 ความคิดสร้างสรรค์บางอย่าง

เฉินโม่พูดต่อว่า “ฉันคิดว่านักออกแบบเกมจำนวนมากประสบกับปัญหานี้ นั่นเป็นเพราะความสามารถของพวกเขามีจำกัด คุณภาพเกมสู้นักออกแบบเกมระดับ B และ A ไม่ได้ แต่พวกเขากลับไม่คิดหาวิธีอื่น ในทางกลับกันพวกเขาต้องยืนหยัดในคุณภาพของเกมซึ่งมันงี่เง่าเกินไป”

หลินม่าวคิดอยู่ครู่หนึ่ง “ก็ยังไม่ค่อยเข้าใจอยู่ดี”

เฉินโม่อธิบายว่า “พวกเราไม่ต้องเกรงใจในเรื่องนี้ ถ้าให้พูดตรงๆ หากนายเป็นผู้เล่นทำไมนายต้องซื้อเกมนี้ล่ะ”

หลินม่าวตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ในมุมมองของเขานี่เป็นปัญหาที่สมเหตุสมผล และเขาไม่ได้คิดถึงเรื่องนี้ด้วยซ้ำ

เขาคิดอย่างรอบคอบ “อืม…คุณภาพ? ความจริงใจ?”

เฉินโม่พูด “ความจริงใจเป็นสิ่งที่ว่างเปล่า ถ้านักออกแบบเกมลดความรู้สึกอยากขายลง ก็คงอธิบายได้เพียงสองประเด็นคือ หนึ่ง เขาเคยมีชื่อเสียงมาก่อน กับสอง ตอนนี้เขามาถึงทางตันแล้ว”

“ส่วนเรื่องคุณภาพนายเป็นนักออกแบบเกมระดับ D เรื่องคุณภาพแน่นอนว่าดี แต่นายสามารถเปรียบเทียบกับนักออกแบบเกมระดับ B ได้เหรอ”

หลินม่าวอ้าปากเหมือนจะพูด แต่ก็พูดไม่ออก

เฉินโม่พูดต่อว่า “ฉันถามว่าทำไมผู้เล่นต้องซื้อ แต่ที่อยากถามจริงๆ คงเป็นเกมนี้มีทีเด็ดอะไร มีตรงไหนที่พิเศษกว่าเกมอื่น”

“ฉันคิดว่าสมองนายยังไม่เปิดกว้างเต็มที่ หากยกเกมนี้เป็นตัวอย่างคงมีหลายจุดที่นายต้องพิจารณา”

“อย่างแรกคือพิจารณาจากระบบวิธีเล่นเกม ใช้เวลาอีกสองเดือนเพื่อเพิ่มระบบการต่อสู้ที่มีอยู่ตอนนี้ ให้เป็นสองเท่า มีอาวุธให้เลือกมากกว่าแปดถึงสิบห้าชนิด และมอนสเตอร์มากกว่ายี่สิบชนิด”

หลินม่าวสงสัย “สำหรับเกมมือถือมันไม่ซับซ้อนไปเหรอ”

เฉินโม่ส่ายหัว “มันไม่ซับซ้อน เกมมือถือจะต้องเบาๆ สบายๆ ใช่ไหม แต่ฉันไม่คิดอย่างนั้น รู้ไหมว่ายิ่งเบายิ่งทำยาก ในขั้นตอนนี้ควรพยายามอย่างหนักดีกว่าทำพอเป็นพิธี”

“ทำให้ระบบการต่อสู้ซับซ้อนมาก อย่างน้อยในตอนโฆษณาก็สามารถเขียนคำโฆษณาได้ว่า ‘มียี่สิบอาวุธให้คุณได้เลือกสรร’ หรือ ‘ท้าทายมันสมอง คุณเลือกอาวุธที่เหมาะสมที่สุดทุกครั้งได้ไหม’ อะไรประมาณนี้”

หลินม่าวครุ่นคิดตามที่เขาพูด

เฉินโม่พูดต่อว่า “หรืออย่างที่สองคือความยาก ทำให้เกมมีความยากเป็นพิเศษและสร้างกับดักกลไกที่คาดไม่ถึง”

หลินม่าวถาม “ไอที่คาดไม่ถึงนั่นมันเป็นยังไง”

เฉินโม่ชี้ไปที่หน้าจอเกมและพูดว่า “อย่างเช่นตรงนี้ มันดูเหมือนไหล่เขา แต่พอเหยียบลงไป จู่ๆ ก็มีหนามแหลมจำนวนมากปรากฏขึ้นและทิ่มแทงผู้เล่นจนตาย หรือตรงนี้เห็นได้ชัดว่าเป็น NPC[1] แต่พอเดินผ่านมันก็จะแทงเราจนตาย หรือกระโดดมาคุยกับเขาทางด้านหลังก็ยังถูกแทงตาย มีเพียงวิธีเดียวคือเหยียบหัวเขาเท่านั้นถึงจะสามารถทำให้ตายได้”

หลินม่าวอ้าปากเล็กน้อยสีหน้าเขาราวกับจะบอกว่า ‘ยังมีวิธีนี้อยู่’

เฉินโม่พูดว่า “ถ้าใช้วิธีที่สอง นายสามารถพูดได้เลยว่า ‘เกมเล็กๆ ที่เหนือความคาดหมายที่สุดในประวัติศาสตร์’ และยังสามารถเปลี่ยนชื่อเป็น ‘การผจญภัยครั้งใหญ่ของอัศวิน’ อะไรทำนองนี้ได้อีกด้วย”

“อย่างที่สามคือการพิจารณาโครงเรื่อง อย่างเช่น นายสามารถให้ผู้เล่นเลือกเส้นทาง หรือการตอบสนองที่ต่างกันในแต่ละจุดเชื่อมต่อ ตัวอย่างเช่น เมื่อพบกับศัตรูคนก่อนและเขาได้รับบาดเจ็บสาหัส คุณสามารถเลือกได้ว่าจะช่วยหรือไม่ ทางเลือกที่มากมายจะนำไปสู่ตอนจบที่แตกต่างกัน”

“นายสามารถออกแบบตอนจบได้ห้าถึงแปดแบบ บางอันสำเร็จ บางอันไม่สำเร็จ บางอันอาจได้ผลลัพธ์ที่คาดไม่ถึง”

“ด้วยวิธีนี้ นายสามารถใช้ ‘แปดตอนจบ หลายสิบตัวเลือก’ หรือ ‘คุณสามารถเจาะทะลุคำโกหกแล้วค้นหาความจริงได้หรือไม่’ อะไรทำนองนี้เป็นคำโฆษณา”

หลินม่าวลูบคาง แน่นอนว่าคำพูดของเฉินโม่มีข้อมูลมากเกินไปและเขาต้องคิดอย่างรอบคอบ

เฉินโม่ไม่รีบร้อนเขากินอาหารและรอให้หลินม่าวเข้าใจสามจุดที่เขาเพิ่งพูดถึง นักออกแบบเกมในโลกนี้ขาดอะไรมากที่สุด

ความคิดสร้างสรรค์…

ความคิดสร้างสรรค์ของเฉินโม่ไม่ได้มีมาแต่กำเนิด แต่มาจากการสะสมในอีกโลกหนึ่ง ในกระบวนการกำเนิดและการเติบโตของอุตสาหกรรมเกม ตั้งแต่เกมคอมพิวเตอร์ เกมบนเว็บไซต์ไปจนถึงเกมมือถือ แล้วยังมีความหลากหลายมากมายของเกมอิสระ

นักออกแบบเกมจำนวนนับไม่ถ้วนพยายามทำให้เกมของพวกเขาเป็นที่สนใจของผู้เล่น เพื่อให้ผู้เล่นหยิบเงินออกจากกระเป๋าของพวกเขาอย่างเชื่อฟัง

สำหรับเกมแล้วความคิดสร้างสรรค์ต้องมาก่อนเสมอ คนกลุ่มเล็กๆ ที่ยืนอยู่บนยอดพีระมิด เป็นกลุ่มคนที่มีความคิดสร้างสรรค์อันน่าทึ่งอย่างไม่ต้องสงสัย เป็นไปไม่ได้ที่นักออกแบบเกมที่ขาดจินตนาการ จะพัฒนาเกมที่ดึงดูดใจผู้เล่นได้

แน่นอนว่าความคิดสร้างสรรค์เป็นสิ่งน่าเหลือเชื่อมีหลายคนที่อ้างตนว่ามีความคิดสร้างสรรค์ เป็นคนมีความรู้ที่ต้องการกอบกู้อุตสาหกรรมเกม ทั้งที่ความจริงแล้วความคิดสร้างสรรค์ของพวกเขาไม่มีอะไรมาก ไปกว่าการเพ้อฝัน ก่อนที่ความคิดสร้างสรรค์จะกลายเป็นเกมจริงๆ ก็ไม่มีใครบอกได้ว่าจะสำเร็จหรือไม่

สามเรื่องที่เฉินโม่พูดไปเป็นความคิดที่อัจฉริยะมากในสายตาของผู้คนในโลกนี้ แต่ในโลกก่อน นี่เป็นกฎที่นักออกแบบเกมส่วนใหญ่รู้ดีและเป็นการออกแบบที่ได้รับการตรวจสอบมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วนจากตลาดและมีตัวอย่างที่ประสบความสำเร็จมากมาย

เฉินโม่รู้ว่าหลินม่าวเป็นคนจริงจังและก็เป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของเขา ดังนั้นเขาจึงให้คำแนะนำเล็กๆ น้อยๆ แก่อีกฝ่าย แต่เฉินโม่จะไม่พูดเจาะโดยละเอียดแค่พูดพอเป็นพิธี ส่วนเกมในท้ายที่สุดจะเป็นอย่างไรนั้น ขึ้นอยู่กับความเข้าใจของหลินม่าวเอง

หลินม่าวคิดอยู่นานและพูดว่า “อืม พอเข้าใจขึ้นมาหน่อย ที่นายพูดมาก็มีเหตุผล เหตุผลที่ว่าทำไมเกมของฉันถึงเจาะจงแค่คนกลุ่มเล็ก เป็นเพราะว่ามันขาดจุดที่สามารถดึงดูดความสนใจของหลายๆ คนได้”

เฉินโม่พยักหน้า “ใช่แล้ว”

หลินม่าวพูด “ฉันเข้าใจแล้ว เฉินโม่ ทั้งสามเรื่องที่นายพูดมานั้นสร้างแรงบันดาลใจให้ฉันมากจริงๆ ฉันรู้สึกเหมือนได้รับแรงบันดาลใจเลย ขอบคุณ!”

เฉินโม่โบกมือ “ไม่เป็นไร เรื่องเล็กน้อย ฉันแค่บอกทางให้นายแล้วแต่นายว่าจะเดินไปยังไง”

หลินม่าวพยักหน้า “อืม ฉันมีคำตอบในใจแล้วล่ะ ตอนแรกฉันคิดว่าเกมนี้สำเร็จไปแล้วแปดสิบเปอร์เซ็นต์ แต่ตอนนี้เหมือนยังห่างไกล พอกลับไปฉันจะวางแผนเกมใหม่”

คิ้วของหลินม่าวผ่อนคลายลง เขามักรู้สึกเสมอว่าเกมของเขาขาดอะไรบางอย่าง แต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไร ตอนนี้เขารู้แล้วว่าเกมของเขาขาดประกายไฟซึ่งเป็นจุดสว่างที่ทำให้ผู้เล่นสามารถมองเห็นได้อย่างรวดเร็ว!

หากมีจุดประกายไฟนี้ เกมของเขาจะต้องโดดเด่นขึ้นมาท่ามกลางเกมมากมายนับไม่ถ้วนแน่

จ้าวจื่อหาวพูดด้วยความประหลาดใจ “เฉินโม่ นายมันแน่มาก! ทำไมฉันถึงไม่รู้สึกว่านายมีความคิด แยบยลแบบนี้มาก่อน ใจนายเพิ่งมาเปิดกว้างเอาตอนนี้เหรอ”

เฉินโม่พูดอย่างจริงจัง “ไม่ใช่เพิ่งมาเข้าใจ แต่ตระหนักได้ต่างหาก คืนก่อนการแข่งขันการออกแบบเกม เทพเจ้าแห่งเกมมาเข้าฝันฉัน และมอบหนังสือทักษะการออกแบบเกมให้ฉันโดยตรง”

จ้าวจื่อหาวหัวเราะ “ไอ้บ้า!”

ทั้งสามคนกินไปคุยไปจนถึงสี่ทุ่ม ในระหว่างนั้นพวกเขาสั่งเบียร์อีกสี่ขวด ท้ายที่สุดพวกเขาดื่มกันจนเมาเล็กน้อยและสนุกสนานกับการพูดคุย

เฉินโม่เองไม่ชอบดื่มเหล้าเท่าไรเพราะดื่มบ่อยๆ จะไม่ดีต่อสมอง และจะส่งผลต่อความคิดและความจำ สำหรับนักออกแบบเกมแล้วการเสพติดสุราไม่ใช่นิสัยที่ดีดังนั้นเขาจึงไม่ดื่มมากเกินไป

จ้าวจื่อหาวโทรเรียกน้องชายให้มาขับรถให้ส่วนหลินม่าวก็กำลังนั่งคิดอยู่ว่าจะปรับปรุงเกมในตอนนี้ยังไงดี

เมื่อมีคนขับรถแทนเฉินโม่ก็วางใจหลังกำชับตักเตือนเสร็จเขาก็มองเพื่อนทั้งสองจากไป

เฉินโม่กลับไปที่ Experience Store และเก็บข้าวของอีกเล็กน้อย หลังจากได้รับข้อความว่าถึงบ้านแล้วของจ้าวจื่อหาวและหลินม่าว เฉินโม่ก็อาบน้ำเข้านอน

พรุ่งนี้เขาต้องคิดเกี่ยวกับเกมใหม่คืนนี้เฉินโม่จึงต้องพักผ่อนเติมพลังเพื่อดูแลสภาพจิตใจให้ดีที่สุด

…………………………………

[1] NPC (non-player character) : ตัวละครที่ถูกควบคุมโดยคอมพิวเตอร์ผ่านปัญญาประดิษฐ์ (Artificial intelligence หรือ AI) ในเกมเล่นตามบทบาท (Tabletop role-playing game)

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Status: Ongoing
เมื่อนักออกแบบเกมทะลุมิติมายังโลกคู่ขนานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนา ถ้างั้นเขานี่แหละจะเป็นผู้พลิกโฉมวงการเกมเอง!++นักออกแบบเกมผู้ชอบเพ้อฝัน ‘เฉินโม่’ ถูกส่งมายังโลกคู่ขนานและได้รับภารกิจจากระบบเพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเขามาอยู่ในร่างของเฉินโม่ของโลกนี้ที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อหาเลี้ยงชีพประทังชีวิต เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเกมแทนเฉินโม่คนก่อนโลกคู่ขนานแห่งนี้มีเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมเกมเป็นที่ยอมรับแต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนาจนน่าเศร้าเฉินโม่จึงคิดจะใช้ความสามารถในฐานะนักออกแบบเกมที่ติดตัวมาและประสบการณ์เกี่ยวกับเกมในชีวิตก่อน มาปฏิวัติวงการเกมของโลกนี้!...“Game loading…”“เป้าหมายหลัก: เพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคู่ขนาน”“นับถอยหลังสู่การสลับโลกคู่ขนาน…”“3…”“2…”“1…”“Game Start!”

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท