Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม! – บทที่ 17 จั่วสิบครั้ง

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

บทที่ 17 จั่วสิบครั้ง

วันต่อมาเฉินโม่ตื่นตอนเก้าโมง หลังอาบน้ำเสร็จเขาก็ลงไปชั้นล่างเพื่อไปซื้ออาหารเช้า

เฉินโม่ตื่นสายเพราะเขาเป็นคนขี้เซา และเขาต้องหลับให้เพียงพอสมองถึงจะแล่น สองเป็นเพราะนิสัยจากในชีวิตก่อน

ในชีวิตก่อนหน้านี้คนทำงานในอุตสาหกรรมเกมต้องนอนดึก เวลาเข้างานในตอนเช้าก็เลยสาย ดังนั้นเวลาทำงานและพักผ่อนของเฉินโม่จึงไม่ได้ปรับให้เข้ากับเวลาพักผ่อนตามหลักวิทยาศาสตร์

หลังอาหารเช้า เฉินโม่กลับไปที่สตูดิโอของเขาและเริ่มออกแบบเกมแรกของเขา มีเกมมากมายนับไม่ถ้วนผุดขึ้นในหัวของเฉินโม่ แต่จะสร้างเกมแบบไหนนั้นเขาต้องพิจารณาอย่างรอบคอบ

ต้นทุนการพัฒนาเกมของโลกนี้ต่ำมาก ไม่ต้องเช่าอาคารสำนักงาน ไม่จำเป็นต้องจ้างโปรแกรมเมอร์ เลยสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายในการพัฒนาเกมไปได้เยอะ แต่นี่ไม่ได้หมายความว่าการพัฒนาเกมของโลกนี้ จะไม่มีค่าใช้จ่ายและข้อจำกัด

หนึ่งในข้อจำกัดที่ใหญ่กว่าคือ Fine arts resources

เกมดนตรีสามารถจ้างคนมาทำได้ขอเพียงมีเงินก็แก้ปัญหาได้ และตราบใดที่คุณภาพไม่แย่เกินไป ผู้เล่นก็ไม่วิพากษ์วิจารณ์อะไร

แต่ศิลปะของเกมนั้นต่างออกไป หากเฉินโม่ต้องการพัฒนาเกมที่มีขนาดใหญ่ ภาพต้นฉบับและโมเดลของตัวละคร ตลอดจนภาพต้นฉบับและโมเดลของฉาก ทั้งหมดนี้ต้องทำใหม่ตั้งแต่ต้น และทรัพยากรฟรีในซอฟต์แวร์ตัดต่อเกมไม่สามารถใช้ได้และการทำสิ่งเหล่านี้ก็มีค่าใช้จ่ายที่สูง

ยกตัวอย่างง่ายๆ ภาพการ์ดต้นฉบับสำหรับเกมมือถือทั่วไป ราคาถูกหน่อยก็ประมาณแปดเก้าร้อยหยวน ส่วนราคาสูงก็สูงถึงเจ็ดแปดพันหยวน ระดับยิ่งสูงราคายิ่งแพง แค่ในส่วนของภาพต้นฉบับเพียงอย่างเดียว ก็มีค่าใช้จ่ายจำนวนมากแล้ว

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีโมเดลการเคลื่อนไหว สเปเชียลเอฟเฟ็กต์และอื่นๆ ซึ่งไม่ถูกไปกว่าภาพต้นฉบับเลย แล้วยังเพิ่มความยุ่งยากขึ้นไปอีก ถึงมีทรัพยากรฟรีมากมายในซอฟต์แวร์ตัดต่อเกม แต่ทรัพยากรเหล่านั้นเป็นทรัพยากรสาธารณะที่อยู่ในระดับปานกลางมีคุณภาพไม่สูงนัก

‘flappybird’ สามารถใช้ Fine arts resourcesได้ เพราะมีองค์ประกอบที่เรียบง่ายมาก หลังจากที่เฉินโม่วาดนกด้วยมือแล้ว เขาสามารถใช้องค์ประกอบศิลปะอื่นๆ ได้โดยตรง

อย่างไรก็ตามหากเฉินโม่ต้องการฟื้นฟูเกมขนาดใหญ่ในชีวิตก่อนหน้านี้ของเขา Fine arts resources ต้องสอดคล้องกับต้นฉบับด้วยซึ่งเป็นปัญหามากกว่า

ส่วนทำไมศิลปะต้องสอดคล้องกับต้นฉบับด้วย? เนื่องจากเกมเป็นสิ่งที่ค่อนข้างละเอียดอ่อน เหมือนนาฬิกาพกที่บอกเวลาได้อย่างเที่ยงตรง หากส่วนไหนมีการเปลี่ยนแปลงก็อาจทำงานผิดพลาดได้

แน่นอนว่าไม่นับเกมหยาบๆ ห่วยๆ เหล่านั้น เพราะเกมแบบนั้นจะไม่มีวันได้รับความนิยม

สำหรับเกมยอดนิยมทั้งหมด ทั้งรูปแบบการเล่น ศิลปะ ดนตรี แต่ละด้านเข้ากันได้อย่างสมบูรณ์แบบ และเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดที่นักออกแบบเกมจะเลือกจากหลายสิบแบบ

หากเฉินโม่ต้องการเปลี่ยนส่วนใดส่วนหนึ่งในนั้นจะต้องระมัดระวังเป็นอย่างมาก ไม่อย่างนั้นก็เหมือนกับการเปลี่ยนบทกวีโบราณตามที่ใจต้องการแค่การเปลี่ยนคำเพียงคำเดียวอาจทำให้บทกวีนั้นกลายเป็นบทกวีที่แย่เลยก็ได้

ดังนั้นเฉินโม่ต้องฟื้นฟูทุกรายละเอียดของเกมคลาสสิกให้มากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้ รวมถึงในด้านศิลปะจะต้องเหมือนกันทุกประการ ข้อจำกัดใหญ่ประการที่สองคือความสามารถของเฉินโม่เอง

แม้ว่าในชีวิตก่อนเฉินโม่จะเป็นหัวหน้าฝ่ายวางแผน แต่ละคนมีด้านที่เก่งไม่เหมือนกันซึ่งเขาไม่ได้เก่งในทุกเรื่อง

ในเรื่องมูลค่ากับระดับเกมเป็นสิ่งที่ฝ่ายวางแผนต้องรับผิดชอบซึ่งเฉินโม่เข้าใจในจุดนี้ดี แต่เขาไม่สามารถพูดว่าเชี่ยวชาญทางด้านนี้เป็นพิเศษได้

บางเกมอาจดูเรียบง่าย แต่จริงๆ แล้วมีรายละเอียดที่สูงมาก อย่างเช่น ‘Happy Eliminate’ ที่กฎดูไม่ซับซ้อนและดูไม่ได้ยากอะไร แต่จริงๆ แล้วระดับการออกแบบระดับนั้นสูงมาก ความยากของแต่ละด่านเพิ่มขึ้น ต้องล็อคจังหวะของเกม แต่ด้วยความสามารถในการออกแบบเกมของเฉินโม่ในตอนนี้ไม่สามารถทำได้

นอกจากนี้ยังมีเกมเติมเงินในประเทศบางเกมที่ดูเหมือนจะไม่มีข้อมูลทางเทคนิค แต่อันที่จริงแล้วข้อมูลทางเทคนิคมากกว่าครึ่งหนึ่งเป็นค่าตัวเลข

อย่างเช่น จะตั้งค่าระดับ VIP ได้ยังไง? พลังการต่อสู้ระหว่างผู้เล่น VIP ต่างกันแค่ไหน? พลังการต่อสู้สามารถเติมเงินได้เท่าไร? ผู้เล่นจะต้องเล่นกี่วันและสามารถไปได้ถึงระดับไหน?

จะควบคุมจังหวะของเกมได้ยังไง?

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหาเชิงตัวเลข เฉินโม่เข้าใจปัญหาเหล่านี้ แต่เขาไม่กล้าพูดว่าเขามั่นใจร้อยเปอร์เซ็นต์

ท้ายที่สุดแล้ว ‘flappybird’ เป็นเพียงเกมเล็กๆ ที่เรียบง่ายซึ่งไม่จำเป็นต้องคำนึงถึงมูลค่า ระดับเกมและอื่นๆ แต่ความนิยมของเกมนี้ไม่สามารถทำซ้ำได้ หากมองในระยะยาว เฉินโม่ต้องมีความสามารถรอบด้าน เขาต้องเพิ่มค่าแต่ละด้านของตนเองให้มากกว่าแปดสิบคะแนนถึงจะสามารถสร้างผลงานคลาสสิกชิ้นเอกของโลกก่อนได้อย่างสมบูรณ์แบบ แต่จะแก้ปัญหาเหล่านี้ได้ยังไงล่ะ

เติมเงิน! ยังจะมีตัวเลือกอื่นอีกเหรอ เติมเงินเท่านั้นที่สามารถเปลี่ยนโชคชะตาได้!

“ถ้าเจอปัญหาที่ยากจะแก้ไขต้องเป็นเพราะเราเติมเงินไม่พอ” เฉินโม่หัวเราะเยาะตัวเองขณะเปิดหน้าจอ เสมือนจริงจากสร้อยข้อมือ

เฉินโม่ได้รับเงินทุนวิจัยและพัฒนาจำนวนสามแสนหยวน เขาวางแผนที่จะใช้เงินสองแสนหยวน จากในนั้นเพื่อจับรางวัล ส่วนที่เหลืออีกหนึ่งแสนหยวนไว้สำรองสำหรับกรณีฉุกเฉิน

สิ่งหนึ่งที่ทำให้เฉินโม่รำคาญเล็กน้อยก็คือเกม ‘flappybird’ จะต้องปล่อยให้ผู้เล่นได้เล่นฟรีเป็นเวลาสามเดือน ในฐานะผลงานที่ได้รับรางวัลจากการแข่งขันออกแบบเกมหมายความว่าสามเดือนนี้เขาจะไม่ได้กำไร

เฉินโม่รู้เรื่องนี้ตั้งแต่เริ่มแข่งขันการออกแบบ แต่ตอนนั้นเฉินโม่ไม่รู้ว่าโลกนี้จะยอมรับ ‘flappybird’ ได้แค่ไหน ไม่รู้ว่ามันจะได้รับความนิยมแค่ไหน และอีกอย่างคือเขาต้องการ Experience Store นี้จริงๆ ด้วยทรัพยากรที่จำกัดเกินไป ‘flappybird’ จึงกลายเป็นทางเลือกเดียวของเขา

ดังนั้นถึงแม้เขาคาดไว้ว่าคงมีสูญเสียไปบ้าง แต่เฉินโม่ก็ยังเลือกใช้ ‘flappybird’ ในการแข่งขัน

แต่ตอนนี้แค่เฉินโม่นึกถึง ‘flappybird’ ของโลกก่อนที่สามารถทำรายได้ให้ผู้ออกแบบเกม ถึงสามแสนหยวนต่อวันก็รู้สึกเจ็บปวดแล้ว เขารู้สึกว่าตนเองพลาดเงินไปหลายร้อยล้าน

อย่างน้อยในอีกสามเดือนข้างหน้านี้เฉินโม่ไม่ควรคาดหวังว่า ‘flappybird’ จะทำเงินให้เขาได้ การรีบสร้างเกมต่อไปต่างหากคือสิ่งที่เขาควรจะทำ

เมื่อเปิดหน้าจอเติมเงินเฉินโม่ก็นำเงินจำนวนสองแสนหยวนเติมเข้าไปในสร้อยข้อมือ โดยยอดคงเหลือบนสร้อยข้อมือแสดงขึ้นมาว่า : 2,097,340

เฉินโม่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งแล้วเติมเข้าไปอีกครั้งรวมเป็นสองล้านหนึ่งแสนคะแนน

เงินสองแสนหยวนถูกเติมเข้าไปแล้วดังนั้นเขาจึงไม่สนใจเงินสามร้อนหยวนนี้อีก การสมทบให้ครบจำนวนเต็มเป็นวิธีการดูแลโรคย้ำคิดย้ำทำที่ไม่รุนแรงของตัวเอง

สองล้านหนึ่งแสนคะแนนต้องใช้หนึ่งแสนคะแนนในการจับรางวัลหนึ่งครั้งเพียงพอสำหรับจับรางวัลยี่สิบเอ็ดครั้ง

ในตอนนั้นเองเฉินโม่สังเกตเห็นว่ามีตัวเลือก ‘จั่วสิบครั้ง’ เพิ่มขึ้นมาบนวงล้อหมุนในหน้าจอเสมือนจริง

“…ใส่ใจดีจริง! ที่ก่อนหน้านี้ไม่ขึ้นปุ่ม ‘จั่วสิบครั้ง’ เพราะแต้มของฉันไม่พอในการจั่วใช่ไหม” เฉินโม่บ่น

นอกจาก ‘จั่วสิบครั้ง’ แล้วยังมีคำอธิบายสั้นๆ หนึ่งบรรทัดว่า ‘ของหายากที่ต้องมี’

มันเหมือนกับเกมเติมเงินในชีวิตที่แล้วจริงๆ พวกเขาจะทำทุกวิถีทางเพื่อกระตุ้นให้ผู้เล่นเติมเงินมากขึ้น

เฉินโม่รู้ว่าใน 99% ของเกม การจั่วติดต่อกันสิบครั้งคุ้มค่ากว่าการจับรางวัลครั้งเดียว ดังนั้นทางเลือกที่ดีที่สุดของเขาคือการจั่วรางวัลติดต่อกันสิบครั้ง

เฉินโม่เดินไปรอบๆ สตูดิโอ จากนั้นก็ไปล้างมือล้างหน้า ก่อนที่จะจั่วรางวัลสิบครั้งยังคงต้องเตรียมงานให้เสร็จ

หลังจากสงบสติอารมณ์แล้วเฉินโม่ก็ตัดสินใจลองจับรางวัลสักครั้งเพื่อเสี่ยงโชค

แกรกๆๆ…

แป้นหมุนอย่างรวดเร็วหลังจากนั้น ‘คลิก’ หยุดในพื้นที่สีน้ำเงิน ‘คู่มือหายาก’

“หืม ก็ไม่เลวนะ”

เฉินโม่รู้สึกสดชื่นขึ้นมาทันทีนี่เป็นครั้งแรกที่เขาจับได้หนังสือทักษะในพื้นที่สีน้ำเงิน ดูเหมือนว่าการล้างมือล้างหน้าของเขาในตอนนั้นจะได้ผล

เฉินโม่คลิกที่หนังสือทักษะสีน้ำเงิน และก็มีข้อความปรากฏขึ้นว่า ‘คู่มือหายาก : Audio Effect Skill +10’

……………………………….

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Almighty Game Designer ใครจะออกแบบเกมได้เทพเท่าผม!

Status: Ongoing
เมื่อนักออกแบบเกมทะลุมิติมายังโลกคู่ขนานที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง แต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนา ถ้างั้นเขานี่แหละจะเป็นผู้พลิกโฉมวงการเกมเอง!++นักออกแบบเกมผู้ชอบเพ้อฝัน ‘เฉินโม่’ ถูกส่งมายังโลกคู่ขนานและได้รับภารกิจจากระบบเพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกเขามาอยู่ในร่างของเฉินโม่ของโลกนี้ที่เสียชีวิตไปแล้วเพื่อหาเลี้ยงชีพประทังชีวิต เขาจึงตัดสินใจเข้าร่วมการแข่งขันออกแบบเกมแทนเฉินโม่คนก่อนโลกคู่ขนานแห่งนี้มีเทคโนโลยีขั้นสูง อุตสาหกรรมเกมเป็นที่ยอมรับแต่แนวคิดเกี่ยวกับเกมกลับด้อยพัฒนาจนน่าเศร้าเฉินโม่จึงคิดจะใช้ความสามารถในฐานะนักออกแบบเกมที่ติดตัวมาและประสบการณ์เกี่ยวกับเกมในชีวิตก่อน มาปฏิวัติวงการเกมของโลกนี้!...“Game loading…”“เป้าหมายหลัก: เพื่อเป็นนักออกแบบเกมที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลกคู่ขนาน”“นับถอยหลังสู่การสลับโลกคู่ขนาน…”“3…”“2…”“1…”“Game Start!”

นิยายแนะนำ

แสดงความคิดเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *

ปรับฟอนต์

**ถ้าปรับโหมดมืดอยู่** ให้เปลี่ยนเป็นโหมดสว่าง ก่อนจะปรับสีพื้นหลัง
รีเซ็ท